เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1403

ตอนที่ 1403

ที่ราบภาคเหนือ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

ในห้องหลอมรวม หลังจากหลอมรวมวิญญาณมานานหลายเดือน ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายืนอยู่ในค่ายกลวิญญาณและเฝ้าสังเกตดวงไฟสีฟ้าที่ลุกไหม้ขึ้นด้านหน้า

คิ้วและเคราของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำค้างแข็งสีฟ้าอ่อนบางๆ

แต่เขาไม่สนใจเรื่องนี้ เขาจดจ่ออยู่กับเปลวไฟด้านหน้าเท่านั้น

หากกล่าวให้ถูกต้องมากขึ้น มันเป็นก้อนน้ำแข็งที่อยู่ใจกลางกองไฟ

น้ำแข็งในกองไฟละลายแต่มันก็ก่อตัวขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

“ประตูวายุทั้งห้า” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าว

ผมที่หกรีบทำตามคำสั่งโดยใช้วิธีการพิเศษเพื่อจัดการกับทรัพยากรอมตะ

ประตูวายุเป็นทรัพยากรอมตะระดับเจ็ด

มันเป็นทรัพยากรที่พิเศษมาก

มันไม่ได้เติบโตขึ้นในป่าลึกหรือบนท้องฟ้า แต่มันเติบโตขึ้นในประตูบ้านของมนุษย์

เมื่อใดก็ตามที่ทรัพยากรอมตะชนิดนี้ถือกำเนิดขึ้น ประตูบ้านของมนุษย์จะไม่สามารถปิดได้ มันจะเปิดอยู่ตลอดเวลา

ปรากฏการณ์พิเศษนี้ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้วิญญาณรวมถึงผู้อมตะมากมาย

เดิมทีพวกเขายังไม่สามารถใช้งานทรัพยากรอมตะชนิดนี้ ไม่มีผู้ใดเข้าใจการทำงานของมัน แต่ในปัจจุบันบางคนพบวิธีใช้งานมันเรียบร้อยแล้ว

ประตูวายุทั้งห้าถูกส่งเข้าไปยังใจกลางของกองเพลิงอย่างระมัดระวัง

ในไม่ช้าสายลมทั้งห้าก็พุ่งเข้าโอบล้อมก้อนน้ำแข็งเอาไว้

“โอ้ ไม่!” แต่การแสดงออกของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากลับเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

ผมที่หกรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติเช่นกัน

เขาเห็นเปลวเพลิงดับลงขณะที่ก้อนน้ำแข็งแตกออกพร้อมกับสายลมที่หายไป

“อ๊าก…ล้มเหลวอีกครั้ง!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากระทืบเท้าและตะโกนด้วยความโกรธ

ผมที่หกถอนหายใจ

มันน่าเสียดาย

พวกเขามาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว

แต่พวกเขากลับล้มเหลว

หลายเดือนของการทำงานหนักกลับจบลงด้วยความล้มเหลว

“หากข้าใช้วิธีของมนุษย์ขน เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก่นเสียงเย็น

ผมที่หกเตือน “แต่ผู้อาวุโสสูงสุด ตามกฎของนิกาย ผู้อาวุโสฟางหยวนจ่ายแต้มผลงานมากมายเพื่อสิ่งนี้ เราต้องปฏิบัติตามคำขอของเขา”

“ฮืม! ฟางหยวนผู้นี้เสียสติไปแล้ว เหตุใดเขาถึงต้องการให้ข้าใช้วิธีหลอมรวมของมนุษย์? เขาพยายามสร้างปัญหาให้ข้างั้นหรือ?” ความล้มเหลวทำให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกไม่ดี

ผมที่หกเร่งกล่าวเพื่อฟางหยวน “ผู้อาวุโสฟางหยวนเป็นคนลึกลับ แม้ข้าจะไม่ชอบเขา แต่เขาใช้ทรัพย์สินทั้งหมดกับเรื่องนี้ หากเขาต้องการสร้างปัญหาให้ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งจริง เขาคงไม่จ่ายด้วยราคามหาศาลเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่?”

“เห้อ…ข้าแค่อยากระบายอารมณ์” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกท้อแท้ เขาโบกมือ “พักก่อนเถอะ นี่เป็นความล้มเหลวครั้งที่ห้าแล้ว แต้มผลงานของฟางหยวนไม่เพียงพอ ติดต่อเขาและบอกผลลัพธ์ให้เขารู้ หากเขาต้องการให้ข้าพยายามต่อไป เขาต้องจ่ายแต้มผลงานเพิ่ม!”

“ทราบแล้ว!” ผมที่หกตอบรับ

…..

ฟางหยวนบินอยู่บนท้องฟ้าราวกับลูกศร

เขาไม่มีอารมณ์ชื่นชมความงามของทะเลทราย เขากำลังคิดถึงการต่อสู้กับฟงจิวเก้อก่อนหน้านี้

สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาเป็นแหล่งทรัพยากรที่ถูกเก็บเป็นความลับของนิกายเงา

‘ก่อนที่ราชันภูเขาม่วงจะเสียชีวิต เขาสั่งให้ข้าไปที่สายธารแห่งกาลเวลาและพบกับเจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ’

แม้ฟางหยวนจะได้รับมรดกของราชันภูเขาม่วง แต่มันยังเป็นเพียงสมบัติส่วนหนึ่งของนิกายเงาเท่านั้น

เจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณที่อยู่ในสายธารแห่งกาลเวลาครอบครองมรดกเกือบทั้งหมดของนิกายเงา มันยังมีมรดกที่แท้จริงบางส่วนของเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ด้วย

นิกายเงาก่อตั้งมานับแสนปีแล้ว แม้นิกายเงาจะถูกทำลาย แต่พวกเขายังมีข้อมูลเกี่ยวกับการบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่

ตัวอย่างเช่นคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

ปัจจุบันฟางหยวนรู้รายละเอียดเกี่ยวกับการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะถึงสิบสองหลัง อย่างไรก็ตามนิกายเงาและเทพปีศาจจิตวิญญาณมีข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งนี้มากกว่านั้น

ข้อมูลที่เหลือฟางหยวนสามารถรับได้จากใบหน้าภูตผี

‘สำหรับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงที่อยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา กุญแจสำคัญคือวิญญาณกาลเวลาที่อยู่กับข้า’

ฟางหยวนต้องการไปที่นั่นเพื่อรับมรดกอย่างไม่ต้องสงสัย

สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาในห้าภูมิภาคคือทางเข้าของมัน

แม้ฟางหยวนจะสูญเสียหนึ่งในนั้นเพื่อกำจัดผู้ไล่ล่าจากวังสวรรค์ แต่มันไม่ใช่ปัญหาเพราะนิกายเงายังมีสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาเก็บไว้อีกห้าหรือหกสาย

‘อย่างไรก็ตามในทะเลทรายตะวันตก นิกายเงามีสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาในการครอบครองเพียงสายเดียว’

‘เพื่อความปลอดภัย ข้าควรไปแหล่งทรัพยากรอีกสองจุดก่อน หากข้ายังไม่พร้อม ข้าไม่ควรไปที่นั่น’

ฟางหยวนตัดสินใจ

ตอนนี้เขาอยู่ในทะเลทรายตะวันตก มันมีพรมแดนติดกับภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคกลาง

แต่ฟางหยวนไม่สามารถไปยังภูมิภาคทั้งสาม

ภาคกลางมีวังสวรรค์และสิบนิกายโบราณ

ภาคเหนือมีถ้ำสวรรค์นิรันดร

ภาคใต้มีกองกำลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะ

ทะเลทรายตะวันตกเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการซ่อนตัว

สำหรับทะเลตะวันออก นิกายเงาครอบครองสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาเพียงสายเดียวและน่าเสียดายที่มันถูกยึดครองไปแล้วโดยเมี่ยวหมิงเฉิน

กล่าวถึงเรื่องนี้ มันเป็นความผิดของฟางหยวน เขาเป็นคนมอบสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาให้กับเมี่ยวหมิงเฉินด้วยตนเอง

ย้อนกลับไปราชันภูเขาม่วงพยายามใช้สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาที่ทะเลตะวันออกเพื่อเข้าไปพบใบหน้าภูตผี แต่เขากลับไม่พบสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาที่นั่นและต้องเดินทางไปที่ภาคใต้

‘ปัญหาใหญ่ที่สุดของข้าตอนนี้คือท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบ มันกำลังเปิดเผยตำแหน่งที่อยู่ของข้าต่อวังสวรรค์’

‘โดยปราศจากวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด เจตจำนงสวรรค์จะวางแผนกำจัดข้าตลอดเวลา’

‘ปัญหาคือข้าขาดวิญญาณอมตะที่เกี่ยวข้อง ข้ามีท่าไม้ตายอมตะมากมาย แต่ข้าไม่มีวิญญาณอมตะที่สามารถใช้เป็นแกนกลางของมัน หากข้ามีวิญญาณอมตะที่จำเป็น ข้าจะสามารถกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลและซ่อนตัวจากเจตจำนงสวรรค์’

ขณะที่ฟางหยวนกำลังคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ได้รับจดหมายจากผมที่หก

เขาอ่านข้อความและขมวดคิ้ว

การหลอมรวมล้มเหลวอีกครั้ง

บัดซบ!

แม้เขาจะประสบความสำเร็จในการวางแผนต่อต้านฟงจิวเก้อ แต่วังสวรรค์ย่อมไม่ส่งฟงจิวเก้อออกมาเพียงผู้เดียว

วังสวรรค์ยังมีวิธีอื่น มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น

“วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา รักตัวเอง ต้องเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด มันค่อนข้างยาก ข้าเฝ้าสังเกตการหลอมรวมมาโดยตลอด จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาทุ่มเทเต็มที่แล้ว” ผมที่หกกล่าว

ฟางหยวนไม่สงสัยคำกล่าวของผมที่หก

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเป็นคนตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์ ฟางหยวนไม่สงสัยเรื่องนี้

ความล้มเหลวเป็นเรื่องปกติ

ขณะที่โอกาสประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับเจ็ดต่ำเกินไป

อย่างไรก็ตามวิญญาณอมตะรักตัวเองเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับฟางหยวน เขาต้องได้รับมันอย่างรวดเร็วที่สุด

ด้วยสิ่งนี้ฟางหยวนจะสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะของราชันภูเขาม่วงเพื่อกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูล

ฟางหยวนมั่นใจกับวิธีนี้

‘หลอมรวมต่อไป แม้ข้าจะล้มละลาย เราก็ต้องทำให้สำเร็จ!’ ฟางหยวนกัดฟันและตัดสินใจ

ตอนนี้มันเป็นเรื่องง่ายที่จะได้รับแต้มผลงานจากนิกายหลางหยา เหตุผลเป็นเพราะมรดกที่แท้จริงของราชันภูเขาม่วงอุดมสมบูรณ์เกินไป

‘แต่…’

‘ตอนนี้ข้าไม่สามารถนิ่งเฉย’

‘ข้าประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับฟงจิวเก้อเพราะความไม่รู้ของเขา วังสวรรค์ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ’

‘แต่ตอนนี้มันถูกเปิดเผยแล้ว ข้าต้องรีบดำเนินการต่อไป’

‘ดูเหมือนว่าข้าต้องใช้วิธีนั้น’

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นด้วยความมุ่งมั่น

เขาตอบจดหมายผมที่หกและสั่งให้ผมที่หกเป็นผู้หลอมรวมวิญญาณอมตะดวงนี้ขณะที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะเป็นผู้ช่วยอยู่ด้านข้าง

ผมที่หกรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้รับคำตอบจากฟางหยวน

ทักษะของผมที่หกด้อยกว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาขณะที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่มีความตั้งใจที่จะทำให้การหลอมรวมล้มเหลว แล้วเหตุใดฟางหยวนจึงต้องการให้ผมที่หกเป็นผู้หลอมรวม?

…..

ในสายธารแห่งกาลเวลา

เสียงคลื่นน้ำซัดสาดอยู่รอบตัวเขา

ฟงจิวเก้อถูกคลื่นยักษ์กวาดลงไปในแม่น้ำ

‘นี่คือสายธารแห่งกาลเวลางั้นหรือ?’ เขาพยายามป้องกันตนเองแต่เขายังรู้สึกถึงพลังงานบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่พุ่งเข้าโจมตีร่างกายของเขาตลอดเวลา

ทรงพลังมาก!

ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ!

การป้องกันของฟงจิวเก้อน่าประทับใจแต่เพียงชั่วครู่การป้องกันของเขาก็พังทลายลง

ฟงจิวเก้อเข้าใจเรื่องนี้ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งเสียง มันไม่สามารถอยู่ร่วมกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

‘ดังคาด สายธารแห่งกาลเวลาทรงพลังจริงๆ ข้าต้องออกไปอย่างรวดเร็วที่สุด!’ ฟงจิวเก้อต้องการจากไปแต่เส้นทางที่เขาเข้ามาถูกทำลายไปแล้ว มันเหลือเพียงระลอกคลื่นบางๆเท่านั้น

ฟงจิวเก้อไม่สามารถเดินทางผ่านเส้นทางสายนี้

‘นี่เป็นปัญหา ข้าไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ข้าไม่สามารถออกไปโดยพึ่งพาระลอกคลื่นของกาลเวลา ข้าควรทำอย่างไร?’

เป็นเพียงเวลานี้ที่ฟงจิวเก้อได้ยินเสียงระเบิด

อสูรปีขาลโผล่ขึ้นมาจากใต้น้ำ

รูม่านตาของฟงจิวเก้อหดเล็กลง เขาเหมือนมดที่อยู่ต่อหน้าช้าง

‘อสูรปีแรกกำเนิด!’

เงาของความตายกำลังคืบคลานเข้ามาหาฟงจิวเก้อ

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท