ตอนที่ 106 มอนเตอร์ลวงตา
หุบเขาเต็มไปด้วยหมอกหนาที่แม้แต่แสงอาทิตย์ก็ไม่สามารถส่องผ่านได้
ทันใดนั้นหมอกทั้งหมดดูเหมือนจะถูกดึงดูดจากบางสิ่งและ คลื่อนย้ายไปในทิศทางเดียวกัน
ในที่สุดมันก็เข้าสู่น้ําเต้าสีดําแดง
เป็นผลให้การมองเห็นชัดเจนขึ้นมากในบริเวณนี้ ตอนนี้หมอกได้หายไปแล้ว
“ไปกันเถอะ!”
จีเย่นําน้ําเต้าพิษกลับมาในมือของเขา
ในฐานะสิ่งประดิษฐ์ระดับวิสามัญอันดับ 2 ขั้นเหนือชั้นจากดวงเคราะห์แห่งการบ่มเพาะ น้ําเต้านี้ดีในด้านการดูดซับหมอกมากกว่าไอเทมจากอารยธรรมวิทยาศาสตร์
ปัญหาเพียงหนึ่งเดียวก็คือมันเป็นเพียงระดับวิสามัญอันดับ 2 และมีพลังที่จํากัดดังนั้นมันจึงไม่สามารถดูดซับหมอกทั้งหมดในหุบเขาได้
อย่างไรก็ตามมันก็ดีพอแล้วน้ําเต้าสามารถดูดซับหมอกบางส่วน
นั่นเป็นเพราะหน่วยลาดตระเวนทั้งสามคน จีเมีสายตาที่ยอดเยี่ยม หลี่ซึ่งมีเครื่องตรวจจับความสามารถในการต่อสู้ และอู่ซงสามารสัมผัสศัตรูด้วยกระบวิญญาณเสือของเขาได้เช่นกัน
ดังนั้นพวกเขาจึงตรงเข้าไปในอาณาเขตของมอนเตอร์โคลนโดยไม่หยุดพักแม้แต่วินาทีเดียว
มันเป็นเรื่องที่ควรกล่าวถึง หลังจากการสังหารมอนเตอร์โคลนขั้นผู้บัญชาการและได้รับเครดิตกับค่าประสบการณ์มากมาย อู่ซึ่งก็เข้าสู่ระดับวิสามัญอันดับ 3 ในตอนเช้า
วีรบุรุษขั้นสมบูรณ์มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับศิลปะของพวกเขา หากพวกเขามีค่าประสบการณ์เพียงพอพวกเขาก็สามารถ ก้าวหน้าได้เร็วขึ้น
แน่นอนว่าการก้าวหน้าอย่างรวดเร็วส่วนหนึ่งมาจากทรัพยากรในภูเขามังกรคู่เช่นกัน
ตัวอย่างเช่น อู่ซงได้รับผลสีชาด (เทียม) หนึ่งผลของต้นเมล็ดสีชาด!
ในเวลาเดียวกัน หลี่ซึ่งก็ได้มาถึงอันดับ 5 และมีขั้นชั้นยอดแล้ว
เป็นเพราะเขาฝึกฝนเทคนิคเกี่ยวกับพลังภายในของอู่ซงและ เขาก็ได้ต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาวหลายครั้งในระหว่างการ สํารวจของเขาในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
การต่อสู้ระหว่างชีวิตและความตายนั้นเป็นโอกาสที่ง่ายที่สุดสําหรับคนในการก้าวหน้า!
เนื่องจากทั้งสามคนเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับวิสามัญและระดับสามัญ พวกเขาจึงสามารถล่าถอยได้อย่างปลอดภัยแม้ว่าจะเจอกับ มอนเตอร์โคลนก็ตาม
“หือ ท่านได้ยินมั้ย? มีเสียงการต่อสู้อยู่ข้างหน้า!”
ในอาณาเขตของมอนเตอร์โคลน ทันใดนั้นหูของอู่ซงก็กระดิกหลังจากที่พวกเขาเคลื่อนที่ไปได้หนึ่งร้อยเมตร
“มีบางสิ่งกระเด็น นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่าจะมีการโยนสิ่งของที่มีน้ําหนักมากและตกลงมาบนพื้น?”
จีเย่สงบลงและตั้งใจฟังซึ่งทําให้เขาได้ยินเสียงรายละเอียด
“มันอาจจะเป็น…”
พวกเขาทั้งสามคนมองหน้ากันและเดินเร็วขึ้น
เมื่อพวกเขาเดินหน้าต่อไป พวกเขาก็ค้นพบว่าหมอกค่อยๆ ลดน้อยลงอย่างน่าประหลาดใจ
เมื่อพวกเขาเคลื่อนตัวไปในหุบเขาประมาณหนึ่งกิโลเมตรหมอกข้างหน้าพวกเขาก็หายไปเกือบหมด
ต้องขอบคุณแสงอาทิตย์ พวกเขาจึงสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้
สิ่งที่พวกเขาเห็นเป็นอย่างแรกก็คือ “ทะเลสาบ” ขนาดใหญ่
หรือมากกว่านั้นก็คือแหล่งเก็บน้ําทะเลที่เต็มหุบเขาในช่วงน้ําขึ้น
บนแหล่งเก็บน้ําแห่งนี้มีการต่อสู้ที่ค่อนข้างน่าพึ่งเกิดขึ้น!
บูม บูม บูม…
มอนเตอร์โคลนจํานวนมากลอยอยู่บนผิวน้ํา
พวกมันดึงกระสุนหินทุกชนิดจากใต้ทะเลขึ้นมา
จากนั้นพวกมันก็เปลี่ยนร่างกายให้กลายเป็นปืนใหญ่โคลน ก่อนที่พวกมันจะทําการโจมตีกระสุนปืนใหญ่ก็ตกลงบนอีกด้านหนึ่งของน้ําทะล
เมื่อกระสุนปืนใหญ่เหล่านั้นตกกระทบผิวของน้ํา คลื่นก็สูงขึ้นหลายเมตรและกําลังบ้าคลั่ง
บูมมม! บูมมม!
นอกจากนี้พวกมันยังผสมบางอย่างกับกระสุนปืนที่มีคุณสมบัติพิเศษอย่างชัดเจน!
ตัวอย่างเช่น หินสีเหลืองบางก้อนระเบิดเมื่อสัมผัสโดนน้ํา เปลี่ยนอุณหภูมิโดยรอบให้สูงขึ้น ควันพวยพุ่งขึ้นในขณะที่สิ่งมีชีวิตในน้ําถูกสังหาร
หินสีดําบางก้อน เมื่อตกลงไปในน้ําก็ทําให้บริเวณนั้นมีสีดําราวกับหมึก แม้แต่แสงอาทิตย์ก็ไม่สาม
นอกจากนี้ยังมีหินสีแดงที่ไม่จมหลังจากกระทบผิวน้ํา แต่กลับกลิ้งอย่างบ้าคลั่งเหลือทิ้งไว้เพียงรอยไหม้ตามทาง
เห็นได้ชัดว่าพวกมันเป็นทรัพยากรที่มอนเตอร์โคลนควยคุมหรือสินสงครามหลังจากที่พวกมันได้กวาดล้างมอนเตอร์ในอาณาเขตของพวกมัน
พวกมันน่าจะเป็นไอเทมระดับวิสามัญอย่างไรก็ตามอาจจะเป็นเพราะการขาดสติปัญญาอย่างน่าสมเพช พวกมันจึงไม่ได้พกลูกกระสุนปืนใหญ่เช่นนี้ไปในระหว่างที่พวกมันเผชิญหน้ากับพวกเขา
นั่นอาจไม่ผิดของพวกมัน ท้ายที่สุดแล้วสายพันธุ์นี้มีโครงสรวง ร่างกายที่ไม่เหมือนใคร พวกมันจึงแทบจะไม่สามารถพกกระสุนนั้นในการเดินทางเช่นเดียวกับมนุษย์!
ไอเทมเหล่านั้นสามารถใช้เพื่อป้องกันถิ่นฐานของพวกเขาเท่านั้น!
เป้าหมายที่มอนเตอร์โคลนโจมตีนั้นค่อนข้างน่าตกตะลึง
ในพื้นที่ที่ลูกปืนใหญ่ถูกยิงมาไม่หยุด หมากกว่ามอนเตอร์โคลน จํานวนมากก็เอากระสุนปืนใหญ่ออกมาและยิงกลับไปที่ศัตรู
“นี่เป็นการต่อสู้ภายในของมอนเตอร์โคลนงั้นเหรอ?”
นี่เป็นการตอบสนองแรกของชายทั้งสามคนหลังจากที่พวกเขาพบที่ซ่อนและสังเกตการณ์
“มีมอนเตอร์โคลนมากมาย!”
นั่นเป็นการตอบสนองครั้งสองของพวกเขา
จากการนับมอนเตอร์โคลนทั้งสองฝั่ง มีมอนเตอร์โคลนเหล่านี้นมีมากกว่า 150 ตัวอยู่ในน้ํา
ต้องสังเกตว่ามอนเตอร์โคลนเหล่านั้นมีอันดับสูงกว่ามนุษย์ แม้ว่าพวกมันจะมีสติปัญญาและมีการพัฒนาน้อยกว่าก็ตาม
หลังจากพวกเขายี่สิบตัวถูกสังหาร ตามหลักแห่งความสมดุล ไม่น่าจะเหลือเกิน 80 คนในแต่ละฝั่งจะมีมากขนาดนี้ได้ยังไง?
“รอเดี๋ยว! มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!”
“มอนเตอร์โคลนต้องต่อสู้กับกลุ่มมนุษย์ต่าวดาวอีกกลุ่มหนึ่ง”
“มนุษย์ต่างงดาวอีกกลุ่มนี้ต้องสามารถสร้างภาพลวงตาได้”
“ดูให้ละเอียดสิ กระสุนปืนใหญ่จากฝั่งตรงข้ามจะกระจายเป็นไอน้ําหลังจากที่ถูกยิงไปได้ระยะหนึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกมัน ไม่ใช่มอนเตอร์โคลนตัวจริงและกระสุนปืนใหญ่เป็นของปลอม”
หากไม่มีการปิดกั้นจากหมอก จีเยจึงใช้ประโยชน์จากการมองเห็นที่ยอดเยี่ยมของเขาและสังเกตเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติ
การสร้างภาพลวงตาเป็นความสามารถที่มีประโยชน์อย่างแน่นอน
โดยเฉพาะภาพลวงตาที่มนุษย์ต่างดาวกลุ่มนี้สร้างขึ้นนั้นมีลักษณะเหมือนจริงและแทบจะเหมือนกับมอนเตอร์โคลนตัวจริงมาก
อย่างน้อยมนุษย์ก็จะตกที่นั่งลําบากหากต้องเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามเช่นนี้
บูม บูม บูม…
อย่างไรก็ตามภาพลวงตาของเผ่ามนุษย์ต่างดาวนี้ดูเหมือนจะไม่ได้ผลมากนักกับมอนเตอร์โคลน
นั่นเป็นเพราะกระสุนปืนใหญ่ที่มอนเตอร์โคลนยิงไม่ได้มุ่งเป้าไปที่มอนเตอร์โคลนตัวปลอม แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่พื้นที่อันว่างเปล่าบนผิวน้ํา
ฟิ้วว!
ดูเหมือนว่ากระสุนปืนใหญ่จะพลาดเป้าหมาย แต่หลังจากการ ะเบิดหนึ่งในมอนเตอร์โคลนตัวปลอมจะหายไปจากน้ําที่เดือดเพราะหินสีเหลือง
จากนั้นร่างกายของสิ่งมีชีวิตที่อ่อนนุ่มซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณหนึ่งเมตรและมีเปลือกสีขาวสว่างก็ปรากฏออกมาใกล้ๆ
“นี่คือสิ่งมีชีวิตที่มีชื่อว่ามอนเตอร์ลวงตา มันคือระดับวิสามัญอันดับ 7 ขั้นชั้นยอด!”
ศพมนุษย์ต่างดาวปรากฏขึ้นภายในระยะของเครื่องตรวจจับความสามารถในการต่อสู้ของหลี่ชิง
หลังจากแสงสีแดงเปล่งออกมา เขาก็รู้ความแข็งแกร่งและเผ่าของเป้าหมาย!
“มอนเตอร์ลวงตา?”
“พวกมันสามารถสร้างภาพลวงตาได้ และพวกมันก็มีรูปร่างคล้ายหอยนางรมที่มีขนาดใหญ่นั่นเป็นชื่อที่เหมาะสมมาก!” จีเยสังเกต
เผ่ามนุษย์ต่างดาวใหม่นี้มีชื่อที่เหมาะสมมากกว่ามอนเตอร์โคลนจากความคิดของเขา
เป็นเพราะลวงตาเป็นชื่อของสิ่งมีชีวิตที่ถูกอธิบายว่าเป้นหอยนางรมยักษ์ในนิทานพื้นบ้านโบราณ พวกมันถูกกล่าวว่าสามารถ สร้างภาพลวงตาได้
ว่ากันว่าอากาศที่ลวงตาหายใจออกมาสามารถสร้างเมืองบนทะเลที่มีคนไม่กี่คนสามารถมองออกได้ว่าเป็นเมืองปลอม
แน่นอนว่าหอยนางรมยักษ์เป็นเพียงหนึ่งในภาพของลวงตาเท่านั้น ในตํานานอื่นๆ ลวงตาถูกอธิบายว่าเป็นมังกรประเภทหนึ่ง
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนั้น แม้ว่ามนุษย์ต่างดาวจํานวนที่อยู่นอกเหนีอความรู้ของมนุษย์จะปรากฏตัวในดินแดนแห่งมรดก และบางส่วนอาจมีจํานวนมากที่คล้ายกับสิ่งมีชีวิตในตํานานโบราณทั่วโลก
ตัวอย่าง ตามที่ผู้อาวุโสเพิ่งกล่าว มนุษย์อินทรีดูเหมือนครุฑในตํานานของอินเดียมาก พวกมันมีร่างเป็นมนุษย์ ใบหน้าและขาของนกอินทรี พวกมันเกือบจะเหมือนสัตว์ในตํานานยกเว้นการไม่มีปีก
จากเหตุผลดังกล่าว หลายคนคาดเดาว่าดินแดนแห่งมรดกถูกเปิดมากกว่าหนึ่งครึ่งในช่วงการพัฒนาอารยธรรมมนุษย์ ดังนั้นสิ่งมีชีวิตและปีศาจจากตํานานบางอย่างอาจเป็นมนุษย์ต่างดาวได้
แน่นอนว่านั่นเป็นปัญหาที่ผู้เชี่ยวชาญและรัฐบาลควรกังวลมาก นี้สําหรับภูเขามังกรคู่ ปัญหาใหญ่ที่สุดคือพวกเขาควรรับมือกับสถานการณ์ใหม่อย่างไร
“นี่เป็นโอกาสที่ชัดเจนมาก!”
“ตอนนี้พวกมันโจมตีซึ่งกันและกัน เราสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากพวกมันทั้งสองตัว!”
ภายใต้แว่นตาสีแดงของเครื่องตรวจจับความสามารถในการต่อสู้ดวงตาของหลี่ซึ่งเป็นประกาย
ในช่วงสงครามระหว่างภูเขามังกรคู่และเผ่าวิญญาณ มอนเตอร์โคลนได้พยายามที่จะใช้ประโยชน์ พวกเขาล้มเหลวและสูญเสียอย่างหนัก พวกมันแทงมนุษย์จากด้านหลัง
ตอนนี้มอนเตอร์โคลนกําลังต่อสู้กับมอนเตอร์ลวงตาตัวใหม่ มัน ะไม่ใช่โอกาสที่มนุษย์จะได้กลับมาล้างแค้นพวกมันไม่ใช่เหรอ?