เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1262

ตอนที่ 1262

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1262 หอกแสงตะวัน (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT

ปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือด!

ตั้งแต่บรรพชนบ่อเลือดถือกำเนิดขึ้น บุคคลใดก็ตามที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเลือดจะถูกตัดสินว่าเป็นสมาชิกบนเส้นทางสายปีศาจ

ในงานประลองทุ่งโลหิต ชูตู๋ยังต้องปฏิเสธกำลังเสริมที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเลือดโดยปราศจากความลังเล

นั่นเป็นเพราะชูตู๋ต้องการสร้างกองกำลังฝ่ายธรรมะ หากเขาร่วมมือกับผู้อมตะบนเส้นทางแห่งเลือด ฝ่ายของเขาจะถูกตัดสินว่าเป็นฝ่ายปีศาจและความพยายามทั้งหมดของเขาจะกลายเป็นสูญเปล่า

อย่างไรก็ตามแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะไม่จำเป็นต้องกังวลสิ่งใด

เนื่องจากแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะเป็นกองกำลังฝ่ายปีศาจของภาคเหนือ มันไม่ใช่เผ่าหรือนิกายของฝ่ายธรรมะ

จ้าวเหลียนหยุนมาถึงยอดเขาที่สิบหลังออจากยอดเขาที่สิบสอง

ปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดที่ปกป้องยอดเขานี้คือจ้าวผู เขาสวมชุดผ้าป่านและรองเท้าผ้า เขามีศีรษะล้านและมีรูปร่างหน้าตาธรรมดา

เขายืนอยู่กลางห้องโถงขณะที่อวี๋อี้เย่ซือล่าถอยออกมาซ้ำแล้วซ้ำอีกกระทั่งไปถึงขอบห้องโถง

ร่างกายของเขาอาบย้อมไปด้วยเลือด อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงมาก

เมื่อจ้าวเหลียนหยุนเห็นสหายผู้นี้ นางแทบไม่สามารถจดจำเขา อวี๋อี้เย่ซือเคยเป็นหนุ่มรูปงามที่ดูละเอียดอ่อน แต่ตอนนี้มันเหมือนกับเขาตกลงไปในบ่อเลือดและถูกบางคนดึงขึ้นมา

“ความสามารถอื่นๆของเขาธรรมดา แต่เขามีท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดที่ทรงพลัง! เมื่อเขากระตุ้นใช้งานมัน เลือดจะพุ่งออกมาจากร่างกายของเขา หากเลือดของเขาสัมผัสผิวหนังของเจ้า เจ้าจะเริ่มมีเลือดออกและเมื่อเวลาผ่านไป เลือดจะไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ระวังตัวด้วย!” อวี๋อี้เย่ซือเร่งเตือนจ้าวเหลียนหยุน

“เข้าใจแล้ว พักก่อน ข้าจะสู้กับเขา” จ้าวเหลียนหยุนก้าวไปข้างหน้า

“รนหาที่ตายอีกคน” จ้าวผูยืนอยู่ที่จุดเดิมโดยไม่ขยับเขยื้อน เขาแสยะยิ้มและเผยให้เห็นฟันที่แหลมคม

ท่าไม้ตายอมตะโซ่เงินสังหาร!

จ้าวเหลียนหยุนเตรียมท่าไม้ตายของนางเอาไว้แล้ว ดังนั้นโซ่สีเงินจึงพุ่งออกมาทันที

โซ่เงินหกสายเคลื่อนที่ไปรอบๆจ้าวเหลียนหยุนและปกป้องนางเอาไว้ หลังจากผ่านการต่อสู้แห่งชีวิตและความตายกับจ้าวต้าหนิว ตอนนี้นางกลายเป็นคนใหม่ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์และความเด็ดเดี่ยว

ผู้นำยอดเขาที่สิบจ้าวผูเห็นจ้าวเหลียนหยุนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของนางแต่เขากลับไม่พยายามหยุดนางและเฝ้าสังเกตเท่านั้น

จ้าวเหลียนหยุนตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่สอง

ฝนดาวตก!

พลังงานอมตะถูกใช้อีกครั้ง แสงสีน้ำเงินระเบิดออกมาจากร่างของจ้าวเหลียนหยุน

“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว…”

ฝนดาวตกร่วงหล่นลงมา

อุกกาบาตเหล่านี้มีขนาดเล็กและบางราวกับอาวุธลับแต่กลิ่นอายของพวกมันกลับทรงพลังเหมือนพายุใหญ่

หากจ้าวผูยังนิ่งเฉย เขาอาจกลายเป็นเศษเนื้อในไม่ช้า

ภายใต้สถานการณ์นี้เขาไม่กล้ายโสอีกต่อไป เขาส่งหมอกโลหิตลอยขึ้นเหนือศีรษะและกลายเป็นร่มขนาดใหญ่ที่ปิดกั้นฝนดาวตกของจ้าวเหลียนหยุน แต่ปริมาณของหมอกโลหิตยังลดลงอย่างรวดเร็ว

จ้าวผูกัดฟันก่อนจะกระทืบเท้าพุ่งเข้าโจมตีจ้าวเหลียนหยุนราวกับแสงสีแดง

จิตใจของจ้าวเหลียนหยุนสั่นสะท้านขึ้น นางก้าวถอยหลังกลับโดยไม่รู้ตัว

โซ่เงินที่เคลื่อนไหวอยู่รอบตัวนางตอบสนองทันที โซ่เส้นหนึ่งพุ่งเข้าปะทะจ้าวผู แต่ฝ่ายหลงยังสามารถหลบและเปลี่ยนทิศทางการโจมตี

แต่ในเวลาเดียวกันโซ่เงินอีกเส้นก็พุ่งเข้าไปหาเขา

จ้าวผูไม่มีทางเลือกนอกจากต้องล่าถอยและเปลี่ยนทิศทางอีกครั้ง

สิ่งนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ จ้าวผูตระหนักว่าโซ่เงินสามารถโจมตีได้ด้วยตัวของพวกมันเอง โซ่เงินสามารถโจมตีและป้องกัน นอกจากนั้นพวกมันยังรวดเร็วและสามารถทำงานร่วมกัน

“สาวน้อย ท่าไม้ตายของเจ้ายอดเยี่ยมมาก!” จ้าวผูล่าถอยกลับไปและไม่พยายามโจมตีต่อ

นี่เป็นเรื่องปกติ

ท่าไม้ตายของจ้าวเหลียนหยุนได้รับการคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถันโดยนิกายคฤหาสน์วิญญาณและวังสวรรค์

พวกมันเหมาะสมกับผู้เริ่มต้นเช่นจ้าวเหลียนหยุน พวกมันไม่เพียงใช้งานได้ง่าย แต่พวกมันยังส่งผลกระทบย้อนกลับที่ไม่รุนแรงหากล้มเหลว สิ่งสำคัญที่สุดพวกมันเป็นท่าไม้ตายที่มีประสิทธิภาพสูงมาก

ฝนดาวตกยังร่วงหล่นลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง

จ้าวผูต้องเติมหมอกโลหิตอย่างต่อเนื่อง

อวี๋อี้เยซือรักษาตัวเองอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องโถง

จ้าวเหลียนหยุนนิ่งเงียบและพยายามเตรียมท่าไม้ตายอมตะท่าที่สาม

ท่าไม้ตายอมตะฝนดาวตกและโซ่เงินสังหารเป็นท่าไม้ตายที่ยากที่สุดของนาง สำหรับท่าไม้ตายอมตะท่าที่สาม มันมีความซับซ้อนน้อยกว่าสองท่าแรก

ระหว่างการฝึกซ้อมจ้าวเหลียนหยุนใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อยในการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายนี้

แต่ในการต่อสู้จริง นางพบว่านางต้องพยายามมากขึ้น

แม้ตอนนี้นางจะได้รับการปกป้องจากโซ่เงินสังหาร แต่สภาพจิตใจของนางไม่ปกติ นั่นทำให้ความพยายามหลายครั้งของนางจบลงด้วยความล้มเหลว

‘ท่าไม้ตายอมตะอีกท่างั้นหรือ? นางไม่รู้ว่าท่าไม้ตายอมตะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะใช้งาน ยิ่งนางใช้พวกมันมากเท่าใด โอกาสที่นางจะเผยจุดอ่อนออกมาก็ยิ่งมากเท่านั้น ข้าจะสอนวิธีการต่อสู้ให้เจ้า!’ จ้าวผูเผยรอยยิ้มชั่วร้ายและกระโจนไปข้างหน้า

แต่ครั้งนี้เมื่อเขามาได้ครึ่งทาง เขากลับอ้าปากกว้าง

“บึม!”

การระเบิดครั้งใหญ่ปะทุขึ้น จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกว่าเลือดทั่วร่างของนางเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง วิญญาณมากกว่าครึ่งในมิติช่องว่างเทียมของนางพุ่งขึ้นก่อนจะร่วงหล่นลงมาด้วยอิทธิพลของพลังงานลึกลับ

ท่ามกลางพวกมัน วิญญาณระดับมนุษย์จำนวนมากถูกทำลายในกระบวนการนี้

จ้าวผูเป็นปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือด แต่เขาก็มีวิธีบนเส้นทางแห่งเสียงที่ทำให้จ้าวเหลียนหยุนหรือกระทั่งอวี๋อี้เย่ซือไม่คาดคิดและได้รับผลกระทบจากมัน

โซ่เงินสังหารยังปกป้องจ้าวเหลียนหยุนแต่นางไม่ประสบความสำเร็จในการกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่สามเพราะการแทรกแซงจากจ้าวผู

นางเริ่มรู้สึกถึงความไร้พลังอำนาจ ‘ชายผู้นี้เหมือนที่อวี๋อี้เย่ซือกล่าว เขามีวิธีการมากมาย แม้เขาจะไม่สามารถทำลายโซ่เงินสังหารของข้า แต่เขาก็สร้างความยากลำบากและทำให้ข้าล้มเหลวในการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะอย่างต่อเนื่อง ไม่ ข้าต้องอดทนต่อไป!’

จ้าวเหลียนหยุนยังพยายามกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของนางต่อไป

อาจเป็นเพราะนางล้มเหลวหลายครั้งเกินไป สุดท้ายจิตใจของนางจึงเริ่มสงบลง

ในที่สุดดวงตาของนางก็ส่องประกายขึ้นพร้อมกับบอลเพลิงที่ลอยขึ้นจากฝ่ามือของนาง

จากนั้นมันก็ควบรวมเป็นไม้เท้าเพลิง

หลายลมหายใจต่อมา เปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำก็จางหายไปและทิ้งหอกสีทองแดงเอาไว้

จ้าวเหลียนกรีดร้อง “หอกแสงตะวัน โจมตี!”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท