หวือออ!
ในขณะที่เครื่องบูชายัญถูกยอมรับ ทั่วทั้งศาลเจ้าก็ถูกเคลือบด้วยแสงสีเหลืองที่ซึ่งดูราวกับไม่มีอยู่จริงและมีอยู่จริงในเวลาเดียวกัน
จีเย่ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่านี่ต้องเป็นพลังลึกลับที่ปกป้องอารยธรรม สิ่งนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถิ่นฐานมีขนาดใหญ่ขึ้นและจำนวนประชากรที่มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ให้ประโยชน์และความคุ้มครองแก่ผู้คน เช่น การช่วยเหลือพวกเขาในพิธีกรรมบูชายัญ
ไม่กี่นาทีต่อมา แสงก็รวมตัวกันและแยกออกเป็นเงามังกรสองตัวที่หมุนวนซึ่งบินขึ้นไปบนหลังอาคาร นี่น่าจะเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านของพวกเขา
เงามืดพ่นลำแสงสีทองสองอันนลงมาซึ่งตกลงไปในเครื่องบูชายัญและวิญญาณแห่งอารยธรรมในเวลาเดียวกัน
แครกก!
ลูกกลมแสงของเครื่องบูชายัญแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อได้รับผลกระทบ ทำให้วิญญาณงูหลุดพ้นจากการจองจำ หากไม่มีคุก มันก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วจนแทบจะเต็มศาลเจ้า
ดวงตาที่เปล่งประกายของวิญญาณกวาดมองไปรอบห้องและทันทีที่เห็นจีเย่อยู่ที่ประตู โดยปราศจากความลังเล มันเปิดปากของมันจนเผยให้เห็นเขึ้ยวที่แหลมคม และพุ่งเข้าหาเขาโดยมีเป้าหมายที่จะกลืนกินคนที่สังหารมัน
“มันคือมอนเตอร์ตัวนั้น!” ผู้ตั้งถิ่นฐานที่อยากรู้อยากเห็นหลายคนที่อยู่นอกศาลเจ้ารับรู้ถึงความซวยของพวกเขาและตะโกนออกมาด้วยความหวาดกลัว สีหน้าแห่งความเคารพบนใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจนเผยให้เห็นถึงความหวาดกลัว
อย่างไรก็ตาม วิญญาณกึ่งโปร่งใสก็ไม่สามารถเข้าใกล้จีเย่ได้ บาเรียสีทองที่ประตูของศาลเจ้าทำให้มันไม่สามารถออกไปข้างนอกได้
ในขณะเดียวกัน เสียงทุ่มก็ดังก้องกังวาลอยู่ภายในศาลเจ้าราวกับวว่าผู้ศรัทธาในศาสนาพุทธหลายร้อยคนกำลังสวดมนต์ศักดิ์สิทธิ์อย่างพร้อมเพรียง
“ผู้ปฏิเสธความศรัทธาในพระวิหาร ผู้แสวงหาความศักดิ์สิทธิ์ ผู้ส่งมอบพลังอันไร้ที่เปรียบ หัวใจแห่งเพชฌฆาต…”
จีเย่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ด้วยการเป็นหนึ่งในผู้ทำคะแนนสูงสุดของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในเมืองหยาง เขาจำได้ทันทีว่าคำเหล่านั้นหมายความว่าอะไร
“ผู้โกหกกระสังฆราช ผู้นอกรีตสู่ปัทมปาณี ผู้แบกรับโลหะเย็นและไม้เท้าที่เปื้อนเลือด…”
ในขณะที่การสวดมนต์ลึกลับดำเนินต่อไป วิญญาณงูก็พยายามทุบผนังและพื้นเพื่อทำลายโครงสร้างเนื่องจากมันไม่มีทางที่จะออกไปได้เลย แต่ด้วยรูปลักษณ์ของวิญญาณ ร่างของมันจึงทะลุผ่านเสาที่มันจะทุบโดยไม่สามารถสร้างความเสียหายได้จริง
เมื่อมีการท่องวลีสุดท้ายของบทกวี เสียงที่ทำให้หูหนวกก็ดังขึ้นอีกครั้งในศาลเจ้า
“ออกไปเจ้าปีศาจ! แกฆ่าคนของฉัน ตอนนี้แกยังกล้าที่จะมาท้าทายพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา!”
ทันใดนั้นมือขนาดใหญ่ก็เอื้อมออกมาจากวิญญาณแห่งอารยธรรมที่ลอยอยู่และจับงูที่ดุร้ายที่คอของมัน งูกระตุกอย่างบ้าคลั่งก่อนที่ร่างของมันจะหดตัวลงไปจนมีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่างูน้ำทั่วไป
เมื่อถึงจุดนี้ วิญญาณแห่งอารยธรรมก็หายไป ตำแหน่งเดิมของมันถูกแทนที่โดยร่างสูงใหญ่ที่มีรูปรางใหญ่โต เขามีแขนคู่หนึ่งที่หนากว่าขาของผู้ใหญ่ ใบหน้ากลมที่น่าประทันใจที่ถูกประดับด้วยเคราป่า และใบหูที่ใหญ่เป็นพิเศษ ส่วนที่สะดุดตาที่สุดก็คือหน้าอกที่ถูกปกคลุมด้วยขนกระจุกเช่นเดียวกับรอยสักลายดอกไม้ขนาดใหญ่ที่ปกคลุมทั่วแผนหลังของเขา
ตูมม!
วิญญาณงูไม่สามารถทนต่อการจับที่รุนแรงได้อีกต่อไปและระเบิดออกเป็นอนุภาคแสง
[หลู่ต๋า]
[ระดับ : วิสามัญ อันดับ 1]
[ความหายาก : ผู้บัญชาการ]
[หนึ่งใน 108 ดวงดาวแห่งโชคชะตา ดวงดาวผู้โดดเดี่ยว ฉายา ‘หลวงจีนลายบุปผา’ ผู้บัญชาการของหน่วยทหารราบแห่งบึงน้ำเหลียงซานผู้นี้สามารถปลดปล่อยพลังอันน่าทึ่งให้กับศัตรูของเขาได้ วีรบุรุษผู้ที่สร้างเรื่องเล่าและตำนานมากมาย]
นั่นคือสิ่งที่จีเย่สามารถอ่านได้จากข้อความของระบบในฐานะ ‘หัวหน้าหมู่บ้าน’ แม้ว่าเขาจะไม่จำเป็นต้องถูกเตือนความจำในการรับรู้หนึ่งในตัวละครที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของซ้องกั๋ว
“มะ-มันคือหัวหน้าหลู่!” ก่อนที่จีเย่จะได้พูดคุยกับนักรบผู้ที่มีความเชื่อมั่นผู้นี้ ผู้ตั้งถิ่นฐานหลายคนที่อยู่ข้างนอกก็เริ่มตื่นเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเห็นงูที่น่ากลัวกำลังดิ้นเหมือนแมลง
“ลูกสาวของฉัน! อ่าาา..”
“ช่วงนี้คุณหายไปไหนมาหัวหน้า?? เราคิดถึงคุณมาก!”
ผู้คนทั้งหมดรีบเข้าไปในศาลเจ้าและล้อมรอบชายร่างท่วมเพื่อเล่าเรื่องราวอันน่าเศร้าของพวกเขา
ในขณะเดียวกัน จีเย่ก็สังเกตเห็นสายตาที่อบอุ่นหัวใจอย่างเงียบๆ หลู่จือเซินเป็นผู้ชายที่สูงอย่างน้อย 1.9 เมตรและมีกล้ามเนื้อที่ใหญ่โต ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้แสดงความภาคภูเขาเลยเมื่อคุยกับผู้ตั้งถิ่นฐาน เขายังอุ้มเด็กหญิงที่กำลังร้องไห้ 2 คนไว้บนบ่าเพื่อให้กำลังใจพวกเธอ
นี่หมายความว่าเอ็นพีซีที่นี่มีชีวิตจริงและมีชีวิตเหมือนมนุษย์ซึ่งแตกต่างจากที่ผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นสันนิษฐานไว้… จีเย่ไตร่ตรอง ที่พักของมังกรคู่ไม่มีหวัหน้าหมู่บ้านก่อนที่ฉันจะมาถึงซึ่งหมายความว่า ‘ผู้นำคนแรก’ นี้ควรถูกเปลี่ยน
จีเย่ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการถูกโจมตีโดยหลู่จือเซินเพื่อขโมยงานของผู้นำ ตามคำกล่าวของผู้เล่นคนแรกที่ได้รับการป้องกันจากถิ่นฐาน ‘วีรบุรุษที่ถูกอัญเชิญ’ จะรู้ว่าใครเป็นผู้อัญเชิญไม่มากก็น้อยและสิ่งนี้หมายความว่าอะไร เรื่องนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วเนื่องจากหลู่จือเซินไม่ได้ทำอะไรกับเขาโดยเฉพาะ
นอกจากนี้แม้ว่าหลู่จือเซินจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่วีรบุรุษผู้สูงศักดิ์คนนี้จะทำร้ายคนแปลกหน้าที่เพิ่งช่วยที่พักของมังกรคู่จากงูตัวนั้น
มีอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ช่วยเสริมความมั่นใจของจีเย่ เขาได้เรียนรู้แล้วว่าผู้เล่นที่นำเครื่องบูชายัญและช่วยอัญเชิญวีรบุรุษนั้นจะได้รับอนุญาตให้ขอความช่วยเหลือจากวีรบุรุษ เช่น ความช่วยเหลือในการเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่ง การป้องกัน หรือแม้กระทั่งการเป็นศิษย์ของวีรบุรุษซึ่งเป็นตัวเลือกสุดท้ายของผู้เล่นคนแรกซึ่งกลายมาเป็นศิษย์ของลุงคนที่เก้า ผู้เล่นคนนั้นจะเริ่มต้นได้ดีด้วยสิ่งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย