เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1004

ตอนที่ 1004

เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1004
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1004 แผนการที่ซ่อนเร้น

แปลโดย iPAT

ฟางหยวนขับไล่เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์แต่เขาไม่รู้ว่าโป้ชิงอยู่ภายใน

เขาฉวยโอกาสบินกลับไปที่ภูเขาอี้เทียนอีกครั้ง

ตอนนี้ภูเขาอี้เทียนพังทลายไปแล้ว ผู้ใช้วิญญาณมนุษย์ล้มตายลงและทิ้งซากศพเอาไว้ทุกหนทุกแห่ง

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขายังไม่ยอมแพ้

“ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปด เจ้าต้องเป็นของข้า! หือ?” ฟางหยวนบังคับคฤหาสน์วิญญาณอมตะบินลงไปด้านล่างแต่ในจังหวะนี้คฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกหลังกลับพุ่งเข้ามาปิดกั้นเส้นทางของเขาเอาไว้

มันเหมือนป้อมปราการสีดำแต่ไม่ใหญ่โตเท่าเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์

หากเปรียบเทียบ เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์เหมือนเจ้าชายรูปงามขณะที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะที่สองราวกับนักรบชุดเกราะเหล็ก

ฟางหยวนกัดฟันแน่นและบังคับคฤหาสน์วิญญาณอมตะบินลงไปอย่างต่อเนื่อง

เขาต้องแข่งขันกับเวลา

ยิ่งปล่อยให้เวลาผ่านไปนานเท่าใด ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดก็จะสามารถฟื้นตัวได้มากเท่านั้น

“บึม!”

ด้วยเสียงที่ดังสนั่น คฤหาสน์วิญญาณอมตะสองหลังพุ่งชนกัน

คลื่นกระแทกระเบิดออกไปทุกทิศทุกทางขณะที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสองตกอยู่ในสภาวะชะงักงัน

คฤหาสน์วิญญาณอมตะป้อมปราการเหล็กถูกบังคับให้ล่าถอยแต่คฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลก็ชะลอความเร็วลงเช่นกัน

‘สนามรบแห่งความโกลาหลเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ด ดูเหมือนฝ่ายตรงข้ามจะเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดเช่นกัน’ ฟางหยวนคิด

เขาถอนหายใจเมื่อตระหนักว่าตนเองสูญเสียโอกาสไปแล้ว

เขาพยายามอย่างหนักแต่สิ่งกีดขวางที่ไม่คาดคิดทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จ

ระยะเวลานี้เพียงพอให้ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดฟื้นตัวและหลุดจากการปราบปรามของฟางหยวน

เมื่อความพยายามล้มเหลว ฟางหยวนตัดสินใจล่าถอยทันที

ฟางหยวนบังคับสนามรบแห่งความโกลาหลบินขึ้นสู่ท้องฟ้า เขาไม่ได้บินขึ้นไปด้านบนแต่บินไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังที่สามและสี่ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งสองเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะขนาดเล็ก หนึ่งอยู่ในรูปลักษณ์ของรถม้าที่ส่องแสงสีแดง อีกหนึ่งเป็นปราสาทสีเทาที่น่าขนลุก

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสี่ไล่ล่าสนามรบแห่งความโกลาหลของฟางหยวนมาอย่างไม่ลดละ

ฟางหยวนเคลื่อนที่ไปในทุกทิศทางแต่ยังถูกกีดขวางโดยคฤหาสน์วิญญาณอมตะของฝ่ายตรงข้ามและไม่สามารถทะลวงออกจากค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา

การแสดงออกของฟางหยวนกลายเป็นมืดครึ้ม

เขาไม่ได้คาดหวังว่านิกายเงาจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหายากมาก แต่นิกายเงากลับมีถึงสี่ พวกเขาพยายามทำสิ่งใด นี่เป็นคำถามที่ฟางหยวนไม่สามารถหาคำตอบ

แม้สถานการณ์จะไม่เป็นไปตามความคาดหมายแต่ฟางหยวนยังสงบนิ่ง

ศัตรูแข็งแกร่งแต่ฟางหยวนยังไม่หมดหวังเพราะฝ่ายที่สามยังไม่เคลื่อนไหว

ฟางหยวนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเป็นครั้งคราว เขากำลังรออยู่

กระทั่งวังสวรรค์จะไม่รู้ว่านิกายเงาจะลงมือเมื่อใด แต่ในเวลานี้พวกเขาควรมาถึงแล้ว

เมื่อวังสวรรค์ลงมือโจมตี ฟางหยวนจะใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายและหลบหนี

‘แต่เหตุใดวังสวรรค์ถึงยังไม่โจมตี?’ ฟางหยวนคิดและลดพลังของสนามรบแห่งความโกลาหลลงอย่างตั้งใจ

สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที

สนามรบแห่งความโกลาหลถูกสะกดข่มโดยสี่คฤหาสน์วิญญาณอมตะ

ภายในหอคอยดวงตาสวรรค์ แสงสีขาวในดวงตาของเจ้าวังค่อยๆเลือนหายไป

เขาเผยรอยยิ้มเย้ยหยันหลังจากอนุมานบางสิ่ง “คนที่อยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลเป็นปีศาจต่างโลก ชื่อของเขาคือฟางหยวน วังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงของภาคเหนือถูกทำลายโดยเขา ดูเหมือนคนผู้นี้จะมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเทพปีศาจบัวแดงและเทพปีศาจจิตวิญญาณ อย่าคิดว่าเขากำลังถูกข่มเหง มันเป็นเพียงการล่อลวงให้พวกเราโจมตีเท่านั้น”

“โอ้ เช่นนั้นฟางหยวนกับนิกายเงาเป็นมิตรหรือศัตรู? การต่อสู้ที่รุนแรงของพวกเขาเป็นการจัดฉากหรือไม่?” เหลียนจิ่วเฉิงถามด้วยความสับสน

เจ้าวังโบกมือ “ข้าไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่างฟางหยวนกับนิกายเงา มันไม่สำคัญ แต่เนื่องจากเขาต้องการให้พวกเราลงมือโจมตี เช่นนั้นเราก็จะทำมัน ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาเป็นหนึ่งในแผนการสำคัญของศัตรู ข้าคิดว่าพวกเขาได้รับผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดไปแล้ว ทุกคน ร่วมมือกับข้า เราจะใช้หอคอยดวงตาสวรรค์ทำลายค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาและแผนการของศัตรู”

ทุกคนตอบสนองความต้องการของเจ้าวังอย่างรวดเร็ว

ผู้อมตะจากวังสวรรค์มารวมตัวกันและกระตุ้นใช้งานหอคอยดวงตาสวรรค์

ลำแสงสีขาวพุ่งไปยังค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาทันที

“ข้าต้องการใช้ฟางหยวนหยุดการโจมตีของวังสวรรค์และยื้อเวลา แต่ดูเหมือนแผนการนี้จะไม่สามารถหลอกลวงสมาชิกวังสวรรค์ โจมตี!” ผีดิบอมตะเทพเจ็ดดาราคิดและออกคำสั่ง

“ดี วังสวรรค์โจมตีแล้ว!” ฟางหยวนรู้สึกยินดีแต่ในจังหวะนี้คฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกสามหลังกลับปรากฏขึ้น

หนึ่งเป็นศาลาสีเขียว อีกหนึ่งเป็นคฤหาสน์สีขาว สุดท้ายเป็นหอคอยสีทอง

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามร่วมมือกันต่อต้านการโจมตีของหอคอยดวงตาสวรรค์

“…..” ฟางหยวนกลายเป็นพูดไม่ออก

คฤหาสน์วิญญาณอมตะกลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปตั้งแต่เมื่อใด? พวกเขามีแผนการใดกันแน่?

ฟางหยวนรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อยๆ

เดิมทีเขาคิดว่าเบื้องหลังเหตุการณ์บนภูเขาอี้เทียนลึกราวกับก้นทะเลสาบ แต่ผู้ใดจะคิดว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นก้นมหาสมุทร!

รายละเอียดถูกซ่อนไว้ลึกเกินไป

“ดี ดี ดี เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์ ป้อมปราการเหล็ก รถม้าโลหิต ปราสาทฝันร้าย ศาลาเขียว คฤหาสน์รังไหม หอคอยทองคำ…คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งเจ็ดถูกบังคับให้ออกมาโดยการเคลื่อนไหวเดียวของข้า” ภายในหอคอยดวงตาสวรรค์ เสียงของเจ้าวังดังขึ้น

เขาเปิดเผยชื่อของคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งเจ็ดออกมาในครั้งเดียว

“ตอนนี้เราจะให้พวกเจ้าได้เห็นพลังอำนาจที่แท้จริงของหอคอยดวงตาสวรรค์!” เจ้าวังตะโกน

คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้าหอคอยดวงตาสวรรค์ถูกกระตุ้นใช้งานอย่างเต็มที่

โดยปราศจากการแจ้งเตือน

ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีขาว

โลกถูกอาบย้อมไปด้วยแสงสีขาว

กระทั่งฟางหยวนที่อยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลยังมองเห็นเพียงแสงสีขาว

ทุกหนทุกแห่งมีเพียงแสงสีขาว

มันอาจดูเหมือนไม่อันตรายแต่ฟางหยวนรู้ว่ามันอันตรายมาก

“นี่…การโจมตีนี้…” เมื่อแสงสีขาวเริ่มเลือนหาย ฟางหยวนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน

บนท้องฟ้า เศษซากของคฤหาสน์วิญญาณอมตะจำนวนมากร่วงหล่นลงมาและกลายเป็นวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วน

ไม่มีวิญญาณดวงใดรอดชีวิต

ซากศพของวิญญาณเหล่านี้ค่อยๆแตกสลายไปกลางอากาศ

สิ่งลึกลับที่สุดก็คือวิญญาณเหล่านี้ดูเหมือนไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆแต่พวกมันกลับสูญเสียพลังงานชีวิตไปอย่างสมบูรณ์

คฤหาสน์วิญญาณอมตะสามหลังที่อยู่ใกล้หอคอยดวงตาสวรรค์มากที่สุด ศาลาเขียว คฤหาสน์รังไหม และหอคอยทองคำ พังทลายลง คฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกสี่หลังที่เหลือได้รับความเสียหายอย่างหนัก

โดยรวมแล้วคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลของฟางหยวนได้รับความเสียหายน้อยที่สุด

‘วังสวรรค์ช่วยข้างั้นหรือ?’ ฟางหยวนคิดแต่เขาก็ปฏิเสธความคิดนี้อย่างรวดเร็ว

“ฮืม ปีศาจต่างโลก!” เจ้าวังมองสนามรบแห่งความโกลาหลและผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปด

การโจมตีก่อนหน้านี้ใช้วิญญาณชะตากรรมเป็นแกนกลางเพื่อปลดปล่อยพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวออกมา

นี่คือพลังแห่งโชคชะตา

โชคชะตาถูกกำหนดไว้แล้ว

หากปราศจากโชคชะตา แม้พวกเขาจะทำงานหนักเพียงใด พวกเขาก็จะไม่ประสบความสำเร็จ

นี่เป็นการโจมตีที่ไม่สามารถหลบเลี่ยง

มันสามารถทำลายค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาแต่คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังเสียสละตนเองเพื่อขัดขวางการโจมตีนี้

อีกด้านหนึ่ง ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดปรากฏตัวขึ้นและบินเข้าไปแทนที่ตำแหน่งของอิงอู๋เซี่ย

“หลังจากถูกผนึกมานานหลายปี ข้าได้พบศัตรูที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ช่างน่าตื่นเต้นนัก ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าชอบมัน!” ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดเงยหน้าหัวเราะขึ้นสู่ท้องฟ้า

เขาชี้นิ้วไปที่หอคอยดวงตาสวรรค์และตะโกน “คนชั่วจากวังสวรรค์เข้ามา! ฉลองให้กับการฟื้นคืนชีพของข้า!”

ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาถูกกระตุ้นการทำงานอย่างสมบูรณ์โดยการเข้าร่วมของผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปด!

เมฆสีดำเคลื่อนเข้าปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดเอาไว้ด้วยความเร็วสูง

ผีดิบอมตะสุดยอดกายาทั้งสิบหายตัวเข้าไปในกลุ่มก้อนเมฆสีดำ

มิติช่องว่างอมตะจำนวนมากถูกดึงออกมาและส่องแสงราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า

พวกมันก็คือมิติช่องว่างของผู้อมตะภาคใต้ที่ตกตายลงที่นี่!

วิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนบินเข้าหลอมรวมกับเมฆสีดำ

เมื่อมาถึงจุดนี้ฟางหยวนเริ่มตระหนักถึงบางสิ่ง “ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาเป็นค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม! นิกายเงาพยายามหลอมรวมสิ่งใด? พวกเขาใช้มิติช่องว่างของผู้อมตะภาคใต้เป็นส่วนประกอบในการหลอมรวมงั้นหรือ?”

วิธีดังกล่าวไม่เคยปรากฏมาก่อน

ผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่กลับถูกสังหารและใช้เป็นวัสดุในการหลอมรวม

กระทั่งฟางหยวนที่มีประสบการณ์ห้าร้อยปีก็ไม่เคยเห็นเรื่องเช่นนี้มาก่อน

นิกายเงาเป็นกองกำลังลึกลับที่ซ่อนอยู่ในประวัติศาสตร์ แรงจูงใจที่แท้จริงและแผนการมากมายของพวกเขากำลังจะถูกเปิดเผยเร็วๆนี้!

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท