เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1528 อาภรณ์ภูตผี

บทที่ 1528 อาภรณ์ภูตผี

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1528 อาภรณ์ภูตผี

แปลโดย iPAT

ฟางตี้เฉิงตะลึง!

ฟางหยวนอยู่ในอัตลักษณ์ของซวนปู้จิน เขาป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แล้วเขาจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร?

แต่ฟางตี้เฉิงยังตอบด้วยรอยยิ้มสดใส “หากสหายต้องการสิ่งใดตอบแทน โปรดกล่าว”

เขาเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญา ไม่ว่าฟางหยวนจะมีแผนการใด เขาก็ต้องทดลอง และคำกล่าวของฟางหยวนก็ชัดเจนว่าเขาต้องการค่าตอบแทน

ฟางหยวนยิ้ม “นี่เป็นสถานการณ์เร่งด่วน เราไม่ควรเสียเวลาพูดคุย แต่วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด หากข้าช่วยให้พวกเจ้าได้รับมัน ค่าตอบแทนย่อมต้องเหมาะสมกับผลงานของข้า”

ฟางตี้เฉิงไม่ลังเล เขาป้องหมัดคำนับและกล่าวอย่างจริงจัง “สหาย ข้าขอรับประกันด้วยชื่อเสียงของข้าว่าตระกูลฟางจะตอบแทนเจ้าอย่างเหมาะสม!”

“เอาล่ะ เราจะทำข้อตกลงกัน” ฟางหยวนกล่าวและทำข้อตกลงกับตระกูลฟางอย่างรวดเร็ว

“โปรดเปิดทางออกอู่เรือพิพากษา ข้าจะออกไป” ฟางหยวนกล่าวอีกครั้ง

ฟางตี้เฉิงรู้สึกประหลาดใจ เขาคิดว่าฟางหยวนพบจุดอ่อนบางอย่างเพราะเขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา แต่ผู้ใดจะคิดว่าเขาจะลงมือด้วยตนเอง

การออกไปนอกคฤหาสน์วิญญาณอมตะหมายถึงอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ ผู้อมตะระดับแปดสามคนกำลังต่อสู้กันอยู่ มีความเสี่ยงสูงมากหากผู้อมตะระดับเจ็ดเข้าไปพัวพัน

ฟางตี้เฉิงลังเล “ข้างนอกไม่ปลอดภัย เหตุใดไม่ใช้นักรบบุปผาวายุเพื่อใช้วิธีการของเจ้า?”

ฟางหยวนหัวเราะ “ข้าต้องทำมันด้วยตัวเอง อย่ากังวล ข้าจะไม่ทำลายผลประโยชน์ของตระกูลฟาง”

ฟางตี้เฉิงไม่ได้กังวลเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อตกลงพันธมิตรก่อนหน้านี้หรือข้อตกลงใหม่ มีกฎที่กล่าวถึงมันอย่างชัดเจน

เมื่อฟางหยวนทำบางสิ่งที่ขัดแย้งต่อผลประโยชน์ของตระกูลฟาง มันจะเป็นการฝ่าฝืนกฎข้อบังคับ

แต่เนื่องจากฟางหยวนกล่าวเช่นนี้ ฟางตี้เฉิงก็ไม่สามารถหยุดเขาได้

ฟางหยวนบินเข้าสู่เขาวงกตดอกท้อ

ฟางตี้เฉิงเฝ้ามองฟางหยวน เขาอยากรู้ว่าฟางหยวนจะใช้วิธีใดเพื่อช่วยตระกูลฟาง

ในเวลาต่อมาดวงตาของฟางตี้เฉิงก็เบิกกว้างขึ้น

ฟางหยวนพุ่งเข้าไปในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

“เขาต้องการตายงั้นหรือ?” ผู้อมตะตระกูลฟางคิดได้เพียงเท่านี้

แต่ฟางหยวนเตรียมตัวมาแล้ว

ท่าไม้ตายอมตะอาภรณ์ภูตผี!

เขากระตุ้นใช้อาภรณ์วิญญาณและผนึกภูตผีพร้อมกัน นั่นทำให้กลิ่นอายของเขาเปลี่ยนแปลงไป

‘คนผู้นี้มาทำสิ่งใดที่นี่?’ ดวงตาของเฉินอี้ส่องประกายเย็นเยียบ

‘ผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้ทางแห่งปัญญา?’ ฟางกงจำฟางหยวนได้แต่เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดคนผู้นี้ถึงมาที่นี่

ทั้งสองฝ่ายระวังตัวแต่ยังไม่ได้โจมตี

ฟางกงได้รับรายงานจากฟางตี้เฉิงขณะที่เฉินอี้ตัดสินใจสังเกตการณ์ หากเขาโจมตีฟางหยวน ฟางกงอาจฉวยโอกาสโจมตีเขา

ฟางหยวนเข้าสู่วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์แต่ตัวตนระดับแปดทั้งสามยังให้สนใจการต่อสู้ของพวกเขามากกว่า

เฉินอี้ไม่ได้โจมตี นั่นทำให้ฟางหยวนสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาเพิ่มความเร็วและบินไปทางชิงโจว

“หือ?” เมื่อเห็นการกระทำของฟางหยวน การเคลื่อนไหวของเฉินอี้และฟางกงก็เริ่มช้าลง

“เขาพยายามทำสิ่งใด?” ผู้อมตะตระกูลฟางจ้องมองฟางหยวน

“ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญากำลังเข้าไปหากอสูรวิญญาณแรกกำเนิดในตำนาน นี่…” เมื่อเห็นการกระทำของฟางหยวน ผู้อมตะตระกูลฟางรู้สึกพูดไม่ออก

ชิงโจวคำราม

มันกระโจนเข้าหาฟางกง

มันคำรามอีกครั้ง

มันกระโจนเข้าหาเฉินอี้

ฟางหยวนบินเข้าไปหามันโดยตรงแต่มันกลับเพิกเฉยต่อเขาอย่างสมบูรณ์ราวกับมันไม่รู้สึกถึงการคงอยู่ของเขา

นี่เป็นผลกระทบจากท่าไม้ตายอมตะผนึกภูตผี

ตลอดเวลาที่ผ่านมาฟางหยวนไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะผนึกภูตผีเพราะเขาไม่มีท่าไม้ตายที่สามารถจับคู่กับมัน ก่อนหน้านี้ชิงโจวสามารถตรวจจับฟางหยวนเพราะเขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายในการต่อสู้และเปิดเผยตัวตนของตนเองออกมา

แต่ตอนนี้แตกต่างออกไป

หลังจากกลายเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งการโจรกรรม เขาสามารถทำความเข้าใจผนึกภูตผีและสามารถใช้ประโยชน์จากมัน

อาภรณ์ภูตผีเป็นผลลัพธ์จากการอนุมานของเขา

ตอนนี้เขารวมท่าไม้ตายอาภรณ์วิญญาณเข้ากับผนึกภูตผี ทั้งสองไม่แยกจากกันและไม่ขัดแย้งกันอีกต่อไป นี่ทำให้ชิงโจวไม่สามารถตรวจจับการคงอยู่ของเขา

เมื่อเห็นฟางหยวนยืนอยู่บนกระดองเต่าของชิงโจว ไม่ว่าจะเป็นผู้อมตะตระกูลฟางหรือสองผู้อมตะระดับแปด ทุกคนต่างตกตะลึง

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

“เขาเข้าประชิดตัวชิงโจวได้อย่างไร?”

“ชิงโจวเป็นอสูรวิญญาณแรกกำเนิดในตำนาน มันมีสติปัญญาและสามารถบ่มเพาะ!”

ผู้อมตะตระกูลฟางรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

แต่สิ่งที่ฟางหยวนทำต่อไปแทบจะทำให้ดวงตาของพวกเขาหลุดออกมาจากเบ้า

ท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจปล้นวิญญาณ!

ฟางหยวนยืนอยู่บนแผ่นหลังของชิงโจวและคว้ามันด้วยแขนขวา

เขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดแต่เขากลับกล้ายั่วยุตัวตนระดับแปด ผู้อมตะตระกูลฟางหลายคนมีสองความคิด

ความคิดแรกคือคนผู้นี้พยายามฆ่าตัวตายงั้นหรือ?

ความคิดที่สองคือแม้เขาจะหุนหันพลันแล่นแต่ความกล้าหาญของเขาก็น่ายกย่อง!

ชิงโจวคำราม

มันกระโจนเข้าหาฟางกง

ฟางกง “อีกแล้วงั้นหรือ?”

ชิงโจวคำราม

มันโจมตีเฉินอี้

เฉินอี้ “เจ้าโง่ มีคนอยู่ข้างหลังเจ้า!”

เฉินอี้รู้สึกผิดปกติ ตั้งแต่ฟางหยวนปรากฏตัว ทุกอย่างก็ดูแปลกประหลาด ดังนั้นเขาจึงตะโกนเตือนชิงโจว

ชิงโจวต้องการหันหลังกลับแต่มือปีศาจปล้นวิญญาณของฟางหยวนได้ทะลวงเข้าไปในร่างของมันแล้ว

อย่างไรก็ตามแม้ชิงโจวจะหันหลังกลับ มันก็ยังไม่พบการคงอยู่ของฟางหยวน

ในไม่ช้ามันก็คำรามและพุ่งเข้าโจมตีเฉินอี้ด้วยความโกรธที่ถูกหลอก

เฉินอี้ตะโกนด้วยความโกรธเช่นกัน “เจ้าโง่ หยุด!”

ฟางกงคิด ‘ซวนปู้จินผู้นี้ช่างน่าอัศจรรย์นัก เขาอยู่ที่นั่นแต่ชิงโจวกลับไม่พบเขา เขาใช้วิธีใด? ตอนนี้เขาอยู่บนแผ่นหลังของชิงโจว เป้าหมายของเขาย่อมไม่ง่าย เขาต้องการทำสิ่งใดกันแน่?’

ในเวลาต่อมาคำถามของฟางกงก็ได้รับคำตอบ

การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนไปเมื่อเขาดึงมือปีศาจปล้นวิญญาณออกมาจากร่างของชิงโจว

มือปีศาจปล้นวิญญาณราวกับจับบางสิ่งเอาไว้

‘ข้าทำได้แล้ว!’ ฟางหยวนมีความสุขมาก เขาเก็บมือปีศาจปล้นวิญญาณเข้าไปในมิติช่องว่างของตนเองอย่างรวดเร็ว

ร่างของชิงโจวสั่นสะท้านขึ้น กระดองเต่าของมันเริ่มแตกออก

ชิงโจวเป็นอสูรวิญญาณ มันไม่สามารถพ่นเลือดออกมา แต่ฉากนี้แสดงให้เห็นว่ามันได้รับบาดเจ็บสาหัส!

โกรธ! โกรธมาก!

ชิงโจวยกศีรษะขึ้นคำราม

เสียงคำรามของมันทำให้วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เริ่มสั่นสะเทือน

‘เกิดสิ่งใดขึ้น? ซวนปู้จินทำสิ่งใด?’

‘เจ้านั่นดูเหมือนจะนำบางอย่างไปจากมัน!’

ฟางกงและเฉินอี้เต็มไปด้วยความสงสัย

เฉินอี้ต้องการโจมตีฟางหยวนแต่ถูกปิดกั้นโดยฟางกง

“บึม!”

ในเวลาต่อมาชิงโจวก็ล้มลง

ฟางกงและเฉินอี้หลบออกไปอย่างรวดเร็ว

ชิงโจวคำราม “ผู้ใด? หนึ่งในพวกเจ้าสองคนขโมยวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณของข้าไป!”

“อันใด!?” เมื่อได้ยินคำกล่าวของชิงโจว ผู้อมตะทั้งหมดต่างประหลาดใจ

‘แท้จริงแล้วเขามีวิธีขโมยวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณระดับแปด! ไม่แปลกใจเลยที่เขาเลือกวิญญาณอมตะจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ก่อนหน้านี้ เขามีวิธีนี้อยู่จริงๆ!’ ดวงตาของฟางตี้เฉิงเบิกกว้างด้วยความตกใจ

‘คนผู้นี้ไม่ธรรมดา เขาซ่อนตัวเองอย่างมิดชิด เขาสามารถขโมยวิญญาณอมตะไปจากชิงโจวโดยตรงและมันยังเป็นวิญญาณอมตะระดับแปด!’ เรื่องนี้ทำให้เฉินอี้นึกถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์เทพปีศาจปล้นสวรรค์

‘คนผู้นี้ได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์งั้นหรือ?’ เฉินอี้คิดก่อนตะโกน “เจ้าโง่ ชิงโจว ข้าเตือนเจ้าแล้วว่ามีบางคนอยู่ข้างหลังเจ้า เราไม่ได้ขโมยมัน คนผู้นั้นอยู่ที่ประตู!”

ชิงโจวหันไปมองฟางหยวนที่กำลังบินออกจากวังแต่มันก็ไม่เห็นผู้ใด

ชิงโจวใช้ท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบ แต่มันก็ยังไม่พบฟางหยวน

ชิงโจวโกรธมากและคำรามไปที่เฉินอี้ “เจ้าคนขลาด ข้ามั่นใจว่าเจ้าคือหัวขโมยผู้นั้น!”

“เจ้าโง่!” เฉินอี้โกรธมากและเริ่มโจมตี

ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือดมากขึ้น ก่อนหน้านี้สามฝ่ายติดอยู่ในสภาวะชะงักงัน แต่หลังจากชิงโจวสูญเสียวิญญาณอมตะระดับแปด มันกลายเป็นบ้าและไม่สามารถระงับความโกรธ

ฟางกงรู้สึกว่าเรื่องนี้อาจไม่เป็นผลดีต่อวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ เขาเริ่มเกลี้ยกล่อมทั้งสองแต่มันไร้ประโยชน์ เฉินอี้ไม่ต้องการเผชิญหน้ากับความโกรธของชิงโจวเพียงลำพัง ดังนั้นเขาจึงบินเข้าไปหาฟางกงและเริ่มการต่อสู้สามทาง

สุดท้ายทั้งสามก็ต่อสู้กันอย่างไม่ยั้งมือ ท่าไม้ตายอมตะถูกกระตุ้นใช้งานอย่างต่อเนื่อง

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท