เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1484

ตอนที่ 1484

แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน

มิติช่องว่างจักรพรรดิ ทะเลตะวันออกน้อย ทะเลเกล็ดมังกร

ผู้อมตะลอยอยู่กลางอากาศและกำลังมองลงไปที่ทะเลเบื้องล่าง

ใบหน้าของเขาดูไม่ธรรมดา ดวงตาลึกราวกับบ่อน้ำที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด

มันคือผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ฟางหยวน

ตอนนี้ทะเลกำลังปั่นป่วน คลื่นน้ำสาดซัด แต่ไม่มีลม

‘มิติช่องว่างจักรพรรดิไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศ ไม่มีลมหรือก้อนเมฆอยู่ที่นี่ เหตุผลที่ทะเลเกล็ดมังกรมีคลื่นน้ำเพราะร่างหลักของข้าสร้างมันขึ้นมาด้วยค่ายกลวิญญาณ’

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนคิด

ตอนนี้ทะเลเกล็ดมังกรเป็นพื้นที่ทะเลอันดับหนึ่งในมิติช่องว่างจักรพรรดิ ปัจจุบันฟางหยวนกำลังพัฒนาสถานที่แห่งนี้ด้วยเงินทุนจำนวนมหาศาล

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลามองไปรอบๆ ปลามังกรจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังแหวกว่ายอยู่อย่างหนาแน่น

ฟางหยวนทุ่มเงินทุนไปมากมายพร้อมกับเพิ่มความเร็วของเวลาและใช้วิธีการบนเส้นทางอาหาร นั่นทำให้ปลามังกรเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

นอกจากปลามังกรทั่วไปยังมีปลามังกรทองแดง ปลามังกรเหล็กไหล และปลามังกรเงินอีกเล็กน้อย

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลามองลึกลงไปใต้ทะเล

ในไม่ช้าใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นความยินดี เขาพบเป้าหมายแล้ว

มันคือปลามังกรทอง มันมีเกล็ดสีทองและดวงตาแหลมคมแตกต่างจากดวงตาที่ดูไร้ชีวิตของปลามังกรทั่วไป

เปรียบเทียบกับปลามังกรตัวอื่นๆ มันมีขนาดเล็กที่สุด มันมีขนาดเท่ากับฝ่ามือมนนุษย์เท่านั้น

แต่ร่างแยกของฟางหยวนสัมผัสได้ว่าปลามังกรทองตัวนี้มีเพียงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางอาหารอยู่บนร่างกายเท่านั้น มันไม่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสายอื่นอยู่เลย

แม้มันจะตัวเล็ก แต่มันปลดปล่อยกลิ่นอายของสัตว์อสูรบรรพกาลที่แท้จริงออกมา

ปลามังกรสายพันธุ์อื่นสามารถเข้าถึงระดับสัตว์อสูรเดียวดายเท่านั้น แต่ปลามังกรทองสามารถบรรลุระดับสัตว์อสูรบรรพกาล

สิ่งนี้ไม่สามารถมองข้าม มันหมายความว่าปลามังกรทองได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของสายพันธุ์ดั่งเดิมเข้าสู่ระดับใหม่อย่างสมบูรณ์

“ปลามังกรทองคือขีดจำกัดในการพัฒนามันแล้ว” ร่างแยกของฟางหยวนถอนหายใจ

ปลามังกรทองบรรพกาลว่ายอยู่ในทะเล ไม่ว่าจะเป็นปลามังกรทั่วไป ปลามังกรเดียวดาย ปลามังกรทองแดงเดียวดาย ปลามังกรเหล็กไหลเดียวดาย หรือปลามังกรเงินเดียวดาย พวกมันต้องเปิดทางให้กับปลามังกรทองบรรพกาล

ปลามังกรทองบรรพกาลคือราชาของปลามังกร เมื่อมันปรากฏขึ้น ปลามังกรชั้นล่างทั้งหมดต้องติดตามและปกป้องมัน

“แม้ข้าจะเป็นเจ้าของปลามังกรทั้งหมด อิทธิพลของข้าก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับปลามังกรทองบรรพกาล”

อาจกล่าวได้ว่าฟางหยวนและปลามังกรทองบรรพกาลได้ต่อสู้กันเพื่อควบคุมปลามังกรเหล่านี้ แต่สุดท้ายเป็นฟางหยวนที่พ่ายแพ้

สัตว์อสูรบรรพกาลจะได้รับความภักดีจากฝูงของมันโดยธรรมชาติ

“แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ปลามังกรทองบรรพกาลควบคุมปลามังกรขณะที่ข้าควบคุมปลามังกรทองบรรพกาลอีกทีหนึ่ง โชคไม่ดีที่ปลามังกรไม่มีพลังการต่อสู้ กระทั่งพลังการต่อสู้ของปลามังกรทองบรรพกาลก็ยังอยู่ในระดับล่างเมื่อเทียบกับสัตว์อสูรบรรพกาลชนิดอื่น ดังนั้นปลามังกรเหล่านี้จึงสามารถใช้เป็นสินค้าเท่านั้น”

ครึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว

โหยว่ชานมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก

แม้นางจะประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ปลามังกรเงิน แต่นางก็ต้องขอความช่วยเหลือจากฉินไป่อี้และวังสวรรค์รวมถึงปลามังกรเงินของฟางหยวน

ดังนั้นแม้นางจะสามารถผลิตปลามังกรเงิน แต่ในแง่ของปริมาณการผลิต นางยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับฟางหยวน

ธุรกิจปลามังกรของฟางหยวนกำลังก้าวนำหน้านางในสวรรค์สีเหลือง

ปลามังกรเงินมีประโยชน์มากเกินไปและเนื่องจากฟางหยวนไม่ได้ขึ้นราคามากนัก ปลามังกรของผู้อื่นจึงไม่สามารถแข่งขัน

นอกจากนั้นฟางหยวนยังขายปลามังกรเงินได้มากกว่าโหยว่ชาน

ความแตกต่างของทั้งสองเห็นได้ชัดมาก

อย่างไรก็ตามโหยว่ชานยังไม่ยอมแพ้ นางยังพยายามสู้ต่อไป

ทะเลกระเรียนขาว

ฉินไป่อี้หัวเราะเสียงดัง “ฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุดข้าก็ผ่านส่วนที่ยากลำบากที่สุดไปได้ ด้วยวิธีนี้เราจะสามารถผลิตปลามังกรเงินได้มากขึ้น!”

ใบหน้าของโหยว่ชานซีดขาวแต่ยังสามารถมองเห็นความสุขในดวงตาของนาง

นางทำงานร่วมกับฉินไป่อี้มาเป็นเวลาครึ่งเดือนโดยไม่ได้หยุดพักด้วยการพึ่งพาข้อมูลจากวังสวรรค์

“แต่…แม้จะได้ผลลัพธุ์เช่นนี้ ผลผลิตของเราก็ยังไม่สามารถแข่งขันกับฝ่ายตรงข้าม” โหยว่ชานถอนหายใจ

“เสี่ยวชาน อย่ากังวล ตราบเท่าที่เราร่วมมือกัน เราจะสามารถแก้ปัญหานี้ ปลามังกรเงินไม่ใช่วิญญาณความเด็ดเดี่ยว เมื่อเวลาผ่านไปผลผลิตของเราจะทัดเทียมกับเขา” ฉินไป่อี้ค่อนข้างมองโลกในแง่ดี

“แต่มันก็ทำให้เราเท่าเทียบกับเขาเท่านั้น มันยากเกินไปที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เราไม่มีความแข็งแกร่งมากพอ นั่นหมายความว่าเราสามารถทำได้ดีที่สุดคือเทียบเท่าเขาและนี่อยู่ภายใต้ข้อสันนิษฐานว่าเขาจะไม่ผลิตปลามังกรสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาอีก” โหยว่ชานส่ายศีรษะ

ฉินไป่อี้ต้องการปลอบโยนโหยว่ชานแต่นางกลับไม่สามารถกล่าวสิ่งใดออกมา

ความจริงก็คือผลลัพธ์ค่อนข้างชัดเจนแล้ว

โหยว่ชานไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางหยวน นางทำได้เพียงทำตัวเงียบๆและพยายามตามเขาให้ทันเพื่อรักษาสมดุลเท่านั้น

พวกนางไม่มีทางชนะ เว้นเพียงพวกนางจะได้รับความช่วยเหลือจากภายนอก

ตัวอย่างเช่นวังสวรรค์

พวกเขามีมรดกบนเส้นทางอาหารอยู่มากมาย

แต่เหตุใดเทพธิดาจื่อเว่ยต้องช่วยฉินไป่อี้และโหยว่ชานโดยปราศจากเงื่อนไข?

ทั้งสองฝ่ายอยู่ต่างภูมิภาค ฉินไป่อี้และโหยว่ชานตื่นตัวมากเมื่อทำงานร่วมกับวังสวรรค์

แต่ความตั้งใจของเทพธิดาจื่อเว่ยคือการล่อลวงให้คนทั้งสองกลายเป็นตัวหมากเบี้ยของวังสวรรค์เพื่อแทรกซึมเข้าสู่โลกผู้อมตะของทะเลตะวันออก

สงครามห้าภูมิภาคกำลังจะเริ่มขึ้น วังสวรรค์ต้องเตรียมตัวก่อนที่ยุคที่ยิ่งใหญ่จะมาถึง

“ข้าเกรงว่าคนขายปลามังกรผู้นี้จะเป็นฟางหยวน”

“ข้าสามารถใช้เขาเพื่อทำให้โหยว่ชานและฉินไป่อี้กลายเป็นตัวหมากเบี้ยของวังสวรรค์”

“แต่…”

ในวังสวรรค์เทพธิดาจื่อเว่ยให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับสวรรค์สีเหลือง

สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจก็คือฟางหยวนไม่ได้ทำสิ่งใดเลย หลังจากวางขายปลามังกรเงิน เขาก็หยุดเคลื่อนไหว

สถานการณ์นี้ทำให้เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกไม่สบายใจ

นางรู้ว่าฟางหยวนไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ

“หากนั่นคือฟางหยวนจริงๆ เขาต้องมีไพ่ตายบางอย่าง”

“เขาเป็นคนโหดเหี้ยม เขาจะไม่เหลือทางออกให้ผู้อื่น สถานการณ์ปัจจุบันของธุรกิจปลามังกรไม่ใช่สิ่งที่เขาจะยอมรับได้”

ขณะที่เทพธิดาจื่อเว่ยกำลังคิดเรื่องนี้ การแสดงออกของโหยว่ชานแห่งทะเลตะวันออกก็เปลี่ยนแปลงไป

“เสี่ยวชาน เกิดสิ่งใดขึ้น?” ฉินไป่อี้ถามด้วยความห่วงใย

“โอ้ ไม่ ทะเลปลามังกรของข้ากำลังถูกโจมตี! ค่ายกลวิญญาณของข้าถูกทำลาย ข้าต้องกลับไป!” โหยว่ชานกรีดร้องด้วยความกังวล

แม้มิติช่องว่างของนางจะมีปลามังกรอยู่มากมาย แต่ปลามังกรส่วนใหญ่ของนางอยู่ที่ทะเลปลามังกร

ทะเลปลามังกรเป็นรากฐานของนาง ทรัพย์สินทั้งหมดของนางอยู่ที่นั่น แล้วนางจะปล่อยให้บางคนทำลายมันได้อย่างไร?

ฉินไป่อี้ตระหนักถึงความรุนแรงของปัญฆา นางจับมือโหยว่ชาน “ไม่มีเวลาแล้ว ข้าจะไปกับเจ้า อย่ากังวล ข้าอยากเห็นว่าผู้ใดจะกล้ายโสต่อหน้าพวกเรา!”

พวกนางบินออกจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะราวกับรุ้งกินน้ำ เทพธิดาทั้งสองแบกรับความโกรธเอาไว้ขณะเดินทางไปยังทะเลปลามังกร

ทะเลกระเรียนขาวและทะเลปลามังกรอยู่ไม่ไกลกันมากนัก นี่คือเหตุผลที่โหยว่ชานสามารถพักอยู่ที่บ้านของฉินไป่อี้โดยไม่กังวล

ด้วยเหตุนี้เมื่อพวกนางมาถึงทะเลปลามังกร ผู้บุกรุกจึงยังไม่จากไป

ค่ายกลวิญญาณของโหยว่ชานถูกทำลายไปแล้วครึ่งหนึ่ง ผู้บุกรุกยังนำปลามังกรเข้าสู่มิติช่องว่างของเขาอย่างต่อเนื่อง

“ช่างกล้าหาญนัก!” แม้โหยว่ชานจะเป็นคนสุภาพ แต่นางก็โกรธมากเมื่อเห็นปลามังกรของนางถูกปล้นชิงไปต่อหน้า

“เจ้าคือผู้ใด? เจ้ากล้าโจมตีสถานที่ของผู้หญิงของข้า วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า!” ฉินไป่อี้ตะโกน

“เสี่ยวชาน ระวัง คนผู้นี้ค่อนข้างแปลก เขาจับปลามังกรเก่งมาก!”

แม้ฉินไป่อี้จะโกรธ แต่นางก็ไม่สูญเสียเหตุผล นางประเมินและเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันอย่างชัดเจน

หัวใจของโหยว่ชานเต้นเร็วขึ้น

ผู้อมตะลึกลับไม่ได้ใช้วิธีการอมตะใดๆ เขาควบคุมสัตว์อสูรบรรพกาลเพียงตัวเดียวแต่ฝูงปลามังกรของโหยว่ชานกลับว่ายเข้าไปในมิติช่องว่างของคนผู้นั้นด้วยความตั้งใจของพวกมันเอง

โหยว่ชานตกใจมาก “เกิดสิ่งใดขึ้น? สัตว์อสูรบรรพกาลที่มีเกล็ดสีทองตัวเล็กๆนั่นคือปลามังกรงั้นหรือ? ปลามังกร…ทอง? อย่าบอกว่าคนผู้นี้คือคู่ต่อสู้ของข้าในสวรรค์สีเหลือง? ตามคำกล่าวของวังสวรรค์ คนผู้นี้น่าจะเป็นฟางหยวน!?”

โหยว่ชานรู้สึกโกรธมาก

“ในที่สุดเจ้าก็มาที่นี่ ความพยายามของข้าไม่สูญเปล่าจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าชื่อฟางหยวน จำไว้ให้ดี!”

“สามารถรู้ชื่อข้าก่อนตาย นี่ถือเป็นความเมตตาจากข้า”

ฟางหยวนกล่าวขณะที่โลกทั้งใบเกิดการเปลี่ยนแปลง

ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะ!

โหยว่ชานและฉินไป่อี้ตกลงสู่กับดัก

ฉินไป่อี้และโหยว่ชานตกตะลึง พวกนางมองหน้ากันด้วยใบหน้าซีดเผือด

ฟางหยวนเป็นปีศาจร้ายที่มีพลังการต่อสู้ระดับแปด แต่เหตุใดเขาถึงอยู่ที่นี่?

เขาไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ในที่รกร้างบางแห่งเพื่อหลบหนีจากการไล่ล่าของวังสวรรค์งั้นหรือ?

เหตุใดเขาถึงกล้าหาญนัก? เหตุใดเขาถึงกล้าออกมา?

และเหตุใดเขาถึงหยิ่งยโสและโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้? เขากล้าบุกโจมตีอาณาเขตของผู้อมตะคนอื่นในเวลากลางวันอย่างโจ้งแจ้งงั้นหรือ!?

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท