เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1260

ตอนที่ 1260

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1260 กับดักอาณาจักรแห่งความฝัน

แปลโดย iPAT

ฟางหยวนตกใจเมื่อได้ยินอิงอู๋เซี่ยตะโกนว่า “นำวิญญาณสู่ความฝัน!”

นำวิญญาณสู่ความฝันเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันที่ทรงพลัง ในการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน อิงอู๋เซี่ยกระทั่งทำให้เจ้าวังสวรรค์ผล็อยหลับและติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน

ฟางหยวนมีความประทับใจต่อท่าไม้ตายนี้ เพราะหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเจตจำนงสรรค์ เขาอาจตายอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันตั้งแต่ครั้งนั้น

ในยุคนี้วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันหายากมากโดยไม่ต้องกล่าวถึงท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน

ทุกคนที่เผชิญหน้ากับท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝัน ไม่มีผู้ใดสามารถต่อต้านขัดขืน

ฟางหยวนก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

เขามีท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน แต่เขาก็มีร่างทารกอมตะเช่นกัน เผชิญหน้ากับท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝัน แม้เขาจะใช้เวลาเพียงชั่วครู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน แต่ช่วงเวลาสั้นๆก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงและอันตรายมาก

ฟางหยวนทะยานร่างขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยไม่ลังเล

ระหว่างล่าถอย เขามีข้อสงสัยอยู่ในใจ

ย้อนกลับไปท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันของอิงอู๋เซี่ยทรงพลังมากเพราะเขามีวิญญาณอมตะมากมายรวมถึงร่างกายาแห่งความฝัน

แต่ตอนนี้อิงอู๋เซี่ยมีวิญญาณอมตะเหล่านั้นอยู่ในการครอบครองงั้นหรือ?

ฟางหยวนไม่รู้รายละเอียดแน่ชัด แต่เขาแน่ใจว่าร่างผีดิบอมตะของอิงอู๋เซี่ยจะลดพลังอำนาจของท่าไม้ตายนี้ลงหลายระดับ

ฟางหยวนล่าถอยออกไปในระยะไกลอย่างรวดเร็ว แต่เขายังไม่ถูกนำเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน ‘อิงอู๋เซี่ยหลอกข้างั้นหรือ?’

ฟางหยวนคิดถึงเรื่องนี้ขณะที่สภาพแวดล้อมของเขาเปลี่ยนแปลงไป

ภาคใต้ ในชีวิตแรกของฟางหยวน

ภูเขาชิงเหมาถูกทำลายจากการระเบิดตัวเองของไป่หนิงปิง ฟางหยวนเข้าไปอยู่ในขบวนสินค้าเพื่อฝึกฝนและหารายได้

ขบวนสินค้ามาถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง กองโจรสองกลุ่มพุ่งเข้ามาจากด้านหน้าและด้านหลัง

“ฆ่า!”

“ปกป้องสินค้า!”

ขบวนสินค้าเกิดความโกลาหลขึ้นทันที เสียงโห่ร้องดังไปทั่วหุบเขา ฝ่ายหนึ่งเป็นกองโจร อีกฝ่ายเป็นขบวนสินคา

เด็กหนุ่มฟางหยวนผสานตัวอยู่ในขบวนสินค้าและกัดฟันแน่น เขากำลังตื่นตระหนกกับการซุ่มโจมตีอย่างกะทันหันของกองโจรกลุ่มนี้

“นี่คืออาณาจักรแห่งความฝัน ข้าถูกนำเข้ามาในอาณาจักรแห่งความฝันจริงๆ!”

แต่ความสับสนก็หายไปอย่างรวดเร็ว ฟางหยวนเร่งใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน

อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้เขาพบว่าตนเองออกจากอาณาจักรแห่งความฝันและกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงด้วยตัวมันเองโดยไม่คาดคิด

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ฟางหยวนพึ่งตั้งคำถามเมื่อสภาพแวดล้อมรอบตัวเปลี่ยนไปอีกหน

เขากลับเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันอีกครั้ง

มันเป็นความฝันที่ต่อเนื่องจากครั้งก่อน

ในหุบเขา กองโจรกับขบวนสินค้ากำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด

“แปลก ที่นี่ไม่ควรมีกองโจรซ่อนตัวอยู่” นายน้อยของขบวนสินค้าลงจากรถม้าและมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความงุนงง

ผู้นำขบวนสินค้าป้องกันตัวพร้อมกับตอบคำถามนายน้อยผู้นี้ “ถูกต้อง เส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางเก่า ผู้ใดจะคิดว่าโจรภูเขาเหล่านี้จะซ่อนตัวอยู่ที่นี่”

นายน้อยกวักมือเรียก “ศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับสอง แต่การป้องกันของเราแข็งแกร่งมาก ไม่จำเป็นต้องกลัวพวกเขา”

“นายน้อยกล่าวถูกต้องแล้ว เราจะทำให้แน่ใจว่าโจรชั่วเหล่านี้จะอยู่ที่นี่ตลอดไป!” ผู้นำขบวนสินค้าเผยรอยยิ้มชั่วร้าย

แต่ในจังหวะนี้กลับมีเสียงดังมาจากด้านบน

ทุกคนมองขึ้นไป

ภาพที่เห็นทำให้พวกเขาตื่นตระหนก

หินก้อนใหญ่จำนวนมากกลิ้งลงมาจากหุบเขาด้านบน หินเหล่านี้พุ่งมาทางพวกเขา พลังของพวกมันไม่ด้อยกว่าการโจมตีของผู้ใช้วิญญาณระดับสอง

พวกเขายังมองเห็นผู้คนมากมายยืนอยู่บนหน้าผา นี่เป็นแผนการที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า!

“ถอย!” ใบหน้าของนายน้อยกลายเป็นซีดเผือด

“มันสายเกินไปแล้ว…” ผู้นำขบวนสินค้ารู้สึกลำบากใจ

กองหินพุ่งชนผู้ใช้วิญญาณของขบวนสินค้าและทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บทันที ขวัญกำลังใจของกองโจรพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก

“บัดซบ!” ฟางหยวนส่ายศีรษะ

“นี่คือท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันที่แท้จริง แต่มันยังไม่สมบูรณ์ มันสามารถส่งข้าเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน แต่มันไม่สามารถขังข้าไว้ที่นี่ตลอดไป อย่างไรก็ตามนี่เพียงพอแล้วที่จะเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ของข้า!” หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง

อิงอู๋เซี่ยเฝ้ามองสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวัง แต่หลังจากชั่วครู่พวกเขาก็ยังไม่เห็นฟางหยวนปรากฏตัวขึ้น

“เขาล่าถอยไปแล้วงั้นหรือ?” ไห่ลั่วหลันรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

ไป่หนิงปิงมองอิงอู๋เซี่ย

อิงอู๋เซี่ยถอนหายใจยาว “เห้อ…น่าเสียดาย”

หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน อิงอู๋เซี่ยลอบหลอมรวมวิญญาณบนเส้นทางแห่งความฝันขึ้นมาอีกครั้งอย่างลับๆ

อิงอู๋เซี่ยตั้งใจใช้ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันเมื่อฟางหยวนใช้ไพ่ตายของเขา

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่ได้ใช้ไพ่ตายใบนั้น

การกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลัง ฟางหยวนต้องใช้เวลาชั่วครู่ เมื่อเวลานั้นมาถึงอิงอู๋เซี่ยจะฉวยโอกาสใช้ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันเพื่อทำให้ฟางหยวนล้มเหลวในการกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขา

ยิ่งท่าไม้ตายทรงพลังมากเท่าใด ผลกระทบย้อนกลับของมันก็ยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากฟางหยวนติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันขณะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลัง เขาจะล้มเหลวและได้รับผลกระทบย้อนกลับที่รุนแรง

อิงอู๋เซี่ยอธิบายเรื่องนี้กับพันธมิตรของเขาอย่างละเอียด

อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ก่อนหน้า อิงอู๋เซี่ยไม่มีทางเลือกและต้องกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันก่อนเวลาอันควรเท่านั้น

หากเขาไม่ใช้มัน การโจมตีของฟางหยวนอาจประสบความสำเร็จและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ สถานการณ์จะเปลี่ยนไปอย่างมาก สุดท้ายพวกเขาจะเสียชีวิตในที่สุด

อิงอู๋เซี่ยสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างเฉียบแหลมและแม่นยำในสถานการณ์นี้

“ดูเหมือนฟางหยวนจะไม่สามารถโจมตีได้ในเวลานี้ เราควรรีบไป ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันยังไม่สมบูรณ์ ประสิทธิภาพของมันจะลดลงตามเวลาที่ผ่านไป”

อิงอู๋เซี่ยออกคำสั่ง ผู้อมตะทั้งห้าออกเดินทางทันที

อย่างไรก็ตามพวกเขายังไปได้ไม่ไกลเมื่อฟางหยวนกลับมาอีกครั้ง

ฟางหยวนไม่ยอมให้กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยหลุดรอดไปจากใต้จมูกของเขา ดังนั้นเขาจึงออกไล่ล่าทันที

ไท่เป่ยหยุนเฉิงยังหมดสติ ผู้อมตะทั้งสี่ถูกฟางหยวนพัวพัน เดิมทีมันเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะเดินทางข้ามกำแพงภูมิภาคอยู่แล้ว แต่ด้วยการแทรกแซงของฟางหยวน มันยิ่งยากลำบากมากขึ้นสำหรับพวกเขา

…..

“ระวัง!” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นด้านหลังฟางหยวน

ฟางหยวนไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลาเมื่อเศษหินปะทะศีรษะของเขา

“ลุงหนวด ท่านช่วยข้าไว้ ขอบคุณมาก!” ฟางหยวนเห็นชายเคราหนาเดินเข้ามาหลังจากทำลายก้อนหินขนาดใหญ่ที่ร่วงหล่นลงมา

“เจ้าหนู ดูแลตัวเองให้ดี!” ลุงเคราหนากล่าวด้วยความกังวล

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงกรีดร้องแหลมสูงของผู้นำขบวนสินค้าดังขึ้น “นายน้อย มาเร็ว ปกป้องนายน้อย!”

สองผู้ใช้วิญญาณปีศาจระดับสามพุ่งเข้าปิดล้อมนายน้อยของขบวนสินค้าที่เคยทำให้ฟางหยวนอับอาย

นายน้อยผู้นี้กำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย กระทั่งผู้ใช้วิญญาณที่ปกป้องขบวนสินค้ายังรู้สึกหวาดกลัว

“รออยู่ที่นี่ ข้าจะไปช่วยนายน้อย!” ลุงเคราหนากล่าวก่อนจะวิ่งออกไป

…..

อาณาจักรแห่งความฝันปรากฏขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ฟางหยวนกำลังพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก

กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยตระหนักได้ว่าอาณาจักรแห่งความฝันส่งอิทธิพลต่อฟางหยวน

อย่างไรก็ตามพวกเขายังไม่สามารถเดินทางออกจากกำแพงภูมิภาค

“พวกเจ้าออกไปซะ ข้าจะถ่วงเวลาอยู่ที่นี่!” ในช่วงเวลาสำคัญซื่อหนิวก้าวออกมา

ท่าไม้ตายอมตะคลื่นดิน!

พื้นดินรอบตัวซื่อหนิวระเบิดขึ้นสู่อากาศและขยายวงกว้างออกไปอย่างรวดเร็ว

ฟางหยวนเร่งล่าถอย แต่ในช่วงเวลาวิกฤต อาณาจักรแห่งความฝันก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง เขาพลาดโอกาสที่จะหลบหนีจากระยะการโจมตีของศัตรู

ฟางหยวนส่งลมหายใจมังกรออกไป แต่ลมหายใจมังกรกลับสลายไปหลังจากเคลื่อนที่ไปได้เพียงห้าถึงหกก้าว

ฟางหยวนพยายามใช้ร่างมังกรดาบบรรพกาลพุ่งออกไปแต่ยังไม่สามารถหลบหนี

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท