ตอนที่ 150 สินสงครามและสินสงคราม
[กระจกเมฆาลวงตา]
[ระดับ : วิสามัญ]
[ขั้น : สมบูรณ์]
[รายละเอียด : เทคนิคพิเศษที่ใช้โดยมอนเตอร์ลวงตาที่ช่วยให้พวกมันสามารถสังเกตสิ่งต่างๆ ที่ระยะไกลได้ แต่ต้องใช้สภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับภาพลวงตามากพอ]
จีเย่สัมผัสได้ถึงมูลค่าของสินสงครามที่ดร็อปออกมาจากมังกรลวงตาที่ถูกทําลายโดยราชาหมาป่ามังกรน้ำ
เขาพอใจมากกับการต่อสู้ในตอนนั้น
เมื่อเผชิญหน้ากับมังกรลวงตาที่ฟื้นคืนชีพโดยมอนเตอร์ลวงตา การต่อสู้อาจไม่จําเป็น
เนื่องจากมังกรลวงตาตัวนี้สร้างขึ้นมาจากพลังที่เหลืออยู่ในกระดูกใต้ดินของมังกรลวงตาที่ถูกเปิดใช้งานโดยมอนเตอร์ลวงตาเท่านั้น มันไม่สามารถออกจากบริเวณที่ซากศพนอนอยู่ได้
เมื่อกระแสน้ำวนที่เกิดจากน้ำทะลไม่สามารถควบคุมจีเยผู้ที่มีสายเลือดมังกรน้ำได้ ผู้บัญชาการวีรบุรุษก็จะหลบหนีมาก่อนได้อย่างง่ายดาย
พวกเขาสามารถรอจนกว่ามังกรลวงตาจะสลายไปเองก่อนที่จะกลับมาเคลียร์สนามรบได้ ด้วยวิธีนี้พวกเขาจะไม่พบอันตรายมากนัก แต่พวกเขาจะไม่ได้รับสกิลขั้นสมบูรณ์
“นี่คือสกิลที่น่าทิ้งในระดับหนึ่ง!”
จีเย่ยิ้มออกมา
เนื่องจากเขาได้เรียนรู้ข้อมูลบางอย่างหลังจากที่เขาเข้าใจสกิลนี้แล้ว
ในทางทฤษฎีไม่ว่าแสงในทะเลที่ไหน เขาก็สามารถใช้กระจกเมฆาลวงตาเพื่อดูวิวในระยะไหลผ่าเงาสะท้อนของน้ำทะเลได้ นอกจากทะเลแล้ว เขายังสามารถใช้แสงที่สะท้อนจากเมฆบนฟ้าเพื่อเฝ้ามองจากระยะไกลขึ้นได้อีกด้วย!
นั่นคือเหตุผลที่เมื่อมอนเตอร์ลวงตาต่อสู้กับมอนเตอร์โคลน พวกมันจึงสามารถเลียนแบบการปรากฏตัวของมอนเตอร์โคลนจากระยะไกลหลายร้อยเมตรและแม้กระทั่งสร้างภาพลวงตาของการโจมตี
“ถึงอย่างนั้นหลักการของสกิลนี้ก็ดูคุ้นเคยบางส่วน
จีเยู่พบว่าหลักการสะท้อนค่อนข้างคุ้นเคย มันคล้ายกับการสี่สารด้วยคลื่นวิทยุซึ่งทํางานในลักษณะเดียวกันทุกประการ
บางทีเขาอาจลองใช้สกิลนี้เพื่อบรรลุ การสื่อสารวิดีโอ” ทางไกลได้สําเร็จ
“กระจกสวรรค์อันยิ่งใหญ่” ในตํานานของจักพรรดิหยกจะใช้หลักการนี้ด้วยมั้ยนะ?”
จีเย่ยิ้มออกมา
แน่นอนว่าเขาแค่ล้อเล่น
ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นยังไง กระจกเมฆาลวงตาก็เป็นสกิลที่มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตรวจจับการเคลื่อนไหวของศัตรู มันเป็นสกิลที่น่าทึ่ง
ฝยทางทฤษฎี เว้นเสียแต่มนุษย์อินทรีจะมีวิธีการปิดท้องฟ้า
หรือหากพวกมันเคลื่อนไหวตอนกลางคืน… ไม่อย่างนั้นจะเป็นเรื่องยากมากที่จะหลีกเลี่ยงกระจกเมฆาลวงตาของเขา
นอกเหนือจากการสังหารครั้งนี้ สินสงครามอื่นที่ดร็อปมาจากมอนเตอร์ลวงตาก็ยังทําให้จีเย่ประหลาดใจเช่นกัน
มีหินกึ่งโปร่งใสสีน้ำเงินอยู่บางส่วน!
[หินไคโร]
[ระดับ : วิสามัญอันดับ 1]
[ขั้น : ยอดเยี่ยม (หายาก)]
[รายละเอียด : หินที่ก่อตัวในทะเล แต่ละก้อนเทียบเท่ากับน้ำทะเลที่เป็นของแข็ง เมื่อสวมใส่หินไคโร สัตว์ทะเลสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระบนบก!]
“ทําไมคุณสมบัติของไอเทมชิ้นนี้จึงดูคุ้นเคยเหมือนกันนะ?”
“อย่าบอกนะว่ามะเลข้างนอกเรียกว่าแกรนไลน์”
คุณสมบัติของวัตถุชิ้นนี้ทําให้เขานึกถึงบางสิ่งที่คล้ายกันในมังงะ
อย่างไรก็ตามจีเย่สามารถคาดเดาได้ไม่มากก็น้อยว่าหินไคโรเหล่านี้มาจากไหน
เนื่องจากพวกมันไม่ได้ถูกพบเฉพาะในอาณาเขตของมอนเตอร์ลวงตาเท่านั้น พวกมันยังอยู่ในสินสงครามที่ดร็อปจากเต่ามังกรตะพาบเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่านี่คือสิ่งที่หย่วนเสี่ยวเอ้อร์ปล่อยให้ทหารชนพื้นเมืองรายงานกับเขาก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นวัตดุที่ก่อให้เกิดสงครามระหว่างมอนเตอร์ลวงตาและเต่ามังกรตะพาบ
“มันโชคร้ายสําหรับมอนเตอร์ลวงตา พวกเขาพยายามโจมตีถิ่นฐานของมอนเตอร์โคลนก่อนเพื่อที่พวกเขาจะได้ใช้หนังของพวกมันเพื่อขึ้นฝั่ง แต่พวกเขาก็พ่ายแพ้อย่างหนักและสูญเสียกองทัพไปครึ่งหนึ่ง เมื่อพวกเขาพบวัตถุอื่นที่สามารถช่วยให้พวกเขาขึ้นบกได้ในที่สุดพวกเขาก็ถูกทําลายหลังจากนั้นไม่นาน ช่างเป็นการเสียผลประโยชน์ตามธรรมชาติของพวกเขาเสียจริง”
“แต่สําหรับฉัน หินไคโรมีประโยชน์มากกว่าทรัพยากรส่วนใหญ่ที่เรามีในตอนนี้!”
เมื่อถือหินไคโร จีเยู่ก็สัมผัสได้ถึงพลังงานของมหาสมุทรในนั้น เช่นเดียวกับสายเลือดมังกรน้ำภายในตัวเขา
“สายเลือดมังกรน้ำ” นั้นทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เพื่อใช้พลังของมันได้อย่างเต็มที่ เขาจึต้องอยู่ในน้ำ นั่นเคยเป็นปัญหาสําหรับเขา
แต่ด้วยหินไคโร จีเย่สามารถเปลี่ยนแผ่นดินให้กลายเป็นอาณาเขตของเขาได้
“ทะ… ท่านหัวหน้า สินสงคราม. ของ เต่ามังกรตะพาบ… นั้นวิเศษมาก!”
จีเย่ได้ตรวจสอบสินสงครามจากมอนเตอร์ลวงตา
ในอีกด้านหนึ่ง หย่วนเสี่ยวเอ้อร์ก็ได้ตรวจสอบวัตถุที่ดร็อปมาจากเต่ามังกรตะพาบ
แม้ว่าสําหรับเขาแล้วมันจะยากที่จะพูดหลังจากเขาเสียหน้ากากมอนเตอร์โคลนไป เขาก็มีสีหน้ามีความสุขเหมือนกับจีเย่
เนื่องจากข้างเขา กึ่งผู้บัญชาการระดับวิสามัญอันดับ 4 ที่จีเย่สังหารได้มีแสงสีขาวปกคลุมทั่วทั้งร่างกายของมัน
เต่ามังกรตะพาบไม่ได้ดูแตกต่างไปจากเดิมมากนักในตอนแรก แต่คุณสมบัติของมัน
[เรือเต่ามังกรตะพาบ]
[ระดับ : วิสามัญอันดับ 4]
ขั้น : ยอดเยี่ยม
[รายละเอียด : เรือพิเศษที่แปลงมาจากเต่ามังกรตะพาบหลังจากที่มันถูดขัดเกลาโดยพลังแห่งโชคชะตาของมนุษย์ มันมีความสามารถในการป้องกันที่ยอดเยี่ยม เพราะมีกลิ่นอายของเลือดมังกรในตัว มันจึงสามารถข่มขู่สัตว์ทะเลระดับสามัญได้บางชนิด เมื่อพลังระดับวิสามัญถูกเปิดใช้งาน มันจะสามารถเพิ่มความเร็วได้อย่างมหาศาล!]
เต่ามังกรตะพาบทั้งตัวได้กลายเป็นเรือ
กระดอกด้านบนเปิดออกให้คนเดินเข้าไปได้
เนื่องจากเต่ามังกรตะพาบนั้นมีความยาวและความกว้างมากกว่าสี่เมตร และสูงมากกว่าสองเมตรจึงมีพื้นที่เพียงพอสําหรับคนห้าหรือหกคน
หากพวกเขาพยายามเบียดเสียดกัน สามารถแม้กระทั่งเพิ่มคนได้อีกสองหรือสามคน
แขนขาของเต่ามังกรตะพาบได้กลายเป็นไม้พายที่สามารถควบคุมได้จากด้านในเพื่อขับเคลื่อนเรือ
นอกจากนี้ปากของเต่ายังสามารถเปิดและปิดได้ภายใต้การควบคุม มันเป็นเต่าที่ค่อนข้างหนัก
ตามทฤษฎีแล้ว พวกเขาสามารถใส่ปืนใหญ่เหล็กเหมันต์เข้าไปข้างในได้ซึ่งจะยิงผ่านทางปากของเต่า ทําให้เต่ากลายเป็นเรือรบ
ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากเต่ามังกรตะพาบมีความสามารถในการควบคุมกระแสน้ำ พวกมันจึงสามารถลอยหรือจมได้ในทะเล เนื่องจากมันสามารถปิดผนึกได้อย่างสมบูรณ์ หากพวกเขาเอาหนังของมอนเตอร์โคลนติดข้างใน พวกเขาอาจมีการแลกเปลี่ยนอากาศอย่างต่อเนื่องภายในเรือ
เห็นได้ชัดว่าเรือเต่ามังกรตะพาบลํานี้มีศักยภาพที่จะกลายเป็นเรือดําน้ำได้อย่างเต็มที่
“บางทีเราอาจใช้เรือลํานี้เพื่อซุ่มโจมตีมนุษย์อินทรีได้”
จีเย่รู้สึกถึงกับความคิดนี้
ด้านหนึ่งของรังมนุษย์อินทรีนั้นอยู่ใกล้กับทะเล และพวกเขาสามารถเฝ้ามองพวกมันได้จากเหนือทะเล
สิ่งเดียวที่พวกเขาต้องระวังก็คือลูกศรของมนุษย์อินทรี พวกมันไม่เพียงแค่แม่นยําเท่านั้น แต่ยังทรงพลังอีกด้วย
เห็นได้ชัดว่าเรือเต่ามังกรตะพาบมีความได้เปรียบในด้านนั้นเช่นกัน
เนื่องจากแม้ว่าในตอนที่ถูกโจมตีโดยเลือดมังกรน้ำรวมทั้งศิลปะเก้าหยางศักดิ์สิทธิ์ของจีเย่ กระดองของเต่ามังกรตะพาบกร้าวและไม่แตกออก
ในทางทฤษฎี แม้กระทั่งลูกศรจากผู้บัญชาการมนุษย์อินทรีก็ไม่สามารถทําลายการป้องกันของมันได้
“เอาล่ะ หลังจากที่เราสร้างปืนไรเฟิลซุ่มยิง เราจะสามารถลองใช้มันได้!”
จีเย่เอื้อมมือไปแตะหัวอันน่าสะพรึงกลัวของเรือเต่ามังกรตะพาบที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ด
เขาสามารถสัมผัสได้ว่าเรือลํานี้เหมือนกับดาบงูดําซึ่งสอดคล้องกับสายเลือดมังกรน้ำของเขาในระดับหนึ่ง หมายความว่าเขาสามารถควบคุมเรือลํานี้ได้จากระยะไกล
เขาสามารถเสริมความแข็งแกร่งของเรือลํานี้ด้วยเลือดมังกรน้ำของเขา
“ผู้นําหย่วน หาคนหลังจากที่เรากลับไป และให้พวกเขาทําความคุ้นเคยกับวิธีการใช้งานเรือลํานี้!”
จีเย่บอกหย่วนเสี่ยวเอ้อร์ผู้ซึ่งหลงใหลในเรืออย่างมาก
มีเรือเต่ามังกรตะพาบมากกว่าหนึ่งลํา แต่เรือลํานี้มีระดับสูงที่สุด ไม่ใช่ว่าเต่ามังกรตะพาบทุกตัวที่ถูกสังหารจะดร็อปรางวัล แต่เต่าอีกสองตัวก็ยังคงให้เรือเต่าอีกสองลําที่เล็กกว่าซึ่งคือขั้นขัดเกลาระดับวิสามัญอันดับ 3
พวกมันจะถูกจัดให้เป็นยุทโธปกรณ์ทางยุทธศาสตร์ให้กับกองทัพเรือเหลียงซานซึ่งมีจํานวนคนน้อยที่สุด
เมื่อพวกเขาสังหารมอนเตอร์ลวงตาหมด เผ่ามนุษย์ก็ได้ยึดครองศพมังกรลวงได้
จีเย่กําลังพิจารณาที่จะรวบรวมกองกําลังพิเศษของกําทัพเรือ
ยิ่งไปกว่านั้นเต่าตัวสุดท้ายที่ถูกสังหารโดยดาบงูดําที่กลายเป็นมังกรก็ได้ดร็อป “เลือดมังกร ก้อนใหญ่!
[เลือดเต่ามังกรตะพาบ]
[ระดับ : วิสามัญ]
[ขั้น : ขัดเกลา]
[รายละเอียด : เต่ามังกรตะพาบมีเลือดมังกรอยู่เล็กน้อยในตัวพวกมัน เมื่อหลอมหรวมแล้วจะมีโอกาสได้รับสายเลือดเต่ามังกรตะพาบระดับวิสามัญ และยังมีโอกาสกลายพันธุ์อีกด้วย]
มันเป็นเลือดก้อนใหญ่อย่างแท้จริงยิ่งใหญ่เท่ากับหัวของผู้ใหญ่ แต่มูลค่านั้นไม่น่าพอใจนัก
หลังจากมันหลอมรวมแล้ว มันก็สามารถกลายพันธุ์หรือกลายเป็น “เต่า” ได้ ไม่มีใครได้รับเลือดมังกรน้ำ
“ไม่เลวเลย”
อย่างไรก็ตามจีเย่ค่อนข้างพึงพอใจกับสินสงคราม
เป็นเพียงเพราะเมื่อเขาผสานกับเลือดของงูดําก่อนหน้านี้ เขาได้เปลี่ยนเลือดดําให้เป็นเลือดมังกรน้ำปริมาณน้อย
มันทําให้เขาตระหนักว่าด้วยการผสาน เขาควรจะสามารถเปลี่ยนแก่นแท้ของสิ่งมีชีวิตเลือดมังกรให้กลายเป็นเลือดมังกรน้ำ
เลือดมังกรรน้ำมีคุณสมบัติที่น่าทึ่ง แต่มันก็ก่อตัวช้ามาก แม้ว่าเขาจะได้รับสายเลือดมังกรน้ำ แต่เขาก็มีเลือดมังกรน้ำที่แท้จริงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ด้วยวิธีนี้ เขาสามารถใช้เลือดของสิ่งมีชีวิตเลือดมังกรเพื่อฟื้นฟูมันได้
นอกจากนั้นยังมีหินลวงตา ฟองหลายสี โล่เต่ามังกรตะพาบน้ำ หินแห่งอารยธรรมและวิญญาณแห่งอารยธรรมจํานวนมากกระจัดกระจายทั่วทั้งสนามรบ
แม้ว่าจะมีเพียงสองคนที่เข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ แต่รางวัลก็มีความสําคัญมากกว่าการต่อสู้ครั้งก่อนมาก