เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1065

ตอนที่ 1065

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1065 หลอมรวมวิญญาณเปลี่ยนรูปลักษณ์อีกครั้ง

แปลโดย iPAT

ไม่กี่วันต่อมาในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

“นี่คือฝนในร่ม” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวขณะส่งชามน้ำใบหนึ่งให้กับฟางหยวน

ฟางหยวนยื่นมือออกไปรับมัน

“ระวัง!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเตือน “ทรัพยากรอมตะระดับหกชนิดนี้พิเศษมาก มันค่อนข้างหนัก!”

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเน้นคำว่าหนัก

ฟางหยวนพยักหน้า “อย่ากังวล ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับทรัพยากรอมตะชนิดนี้มาก่อน”

หลังกล่าวจบคำ ฟางหยวนจึงคว้ามันมา

ทันใดนั้นเขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่รุนแรง

ฟางหยวนถือมันไว้อย่างมั่นคงแต่ผิวน้ำยังเกิดระลอกคลื่น

นี่คือทรัพยากรอมตะระดับหกฝนในร่ม

น้ำชนิดนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มันเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า น้ำหนักที่แท้จริงของมันไม่สูงนัก แต่มันสร้างภาระให้กับผู้ถือครอง

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่ได้กล่าวถึงน้ำหนักแต่เขาหมายถึงแรงกดดันทางจิตใจ

“เจ้าตัดสินใจใช้โอกาสครั้งสุดท้ายเพื่อขอให้ข้าหลอมรวมวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์แทนที่จะเป็นวิญญาณท่องแดนอมตะงั้นหรือ?” ขณะที่ฟางหยวนกำลังมองฝนในร่ม จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถามอีกครั้ง

“ถูกต้อง ข้าตัดสินใจแล้วและจะไม่เปลี่ยนอีก!” ฟางหยวนพยักหน้าตอบโดยไม่ลังเล

ฟางหยวนไตร่ตรองมาอย่างรอบคอบแล้ว

วิญญาณท่องแดนอมตะเป็นสิ่งที่ดี แต่ประการแรก ฟางหยวนไม่มีแสงแรกกำเนิด ประการที่สอง ฟางหยวนไม่แน่ใจว่ามันถูกทำลายหรือถูกหลอมรวมขึ้นมาใหม่แล้วหรือยัง

อีกด้านหนึ่งเมื่อฟางหยวนตัดสินใจบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง วิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์จึงมีความสำคัญกับเขามากกว่า

ดังนั้นฟางหยวนจึงใช้โอกาสสุดท้ายขอให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหลอมรวมวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้เขา

วิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นหัวใจสำคัญของการบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง

วิญญาณอมตะดวงนี้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ เทพปีศาจคลั่งเคยใช้มันและเปลี่ยนให้เป็นวิญญาณระดับเก้า

ในแง่ของรากฐาน เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงแข็งแกร่งกว่าเส้นทางแห่งดาบและเส้นทางแห่งเลือด หลังจากเทพปีศาจคลั่ง มีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงหลายคนที่พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและทิ้งชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ พวกเขาต่างเป็นตำนานและเป็นตัวอย่างสำหรับคนรุ่นหลัง

วิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ปรากฏขึ้นและถูกทำลายไปหลายครั้งตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนาน ส่วนใหญ่มันมักอยู่ในระดับหก แทบไม่มีวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ระดับเจ็ดปรากฏขึ้น สำหรับวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ระดับแปด มันยิ่งหาได้ยาก

ฟางหยวนต้องการหลอมรวมวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ระดับหกเท่านั้น

เขามีเคล็ดลับการหลอมรวมอยู่แล้วและมีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่มันจะถูกครอบครองโดยผู้อื่น

วัสดุในการหลอมรวมส่วนใหญ่มาจากคลังสมบัติของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาขณะที่ฟางหยวนไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเติม

“น่าเสียดาย ย้อนกลับไปเจ้ามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าความสำเร็จ มันควรจะรับประกันความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเจ้า แต่ผู้ใดจะคิดว่าเจ้าจะกำเนิดใหม่ในช่วงเวลานั้น” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกเสียดายโอกาส

ฟางหยวนบอกเรื่องนี้กับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอย่างตรงไปตรงมา หลังจากทั้งหมดเรื่องการกำเนิดใหม่ของเขาถูกเปิดเผยไปแล้ว

“ตอนนั้นข้าถูกใช้ประโยชน์โดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ แต่คิดย้อนกลับไปข้ายังรู้สึกว่ามันน่าสงสัยมาก” ฟางหยวนขมวดคิ้ว

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาส่ายศีรษะ “ลืมมันไปเถอะ แม้เราจะไม่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าความสำเร็จ แต่ข้ามีวิธีการหลอมรวมของมนุษย์ขน ด้วยความช่วยเหลือจากสวรรค์พิภพ มันจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น กระทั่งจะเกิดภัยพิบัติ แต่ข้อดีก็ยังมีมากกว่าข้อเสีย”

“นอกจากนี้ด้วยการใช้ท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติผสานกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวมที่เหลืออยู่ส่วนหนึ่ง มีโอกาสสูงมากที่การหลอมรวมวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์จะประสบความสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก”

“อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัย เจ้าต้องเข้าร่วมในการหลอมรวมครั้งนี้ เจ้ามีวิญญาณโชคอึสุนัข ด้วยการพึ่งพาโชคอันแข็งแกร่งของเจ้า มันจะเพิ่มโอกาสมากขึ้นไปอีก ในช่วงไม่กี่วันนี้เจ้าควรทำความคุ้นเคยกับฝนในร่มที่อยู่กับเจ้าตอนนี้”

โชคเป็นความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ในการหลอมรวมวิญญาณ

ย้อนกลับไปวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงก็ถูกสร้างขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากโชคอันแข็งแกร่งของเทพอมตะตะวันเดือด

แต่เทพปีศาจปล้นสวรรค์กลับล้มเหลวในการหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ เรื่องนี้เกิดจากเส้นทางแห่งการโจรกรรมไม่สามารถให้ความช่วยเหลือในการหลอมรวมวิญญาณ

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาสอนฟางหยวนเกี่ยวกับความลับที่อยู่เบื้องหลังวิธีการหลอมรวมของมนุษย์ขนและท่าไม้ตายต่างๆ

แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ของฟรี ฟางหยวนต้องจ่ายด้วยแต้มผลงานของนิกาย

แต่ถึงกระนั้นฟางหยวนก็ยินดีจ่าย

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาในปัจจุบันด้อยกว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนก่อนหน้าในแง่ของการหลอมรวมวิญญาณ แต่มันยังคงเป็นเจตจำนงของบรรพชนผมยาว ดังนั้นความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของเขาจึงเหนือกว่าฟางหยวน

ตอนนี้ฟางหยวนมีอาจารย์ที่น่าทึ่ง มันจึงทำให้คำถามและปัญหามากมายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของเขาถูกแก้ไข วิธีการหลอมรวมของมนุษย์ขนและท่าไม้ตายต่างๆมีประโยชน์ต่อฟางหยวนเป็นอย่างมาก

ขณะที่ฟางหยวนกำลังเรียนรู้ทักษะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมอยู่บนทวีปเมฆา น้องชายของเขาก็กำลังเรียนรู้ทักษะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมอยู่ในทวีปผมดำ

ฟางเจิ้งนั่งอยู่ในห้องและถือไฟสามสีเอาไว้ในมือ

เจตจำนงปลอมของฟางหยวนกล่าวอยู่ในใจของเขา “ในการแข่งขันวันพรุ่งนี้ ศัตรูแข็งแกร่งมาก ฟางเจิ้ง แม้เจ้าจะเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้า เจ้าก็ยังขาดวิญญาณที่จำเป็นหลายดวง เจ้าต้องหลอมรวมวิญญาณขึ้นมาด้วยตัวของเจ้าเองเท่านั้น คืนนี้เจ้าต้องหลอมรวมวิญญาณคางคกกลืนกินแม่น้ำระดับห้า นั่นเป็นวิธีที่จะทำให้เจ้าสามารถตอบโต้วิธีบนเส้นทางแห่งวารีของฝ่ายตรงข้าม”

“ข้ารู้ หุบปากซะที!” ฟางเจิ้งตะโกนอยู่ในใจ

เจตจำนงปลอมของฟางหยวนหยุดพูดแต่ในไม่ช้าเปลวไฟสามสีในมือของฟางเจิ้งก็แตกสลายไป

ฟางเจิ้งพ่นเลือดลำโตออกมาหลังจากการหลอมรวมวิญญาณล้มเหลว

“ฮ่าฮ่า” เจตจำนงปลอมของฟางหยวนหัวเราะ “โอ้ น้องชายที่โง่เขลาของข้า เจ้ายังไร้ประโยชน์เช่นเดิม การหลอมรวมวิญญาณพึ่งเริ่มต้น เจ้าก็ล้มเหลวเสียแล้ว”

การแสดงออกของฟางเจิ้งกลายเป็นน่าเกลียดแต่ความจริงตรงหน้าทำให้เขาไม่สามารถกล่าวสิ่งใดออกมาและทำได้เพียงนั่งลงรักษาตัวเองอย่างเงียบๆเท่านั้น

เจตจำนงปลอมของฟางหยวนกล่าวต่อ “ความไม่รู้เป็นเรื่องธรรมดา ผู้คนจะเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นหลังจากล้มเหลว แต่สิ่งสำคัญก็คือเจ้าต้องตระหนักถึงจุดบกพร่องของตนเอง ทรัพยากรที่เจ้ามีอนุญาตให้เจ้าหลอมรวมได้เพียงสามครั้ง นี่พึ่งเริ่มต้นและเจ้าก็ล้มเหลวไปแล้ว โดยปราศจากความช่วยเหลือจากข้า เจ้าจะหลอมรวมวิญญาณคางคกกลืนกินแม่น้ำในวันนี้ได้อย่างไร? ฮ่าฮ่า หากเจ้าแพ้ในการต่อสู้วันพรุ่งนี้ พวกเขาจะไม่ไว้ชีวิตเจ้าแม้เจ้าจะร้องรอชีวิตก็ตาม”

ฟางเจิ้งตะโกนตอบโต้ด้วยความโกรธและอับอาย “หากข้าตาย นั่นก็เป็นเรื่องของข้า เจ้าเสียงดังเกินไปแล้ว หุบปากซะ!”

เจตจำนงปลอมของฟางยวนกล่าวเสียงเย็น “ข้าจะพูดต่อไป เจ้าคิดว่าข้าเป็นห่วงชีวิตของเจ้างั้นหรือ? โอ้ น้องชายตัวน้อยของข้า เจ้ายังคงโง่เขลา ข้าเพียงต้องการแก้แค้นและเจ้าก็เป็นเครื่องมือในการแก้แค้นของข้าเท่านั้น”

“ข้าสามารถเป็นเครื่องมือของผู้ใดก็ได้แต่ข้าจะไม่เป็นเครื่องมือของเจ้า!” ฟางเจิ้งกรีดร้อง

เจตจำนงปลอมของฟางหยวนหัวเราะ “เจ้าไม่มีทางเลือก กระทั่งเจ้าจะไม่ต้องการ แล้วอย่างไร? หลังจากเข้าร่วมการแข่งขัน เจ้าสังหารมนุษย์ขนหลายคน เจ้าสามารถแก้แค้นให้ข้า คืนนี้เจ้าต้องฟังคำแนะนำจากข้าและหลอมรวมวิญญาณให้สำเร็จ เจ้าต้องยอมรับคำแนะนำจากข้า มิฉะนั้นเจ้าจะตายในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน!”

การแสดงออกของฟางเจิ้งกลายเป็นมืดมนแต่เขาไม่สามารถตอบโต้

เขากำหมัดแน่นและตกอยู่ในความเงียบงัน

สองชั่วโมงต่อมาเขาเริ่มหลอมรวมวิญญาณอีกครั้ง

ฟางหยวนค่อยๆให้คำแนะนำกับเขาทีละขั้นตอน ฟางเจิ้งไม่ได้กล่าวสิ่งใดและปฏิบัติตามโดยไม่ขัดขืน

เมื่อฟ้าสว่างฟางเจิ้งก็ประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณคางคกกลืนกินแม่น้ำระดับห้า!

ทวีปเมฆา

ฟางหยวนพ่นลมหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา

ฝนในร่มกลายเป็นก้อนน้ำแข็งที่โปร่งใส

แต่ในความเป็นจริงการแปรรูปทรัพยากรอมตะระดับนี้ไม่ง่ายเหมือนการแช่แข็ง

มีมากกว่าห้าสิบขั้นตอนในกระบวนการนี้ วิธีการหลอมรวมมากกว่ายี่สิบทักษะถูกใช้งาน และยังมีท่าไม้ตายอีกสามสิบท่า นอกจากนี้มันยังต้องดำเนินการภายในเวลาไม่กี่นาที

หลังจากล้มเหลวสามครั้ง ฟางหยวนประสบความสำเร็จในครั้งที่สี่

เป็นเพียงเวลานี้ที่เจตจำนงปลอมบินกลับมาหาฟางหยวน

ในไม่ช้ารอยยิ้มที่แทบจะมองไม่เห็นก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา

‘เพื่อความอยู่รอด ฟางเจิ้งต้องทำตามคำสั่งของข้า แม้เขาจะเกลียดข้ามากเพียงใด แต่เพื่อความอยู่รอด เขาก็ทำได้เพียงเชื่อฟังเท่านั้น’

‘ทุกครั้งที่เขารอดชีวิตด้วยคำแนะนำของข้า เขาอาจโกรธและอับอาย แต่ตราบเท่าที่สิ่งนี้เกิดขึ้นต่อไป ความรู้สึกของเขาจะค่อยๆเบาบางลงและในที่สุดเขาก็จะคุ้นชินกับการดำรงอยู่ของข้า เขาจะพึ่งพาข้าโดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้นมันจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการหลอมรวมเทพโลหิต’

‘แต่ตอนนี้สภาพจิตใจของเขายังไม่ดีพอ มันต้องถูกการขัดเกลาต่อไป’

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท