เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1023

ตอนที่ 1023

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1023 อิงอู๋เซี่ยกำเนิดใหม่

แปลโดย iPAT

เสียงลมดังเข้าหูของฟางหวนขณะที่เขาบินอยู่กลางอากาศ

ทันใดนั้นเขาราวกับสะดุ้งตื่นและอุทานออกมา “ข้าเกิดใหม่แล้ว!”

“วิญญาณกาลเวลาช่างอัศจรรย์นัก! มันคู่ควรที่จะเป็นวิญญาณหลักของเทพปีศาจบัวแดง!”

“ตอนนี้เวลาใด?”

อิงอู๋เซี่ยในร่างผีดิบอมตะของฟางหยวนหยุดเคลื่อนไหว เขามอบไปรอบๆและพบว่าตนเองกำลังเดินทางไปยังภูเขาอี้เทียน

ขณะนี้เขาอยู่ห่างจากภูเขาอี้เทียนประมาณหนึ่งหมื่นลี้

“ฟางหยวนตั้งใจให้ข้ายืมวิญญาณท่องแดนอมตะเพื่อให้ข้านำวิญญาณของเขาไปคืน”

“แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าตนเองจะเป็นเครื่องมือของเจตจำนงสวรรค์ตั้งแต่แรก วิญญาณกาลเวลาถูกควบคุมโดยเจตจำนงสวรรค์มานานแล้ว”

“ตอนนี้ข้าได้ถือกำเนิดอีกครั้ง ข้ารู้ภูมิประเทศใหม่ของภูเขาอี้เทียนอย่างชัดเจน ข้าสามารถใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเดินทางไปที่นั้นได้โดยตรง ข้าสามารถจัดการฟางหยวนและแก้แค้น!”

อย่างไรก็ตามอิงอู๋เซี่ยกลับปัดความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว

“บัดซบ! เจตจำนงปลอมของฟางหยวนส่งผลกระทบต่อความคิดของข้าอีกครั้ง!”

อิงอู๋เซี่ยกัดฟันแน่น “เจตจำนงสวรรค์มีเจตนาร้าย แม้ข้าจะรีบไป แต่ฟางหยวนก็ยึดครองทารกอมตะไปแล้ว ตอนนี้ข้าอยู่ในสภาพที่อ่อนแอที่สุด มันเป็นเพียงการทำลายตนเองเท่านั้น”

“น่าเสียดาย หากข้ากำเนิดใหม่ในช่วงเวลาที่ข้าใช้ท่าไม้ตายนำวิญญาณสู่ความฝัน ข้าจะสามารถพลิกสถานการณ์ แต่เจตจำนงสวรรค์ไม่ยอมให้ข้าทำเช่นนั้น ฮืม มันไม่ต้องการให้ร่างหลักของข้ายึดครองทารกอมตะเช่นกัน”

“เนื่องจากผลลัพธ์ถูกตัดสินไปแล้ว ข้าควรทำตามคำแนะนำของร่างหลักและล่าถอย”

“เจตจำนงสวรรค์ต้องการให้พวกเราต่อสู้กัน แล้วข้าจะปล่อยให้แผนการของมันประสบความสำเร็จได้อย่างไร?”

“ผู้คนที่บรรลุถึงจุดที่ยิ่งใหญ่ต้องสามารถอดทนต่อสิ่งที่ไม่สามารถอดทนมากที่สุด!”

“ข้าไม่จำเป็นต้องจัดการฟางหยวน เพียงปล่อยให้เขาดึงดูดความโกรธของเจตจำนงสวรรค์ต่อไปในอนาคต หากเขายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะใช้เขาเป็นวัสดุในการหลอมรวมลวิญญาณทารกอมตะอีกครั้ง นี่จะช่วยประหยัดเวลาได้มาก”

“ข้าต้องสร้างนิกายเงาขึ้นมาใหม่ นี่มันไม่ใช่จุดจบ! ข้าสามารถใช้ประโยชน์จากไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลัน แต่ข้าไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาพบกับฟางหยวน”

ตั้งแต่อิงอู๋เซี่ยตระหนักถึงการคงอยู่ของเจตจำนงปลอม เขาระวังตัวมากขึ้นและพยายามหลบหนีจากแผนการของฟางหยวน

เขามองไปที่ภูเขาอี้เทียนเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความโกรธ ความเกลียดชัง และความคาดหวังในดวงตา

จากระยะไกล เขาเห็นภูเขาอี้เทียนกลายเป็นซากปรักหักพัง ขณะที่ฟางหยวนหัวขโมยที่น่ารังเกียจยังอยู่ที่นั่น

แต่อิงอู๋เซี่ยไม่สามารถกลับไปในเวลานี้

สิ่งสำคัญที่สุดคือภาพรวม

คิดได้เช่นนี้ อิงอู๋เซี่ยจึงกัดฟันแน่นก่อนจะหมุนตัวจากไป

“เหตุใดอิงอู๋เซี่ยยังไม่มา?” หลังจากรอคอยเป็นเวลานาน หัวใจของฟางหยวนเริ่มจมดิ่งลง

“นี่หมายความว่าเขาค้นพบแผนการของข้าและสามารถหลบหนีจากการควบคุมงั้นหรือ?” ฟางหยวนขมวดคิ้วลึก

เขาไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น เขาไม่รู้ความจริงที่ว่าวิญญาณกาลเวลาลบความทรงจำในชีวิตก่อนหน้าของเขาออกไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฟางหยวนรู้ เขารู้สึกจุก!

“หากอิงอู๋เซี่ยไม่มาที่นี่ เจตจำนงพิเศษของข้าจะไม่ทำงาน เมื่อถึงเวลาที่กำหนด พวกมันจะระเบิดตัวเอง! ข้าต้องตามหาอิงอู๋เซี่ยอย่างรวดเร็วที่สุดและโน้มน้าวให้ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันจับกุมเขา”

ฟางหยวนยังมีวิญญาณทัศนคติ สิ่งนี้เป็นหลักฐานที่ดีที่สุดในการโน้มน้าวไห่ลั่วหลัน

สำหรับไท่เป่ยหยุนเฉิง มันยิ่งง่ายดายมากกว่า พวกเขาใช้เวลาร่วมกันมานาน เพียงเขาเปิดเผยรายละเอียดเล็กๆน้อยๆบางอย่าง เขาก็จะสามารถโน้มน้าวชายชรา

ฟางหยวนตรวจสอบวิญญาณทั้งหมดที่เขามีอยู่

เขาสามารถควบคุมวิญญาณที่ติดตัวมากับเขาหลังจากใช้ท่าไม้ตายเปลี่ยนวิญญาณ

วิญญาณระดับสูงสุดคือวิญญาณทัศนคติในตำนาน นอกจากนั้นเขายังมีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา วิญญาณคลี่คลายปริศนา และวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ วิญญาณเปลี่ยนวิญญาณ

สำหรับวิญญาณดวงอื่น พวกมันเป็นวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันและจิตวิญญาณที่ไม่มีคุณค่าให้กล่าวถึง

ฟางหยวนขมวดคิ้วลึก

ท่ามกลางพวกมัน ไม่มีวิญญาณสายเคลื่อนไหว!

‘ข้าต้องไล่ล่าอิงอู๋เซี่ยที่มีวิญญาณท่องแดนอมตะด้วยเท้าเปล่างั้นหรือ? บางทีข้าอาจต้องกำหราบวิญญาณที่อยู่ในร่างของอิงอู๋เซี่ยเป็นอันดับแรก? วิญญาณเหล่านั้นมีวิญญาณสายเคลื่อนไหวรวมอยู่ด้วย’

แต่วิญญาณเหล่านั้นไม่มีเจตจำนงของฟางหยวนอยู่ภายใน มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะปรับแต่งพวกมันในระยะเวลาสั้นๆ

เพื่อกระตุ้นใช้งานวิญญาณเหล่านั้น เขาต้องหลอกพวกมันด้วยวิญญาณทัศนคติ

อย่างไรก็ตามเขาเคยหลอกพวกมันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฟางหยวนไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถหลอกพวกมันเป็นครั้งที่สอง

‘แต่ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทดลองเท่านั้น’ เมื่อคิดได้เช่นนี้ ช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะเงยหน้ามองร่างกายของอิงอู๋เซี่ยที่ลอยอยู่กลางอากาศโดยไม่รู้ตัว

สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือนี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้เห็นร่างของอิงอู๋เซี่ย

ทันใดนั้นร่างกายของอิงอู๋เซี่ยพลันระเบิดตัวเองโดยไม่คาดคิด!

โดยปราศจากเสียง

มันเป็นการระเบิดที่เงียบเชียบ

ผลของการระเบิดไม่ใช่เลือดแต่เป็นละอองแสงที่งดงาม

มันกลายเป็นละอองแสงสีรุ้งกระจายไปในอากาศ

รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลงและเร่งล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

เพราะเขาจำได้ว่ามันก็คืออาณาจักรแห่งความฝัน!

อาณาจักรแห่งความฝันก่อตัวขึ้นต่อหน้าฟางหยวนอย่างน่าอัศจรรย์

‘สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะข้าใช้ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันเช่นนั้นหรือ? ไม่ ไม่อย่างแน่นอน ร่างกายของอิงอู๋เซี่ยระเบิดตัวเองอย่างกะทันหันและกลายเป็นอาณาจักรแห่งความฝัน?’

ฟางหยวนลอบถอนหายใจ

เขาไม่รู้ว่าหลังจากอิงอู๋เซี่ยอายุครบสิบแปดชั่วโมง ร่างกายของเขาจะระเบิดและกลายเป็นอาณาจักรแห่งความฝัน

อิงอู๋เซี่ยเกิดจากอาณาจักรแห่งความฝัน เขาถูกสร้างขึ้นโดยใช้วิญญาณเปลี่ยนเป็นความจริง มันไม่แปลกหากเขาจะกลับเป็นอาณาจักรแห่งความฝันในท้ายที่สุด

อาณาจักรแห่งความฝันที่เกิดจากการระเบิดตัวเองของอิงอู๋เซี่ยแผ่กระจายออกไปเรื่อยๆด้วยความเร็วสูง

ฟางหยวนวิ่งหนีด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะสามารถทำได้ หลังจากพ้นระยะเจ็ดร้อยลี้ เขาจึงหลุดออกจากรัศมีของอาณาจักรแห่งความฝัน

หากเขาถูกดึงเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน เขาจะตกที่นั่งลำบาก

แม้ฟางหยวนจะมีวิญญาณคลี่คลายปริศนา แต่เขามีวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันไม่เพียงพอที่จะปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน

ขอบเขตของอาณาจักรแห่งความฝันยังขยายตัวขึ้นแต่ความเร็วเริ่มลดลง

ฟางหยวนทำได้เพียงล่าถอยออกไป เมื่อเขาอยู่ห่างจากภูเขาอี้เทียนประมาณหนึ่งพันลี้ อาณาจักรแห่งความฝันจึงหยุดขยายตัว

หัวใจของฟางหยวนแทบกระโดดออกมาจากหน้าอก “โชคดีที่ข้าไม่เชื่อเทพอมตะกลุ่มดาวในตอนสุดท้ายโดยการทำลายทารกอมตะ มิฉะนั้นดวงวิญญาณของข้าที่อยู่ในร่างของอิงอู๋เซี่ยจะติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันขนาดใหญ่ยักษ์นี้จนกว่าข้าจะตาย!”

“ตอนนี้ข้าควรทำสิ่งใด?”

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้แผนการก่อนหน้าของฟางหยวนสะดุดและไม่สามารถเดินหน้า

ร่างกายของอิงอู๋เซี่ยมีค่ามาก เขามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันที่สามารถปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝัน

แต่สิ่งที่ฟางหยวนต้องการมากที่สุดก็คือดวงวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณ หากฟางหยวนสามารถจับกุมดวงวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาจะสามารถค้นวิญญาณและได้รับผลประโยชน์มหาศาล

นอกจากนั้นมิติช่องว่างของผู้อมตะบางส่วนยังถูกทิ้งไว้รอบๆ

แต่ตอนนี้ทุกสิ่งถูกกลืนกินไปแล้วโดยอาณาจักรแห่งความฝัน

ไม่ว่าฟางหยวนจะต้องการใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน แต่เขายังต้องใช้เวลาหลายปีหากต้องการกำจัดอาณาจักรแห่งความฝันขนาดใหญ่นี้

ฟางหยวนกำหมัดแน่น เขามองไปยังอาณาจักรแห่งความฝันก่อนจะถอนหายใจอย่างไม่สามารถช่วยได้

“ตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่น ข้าไม่สามารถอยู่ที่นี่ หลังจากนี้ผู้อมตะภาคใต้ทั้งหมดจะต้องรีบร้อนเดินทางมาตรวจสอบสถานที่แห่งนี้”

ฟางหยวนตัดสินใจและเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วตามความทรงจำของเขา

เขาเลือกทิศทางที่ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันนำร่างของเขาจากไป

“หวังว่าข้าจะโชคดีและพบพวกเขา”

แต่ฟางหยวนจะไม่ประสบความสำเร็จ

เขาไม่รู้ว่าหลังจากเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันเปลี่ยนเส้นทางการหลบหนีไปแล้ว

นอกจากนี้เขายังไม่รู้ว่าอิงอู๋เซี่ยใช้ประโยชน์จากการกำเนิดใหม่เข้าร่วมกับไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไป่ลั่วหลันเรียบร้อยแล้ว

“ฟางหยวน หากเจ้าไม่มีคำอธิบายที่ดีกว่านี้ พวกเราจะเป็นศัตรูกัน!” ไห่ลั่วหลันแสดงออกด้วยความก้าวร้าวต่อหน้าอิงอู๋เซี่ยในคราบฟางหยวน

ไท่เป่ยหยุนเฉิงเร่งโบกมือ “ใจเย็นๆ ข้าเชื่อว่าฟางหยวนย่อมมีเหตุผล”

อิงอู๋เซี่ยมองไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันด้วยการแสดงออกที่จริงใจ “ข้ากังวลเกินไป ข้าถูกโจมตีโดยท่าไม้ตายอมตะของศัตรู โชคดีที่ข้าไม่จบลงในอาณาจักรแห่งความฝัน แต่วิญญาณส่วนใหญ่ของข้าไม่สามารถใช้งาน มีเพียงการสังหารเขา พวกมันจึงจะใช้งานได้”

“แต่ข้าเห็นเจ้าใช้วิญญาณท่องแดนอมตะ! หากไม่ใช่ความจริงที่ว่าพวกเราสามารถตรวจสอบตำแหน่งกันและกัน ข้าจะคิดว่าเจ้าทิ้งพวกเราไปแล้ว!” ไห่ลั่วหลันตะโกนเสียงดัง

“นั่นเป็นการเคลื่อนไหวที่สิ้นหวัง ข้าถูกบังคับให้ใช้มัน เจ้ายังเห็นข้าล้มเหลวและได้รับบาดเจ็บเมื่อข้าใช้วิญญาณท่องแดนอมตะครั้งแรก นอกจากนี้เหตุใดข้าต้องทิ้งพวกเจ้าในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยอันตรายเช่นนี้? เราต้องอยู่รวมกันจึงจะสามารถอยู่รอด” อิงอู๋เซี่ยกล่าวอย่างมั่นใจ

ไห่ลั่วหลันก่นเสียงเย็น นางยังต้องการโต้เถียงต่อไป

แต่อิงอู๋เซี่ยหยุดนางไว้ “พอแล้ว เราจะใช้วิญญาณท่องแดนอมตะจากไป ตอนนี้ตัวตนของข้าถูกเปิดเผยแล้ว เมื่อวังสวรรค์รู้ แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เราต้องโอนถ่ายทรัพยากรที่อยู่ภายในอย่างเร่งด่วน”

ฟางหยวนวิ่งอย่างรวดเร็ว

หลังจากสิบห้านาทีเขายังไม่รู้สึกเหนื่อยล้า

เมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้ เขาเริ่มรู้สึกสนุกสนาน ร่างกายของเขาผอมแห้งแต่มันกลับมีการป้องกันที่น่าทึ่ง ระหว่างทางเขาถูกกิ่งไม้ทิ่มแทง ถูกเศษหินที่แหลมคมกรีดเฉือน แต่พวกมันกลับไม่ใช่อุปสรรคของเขา

นอกจากนี้มันยังเต็มไปด้วยพละกำลัง

เพียงกระโดดเบาๆ เขาก็พุ่งไปไกลถึงสิบเมตร

แต่สิ่งที่ทำให้ฟางหยวนผิดหวังก็คือเขาไม่พบร่องรอยของอิงอู๋เซี่ย ไท่เป่ยหยุนเฉิง และไห่ลั่วหลันในทุกที่ที่เขาไป

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท