เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1002

ตอนที่ 1002

เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1002
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1002 เข้าสู่สถานการณ์อันตรายอีกครั้ง

แปลโดย iPAT

โดยไม่สามารถอธิบายเหตุผล หลังจากหลายปี คฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลกับผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดสามารถรักษาสมดุลซึ่งกันและกัน

ตอนนี้ฟางหยวนได้ผลักดันเจตจำนงของผู้อมตะภาคใต้ออกไปแล้ว

ตั้งแต่กำเนิดใหม่ในที่สุดแผนการของเขาก็กำลังจะประสบความสำเร็จ

ฟางหยวนเต็มไปด้วยความสุข

แต่ในขณะเดียวกันเขายังรู้สึกกังวล

‘เร็วขึ้น เร็วขึ้นอีก!’ เขากระตุ้นตนเอง

แม้เขาจะสามารถปรับแต่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะส่วนใหญ่ แต่ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่เขาจะสามารถยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ได้อย่างสมบูรณ์

ในช่วงเวลานี้ฟางหยวนอยู่ในสภาพที่อ่อนแอที่สุด หากผู้อมตะภาคใต้ร่วมมือกัน เขาอาจเผชิญหน้ากับอันตรายถึงชีวิต

ความโกรธของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้เป็นสิ่งที่สามารถทำความเข้าใจ

หลังจากทุ่มเทความพยายามมาหลายเดือน สุดท้ายคนนอกกลับฉกชิงผลประโยชน์ไปจากพวกเขา หากฟางหยวนทำตามกฎของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ พวกเขาอาจสามารถยอมรับ แต่การกระทำของเขาคือการขโมยอย่างไร้ยางอายที่สุด

แล้วการทำงานหนักทั้งหมดของพวกเขาจะมีความหมายใด?

แน่นอนว่ามันกลายเป็นความว่างเปล่า

แม้กลุ่มผู้อมตะภาคใต้จะไม่โจมตีแต่พวกเขาก็ใช้วิธีการตรวจสอบทั้งหมด

ฟางหยวนสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานมากมายที่พุ่งผ่านร่างกายของเขาไป

นี่ทำให้ร่างกายของเขารู้สึกตึงเครียดเล็กน้อย

แม้เขาจะใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย แต่มันก็เป็นฉบับดัดแปลง ฟางหยวนมั่นใจว่าสามารถหลอกผู้อมตะระดับหกและเจ็ด แต่สำหรับผู้อมตะระดับแปด เขายังไม่มั่นใจมากนัก

เมื่อเวลาผ่านไป จิตใจของฟางหยวนเต็มไปด้วยกลุ่มความคิดมากมาย

ฟางหยวนเข้ายึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลอย่างช้าๆและใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อเรียนรู้วิญญาณอมตะที่อยู่ภายใน

ในช่วงเวลาสำคัญ ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของเขากลายเป็นตัวช่วยชั้นยอด ฟางหยวนสามารถสรุปหลายอย่างเกี่ยวกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้

ความเข้าใจของเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

‘สำเร็จ!’ ฟางหยวนอุทานอยู่ในใจ

สุดท้ายเขาก็ประสบความสำเร็จในการยึดครองสนามรบแห่งความโกลาหล

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้กลายเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์

“บึม!”

ประตูห้องพยาบาลถูกทำลายอย่างกะทันหัน

เซี่ยวซาน ลู่ซวนฟง และผู้ใช้วิญญาณระดับห้าอีกคนพุ่งเข้ามาด้านใน

“ฆ่าพวกเขาทั้งหมด!” เซียวซานชี้นิ้วไปที่เตียงผู้ป่วยด้วยเจตนาสังหาร

ปรากฏว่าไม่เพียงผู้อมตะภาคใต้ แต่ผู้ใช้วิญญาณบนภูเขาอี้เทียนก็กำลังค้นหาผู้ก่อการร้ายและเริ่มเข่นฆ่าสมาชิกของแต่ละฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง

ทุกคนที่น่าสงสัยจะถูกสังหารอย่างไร้ปรานี

ผู้อมตะภาคใต้เต็มไปด้วยความวิตก แม้ตัวตนของพวกเขาจะถูกเปิดเผย พวกเขาก็ไม่สนใจ

‘แม้พวกเขาจะไม่สามารถทำลายท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย แต่พวกเขาก็ยังสงสัยข้า’ ฟางหยวนพึมพำอยู่ในใจ

เซียวซานชี้นิ้วไปที่ผู้ต้องสงสัยสามคน หนึ่งในนั้นคือฟางหยวน

ผู้ใช้วิญญาณปีศาจระดับห้า ซันเพิ่งหู แสดงออกด้วยความโหดเหี้ยม แต่ฟางหยวนยังสงบนิ่ง

แน่นอนว่าภายนอกฟางหยวนแสร้งตกใจและงุนงง เขากรีดร้องด้วยความโกรธ “พวกเจ้ากำลังทำสิ่งใด? ข้าไม่ใช่สายลับของฝ่ายธรรมะ!”

“จะใช่เจ้าหรือไม่ผู้ใดจะสน!” ซันเพิ่งหูกระโดดถียยอดอกของฟางหยวน

ฟางหยวนพุ่งกลับหลังไปด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส

เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและพยายามโต้ตอบ

แต่ซันเพิ่งหูชกเขาลอยกลับหลังอีกครั้ง

“บึม”

ศพของฟางหยวนกระแทกกำแพงก่อนจะร่วงลงบนพื้น เขาเสียชีวิตด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

“ไปที่ก่อสร้าง!” หลังจัดการที่นี่เรียบร้อยแล้ว เซียวซานโบกมือนำกลุ่มคนจากไป

สมาชิกที่เหลือทั้งหมดต่างตื่นตระหนก นอกจากนี้ยังมีศพของผู้เคราะห์ร้ายอีกสามคนนอนอยู่

แน่นอนว่าฟางหยวนยังไม่ตาย

มันเป็นเพียงการแสดงเท่านั้น

ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยสามารถปลอมตัวเป็นมนุษย์คนอื่น เป็นเรื่องง่ายนมากที่เขาจะแสดงเป็นคนตาย

ตอนนี้ฟางหยวนยังต้องการเวลาอีกเล็กน้อย

นอกจากยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล เขายังต้องจัดการอีกเรื่องหนึ่ง

นั่นก็คือการปราบปรามผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปด

ยังมีพลังงานอมตะเหลืออยู่ในสนามรบแห่งความโกลาหลเล็กน้อย ฟางหยวนใช้พวกมันเพื่อบังคับให้คฤหาสน์วิญญาณอมตะโจมตีผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปด

ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดเปิดเปลือกตาขึ้นและเริ่มต่อต้าน

ฟางหยวนโอดครวญอยู่ภายใน ‘มันไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ’

เขาไม่แปลกใจ

ในชีวิตก่อนหน้าผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดตนนี้แสดงพลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวออกมา

แต่มันยิ่งทำให้ฟางหยวนต้องการยึดครองร่างผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดตนนี้มากขึ้น

แต่ในจังหวะที่เขากำลังจะโจมตี เมฆบนท้องฟ้าเหนือภูเขาอี้เทียนกลับเกิดความปั่นป่วนขึ้นอย่างกะทันหัน

ผู้อมตะภาคใต้ตะโกนด้วยความไม่แน่ใจ “เกิดสิ่งใดขึ้น?”

“ดูเหมือนมันจะเป็นภัยพิบัติสวรรค์หรือภัยพิบัติพิภพ!”

“เหตุใดภัยพิบัติสวรรค์พิภพจึงปรากฏขึ้นที่นี่?”

“บางคนกำลังเผชิญหน้ากับภัยพิบัติงั้นหรือ?”

“ผู้ใดจะสนภัยพิบัติ ตอนนี้สิ่งที่ข้ากังวลคือคนที่ปล้นชิงคฤหาสน์วิญญาณอมตะของพวกเราเท่านั้น!”

ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจ ‘ยังไม่ถึงเวลา เหตุใดมันจึงเกิดขึ้นเร็วนัก? โอ้ ไม่ ภัยพิบัติเกิดขึ้นหมายความว่าสมาชิกนิกายเงาอยู่ที่นี่แล้ว!’

ฟางหยวนรู้ว่ากำลังจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น นี่ทำให้เขาลังเล

‘ภัยพิบัติที่มาเร็วกว่าเดิมเกิดจากผลกระทบของการกำเนิดใหม่ของข้าหรือไม่? นิกายเงาเป็นกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ ข้าควรถอยหรือไม่?’

เมื่อถึงจุดนี้ มันเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่เขาจะยอมแพ้การจับกุมผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปด

ท้ายที่สุดแล้วผีดิบอมตะผู้นี้ก็ไม่ได้ครอบครองสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงเพียงผู้เดียวบนโลกใบนี้ ยังมีไห่ลั่วหลันอีกคน

แม้ฟางหยวนกับไห่ลั่วหลันจะมีข้อตกลงพันธมิตร แต่เมื่อสัญญาหมดอายุหรือฟางหยวนสามารถลบข้อตกลง เขาจะสามารถวางแผนยึดครองร่างสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงของนาง

ในอดีตฟางหยวนมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอที่จะจัดการไห่ลั่วหลันเพราะนางได้รับการสนับสนุนจากนางมารผลาญสวรรค์

แต่ตอนนี้ฟางหยวนมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล เขาสามารถใช้มันกำหราบหญิงทั้งสาม

ด้วยคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล ฟางหยวนมีความมั่นใจมากพอ

‘อย่างไรก็ตามมันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่หากข้ายอมแพ้ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงในวันนี้ แผนการต่อต้านไห่ลั่วหลันเป็นเรื่องของอนาคต ผู้ใดจะสามารถฝากความหวังไว้กับอนาคตที่ไม่แน่นอน ข้าควรทำอย่างไร? ข้อตกลงพันธมิตรพึ่งถูกสร้างขึ้น ยังมีเวลาเหลืออีกมาก ในช่วงเวลาที่ยาวนานอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น’

ในขณะที่ฟางหยวนกำลังลังเล บนท้องฟ้าก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อนำกลุ่มผีดิบอมตะสุดยอดกายาสร้างค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาอย่างรวดเร็ว

ผู้อมตะภาคใต้ที่ถูกล้อมกรอบเอาไว้ทั้งโกรธและตกใจ

ผู้อมตะบางคนตะโกน “พวกเจ้าคือผู้ใด? พวกเจ้าอยู่เบื้องหลังการขโมยคฤหาสน์วิญญาณอมตะครั้งนี้งั้นหรือ?”

ผู้อมตะระดับแปดตะโกนต่อ “คนขี้ขลาด หากมีความกล้าก็ออกมา ข้าอยากรู้นักว่าผู้ใดกล้าต่อต้านข้าในเขตภาคใต้แห่งนี้?”

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อมองกลุ่มผู้อมตะภาคใต้และเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน เขาหันหลังกลับและมองไปที่อิงอู๋เซี่ย “ข้าบอกทุกสิ่งที่เจ้าควรรู้ไปหมดแล้ว เจ้าจงจดจำพวกมันเอาไว้”

อิงอู๋เซี่ยกระพริบตาอย่างไร้เดียงสาก่อนพยักหน้า “ท่านสามารถไปตาย ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับข้า”

เขาพึ่งถือกำเกิดขึ้นมาเพียงสิบสองชั่วโมง แม้เขาจะกลายเป็นผู้อมตะระดับหก แต่เขายังไม่เข้าใจความหมายของชีวิตและความตาย

ชายชราม่านเยี่ยนซื่อส่ายศีรษะและไม่รู้ว่าควรกล่าวสิ่งใด

เดิมทีเขาไม่ได้ตั้งใจสร้างผู้ช่วยเช่นนี้

‘น่าเสียดาย ความเข้าใจเกี่ยวกับมนุษย์ของข้ายังไม่สามารถเปรียบเทียบกับมนุษย์คนแรก สุดยอดกายาทั้งสิบที่มนุษย์คนแรกสร้างขึ้นสามารถมีชีวิตที่ยืนยาว แต่กายาแห่งความฝันของข้ามีเวลาเพียงสิบแปดชั่วโมง นอกจากนั้นดวงวิญญาณที่สถิตอยู่ภายในยังสูญเสียความทรงจำและถูกบังคับให้เข้าสู่การจำศีลด้วยพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งความฝัน’

มันไร้ประโยชน์ที่จะถ่ายโอนข้อมูลจำนวนมหาศาลให้อิงอู๋เซี่ย ยิ่งเขาได้รับข้อมูลมากเท่าใด เขาก็จะลืมมั้นเร็วมากเท่านั้น

เพียงเมื่ออิงอู๋เซี่ยพยายามที่จะจดจำตนเอง มันจึงจะมีประสิทธิภาพอยู่บ้าง

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อปกปิดความเสียใจของตนก่อนกล่าว “ก่อนข้าจะจากไป ข้าจะอนุมานบางสิ่งให้เจ้า”

“หนึ่งใน…พวกเรา…ระวัง…ล้มเหลว…” ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อกล่าวก่อนที่ร่างของเขาจะแตกสลายกลายเป็นฝุ่นผง

นั่นรวมถึงผู้เสียสละตนเองอีกจำนวนมากจากนิกายเงา

ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจเพิ่มขึ้นถึงเก้าสิบส่วน

ผู้อมตะภาคใต้ที่ถูกกักขังเอาไว้รู้สึกตกใจและหวาดกลัว

เหนือศีรษะของพวกเขา ภัยพิบัติพันไข่มุกแสงเริ่มร่วงหล่นลงมา

ผู้อมตะภาคใต้ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรับมือกับภัยพิบัติเหล่านี้เป็นอันดับแรก

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท