ตอนที่ 126 ความสามารถของหยางจื้อ
“โจมตี!”
อย่างไรก็ตามแม้ว่าผู้อาวุโสเพิ่งจะมองได้ทะลุปรุโปร่งและได้ทําลายแผนของมนุษย์โลหะโดย การศึกษาข้อมูลของจีเย่!
แต่พวกเขายังคงต้องสู้ในการต่อสู้จริง
ท้ายที่สุดแล้วมนุษย์กําลังโจมตีอาณาเขตของเผ่าอื่น และมนุษย์โลหะก็มีข้อได้เปรียบในกา รป้องกันถิ่นฐานของพวกมัน!
“อ่าาา!”
ทหารชนพื้นเมืองในปีกขวาที่นาโดยอู่ชงกรีดร้องออกมา
หลังจากการซุ่มโจมตีเริ่มขึ้น มนุษย์โลหะก็เลือกที่จะมุ่งโจมตีทางปีกขวาที่นําโดยอู่ซงและ กงซุนเชิง
พลังของชิ้นส่วนโลหะไม่ถูกเก็บงําอีกต่อไป และความเร็วของพวกมันก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก โล่ไม้ สีแดงของทหารชนพื้นเมืองถูกทําลาย และแม้แต่เกราะสองชั้นก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีระ ดับวิสามัญได้ทั้งหมด 1
ชิ้นส่วนโลหะที่มีแสงสีน้ําเงินไม่เพียงแค่เคลื่อนที่ได้เร็วกว่าชิ้นส่วนโลหะระดับสามัญ แต่พวก มันยังสามรถเปลี่ยนทิศทางได้กลางอากาศในขณะที่ถูกควบคุมโดยมนุษย์โลหะ แม้แต่วีรบุรุษขั้น สมบูรณ์อย่างอู่ซงก็พบว่ายากมากที่จะรับมือกับกรีชระเบิดแสงสีน้ําเงิน
ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าเขาจะสามารถเล็งไปที่วิถีการโจมตีอย่างแม่นยําด้วยเทคนิคกระบี่อันน่า ทิ้งของเขา และสามารถหยุดกรีชแสงสีน้ําเงินด้วยแรงเมื่อพวกมันเปลี่ยนทิศทาง
แต่เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงการระเบิดของกระแสไฟฟ้าต่อไปนี้และเศษโลหะได้
โชคดีที่พวกเขาได้คาดการณ์เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ ดังนั้นทุกคนที่เข้ามาในอาณาเขตจะได้รับหยก วิญญาณที่ลุงเก้าได้ดัดแปลง บาร์เรียสีเขียวที่ถูกเปิดใช้งานก็สามารถต้านทานชิ้นส่วยโลหะที่แตกอ อกเป็นเสี่ยงๆ ได้ชั่วขณะหนึ่ง
ยิ่งไปกว่านั้นเช่นเดียวกับมนุษย์โลหะได้จงใจแสดงจุดอ่อนของพวกมัน มนุษย์ก็เก็บบางสิ่งไว้ เป็นความลับเช่นกัน
ในระหว่างการพัฒนาในคืนนี้ มีเพียงฉ่หยิน เนี่ยเสี่ยวเชี่ยน และจีเยู่ที่เปิดเผยตัวเองในตอน บ่ายเท่านั้นที่เริ่มโจมตี คนที่เหลือต่างก็ป้องกันตัวเองเท่านั้นซึ่งเป็นวิธีที่จะเก็บอาวุธโจมตีวิญญาณ ของพวกเขาเป็นความลับ
“แกคิดจะไปไหน?!”
หลังจากเปิดใช้งานบาร์เรียสีเขียวเพื่อป้องกันเศษของกรีชระเบิดสีน้ําเงินที่พุ่งมาที่เขา อู่ซงก็ ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับสกิลหลักของเขา ย่างก้าวหยกแหวน ท่าเท้าดวงใจ เคลื่อยที่อย่างรวดเร็ว ราวกับสายฟ้า ทันใดนั้นอู่ซงก็วิ่งออกจากรูปขบวนของเขาและตรงไปหามนุษย์โลหะที่โจมตีเขา
“กรรรรรร!”
เมื่อเล็งไปที่เส้นทางหลบหนีของมนุษย์โลหะ เขาก็ปล่อยคลื่นของกระบี่วิญญาณเสือของเขา และริ้วพลังงานกระบี่สีน้ําเงินอันเย็นยะเยือกก็พุ่งออกมาจากกระบี่สีดํา กระทบกับมนุษย์โลหะที่ดู เหมือนกับสเก็ตบอร์ด
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อู่ซงได้ศึกษาอาวุธขั้นสมบูรณ์นี้จากภายในถึงภายนอก แม้ว่ามันจะ เป็นเพียงริ้วพลังงานกระบี่ แต่เปลวไฟวิญญาณยมโลกก็สามารถสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล ต่อสิ่งมีชีวิตดังกล่าวที่มีวิญญาณอ่อนแอ
แม้ว่าจะไม่มีอาการบาดเจ็บที่เห็นได้ชัด แต่ทันใดนั้นแสงสีน้ําเงินก็หายไปจากมนุษย์โลหะสเก็ ตบอร์ด มันบินไปสักพักก่อนที่จะร่วงหล่นลงบนพื้น!
“เร็ว!”
กงซุนเพิ่งผู้สวมชุดคลุมเต๋ได้ทําลายกรีชระเบิดสีน้ําเงินด้วยฟ้าผ่า จากนั้นเขาก็โยนดาบมังกร ลวงตาในมือออกไป!
แครกกก…
วินาทีต่อมา ดาบขั้นสมบูรณ์ระดับวิสามัญอันดับ 4 ก็บินขึ้นไปในอากาศโดยมีหมอกสีขาวอยู่ ด้านหลัง และมีริ้วพลังงานที่มาพร้อมกับเสียงฟ้าร้องดังก้อง
สายฟ้าธรรมดาไม่ได้มีความหมายกับมนุษย์โลหะที่เชี่ยวชาญด้านพลังแม่เหล็กไฟฟ้ามากนัก แต่สายฟ้าวิญญาณที่ถูกเรียกใช้โดยดาบมังกรลวงตาของกงซุนเพิ่งนั้นได้กําหนดเป้าหมายไปที่ วิญญาณโดยเฉพาะ
สําหรับความเร็วในการบิน
มนุษย์โลหะที่มีรูปร่างเหมือนกับหินโม่ถูกจับโดยดาบมังกรลวงตาในขณะที่มันบินอยู่ แสงสี น้ําเงินได้กระพริบในหมอกที่เต็มไปด้วยเสียงฟ้าร้องดังก้อง ทันทีหลังจากนั้นมันเสียชีวิตไปพร้อม กับมนุษย์โลหะที่ถูกโจมตีโดยอู่ซง
อย่างไรก็ตามวีรบุรุษที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการปราบปรามมนุษย์โลหะไม่ใช่ทั้งอู่ซงและกง ซุนเพิ่งซึ่งเป็นขั้นสมบูรณ์
แต่เป็น “อสูรหน้านิล” หยางจื้อผู้ที่มีขั้นเหนือชั้น
“ตายซะ!”
เมื่อเทียบกับปีกขวาของอู่ซงที่ตกอยู่ภายใต้การโจมตีครั้งใหญ่ ปีกซ้ายที่หยางจื้อนํานั้นกําลังป ราบปรามมนุษย์โลหะ
เนื่องจากเกราะภูเขาทมิฬระดับวิสามัญได้ป้องกันอย่างสมบูรณ์ แม้กระทั่งกรีชระเบิดสีน้ําเงิน ก็ไม่สามารถทําลายการป้องกันของเขาได้
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อพลังระดับวิสามัญของกระบี่ภูเขาทมิฬของเขาก็ถูกเปิดใช้งาน มันอาจทําให้ก รีชระเบิดสูญเสียแสงสีน้ําเงินของพวกมันเมื่อพวกมันพุ่งเข้ามาในระยะที่กํานหด เมื่อพวกมันไม่สา มาถระเบิดหรือเปลี่ยนทิศทางได้ จึงเป็นเรื่องง่ายสําหรับหยางจื้อซึ่งเป็นระดับวิสามัญอันดับ 5 ที่ จะหยุดกรีชบิน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ปราบปรามมนุษย์โลหะนั้นคือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาใช้พลังระดับวิสามัญ ของเกราะภูเขาทมิฬ
บูมมม!
ควันหนาที่แสดงถึงพลังวิญญาณพุ่งออกมาจากเกราะ ก่อตัวเป็นร่างสีดําที่มีดวงตาที่ปิดสนิท ซึ่งสูงถึงสามเมตร พลังงานที่มันปล่อยออกมานั้นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าวิญญาณหัวหน้าหมาป่าข้างจี เย่เลย
เนื่องจากใบหน้าของร่างนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากภูเขาทมิฬ แม่ทัพมนุษย์ที่ดุร้ายแห่งโลกกา รบ่มเพาะ!
“ไม่… มันไม่น่าจะเป็นเขา มันควนจะเป็นฉัน!”
อย่างไรก็ตามหยางจื้อก็ส่ายหัวภายใต้หมวก
วินาทีต่อมา ใบหน้าของร่างที่เกิดจากพลังวิญญาณก็เปลี่ยนเป็นใบหน้าของหยางจื้อในทันที
เมื่อร่างสีดําลืมตาขึ้นมา พลังงานของผู้ที่เคยเห็นการต่อสู้อันโหดร้ายพร้อมกับควันสีดํา จํานวนมากที่บรรจุพลังวิญญาณไว้ก็ได้หลั่งไหลออกมาในทันที ปกคลุมมนุษย์โลหะในอีกด้านหนึ่ง
ความปรารถนาในการต่อสู้
นั่นคือความสามารถพิเศษที่หยางจื้อได้รับมาหลังจากที่เขาถึงระดับวิสามัญอันดับ 5
เขาอดทนต่อบททดสอบของภูเขาทมิฬและเข้าใจความปรารถนาในการต่อสู้ของเขาเอง
พูดตามตรง มันคือประเภทของการโปมตีทางจิต เนื่องจากเกราะภูเขาทมิฬดร็อปออกมาจาก แม่ทัพภูเขาทมิฬในร่างแม่ทัพยมโลก การโจมตีที่มันปลดปล่อยออกมาจึงมีลักษณะเฉพาะของการ โจมตีทางวิญญาณ
สําหรับมนุษย์โลหะที่อ่อนแอทั้งพลังจิตและวิญญาณ การโจมตีที่ไม่ควรมีอยู่ในอารยธรรมข องพวกมันจึงเป็นอันตรายถึงชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย!
หวูดดด! หวูดดด! หวูดดด!
มนุษย์โลหะหกตัวที่ขวางเส้นทางปีกขวาของภูเขามังกรคู่ล้มลง และประกายไฟก็เกิดขึ้นเมื่อ พวกมันขูดกับพื้น จากนั้นร่างสีดําก็ปรากฏเหนือหัวของหยางจื้อ
หลังจากที่มนุษย์โลหะล้มลง หยางจื้อก็กระบี่ภูเขาทมิฬไปที่พวกมัน
ร่างสีดําที่เต็มไปด้วยความปรารถนาในการต่อสู้ของเขาก็โบกกระบีในมือในลักษณะเดียวกัน
ควันสีดําที่มีพลังวิญญาณพุ่งออกมาจากกระบี่ถูกที่โบกจนกลายเป็นพัดลม สังหารมนุษย์โลห ะสองตัวที่ใกล้ที่สุดซึ่งตกลงไปที่พื้นทันที
ในกองทัพที่อยู่ข้างหลังหยางจื้อ มีทหารชนพื้นเมืองที่มีอาวุธโจมตีวิญญาณ เช่นเดียวกับลุง เก้านั้นได้รับการป้องกันอย่างดีซึ่งไม่ได้รับอันตรายเลย
พวกเขาเริ่มการโจมตีทั้งหมดพร้อมกัน และทั้งหมดก็เล็งเป้าไปที่มนุษย์โลหะที่เหลืออยู่อีกสาม
นั่นทําให้ร่างของมนุษย์โลหะสั่นสะท้านทันทีก่อนที่พวกมันจะเงียบอย่างสมบูรณ์
การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันทําให้แสงสีน้ําเงินบนตัวมนุษย์โลหะที่ด้านข้างของอู่ซงสั่นไห วอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกมันสื่อสารกันในวิธีเฉพาะตัวของเผ่าพวกมัน
มีมนุษย์โลหะไม่มากนัก จนถึงตอนนี้มีเพียง 30 ตัวเท่านั้นที่ปรากฏตัวออกมา รวมถึงตัวที่จีเย่ ได้สังหารไปด้วย ในทางทฤษฎีแล้วแม้ว่าบางตัวจะยังแอบซ่อน แต่ก็ไม่ได้มีมากนัก
นั่นเป็นเรื่องปกเท่านั้น ท้ายที่สุดหากสมาชิกทุกคนในเผ่าถึงระดับวิสามัญ พวกเขาจึงมีจํานวน ไม่เท่ากับเผ่าระดับสามัญเผ่าอื่น
นั่นก็หมายความว่าเมื่อหยางจื๊อสังหารมนุษย์โลหะหกตัวที่ขวางเส้นทางปีกซ้ายของภูเขามังก รคู่ เขานั้นได้สังหารหนึ่งในห้าของประชากรมนุษย์โลหะ!
หวูดดดด!
ไม่ใช่ทั้งหกตัวที่ถูกสังหาร
ตัวที่ล้มลงซึ่งอยู่ห่างจากมนุษย์มากที่สุดสามารถกลิ้งลงไปในหลุมบนพื้นโลหะได้ทัน รักษาชีวิ ตของมันไว้ได้
มนุษย์โลหะได้ออกแบบสนามรบนี้เพื่อซุ่มโจมตีมนุษย์ และมันก็ไม่ได้เรียบง่ายนัก ข้างใต้นั้น ยังมีระบบอุโมงค์ที่ซับซ้อนมากอีกด้วย
ในระหว่างการต่อสู้ จีเย่ปล่อยให้วิญญาณหัวหน้าหมาป่าเข้าไปในหลุมและเห็นว่าพวก มันทั้งหมดเชื่อมต่อกันเป็นอย่างดีและสามารถไปได้ทุกมุมของสนามรบ!
มันทําให้นึกถึงสงครามในอุโมงค์ครั้งหนึ่งที่ถูกใช้โดยชาวประเทศมังกร มีเพียงอุโมงค์ใต้ดินที่ จุดโดยมนุษย์โลหะเท่านั้นที่จะเป็นเหมือนกับอุโมงค์ความเร็วสูง
เนื่องจากการใช้ความสามารถในการลอยตัวของแม่เหล็ก ทําให้มนุษย์โลหะสามารถให้การส นับสนุนไปยังตําแหน่งใดก็ตามที่ต้องการในสนามรบทันที
หวูดดด! หวูดดด! หวูดดด!
ดังนั้นหลังจากที่หยางจื้อเอาชนะมนุษย์โลหะที่ขวางทางปีกซ้าย มนุษย์โลหะก็เคลื่อนย้ายสมา ชิกสิบคนที่กําลังโจมตีปีกขวาไปทางด้านนั้นทันที!
ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันยังเปลี่ยนสไตล์การต่อสู้ ตอนนี้พวกมันจะเคลื่อนย้ายไปรอบๆ ในอุโม งค์ใต้ดินอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ปรากฏตัวที่ด้านข้างและด้านหลังของมนุษย์เพื่อซุ่มโจมตีพวกมัน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านั่นทําให้มนุษย์ผู้ซึ่งเดินบนพื้นนั้นค่อนข้างได้รับความยากลําบาก
เนื่องจากในตอนกลางคืน มนุษย์ไม่สามารถตัดสินการเคลื่อนที่ของมนุษย์โลหะได้
แม้แต่หลี่ชิงก็ไม่สามารถทําอะไรได้ เมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดนี้ เครื่อง ตรวจจับความสามารถในการต่อสู้ของเขาจะรับรู้ถึงความสามารถของมนุษย์โลหะเมื่อมัน ปรากฏตัวเท่านั้น แต่เขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความผันผวนของพลังศัตรูได้เหมือนกับที่เขา ตรวจพบมอนเตอร์โคลนและมอนเตอร์ลวงตา
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเหตุผล พลังงานของเครื่องตรวจจับของเขากําลังจะหมด
อุปกณณ์เริ่มต้นที่ช่วยเหลือภูเขามังกรคู่อย่างมากกําลังจะมาถึงระยะเวลาการใช้งานสูงสุดแล้ว
“โจมตีถิ่นฐานโดยตรง!”
ด้วยความช่วยเหลือของวิญญาณหัวหน้าหมาป่า เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนได้สังหารมนุษย์โลหะ อีกตัวหนึ่ง แต่ก็มีเหลืออยู่บนหน้าผากของเธอและพลังจิตของเธอก็อ่อนแอลง
จีเยเหลือบมองไปรอบสนามรบและกล่าวด้วยน้ําเสียงที่แน่วแน่
นอกแกนกลางถิ่นฐาน มนุษย์โลหะสามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อที่ด้วยความเร็วสูงของพ วกมันเพื่อเคลื่อนย้ายไปรอบๆ ทางใต้ดินและทําสงครามได้อย่างสบายใจ
อย่างไรก็ตามแกนกลางถิ่นฐานนั้นไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้