เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1394

ตอนที่ 1394

คำกล่าวของฟางหยวนทำให้เด็กชายขนนกรู้สึกสยดสยอง เขารีบร้องขอความช่วยเหลือทันที

ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว “น้องชาย ไม่ต้องกลัว พี่ใหญ่อยู่นี่แล้ว”

นางเป็นผู้อมตะหญิงที่ดูงดงามและอ่อนเยาว์ในชุดสีเขียวลายดอกไม้ นางสวมตุ้มหูไข่มุกที่ดูเหมือนมีระลอกคลื่นสีเขียวอยู่ภายใน

“ข้าคือซุ้ยป๋อ เจ้าคือผู้ใด? เหตุใดต้องกลั่งแกล้งน้องชายของข้า?”

ฟางหยวนประเมินผู้อมตะหญิงซุ้ยป๋อผู้นี้

นางปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้อมตะระดับเจ็ดออกมา นางคิดว่าตนเองมีสถานะเท่าเทียมกับฟางหยวนที่เป็นผู้อมตะระดับเจ็ดเช่นกัน

ฟางหยวนลูกหน้าท้องของตนและถอนหายใจ “ข้ากล่าวความจริง ฮ่าฮ่า ในเมื่อเจ้ามาหาข้า ข้าก็จะกินพวกเจ้าทั้งสอง”

ข้อบกพร่องของร่างทารกอมตะก็คือมันกินมิติช่องว่างเป็นอาหาร

ฟางหยวนเรียนรู้เรื่องนี้มาจากราชันภูเขาม่วง

ตามแผนเดิมของนิกายเงา พวกเขาจะหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะระดับสิบ

นี่คือความทะเยอทะยานของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

โชคไม่ดีที่เขาสามารถหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะระดับเก้าเท่านั้นและยังถูกฉกชิงไปโดยฟางหยวน

ตามแนวคิดของเทพปีศาจจิตวิญญาณ วิญญาณทารกอมตะระดับสิบไม่มีจุดอ่อน แต่วิญญาณทารกอมตะระดับเก้ายังมีบกพร่องอยู่ประการหนึ่ง

นั่นคือมันต้องการอาหาร

อาหารของวิญญาณทารกอมตะระดับเก้าคือมิติช่องว่างของผู้อมตะ

เส้นทางการบ่มเพาะของผู้อมตะไม่สำคัญแต่ระดับการบ่มเพาะมีความสำคัญ

ตัวอย่างเช่นในฐานะผู้อมตะระดับเจ็ด ฟางหยวนต้องกินมิติช่องว่างของผู้อมตะระดับเจ็ดเพื่อหล่อเลี้ยงวิญญาณทารกอมตะ เมื่อเขากลายเป็นผู้อมตะระดับแปด เขาต้องกินมิติช่องว่างของผู้อมตะระดับแปด

โชคดีที่ก่อนหน้านี้ฟางหยวนเปลี่ยนวิธีการบ่มเพาะ เขาหลีกเลี่ยงภัยพิบัติด้วยการกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ของผู้อื่น

ด้วยวิธีนี้วิญญาณทารกอมตะจึงได้รับอาหารโดยบังเอิญ

ฟางหยวนไม่ได้โกหกเด็กชายขนนก ระหว่างทางฟางหยวนได้พบกับผู้อมตะระดับหกของทะเลทรายตะวันตกสามคน เขาฆ่าและกลืนกินมิติช่องว่างของผู้อมตะสองคน แต่เขาไม่สามารถกลืนกินมิติช่องว่างของคนสุดท้ายเพราะความสำเร็จที่ไม่เพียงพอและปล่อยให้มันกลายเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์

เทพธิดาซุ้ยป๋อและเด็กชายขนนกเป็นคู่หูที่แข็งแกร่ง

พวกเขาวางแผนและล่อลวงยุงอสูรให้เข้าสู่ค่ายกลวิญญาณขณะที่เทพธิดาซุ้ยป๋อซุ่มโจมตีอยู่ไม่ไกล

หากพวกเขาพบผู้อมตะระดับเจ็ดทั่วไป เทพธิดาซุ้ยป๋อสามารถพูดคุยกับพวกเขาได้อย่างเท่าเทียม แต่น่าเสียดายที่พวกเขาพบกับฟางหยวน

‘ช่างบังเอิญนักที่มีผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งวารีปรากฏขึ้น หลังจากกินนาง ข้าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอาหารของวิญญาณทารกอมตะไปอีกระยะหนึ่ง’

เจตนาสังหารของฟางหยวนปะทุขึ้น มันยากที่จะหามิติช่องว่างที่เขาสามารถกลืนกินได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทะเลทรายตะวันตก ผู้อมตะส่วนใหญ่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งไฟและวายุขณะที่เส้นทางแห่งวารีหายากมาก นี่เป็นสิ่งที่แตกต่างจากทะเลตะวันออกอย่างชัดเจน

ฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งวารีแต่ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งไฟและวายุของเขาอยู่ในระดับสามัญ

ฟางหยวนโจมตีอย่างรวดเร็วด้วยท่าไม้ตายอมตะกำปั้นยักษ์หมื่นตัวตน

กำปั้นยักษ์พุ่งเข้าโจมตีเทพธิดาซุ้ยป๋อและเด็กชายขนนกด้วยพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัว

เด็กชายขนนกตะโกนด้วยความตกใจ

เทพธิดาซุ้ยป๋อประหลาดใจแต่นางยังสะบัดมือส่งอสรพิษกรดพุ่งเข้าปะทะกำปั้นยักษ์และกัดกร่อนมันไปยี่สิบส่วน

อย่างไรก็ตามกำปั้นยักษ์ที่เหลือพลังอยู่แปดสิบส่วนภายใต้การควบคุมของฟางหยวนเพิกเฉยต่อเด็กชายขนนกและพุ่งตรงไปยัง้ทพธิดาซุ้ยป๋อ

เทพธิดาซุ้ยป๋อถอยกลับและกรีดร้อง “เดี๋ยว! ข้าเป็นนางสนมลำดับที่สามของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง เหตุใดเจ้าไม่ไว้หน้าบรรพชน เป็นพันธมิตรกับเราและแบ่งปันสมบัติของกองกำลังพันธมิตรผีดิบ!?”

แม้เทพธิดาซุ้ยป๋อจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่ความแข็งแกร่งของนางไม่โดดเด่น พลังการต่อสู้ของนางธรรมดามาก

อย่างไรก็ตามสถานะของนางค่อนข้างพิเศษ

นางเกี่ยวข้องกับบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง

ฟางหยวนรู้จักคนผู้นี้ เขาได้รับมรดกที่แท้จริงส่วนหนึ่งของเทพปีศาจคลั่ง เขาสามารถเปลี่ยนร่างเป็นสิ่งต่างๆพันชนิด ด้วยเหตุนี้เขาจึงถูกเรียกว่าบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง

แม้เขาจะเป็นผู้สืบทอดของเทพปีศาจแต่เขาไม่ใช่ปีศาจอมตะ เขาเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษที่มีชื่อเสียงของทะเลทรายตะวันตก

ความสนใจส่วนตัวของเขาคล้ายกับเทพอมตะตะวันเดือด เขาชื่นชอบหญิงงาม เขามีภรรยาและนางสนมหลายร้อยหรือหลายพันคน ท่ามกลางหญิงเหล่านี้มีผู้อมตะเกือบสิบคน

เทพธิดาซุ้ยป๋อเป็นหนึ่งในนั้น

‘หากข้าคว้าทรัพยากรของกองกำลังพันธมิตรผีดิบของทะเลทรายตะวันตก ข้าจะกลายเป็นศัตรูของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงงั้นหรือ?’ ฟางหยวนขมวดคิ้ว

เทพธิดาซุ้ยป๋อสังเกตการแสดงออกของฟาหงยวนก่อนกล่าวต่อ “ข้ามาที่นี่เพราะคำสั่งของท่านบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง ท่านแข็งแกร่งมากแต่เป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านค่ายกลวิญญาณที่ป้องกันสถานที่แห่งนี้โดยใช้กำลัง มิฉะนั้นสมบัติจะไม่ปรากฏ เหตุใดเราต้องต่อสู้จนถึงตาย? หากเราเสียเวลา อาจเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น”

เทพธิดาซุ้ยป๋อมีความสามารถในการเจรจา ฟางหยวนพยักหน้า “มีเหตุผล”

เทพธิดาซุ้ยป๋อและเด็กชายขนนกรู้สึกยินดีเมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ แต่หลังจากนั้นฟางหยวนกลับเปิดมิติช่องว่างของตนและนำไป่หนิงปิง ไห่ลั่วหลัน และเทพธิดาเมี่ยวหยินออกมา

“ฆ่าพวกเขา ข้าจะไปรับมรดก” ฟางหยวนกล่าว

ไป่หนิงปิงก่นเสียงเย็น แม้นางจะไม่พอใจกับคำสั่งของฟางหยวน แต่นางยังพุ่งเข้าโจมตีเทพธิดาซุ้ยป๋อทันที

ไห่ลั่วหลันต่อสู้กับเด็กชายขนนก

เทพธิดาเมี่ยวหยินเผยรอยยิ้มบางและมองดูอยู่ข้างสนามรบ

เทพธิดาซุ้ยป๋อและเด็กชายขนนกเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

พวกเขาไม่คาดหวังว่ามิติช่องว่างของฟางหยวนจะมีผู้อมตะสามคนอาศัยอยู่ นอกจากนั้นทั้งสามยังมาจากภูมิภาคอื่น

นี่เป็นเรื่องที่หาได้ยาก

โดยทั่วไปผู้อมตะจะไม่อนุญาตให้ผู้อมตะคนอื่นๆเข้าไปในมิติช่องว่างของตนเอง

ในไม่ช้าเทพธิดาซุ้ยป๋อและเด็กชายขนนกก็ถูกกำหราบ ทั้งสองไม่สามารถตอบโต้ไห่ลั่วหลันและไป่หนิงปิง

‘สองคนนี้เหมือนเป็นผู้อมตะสิบคน วิธีการของพวกเขาน่าประทับใจมาก ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน’

‘ข้าจำได้แล้ว พวกเขาคือผู้หลบหนี! ปีศาจร้าย! หนึ่งในนั้นเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการล่มสลายของวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง!’

เทพธิดาซุ้ยป๋อและเด็กชายขนนกตระหนักถึงข้อมูลบางอย่าง นั่นทำให้พวกเขายิ่งตกใจและต้องการหลบหนี

ไห่ลั่วหลันและไป่หนิงปิงไล่ตามพวกเขาออกจากถ้ำ

ฟางหยวนยืนอยูู๋่ด้านหน้าพายุทรายและใช้วิธีการของเขามาระยะหนึ่งแล้ว

เพียงไม่นานพายุทรายก็อ่อนกำลังลงและเปิดเส้นทางให้เขา

ฟางหยวนเข้าไปโดยไม่ลังเล

เทพธิดาเมี่ยวหยินยังยืนเฝ้าระวังอยู่ด้านนอก

พายุทรายรุนแรงขึ้นอีกครังหลังจากฟางหยวนเข้าไป เส้นทางถูกปิดลงและกลับสู่สภาพเดิม

ในไม่ช้าเมืองแห่งหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในมุมมองสายตาของฟางหยวน

เมืองศพ

มันเป็นเมืองที่สร้างขึ้นจากดินเหนียวสีเหลืองและดูไม่มีสิ่งใดน่าประทับใจ

แต่ความจริงก็คือเมืองแห่งนี้เป็นคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์ มันเหมือนเมืองคลื่นทมิฬของภาคเหนือ

รากฐานที่แท้จริงของกองกำลังพันธมิตรผีดิบแห่งทะเลทรายตะวันตกคือแดนศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางแห่งปฐพี

เมืองศพอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว

ย้อนกลับไปเมื่อนิกายเงาหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะ พวกเขาสูญเสียเกือบทุกสิ่ง

แดนศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางแห่งปฐพีแห่งนี้ถูกทิ้งร้าง ทรัพยากรภายที่ซ่อนไว้ในคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์เมืองศพถูกย้ายมาอยู่ใต้ทะเลทรายแปรผันและได้รับการปกป้องโดยค่ายกลวิญญาณ

ด้วยวิธีนี้ กองกำลังพันธมิตรผีดิบของทะเลทรายตะวันตกจึงสามารถรักษารากฐานของพวกเขาเอาไว้ ไม่นานหลังจากการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ถูกบุกรุกโดยผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตก

แต่เมื่อผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกบุกเข้ามา พวกเขากลับตกใจและเริ่มโกรธ

เพระาพวกเขาไม่ได้รับของขวัญดังที่ตั้งใจ

หลังจากตรวจสอบร่วมกับความช่วยเหลืออย่างลับๆจากเจตจำนงสวรรค ในที่สุดพวกเขาจึงสามารถยืนยันว่ามรดกของกองกำลังพันธมิตรผีดิบของทะเลทรายตะวันตกอยู่ที่นี่

แต่การหาถ้ำแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากที่นี่จะมีถ้ำอยู่มากมาย พวกมันยังเคลื่อนไหวตลอดเวลา

ทุกครั้งที่ถ้ำเก่าหายไป ถ้ำใหม่จะปรากฏขึ้น

สิ่งนี้ทำให้การค้นหาของผู้อมตะทะเลทรายตะวันตกกลายเป็นเรื่องที่ยากลำบาก

แต่ฟางหยวนแตกต่างออกไป เขาเป็นผู้นำนิกายเงา เขามาที่นี่และสามารถเข้าสู่เมืองศพได้อย่างง่ายดาย

‘อย่างไรก็ตามการได้พบกับเทพธิดาซุ้ยป๋อน่าจะเป็นแผนการของเจตจำนงสวรรค์ มันต้องการให้ข้าเป็นศัตรูกับผู้อมตะระดับแปดที่ยิ่งใหญ่ของทะเลทรายตะวันตก’

‘ขณะเดียวกันข้า ไป่หนิงปิง และคนอื่นๆยังถูกติดตามตัวตลอดเวลา’

‘ข้าต้องรับมรดกเหล่านี้อย่างรวดเร็วที่สุด’

ฟางหยวนเปิดประตูทางเข้ามิติช่องว่าง ด้วยการโบกมือเพียงครั้งเดียว เมืองศพถูกนำเข้าสู่มิติช่องว่างจักรพรรดิทันที

เมืองศพไม่ได้เก็บวิญญาณอมตะเอาไว้ แต่ค่ายกลวิญญาณของที่นี่มีวิญญาณอมตะเป็นแกนกลาง

ท่ามกลางวิญญาณอมตะสองดวง หนึ่งในนั้นคือเป้าหมายหลักของฟางหยวนในการเดินทางครั้งนี้

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท