เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1185

ตอนที่ 1185

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1185 ความสุขที่ได้รับมาโดยไม่คาดคิด

แปลโดย iPAT

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ฟางหยวนรู้สึกสับสน

ภายใต้ความร่วมมือของจิตวิญญาณแผ่นดิน ฟางหยวนสามารถกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ฮันตงได้อย่างไม่มีปัญหา

ชายหาดของแดนศักดิ์สิทธิ์ฮันตงปรากฏขึ้นในภาคเหนือน้อย

แอ่งน้ำตื้นยังเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตทุกชนิด

มีอสรพิษแดงชมพูจำนวนมากเคลื่อนไหวอยู่รอบๆ

สิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงก็คือมีอสรพิษแดงชมพูเดียวดายตัวหนึ่งอยู่ท่ามกลางพวกมัน

มันนอนหลับอยู่รอบๆโหดหิน กระทั่งแดนศักดิ์สิทธิ์ฮันตงจะถูกกลืนกิน มันก็ยังไม่ตื่นขึ้น

ในสถานการณ์ทั่วไป หากฟางหยวนต้องการนำทรัพยากรเหล่านี้เข้ามาในมิติช่องว่างจักรพรรดิ เขาต้องขุดทะเลสาบและสร้างที่อยู่อาศัยให้กับพวกมัน

หากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าแตกต่างจากสภาพแวดล้อมเดิม พวกมันอาจเหี่ยวเฉาหรือตายเช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อฟางหยวนนำทรัพยากรมาจากถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

แต่ด้วยการกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ฮันตง มันสามารถแก้ปัญหามากมายให้กับฟางหยวน ทรัพยากรและสภาพแวดล้อมทั้งหมดถูกย้ายเข้ามาโดยตรง

ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนจึงสามารถครอบครองทรัพยากรของแดนศักดิ์สิทธิ์ฮันตงได้อย่างเต็มที่

‘แดนศักดิ์สิทธิ์ฮันตงสร้างสิ่งมีค่าได้เพียงอย่างเดียว นั่นคืออสรพิษแดงชมพู แม้มันจะเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำแต่มันก็พัฒนามาถึงจุดที่โดดเด่น’

ตอนนี้ฟางหยวนสามารถรับสืบทอดธุรกิจของผู้พเนจรฮันตงและขายอสรพิษเหล่านี้

ฟางหยวนประเมินและตระหนักว่าผลประโยชน์ของมันเหนือกว่าทุ่งหญ้าสะเก็ดดาวที่อยู่บนสวรรค์สีน้ำเงินน้อย

ฟางหยวนทิ้งทรัพยากรเหล่านี้ไว้ก่อนเพราะมีบางสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจ

นั่นก็คือจิตวิญญาณแผ่นดินอสรพิษแดงชมพูยังปรากฏตัวอยู่ที่นี่

มันยังไม่ตาย!

“ฟ่อ ฟ่อ ฟ่อ”

อสรพิษแดงชมพูส่ายศีรษะด้วยความสับสน

แดนศักดิ์สิทธิ์ฮันตงถูกผนวกเข้ากับมิติช่องว่างอื่นไปแล้ว โดยปกติจิตวิญญาณแผ่นดินจะสูญสลายไป

แต่ผู้ใดจะคิดว่าจิตวิญญาณแผ่นดินอสรพิษแดงชมพูจะยังมีชีวิตอยู่

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของฟางหยวนก่อตัวเป็นร่างมนุษย์เดินเข้าไปที่ชายหาด

อสรพิษแดงชมพูส่งเสียงทักทายอย่างมีความสุข “ฟ่อ ฟ่อ ฟ่อ”

“นายท่าน! เกิดสิ่งใดขึ้น? ข้ายังไม่ตาย ข้ายังมีชีวิตอยู่ นายท่านช่างยอดเยี่ยมนัก!”

ฟางหยวนหัวเราะ “แน่นอน นี่เป็นผลงานและความลับที่ยิ่งใหญ่ที่ข้าสร้างขึ้น ไม่มีผู้อมตะคนใดบนโลกใบนี้สามารถทำสิ่งเดียวกันนี้ เจ้าคิดว่าข้าจะทำร้ายเจ้าจริงๆงั้นหรือ? แต่เจ้ามีความภักดีต่อข้าอย่างแท้จริงและเต็มใจที่จะเสียสละตนเองเพื่อข้า นี่เป็นสิ่งที่ดีมาก”

ดวงตาของอสรพิษแดงชมพูส่องประกายขึ้น “ฟ่อ ฟ่อ ฟ่อ”

“เจ้านายของข้ายอดเยี่ยมที่สุด พรสวรรค์ของท่านสูงส่งยิ่งกว่าสวรรค์! ข้ามีความสุขมากที่ได้รับใช้เจ้านายเช่นท่าน!”

ฟางหยวนพยักหน้า “เอาล่ะ แม้ข้าจะสร้างวิธีการผนวกแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ขึ้นมา แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าใช้จริง เจ้าสามารถควบคุมชายหาดแห่งนี้ได้มากน้อยเพียงใด?”

อสรพิษแดงชมพูตอบ “ไม่ต่างจากก่อนหน้า”

“โอ้” ฟางหยวนไตร่ตรองก่อนกล่าว “หากเป็นเช่นนั้น อสรพิษน้อย เจ้าสามารถควบคุมพื้นที่อื่นๆหรือไม่?”

อสรพิษแดงชมพูส่ายศีรษะ “ไม่ ข้าทำไม่ได้”

‘ดูเหมือนมันจะสามารถควบคุมเฉพาะอาณาเขตเดิมเท่านั้น’ ฟางหยวนคิดก่อนจะเปิดปากกล่าว “เช่นนั้นเจ้าสามารถออกจากชายหาดแห่งนี้หรือไม่?”

อสรพิษแดงชมพูทดลองทันที

แต่น่าเสียดายที่มันไม่สามารถ

‘ดังนั้นอสรพิษตัวนี้ก็สามารถดูแลชายหาดแห่งนี้เท่านั้น’ ฟางหยวนรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

เขากำลังขาดแคลนบุคคลที่มีความสามารถในการจัดการมิติช่องว่างจักรพรรดิ ท้ายที่สุดแล้วมิติช่องว่างจักรพรรดิก็ใหญ่โตเกินไป สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของฟางหยวนต้องใช้เวลาไม่น้อยในการตรวจสอบและจัดการมัน

การปรากฏตัวของอสรพิษแดงชมพูถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจและน่ายินดี

ฟางหยวนต้องการใช้มันจัดการมิติช่องว่างจักรพรรดิ แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะมีข้อจำกัดค่อนข้างมาก

‘ลืมไปมันเถอะ สามารถดูแลชายหาดแห่งนี้ก็ถือว่าดีแล้ว เหตุใดข้าต้องไม่พอใจ?’

ฟางหยวนปัดเป่าความรู้สึกเสียดายออกไปและคิดต่ออย่างสงบ

จิตวิญญาณแผ่นดินอสรพิษแดงชมพูไม่ถูกทำลายแต่ยังคงอยู่ นี่เป็นเพียงบางแง่มุมที่ทำให้ฟางหยวนตกใจ

ยังมีเรื่องอื่นเช่นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า

‘ข้าสามารถดูดซับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจากแดนศักดิ์สิทธิ์ฮันตงได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันเกิดสิ่งใดขึ้น?’ ฟางหยวนรู้สึกงงงวย

ตามตรรกะของโลกผู้อมตะ เมื่อผู้อมตะกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ของผู้อื่น พวกเขาจะได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจากเป้าหมายน้อยมาก

แต่ฟางหยวนกลับได้รับทั้งหมด!

ก่อนกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ฮันตง ฟางหยวนใช้วิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋าตรวจสอบร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า ในแดนศักดิ์สิทธิ์ฮันตงมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด มันมีประมาณเจ็ดพันร่องรอย ตามมาด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งวารีและปฐพีอย่างละประมาณหนึ่งพันร่องรอย ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ เส้นทางแห่งไฟ และเส้นทางสายอื่นมีจำนวนที่แตกต่างกันไป บางชนิดมีไม่กี่ร้อยร่องรอยขณะที่บางชนิดมีไม่ถึงหนึ่งร้อยร่องรอย

อย่างไรก็ตามฟางหยวนสามารถดูดซับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านี้ได้ทั้งหมดโดยไม่ขาดไปแม้แต่ร่องรอยเดียว

‘ข้าเข้าใจแล้ว’ ฟางหยวนไตร่ตรองและตระหนักถึงบางสิ่ง

สิ่งที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้เพราะร่างทารกอมตะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างพลังงานแห่งเต๋า

ผู้อมตะทั่วไปกระทั่งร่างสิบสุดยอดกายาเมื่อกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ของผู้อื่นจะเผชิญหน้ากับความขัดแย้งระหว่างร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าชนิดต่างๆ

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของผู้อมตะเหมือนเจ้าของบ้านขณะที่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่มาทีหลังเหมือนแขก

หากแขกต้องการเป็นเจ้าของบ้านคนใหม่แต่เจ้าของบ้านคนเดิมไม่อนุญาต พวกมันก็จะถูกขับไล่ออกไป

ในที่สุดเจ้าของเดิมจะรับแขกจำนวนหนึ่งที่พวกเขาพึงพอใจเข้ามาเท่านั้น ในทางกลับกันแขกบางส่วนจะถูกขับไล่ออกไป

แต่ร่างกายของฟางหยวนแตกต่างออกไป

บ้านหลังนี้เปิดต้อนรับแขกทุกคน เนื่องจากเจ้าของเดิมอนุญาตให้แขกเข้ามาโดยไม่สร้างปัญหาใด

‘มันครอบคลุมร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าทุกชนิด กระทั่งจิตวิญญาณแผ่นดินยังถูกเชิญให้เข้ามา’ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะรู้สึกชื่นชมความพิถีพิถันของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

ร่างทารกอมตะถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ มันเป็นศูนย์รวมความเชื่อและความคิดทั้งหมดของเขา

นี่ทำให้ฟางหยวนต้องยกย่องเขาอยู่ในใจ ‘เทพปีศาจจิตวิญญาณก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยการสังหาร เขาสร้างเส้นทางแห่งจิตวิญยาณขึ้นมาและกลายเป็นเจ้าเหนือหัวของโลกใบนี้ กระทั่งเขาจะตายไปแล้วแต่เขายังสามารถทำลายขีดจำกัดของความตายและพยายามหวนคืนสู่ชีวิต ช่างน่าเหลือเชื่อนัก’

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่ไม่ขัดแย้งกันทำให้ร่างกายของฟงหยวนบอบบางมากแต่มันก็มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย

ฟางหยวนสามารถใช้วิธีป้องกันที่ทรงพลังเพื่อลบจุดอ่อนนี้แต่ด้านที่ดีของร่างทารกอมตะไม่มีผู้ใดสามารถทำซ้ำ!

ยังมีผลประโยชน์อื่นที่ฟางหยวนได้รับจากการกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ฮันตง นั่นคือฟางหยวนสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติ!

เขาประสบความสำเร็จ!

เดิมทีภัยพิบัติพิภพครั้งที่หกของเขากำลังจะมาถึง

แต่หลังจากกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ฮันตง เขาสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติพิภพครั้งที่หกได้ทันที ในความเป็นจริงมันกระทั่งกระโดดไปข้างหน้าถึงสี่ภัยพิบัติ!

‘ตอนนี้ข้าก้าวข้ามภัยพิบัติมาได้อีกสี่ครั้ง นั่นหมายความว่าตอนนี้ข้าก้าวข้ามภัยพิบัติพิภพครั้งที่เก้ามาแล้ว ครั้งต่อไปจะเป็นภัยพิบัติสวรรค์ครั้งแรกของข้า!’

ความสำเร็จของฮันตงกลายเป็นความสำเร็จของฟางหยวน

แม้ฟางหยวนจะไม่เข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้อย่างชัดเจน แต่ผู้อมตะหลายคนก็พิสูจน์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนตลอดระยะเวลาอันยาวนานว่าการกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ของผู้อื่นจะช่วยให้ผู้อมตะก้าวข้ามภัยพิบัติของพวกเขา

นี่เป็นหนึ่งในวิธีก้าวข้ามภัยพิบัติ อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติ มันมีข้อจำกัดและเงื่อนไขมากมาย

และยังมีข้อเสียไม่น้อย

‘เห้อ…หลังจากกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางความแข็งแกร่งนี้ แม้ข้าจะได้รับประโยชน์อย่างมาก ข้าก็ยังสูญเสียโอกาสในอนาคตไปมากเช่นกัน’

ภายในภูเขาหม้อหยกของภาคใต้ ไห่ลั่วหลันประสบความสำเร็จในการกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์

แต่การแสดงออกของนางยังดูมืดมนมาก

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท