เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1438

ตอนที่ 1438

ภาคกลาง วังสวรรค์

สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยวิหารที่สร้างจากหยกขาว

ท่ามกลางวิหารเหล่านี้ที่วิหารสีดำสนิทที่สังเกตเห็นได้ชัดอยู่หลังหนึ่ง

มีบางคำสลักอยู่หน้าประตูทางเข้า วิหารปราบวิญญาณ!

ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด

ที่ใจกลางวิหารมีเสาขนาดใหญ่ห้าต้น

โซ่สีม่วงทองเชื่อมต่อกัน มันดูราวกับใยแมงมุมขนาดใหญ่

มีดวงวิญญาณถูกพันธนาการเอาไว้ที่นี่

มันก็คือร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณ!

เทพธิดาจื่อเว่ยยืนนิ่งอยู่ด้านหน้า “เทพปีศาจจิตวิญญาณ เจ้าเป็นผู้อมตะระดับเก้าเมื่อยังมีชีวิตอยู่ แต่เจ้าไม่ยอมรับความตายและท้าทายสวรรค์ ผลลัพธ์ของเจ้าคือความล้มเหลว เจ้าจะยอมรับผิดหรือไม่?”

เสียงของนางดังสะท้อนไปทั่ว

ตรงกันข้ามกับดวงวิญญาณที่นิ่งเงียบและไม่เปล่งเสียงใดๆออกมาทั้งสิ้น

เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวต่อ “ในอดีตเจ้าอาละวาดไปทั่วโลกและสังหารสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง ตอนนี้เจ้ากลายเป็นนักโทษไปแล้ว เจ้ายังไม่กลับใจและยังพยายามดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์”

ดวงวิญญาญยังนิ่งเงียบ

เทพธิดาจื่อเว่ยถอนหายใจและกระตุ้นใช้พลังอำนาจของวิหารปราบวิญญาณ

กลิ่นอายของวิญญาณปะทุขึ้น เสาทั้งห้าเริ่มปลดปล่อยแสงและความร้อนออกมา

โซ่สีม่วงทองส่องประกายสว่างไสว

ร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณเริ่มสั่น

เมื่อเวลาผ่านไปข้อมูลบางส่วนก็ถูกดึงออกมา

ภาพเริ่มปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของเสายักษ์ มันแสดงฉากชีวิตในอดีตของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

มีฉากการบ่มเพาะของเขา ความกล้าหาญในการต่อสู้ การสนทนากับบางคน และอื่นๆ

การค้นวิญญาณดำเนินไปเป็นเวลาสิบห้านาทีก่อนจะหยุดลงอย่างช้าๆ

อย่างไรก็ตามเทพธิดาจื่อเว่ยกลับไม่พอใจ ข้อมูลที่ถูกดึงออกมาไม่ใช่ข้อมูลที่มีค่าใดๆ

นางเย้ยหยัน “โอ้ เทพปีศาจจิตวิญญาณ เจ้าเอาชนะทุกสิ่งมาเพื่อสิ่งนี้งั้นหรือ? เจ้าไม่มีความหวังเหลืออยู่อีกแล้ว เจ้ายังหวังว่าบางคนจะโจมตีวังสวรรค์และช่วยเจ้างั้นหรือ? ฮ่าฮ่า เจ้าจะทำสิ่งใดได้อีก? ผลลัพธ์ถูกกำหนดแล้วและไม่สามารถเปลี่ยนแปลง”

เทพปีศาจจิตวิญญาณยังเงียบราวกับก้อนหิน

เทพธิดาจื่อเว่ยก่นเสียงเย็นก่อนจะหันหลังกลับและจากไป

“ปัง!”

ประตูบานใหญ่ถูกผลักปิดตัวลงอย่างรุนแรง

เมื่อมองไปที่ลานกว้างและวิหารอันเงียบงัน คิ้วของเทพธิดาจื่อเว่ยขมวดเล็กน้อย

ความรู้สึกไม่สบายใจเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของนาง

ตอนนี้กลุ่มของฟงจิวเก้อยังไม่พบร่องรอยของฟางหยวน

นอกจากนั้นสายข่าวของวังสวรรค์ในทะเลทรายตะวันตกก็ไม่ได้รับข่าวว่ามีบางคนออกมาจากสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา

ทุกอย่างเงียบสงบ

อย่างไรก็ตามเทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกถึงความผิดปกติในความสงบสุขนี้

“น่าเสียดาย เทพปีศาจจิตวิญญาณยังต่อต้านแม้จะตกอยู่ในสภาพนี้ ข้อมูลที่ดึงออกมาไม่มีประโยชน์”

‘เขาเคยเป็นผู้อมตะระดับเก้าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณในตำนาน แม้นี่จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวของดวงวิญญาณ แต่เขายังสามารถต่อต้านการค้นวิญญาณจากวิหารปราบวิญญาณ ช่างน่าทึ่งนัก หากเป็นดวงวิญญาณของเข้า ยังไม่ต้องกล่าวถึงคฤหาสน์วิญญาณอมตะ กระทั่งผู้อมตะระดับหก ข้าก็ไม่สามารถต่อต้าน”

“ลืมมันไปซะ แม้เทพปีศาจจิตวิญญาณจะไม่ให้ความร่วมมือ แต่วิหารปราบมารยังสามารถค้นวิญญาณของเขาต่อไป แม้มันจะช้า แต่เมื่อเวลาผ่านไป ข้อมูลทั้งหมดจะถูกดึงออกมาในที่สุด”

“สำหรับตอนนี้…”

เทพธิดาจื่อเว่ยมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและเผยรอยยิ้มสดใส

“ถึงเวลาแล้วที่โลกจะได้รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของวังสวรรค์!”

วังสวรรค์นิ่งเงียบมาหลายเดือนหลังการต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝัน แต่ตอนนี้พวกเขากำลังจะเปิดเผยข่าวที่น่าสะพรึงกลัวออกไป

ดวงวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกจับโดยวังสวรรค์ขณะที่แผนการท้าทายสวรรค์ของเขาถูกทำลายโดยผู้อมตะของวังสวรรค์

เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ความโกลาหลปะทุขึ้นในโลกของผู้อมตะทั้งห้าภูมิภาคทันที

ผู้อมตะระดับเก้าคือผู้ปกครองแห่งยุคสมัย

ไม่มีผู้ใดสามารถจินตนาการว่าวังสวรรค์จะสามารถจับผู้อมตะระดับเก้า ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นเทพปีศาจจิตวิญญาณที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์

แม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวของดวงวิญญาณ แต่มันก็มากพอที่จะทำให้โลกทั้งใบสั่นสะเทือน

แน่นอนว่ามีบางคนตั้งคำถามถึงความถูกต้องของข่าวนี้แต่ไม่นานพวกเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

วังสวรรค์เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี พวกเขาแสดงหลักฐานทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นกองกำลังพันธมิตรผีดิบ นิกายเงา รวมถึงการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียนและการต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝัน

หลังฐานเหล่านี้ทำให้ผู้คนเชื่อมันอย่างสมบูรณ์

วังสวรรค์ได้รับความสนใจอีกครั้ง ความรุ่งโรจน์ในอดีตของวังสวรรค์ถูกขุดขึ้นมากล่าวถึง

พวกเขาเป็นกองกำลังอันดับหนึ่งของโลกผู้อมตะตั้งแต่เริ่มต้น

วังสวรรค์ถูกก่อตั้งขึ้นโดยเทพอมตะแรกกำเนิด หลังจากนั้นเทพอมตะกลุ่มดาวก็รับช่วงต่อและยังสามารถยืนหยัดมาจนถึงปัจจุบัน

แม้เทพปีศาจสามคนจะบุกวังสวรรค์ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใด

กล่าวได้ว่ามันทั้งลึกลับ ทรงพลัง และเหนือจินตนาการ

นี่คือวังสวรรค์

…..

ภารเหนือ ถ้ำสวรรค์นิรันดร

ราชันใต้นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าที่แก่ชราของเขาแสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต

“เห้อ…ผู้ใดจะคิดว่าชื่อเสียงของเทพปีศาจจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่จะถูกทำลายหลังจากความตายภายใต้เงื้อมมือของวังสวรรค์” ราชันใต้ถอนหายใจ

เหยากวงที่ยืนอยู่ข้างเตียงปลอบโยน “ท่านราชันใต้ ท่านควรให้ความสำคัญกับการพักฟื้นและพักผ่อน”

ราชันใต้หัวเราะเบาๆ “ข้าเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน จำสิ่งที่ข้าเคยบอกเจ้าเอาไว้ เจ้าจะรับตำแหน่งราชันใต้หลังจากข้าตาย”

“รับทราบ!”

ราชันใต้แสดงความกังวล “สิ่งต่างๆกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป ภูมิภาคทั้งห้าจะเข้าสู่สถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ข้าสัมผัสได้ถึงคลื่นแห่งกาลเวลาที่พุ่งพล่านและไม่ธรรมดา กระทั่งถ้ำสวรรค์นิรันดรของเราก็ยังจะถูกคลื่นยักษ์กลืนกินหากเราก้าวพลาด วังสวรรค์จะเป็นศัตรูตัวฉกาจของเรา ระวังตัวด้วย”

“ผู้น้อยจะจดจำถ้อยคำของท่านเอาไว้อย่างดี”

…..

ภาคใต้ ภูเขาศพ

นี่เป็นยอดเขาที่แปลกมาก ในอดีตผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้กลายเป็นผีดิบอมตะและต่อสู้กับกองกำลังใหญ่บนยอดเขาลูกนี้ ในที่สุดเขาตายที่นี่ เมื่อเวลาผ่านไป ซากศพของผีดิบอมตะระดับแปดก็กลายเป็นสารอาหารหล่อเลี้ยงสถานที่แห่งนี้และทำให้มันกลายเป็นภูเขาศพ

ภูเขาศพมีความสูงหลายร้อยเมตร มันอยู่ใกล้กับจุดตัดของแม่น้ำมังกรแดงและแม่น้ำมังกรเหลืองซึ่งเต็มไปด้วยแก่นแท้ของธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้มันจึงเต็มไปด้วยทรัพยากรและกลายเป็นสถานที่สำคัญ

ตอนนี้วูหยงยืนอยู่บนยอดเขาศพและกำลังจ้องมองจุดตัดของแม่น้ำทั้งสอง

ด้านข้างเขาคือผู้อมตะตระกูลวู วูเจิ้น

วูเจิ้นมองแผ่นหลังของวูหยงด้วยความรู้สึกชื่นชมในหัวใจ

เดิมทีภูเขาศพอยู่ภายใต้การปกครองของตระกูลวู แต่ไม่นานมานี้มันถูกยึดครองโดยตระกูลเหยา หลังการต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝัน วูหยงเปิดเผยการคงอยู่ของบ้านไม้ใผ่สายลมรวมถึงความแข็งแกร่งของเขา นั่นสร้างความหวาดกลัวให้กับกองกำลังอื่นๆเป็นอย่างมาก หลังจากประสบความสำเร็จในการเจรจากับวังสวรรค์และได้รับวิญญาณอมตะกลับคืน เขาส่งมอบพวกเขาให้กับเจ้าของเดิม

ผลที่ตามมาคือชื่อเสียงของวูหยงที่พุ่งสูงขึ้น แม้ตระกูลวูจะประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่เรื่องนี้ทำให้สถานการณ์ของตระกูลวูเกิดเสถียรภาพและกลายเป็นกองกำลังอันดับหนึ่งของภาคใต้อีกครั้ง

ความสำเร็จของเขาทำให้กองกำลังอื่นๆล่าถอยและละทิ้งแหล่งทรัพยากรที่เคยฉกชิงมาจากตระกูลวู

ตอนนี้คนในตระกูลวูเริ่มเปรียบเทียบวูหยงกับวูตู๋ซิ่ว พวกเขาคิดว่าวูหยงจะสามารถนำตระกูลวูสู่ความรุ่งโรจน์ได้อย่างแน่นอน

“วูเจิ้น ภูเขาศพเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ข้าจะมอบสิ่งนี้ให้เจ้าดูแล” วูหยงกล่าวโดยไม่หันหลังกลับ

“ทราบแล้ว ข้าจะไม่ทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งผิดหวัง” น้ำเสียงของวูเจิ้นสั่นเล็กน้อย

“นายท่าน…” เขาหยุดก่อนกล่าวต่อ “ภูเขาศพเป็นแหล่งทรัพยากรสุดท้ายที่พวกเราสูญเสียไป ตอนนี้เราจะตอบโต้พวกเขาเลยหรือไม่?”

วูหยงขมวดคิ้ว

เขาวางแผนตอบโต้มาตลอด

แต่หลังจากได้ยินข่าวการจับตัวเทพปีศาจจิตวิญญาณของวังสวรรค์ วูหยงตัดสินใจยกเลิกแผนการนี้

“ครั้งนี้ตระกูลวูสูญเสียผู้อมตะมากเกินไป เนื่องจากเราสามารถกู้คืนดินแดนทั้งหมดแล้ว ด้วยกำลังคนของเราในเวลานี้ เราแทบไม่สามารถดูแลพวกมัน นี่เป็นปัญหาที่ใหญ่กว่า ตอนนี้ถึงเวลาพักฟื้นและบ่มเพาะผู้อมตะรุ่นต่อไปแล้ว”

“ทราบแล้ว ข้าจะทำตามการตัดสินใจของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง” วูเจิ้นกล่าวด้วยความเคารพ

ชื่อเสียงของวูหยงในปัจจุบันทำให้เขาได้รับการสนับสนุนจากผู้อมตะทั้งหมดของตระกูล

“อย่างไรก็ตามเราจะไม่ปล่อยคนที่กล้าท้าทายตระกูลวูของเราไปอย่างง่ายดาย แม้เราจะไม่ขยายอาณาเขต แต่เราจะต้องได้รับทรัพยากรเป็นค่าชดเชย” วูหยงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้

จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของวูเจิ้นพุ่งพล่านขึ้นทันที “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งฉลาดมาก!”

…..

ทะเลทรายตะวันตก ฐานทัพใหญ่ของตระกูลถัง

“วังสวรรค์ช่างน่ากลัวนัก” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองของตระกูลถังกล่าวด้วยความกังวล

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลถังชำเลืองมองเขาอย่างเฉยเมย เขาเข้าใจความหมายของคนผู้นี้

ก่อนหน้านี้เมื่อพวกเขากล่าวถึงความร่วมมือกับนิกายเงา ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เมื่อข่าวเรื่องวังสวรรค์สามารถจับกุมเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกเผยแพร่ออกมา ผู้อมตะตระกูลถังจึงรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก

“วังสวรรค์จะกล่าวโทษพวกเราเพราะความร่วมมือกับนิกายเงาหรือไม่?’ ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองถอนหายใจ

“หากพวกเขาทำแล้วอย่างไร? หากพวกเขาไม่ทำแล้วอย่างไร?” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งยิ้ม

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองขมวดคิ้ว “หากพวกเขาไม่โทษพวกเรา มันย่อมเป็นเรื่องที่น่ายินดี เราสามารถร่วมมือกับนิกายเงาต่อไป แต่หากพวกเขาต้องการเอาความกับพวกเรา เราต้องร่วมมือกับกองกำลังอื่นเพื่อต่อต้านวังสวรรค์ แน่นอนว่าเราต้องรักษาความลับเอาไว้และไม่เปิดเผยหลักฐานใดๆ มิฉะนั้นวังสวรรค์จะมีข้ออ้างขณะที่พวกเราจะไม่สามารถขอกำลังเสริม”

“นอกจากนั้นหากไม่ได้ผลเราจะเสียสละถังฟางหมิงและถังหลานเค่อเพื่อตระกูล”

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งหัวเราะ “ฮ่าฮ่าฮ่า ดู เจ้ารู้วิธีจัดการกับสถานการณ์อยู่แล้ว เช่นนั้นเจ้าจะตื่นตระหนกเพื่อสิ่งใด?”

“ฮืม!”

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งหัวเราะก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “หากตระกูลถังต้องการลุกขึ้น เราต้องเสี่ยงเท่านั้น หากเราไม่สามารถทำความเข้าใจอาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ เราจะได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่ได้อย่างไร? สำหรับถังฟางหมิงและถังหลานเค่อ พวกเขาเข้าใจเรื่องนี้อยู่แล้ว การเสียสละเพื่อตระกูลถือเป็นเกียรติของพวกเขา”

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองถอนหายใจ “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งช่างฉลาดหลักแหลมนัก”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท