เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1520 การเจรจาล้มเหลว

บทที่ 1520 การเจรจาล้มเหลว

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1520 การเจรจาล้มเหลว

แปลโดย iPAT

ฟางหยวนก่นเสียงเย็น เขามองฟางฮั่วเฉิงโดยไม่เกรงกลัว สายตาของเขาเย็นชาและมีทัศนคติที่ไม่ยอมถอย

ภายใต้การจ้องมองของทุกคน เขากล่าว “ข้า ซวนปู้จิน เป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา ข้าจะถูกหลอกง่ายๆได้อย่างไร? เหตุใดผู้อมตะตระกูลฟางถึงตกอยู่ในเงื้อมมือของผีเฒ่าไป่จุนในการต่อสู้ครั้งนี้? ตระกูลฟางของพวกเจ้านำคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดสองหลังออกมาพร้อมกับผู้อมตะอีกหลายคน ตั้งแต่เมื่อใดที่ตระกูลฟางสามารถระดมพลได้ตามต้องการ?”

หอดอกไม้ร่วงโรยเงียบลง

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนมีข้อมูลไม่เพียงพอ แต่ตอนนี้เขาสามารถอนุมานหลายสิ่งจากข้อมูลที่กระจัดกระจาย

การแสดงออกของฟางเฉินเปลี่ยนไป ดวงตาของเขากลายเป็นมืดมน

ฟางหยุนและฟางเล้งมองหน้ากันด้วยท่าทางอึดอัดใจ

ฟางฮั่วเฉิงหัวเราะเสียงดัง “สหายซวนปู้จิน เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง ข้าจะไม่ซ่อนมันจากเจ้า นี่เป็นแผนการของตระกูลฟางมาหลายชั่วอายุคน เราวางแผนที่จะยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหลังนี้ เราต้องได้รับมัน สหาย หากเจ้าช่วยเรา เราจะแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ดูนี่”

หลังกล่าวจบคำ เขาก็มอบวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์ให้กับฟางหยวน

ฟางหยวนตรวจสอบและพบว่ามันเป็นข้อตกลงพันธมิตร

กฎคือตราบเท่าที่ฟางหยวนช่วยเหลือตระกูลฟางยึดครองวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ ตระกูลฟางจะมอบวิญญาณอมตะระดับเจ็ดให้เขา เขาจะได้รับอนุญาตให้เลือกวิญญาณอมตะจากคลังเก็บสมบัติของตระกูล นอกจากนี้ยังมีทรัพยากรอมตะระดับหกและเจ็ดอีกจำนวนมาก

แน่นอนว่าการรักษาความลับคือประเด็นสำคัญที่สุด

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลเน้นย้ำเรื่องนี้ หากฟางหยวนไม่ตกลง ตระกูลฟางก็จะไม่บังคับเขา แต่เขาต้องจากไปและเก็บตัวอยู่อย่างเงียบๆเป็นระยะเวลาหนึ่ง

‘โอ้ วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์คือคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะบัวสวรรค์งั้นหรือ?’

‘ข้อมูลเกี่ยวกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้หายากมาก กระทั่งมรดกที่แท้จริงของนิกายเงาก็ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้’

‘ตระกูลฟางวางแผนมานานแล้ว พวกเขาต้องการยึดครองวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์มาตลอด’

‘พวกเขาใช้เวลา ทรัพยากร และกำลังคนมากมายเพื่อสิ่งนี้ แน่นอนว่าพวกเขาต้องเก็บมันไว้เป็นความลับ’

ฟางหยวนได้เรียนรู้หลายสิ่ง

ข้อตกลงการรักษาความลับไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ หากเป็นฟางหยวน เขาก็จะทำเช่นเดียวกัน

ตระกูลฟางพูดคุยกับฟางหยวนอย่างสุภาพและต้องการดึงเขาเข้าร่วมเพราะความแข็งแกร่งของเขาโดยเฉพาะเมื่อเขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่หายาก

ในเวลาเดียวกันเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นตระกูลฟางจึงต้องระวังเป็นพิเศษ พวกเขาต้องคิดอย่างรอบคอบกับทุกการเคลื่อนไหว แน่นอนว่าพวกเขาไม่ต้องการยั่วยุฟางหยวน

หากคนผู้นี้มีวิธีการพิเศษบางอย่างและทำลายแผนการของตระกูลฟาง พวกเขาจะทำอย่างไร?

ตอนนี้ปัญหาของฟางหยวนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการรักษาความลับแต่เขาจะได้รับสิ่งใดจากเหตุการณ์นี้

กำไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแน่นอนว่าเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่ต้องสงสัย

ฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ระดับแปด แม้เขาจะอยู่ในหอดอกไม้ร่วงโรยและถูกผู้อมตะตระกูลฟางปิดล้อม แต่เขาก็สามารถหลบหนีออกไปได้อย่างง่ายดาย

ในทางตรงข้ามหากเขาทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลฟางเพื่อวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ที่ยังไม่ได้รับ มันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่

ยังไม่ต้องกล่าวว่าฟางหยวนจะสามารถเอาชนะตระกูลฟางที่เตรียมตัวมาอย่างเพียงพอได้หรือไม่ กระทั่งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นเรื่องยากที่ฟางหยวนจะสามารถปราบปราม

นอกจากนั้นฟางหยวนยังต้องการแก่นแท้อสูรวิญญาณจำนวนมากจากทะเลทรายผีเขียวเพื่อบ่มเพาะจิตวิญญาณ

หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ฟางหยวนตัดสินใจที่จะเดินตามเกมส์ของพวกเขา มันเร็วเกินไปที่จะต่อต้านตระกูลฟางขณะที่ข้อตกลงพันธมิตรก็ไม่สามารถแก้ไข

แต่ฟางหยวนยังมีวิธียื้อเวลาและสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะชำระล้างตัวเองได้ในภายหลัง

ดังนั้นฟางหยวนจึงเปิดปากกล่าว “หากตระกูลฟางได้รับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ ความแข็งแกร่งของพวกเจ้าก็จะพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดของทะเลทรายตะวันตก แต่กระนั้นพวกเจ้าก็เสนอเพียงเมล็ดถั่วให้ข้าเท่านั้น นั่นไม่น้อยไปงั้นหรือ?”

หลังกล่าวจบคำ ฟางหยวนก็ทำลายวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลทิ้งไปทันที “ในความเป็นจริงข้าสามารถให้ความร่วมมือแต่สิ่งที่พวกเจ้าเสนอยังน้อยเกินไป”

ฟางฮั่วเฉิงเห็นความเย่อหยิ่งของฟางหยวน เขาคิด ‘ข้อมูลถูกต้อง คนผู้นี้เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและมั่นใจในตัวเอง!’

เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “สหาย นี่หมายความว่าเจ้าต้องการร่วมมือกับตระกูลฟางของเรา นั่นเป็นเรื่องที่ดี”

“ท้ายที่สุดแล้ววังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ก็มีต้นกำเนิดมาจากเทพอมตะบัวสวรรค์ มันเป็นตำนาน ข้าจะไม่เข้าร่วมในเหตุการณ์สำคัญนี้ได้อย่างไร? นอกจากนั้นหากข้าไม่เข้าร่วม ตระกูลฟางของเจ้าจะมั่นใจในตัวข้าได้อย่างไร?” ฟางหยวนกล่าว

ฟางฮั่วเฉิงชมเชย “ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเข้าใจอย่างชัดเจน เราไม่ใช่คนตระหนี่ เราสามารถเจรจาเงื่อนไขที่เจ้าต้องการ อย่างไรก็ตาม…ค่าตอบแทนต้องตรงกับคะแนนที่ได้รับ ข้าแน่ใจว่าเจ้าเห็นด้วยกับเรื่องนี้”

ฟางหยวนยิ้ม “แน่นอน เรามาตรวจสอบคะแนนกันเถอะ ประการแรก แม้ข้าจะไม่ทำสิ่งใดเลย การรักษาความลับก็เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือ พวกเจ้าต้องตอบแทนข้าในเรื่องนี้ ประการที่สอง ข้าช่วยฟางหยุนและฟางเล้ง แม้ข้าจะทำเรื่องนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่มันก็ถือเป็นการช่วยเหลือแผนการของพวกเจ้าอย่างไม่ต้องสงสัย ก่อนหน้านี้ข้าไม่ต้องการรางวัลใดๆ แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว นอกจากนั้นข้ายังถูกโจมตีและช่วยป้องกันหอดอกไม้ร่วงโรย ข้าต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งในการต่อสู้ที่อันตราย ข้าต้องการค่าตอบแทนสำหรับเรื่องนี้ สุดท้ายแม้หลังจากที่ข้าทุ่มเทความพยายามอย่างหนัก สมาชิกตระกูลฟางของเจ้ายังกล่าวหาและใส่ร้ายความตั้งใจที่ดีของข้า เขาทำให้ข้าเสียอารมณ์เป็นอย่างมาก ข้าต้องการให้ชดเชยเรื่องนี้เช่นกัน”

ฟางหยุนและฟางเล้งมึนงงเมื่อได้ยินคำกล่าวของฟางหยวน

‘เหตุใดมันถึงเกี่ยวข้องกับข้า?’ ฟางเล้งตะลึง ‘และ…ทำให้เสียอารมณ์ก็ต้องชดเชยด้วยงั้นหรือ?’

ใบหน้าของฟางฮั่วเฉิงกระตุก เขาได้เห็นแล้วว่าการเจรจากับผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก

ฟางหยวนระบุความต้องการมากมายขณะที่ฟางฮั่วเฉิงพยายามลดระดับความต้องการเหล่านั้น

แต่เขาจะแข่งขันกับฟางหยวนได้อย่างไร?

ฟางหยวนตั้งใจเรียกร้องด้วยเงื่อนไขที่ซับซ้อนและไร้เหตุผล หลังจากฟางฮั่วเฉิงเจรจาและเปลี่ยนคำศัพท์ ฟางหยวนจะกลับไปใช้คำก่อนหน้าและแก้ไขย้อนหลัง

การใช้วิธีนี้ทำให้ฟางฮั่วเฉิงสับสนกับการเปลี่ยนแปลงและไม่สามารถเจรจาต่อไป

แต่ฟางหยวนไม่ยอมปล่อยเขาไป เขายังเดินหน้าเรียกร้องอย่างไม่หยุดยั้ง

ในที่สุดการเจรจาก็จบลง

“ข้าไม่สามารถยอมรับเงื่อนไขนี้ สหายซวนปู้จิน เจ้าลองพิจารณาดู ข้าจะอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะกรงสัตว์อสูร หลังจากเจ้าได้ข้อสรุปแล้ว เราจะสร้างข้อตกลงพันธมิตร” เขาจากไปด้วยใบหน้ามืดมน

ฟางฮั่วเฉิงกลับไปยังกรงสัตว์อสูร

การเจรจาล้มเหลว!

ฟางเฉินชำเลืองมองฟางหยวนด้วยสายตาพึงพอใจ

ฟางหยุนและฟางเล้งมีความรู้สึกที่ซับซ้อน ฟางหยวนเป็นผู้มีพระคุณของพวกเขา แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของตระกูล ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจเงียบและไม่กล่าวสิ่งใด

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง ฟางฮั่วเฉิงกล่าวว่าเขาไม่สามารถยอมรับได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าตระกูลฟางจะไม่สามารถยอมรับ เรื่องนี้สำคัญเกินไป ฟางฮั่วเฉิงจากไปเพราะเขาไม่สามารถเอาชนะฟางหยวนด้วยคำพูด ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนกลยุทธ์

‘หึหึ ตระกูลฟางต้องการวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่ามันจะสำเร็วหรือล้มเหลว ข้าก็ต้องได้รับประโยชน์จากข้อตกลงพันธมิตร ประการแรก มันเป็นการแสดงความจริงใจของข้า ประการที่สอง แม้ข้าจะไม่ได้รับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิื แต่ข้าก็ต้องได้ค่าชดเชยที่เหมาะสม’

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สามของตระกูลฟางจากไปแล้ว แต่ฟางหยวนไม่รู้สึกร้อนรน

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งคือผู้ปกครองสูงสุดของตระกูลฟางขณะที่ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองคือนักวางยุทธศาสตร์ นี่คือสองคนที่มีอำนาจที่แท้จริง ฟางหยวนต้องการสร้างข้อตกลงกับพวกเขา

‘ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลฟางเป็นผู้อมตะระดับแปดขณะที่ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองฟางตี้เฉิงเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญา แต่เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด คนที่จะมาเจรจากับข้าควรจะเป็นเขา’

ดังคาด ครู่ต่อมาคฤหาสน์วิญญาณอมตะอู่เรือพิพากษาก็บินเข้ามาใกล้

ฟางฮั่วเฉิงบินจากกรงสัตว์อสูรไปยังอู่เรือพิพากษาเพื่อพบกับผู้อมตะผู้หนึ่ง “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองเป็นอย่างไรบ้าง?”

ฟางตี้เฉิงกล่าว “วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เร็วมาก เราตามมันไม่ทัน แต่เราใช้วิธีติดตามการเคลื่อนไหวของมันแล้ว มันไม่สามารถหลบหนีไปจากพวกเรา ตอนนี้เราต้องซ่อมแซมหอดอกไม้ร่วงโรยและรวมคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามเข้าด้วยกันเพื่อสร้างท่าไม้ตายเขตแดนอมตะเขาวงกตดอกท้อเพื่อดักจับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์’

ฟางฮั่วเฉิงรายงาน “ซวนปู้จินเป็นคนที่รับมือได้ยาก การเจรจาของเราล้มเหลว”

“เช่นนั้นหรือ?” ฟางตี้เฉิงยิ้ม ดวงตาของเขาส่องประกายขึ้น

ฟางฮั่วเฉิงเผยรอยยิ้มขมขื่น “เขาไหลลื่นมาก คำกล่าวของเขาเต็มไปด้วยกับดัก ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่เขาอยู่ในหอดอกไม้ร่วงโรย สถานที่แห่งนั้นถูกแยกออกจากโลกภายนอก แม้เขาจะสร้างเงื่อนไขที่ไร้สาระ แต่เขาก็ต้องการสร้างข้อตกลงพันธมิตรกับพวกเรา มันแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของเขา”

ฟางตี้เฉิงไตร่ตรอง “นี่อาจไม่ใช่ความจริงใจ เขาอาจกล้าหาญ ฟางอันเล่ยได้รับบาดเจ็บ เขาค่อนข้างน่าสงสัย แต่เพื่อแผนการของตระกูล เขาต้องอดทนในตอนนี้ อย่างไรก็ตามความอดทนอาจทำให้เกิดผลเสียที่ยิ่งใหญ่ หลังจากการเจรจาล้มเหลว คนผู้นี้ก็ยังคงอยู่ในหอดอกไม้ร่วงโรย เขาน่าจะรอให้ข้าไปเจรจากับเขา ได้ ข้าจะไปพบเขา”

หลังจากนั้นฟางตี้เฉิงก็บินมาพบฟางหยวนในหอดอกไม้ร่วงโรย

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน

ฟางตี้เฉิงสังเกตฟางหยวนและพยักหน้าอยู่ในใจ ‘มั่นใจและเย่อหยิ่ง เขาต้องมีแง่มุมที่ไม่ธรรมดา เพียงสามารถหลบหนีจากการโจมตีของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปัญยา ข้าจะดูแคลนเขาไม่ได้’

ฟางหยวนประเมินฟางตี้เฉิงที่ดูธรรมดาและคิด ‘คนผู้นี้คือฟางตี้เฉิง เขาปกปิดกลิ่นอายเอาไว้อย่างเต็มที่ แม้ข้าจะไม่รู้สึกถึงความพิเศษใดๆจากเขา แต่เขาต้องซ่อนบางสิ่งเอาไว้อย่างแน่นอน สมกับเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่’

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท