“ศิลปะกำลังภายในดั้งเดิม : เชี่ยวชาญต่ำ!”
“ระดับ : วิสามัญอันดับ 2!”
เมื่อตกดึก จีเย่ก็ลืมตาขึ้นมาจากบ่มเพาะและออร่าของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ผู้นำหลู่ เรา… อืมนายเมาเหรอ? ทุกอย่างเรียบร้อยดี ปล่อยให้เขาดื่มต่อ!”
หลังพักผ่อนเสร็จ จีเย่เดิมที่ตั้งใจจะ ‘พูดคุยกับ’ หลู่จือเซินผู้ที่อื่นกับเป่ยซานด้วยความตื่นเต้น
อย่างไรก็ตาม เขาก็ตระหนักว่าหลู่จือเซินเมาอย่างเห็นได้ชัดเพราะอารมณืดีมาก เรื่องนี้ทำให้เขาต้องล้มเลิกความคิด
มันเป็นเพียงเพราะในนิยาย หลู่จือเซินได้ก่อความปั่นป่วนอย่างมากเมื่อเขาเมา ตัวอย่างเช่น เขาได้สร้างหายนะให้กับภูชเาหวู่ไถและถอนต้นวิลโลว์ออกมา
จีเย่เดาว่าความแข็งแกร่งของหลู่จือเซินหลังจากเมาแล้วอาจเท่ากับอู่ซงที่เมา พวกเขาจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างไร้เหตุผลและเขาก็ไม่อาจแยกมิตรหรือศัตรู
นอกจากนี้ หลู่จือเงินก็ออมมือไว้เนื่องจากระดับการบ่มเพาะที่สูงกว่าในระหว่างการซ้อมครั้งก่อน หากเขาต่อสู้กับหลู่จือเซินในสภาพเช่นนี้…
‘ฉันควรมุ่งหน้าไปที่ภูเขา ฉันจำได้ว่ามีสิ่งมีชีวิตที่น่าสงสัยว่าจะอยู่ระดับวิสามัญ!’
หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อย จีเย่ก้ตัดสินใจที่จะไม่รบกวนอารมณ์ที่ดีของหลวงจีนบุปผาไ เขาหันกลับไปและเข้าสู่ภูเขามังกรคู่
…
“สวรรค์!”
“หมีตัวใหญ่มาก!”
“ฉันเดาว่ามันหนักสามตัน แม้แต่ฝ่ามือหมีก็ใหญ่เท่ากะละมัง!”
เมื่อท้องฟ้าสว่างไสว ‘มือใหม่หน้าเก่า’ ทุกคนก็มาที่สนามฝึกซ้อม พวกเขาค่อนข้างตกตะลึงเมื่อจ้องไปที่จีเย่ในขณะที่เขาเดินเข้าไปประตูหมู่บ้านพร้อมกับลากหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่ที่มีเลือดและรอยฟกช้ำตามศีรษะ มันนอนแผ่ราบอยู่บนพื้น แต่ก็ยังดูสูงกว่าคน
“จากรูปลักษณ์ของมัน หมีตัวนี้น่าจะถูกซ้อมจนตายด้วยหมัดเปล่า ผู้ถูกเลือกคนนี้ทรงพลังมาก เขาคงไม่ด้อยไปกว่าอูซง!”
ในทางกลับกัน เป่ยซานที่ยังคงเมาและไม่ตื่นอย่างเต็มนั้นแอบตกตะลึงเมื่อเปรียบเทียบคนทั้งสอง
สวรรค์… โชคดีที่ฉันยอมแพ้ทัน!
ส่วนคุณชายบักจากเมืองเมี่ยนผู้ที่ถูกลากไปที่สนามประหลองนั้นก็มีสีหน้าว่างเปล่าบนใบหน้าที่ยังคงมีรอยฟกช้ำของเขา เขาดีใจที่เลือกถูกต้องเมื่อวันก่อน
“จัดการกับมัน ส่งเลือดไปที่ถ้ำลิงแมนดริลและส่งกระดูกไปที่ถ้ำหมาป่า แต่ทิ้งตีนหมีไว้!”
หลังจากโยนหมีน้ำตาลที่มีน้ำหนักประมาณ 2 ตันซึ่งดูเหมือนภูเขาขนาดเล็กไว้ จีเย่ก็ให้คำสั่งพิเศษ
ตีนหมีเป็นสิ่งผิดกฏหมายบนโลก อย่างไรก็ตามในดินแดนแห่งมรดก เขาอาจได้ลิ้มรสมัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเป็นหมีน้ำตาลที่มีระดับวิสามัญ!
อย่างไรก็ตาม มันน่าเสียดายที่มันเป็นเพียงระดับวิสามัญอันดับ 0 นิกจากนี้การประเมินยังอยู่ในขั้นชั้นยอดเท่านั้น มันน่าจะเพิ่งทะลวงมาได้ไม่นานนัก ดังนั้นจึงไม่มี ‘ทรัพยากร’ ในระดับวิสามัญรอบที่ซ่อนของมัน
สิ่งเดียวที่พิเศษก็คือสินสงครามที่มันดร็อปลงมานั้นก็คือเลื้อยไฟฟ้าขนาดเล็ก
อย่างไรก็ตาม มันแทบจะไร้ประโยชน์ชั่วคราวเพราะ…
ภูเขามังกรคู่มีภูมิหลังคือราชวงศ์ซ่งซึ่งไม่มีไฟฟ้าใช้!
…
“เข้าแถว ไปกันเถอะ!”
หลู่จือเซินยังคงไม่สร่างเมา
ดังนั้นวันนี้เป่ยซานและหลีชิงผู้ที่ฟื้นพลังชีวิตของเขาด้วย ‘น้ำสกัดเมล็ดสีชาด’ ก็ได้เป็นผู้นำ พวกเขานำทหารไปยี่สิบคนและผู้เล่นอีกไม่กี่คนไป ‘ฟาร์ม’!
ส่วนจีเย่ก็เหมือนกับสิ่งที่เขากล่าวเมื่อวันก่อน เขาได้ทำสิ่งที่ต้องทำให้กับมือใหม่เหล่านั้นแทบจะทั้งหมดแล้ว การพัฒนาในอนาคตขึ้นอยู่กับมือใหม่เหล่านี้เอง!
“รอสักครู่ ฉันอยากออกไปฆ่ามอนเตอร์ด้วย!”
จีเย่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
อาจเป็นเพราะซวีเสวียผู้ที่ซึ่งได้ตัดสินใจที่จะอยู่ในหมู่บ้านได้เริ่มขอติดตามไป!
อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณชายบักที่มีรอยสักยืนข้างเธอด้วยสีหน้าที่เชื่อฟังก็แสดงพฤติกรรมชักชวนทุกรูปแบบ รวมถึงจี้ที่คล้ายกับ ‘น้ำหอม’ สีม่วงที่ห้อยอยู่บนคอของเธอ จีเย่ก็เข้าใจคร่าวๆ ว่าดาราหญิงคนนี้ทำอะไรอยู่
“ท่านหัวหน้า…”
จนกระทั่งเกือบ 9 โมง หลู่จือเซินก็ตื่นจากความเมา จากนั้นเขาก็ขอโทษด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด โดยอ้างว่าแอลกอฮอล์เป็นสารพิษอย่างแท้จริง
“ทุกอย่างปกติดีผู้นำหลู่ ฉันสามารถเข้าใจความตื่นเต้นของนายได้”
จีเย่ยิ้ม
หลังจากนั้น เขาก็ให้หลู่จือเซินคอยดูแลเขาในขณะที่เขาเข้าไปในถ้ำใต้ดินที่ถูกทิ้งไว้โดยแมงป่องเพื่อบ่มเพาะประโยชน์ของปฐพี
ในการบ่มเพาะพละกำลังโกลาหลดั้งเดิมไปถึงระดับเชี่ยวชาญต่ำนั้นแทบจะไม่ได้ใช้ค่าประสบการณ์มากนัก ท้ายที่สุดก็เพราะสกิลการผวานของเขา ประสิทธิภาพของการบ่มเพาะสกิลนี้จึงมากกว่าคนทั่วไป เขาสามารถแม้กระทั่งไหลเวียนมันได้ในการต่อสู้
อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ของปฐพีนั้นแตกต่าง
เทคนิคการบ่มเพาะนี้ใช้พลัง ‘สัมผัสศักดิ์สิทธิ์’ เพื่อนำทางพลังงานแห่งปฐพีเข้าสู่ร่างกาย และเขาก็จำเป็นต้องทุ่มเททั้งกายและใจให้มัน
…
หยดน้ำที่หยดลงมาจากผลึกหินย้อย หลังจากรวมกันแล้วในที่สุดมันก็เปลี่ยนเป็น ‘นมศิลา’ ที่มีลักษณะคล้ายกับนมลึกลับ
“ประโยชน์ของปฐพี : เชี่ยวชาญต่ำ!”
จีเย่ผู้ซึ่งนั่งสมาธิอยู่ข้างนมศิลาก็ได้ลืมตาขึ้นมาขึ้นมาในทันใด เขาดูเหนื่อยล้าเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเขานั้นเปล่งประกาย
หลังจากใช้ค่าประสบการณ์ทั้งมหดที่เขาสะสมมาในช่วงสองวันก่อน และกระทั่งใช้แต้มเกียรติยศไม่กี่แต้มแปลงเป็นค่าประสบการณ์ ในที่สุดเขาก็บ่มเพาะสกิลระดับวิสามัญที่เขามีให้ถึงระดับเชี่ยวชาญต่ำ
ความหนาของแสงสีเหลืองที่สามารถควบแน่นอยู่ที่ร่างกายของเขานั้นอยู่ในระดับเดียวกับลิงแมนดริลแล้ว แม้แต่กระสุนขนาดเล็กก็ไม่สามารถทะลวงการป้องกันของมันได้
เมื่อรวมกับเกราะหัวหน้าหมาป่าที่ซ่อนอยู่ในชุดของเขา ในทางทฤษฏีการโจมตีกายภาพที่ต่ำกว่าระดับวิสามัญแทบจะไม่สามารถทำร้ายเขาได้
มันน่าเสียดายที่ขั้นยังคงเป็น ‘กึ่งผู้บัญชาการ’
จีเย่เดาว่าเขาอาจต้องการสกิลการโจมตีที่อยู่ในระดับวิสามัญหรือสูงกว่านั้น เขาจำเป็นต้องบ่มเพาะหมัดตั๊กแตนให้ถึงระดับไร้ที่ติก่อนที่เขาจะสามารถบรรลุข้อกำหนดในการเป็น ‘ผู้บัญชาการ’
แน่นอนว่ามันสายเกินไปแล้ว
ข้างนอกนั้นเกือบจะมืดแล้ว!
หลังจากกลับไปที่หมู่บ้านกับหลู่จือเซิน จีเย่ก็ได้รู้ว่ามีผู้เล่นใหม่อีกคนมา
เช่นเดียวกับคุณชายบัก เขาเป็นคนที่เข้าสู่ระบบเป็นครั้งที่สองหลังจากความตายครั้งแรก เขามาจากเมืองกวน
มือใหม่คนนี้ไม่ได้ทำให้เขากังวล ซูนงอิ๋งและซางเยี่ยนรู้ตัวว่าตัวเองไม่เหมาะกับการต่อสู้ก็ได้อยู่ที่ถิ่นฐานวันนี้ และได้เริ่มรับผิดชอบในการแนะนำ ‘มือใหม่’!
ทุกอย่างเป็นไปตามที่กำหนด และจีเย่ก็เลือกที่จะออกจากระบบหลังค่ำ!
นี่เป็นเพราะตามทฤษฏีแล้ว โลกควรจะรวบรวมคนที่สำคัญมากขึ้น