ภูเขาตงฮันเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพที่มีเพียงหนึ่งเดียวบนโลกใบนี้
วิญญาณความเด็ดเดี่ยวจากภูเขาตงฮันเป็นสินค้าผูกขาด ตราบเท่าที่มีดวงวิญญาณมากพอ มันจะกลายเป็นเหมืองทองคำอันไร้จุดสิ้นสุด
ด้วยเหตุนี้มูลค่าของมันจึงมหาศาล จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาต้องชดเชยค่าเสียหายให้ฟางหยวนสิบเท่าของมูลค่านี้
หากที่นี่เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์หรือถ้ำสวรรค์ทั่วไป มันอาจไม่สามารถจ่ายค่าชดเชยดังกล่าว แต่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีความสามารถเพียงพอที่จะจ่ายราคานี้
ย้อนกลับไปเมื่อฟางหยวนสร้างข้อตกลงกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา เขาจะไม่พิจารณาถึงประเด็นนี้ได้อย่างไร?
แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งของห้าภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือถูกทำลาย มันอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ฟางหยวนไม่สงสัยเลยว่ามันสามารถจ่ายค่าเสียหายให้เขาได้อย่างเต็มที่
ฟางหยวนกล่าวถึงวิญญาณสติปัญญาเป็นอันดับแรก “ข้าจะย้ายวิญญาณสติปัญญามาไว้ในมิติช่องว่างของข้า ดังนั้นข้าต้องการวิธีย้ายมันเป็นค่าชดเชยอันดับแรก”
วิธีนี้อยู่ในมรดกที่แท้จริงของนิกายหลางหยา ฟางหยวนพยายามมาตลอดเพื่อให้ได้รับมันมา แต่กระทั่งทั้งสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนมรดกที่แท้จริงกัน เขาก็ยังไม่ได้รับมัน
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเก็บวิธีนี้ไว้ลึกมาก เขาไม่ใช่คนโง่ หากเขาแลกเปลี่ยนวิธีนี้กับฟางหยวน มันไม่ได้หมายความว่าฟางหยวนจะสามารถนำวิญญาณสติปัญญาออกไปเช่นนั้นหรือ?
แม้วิญญาณสติปัญญาจะไม่รับคำสั่งและไม่ได้เป็นของนิกายหลางหยา แต่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนก็เป็นคนนำมันมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู
การแสดงออกของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเปลี่ยนไปทันที
ฟางหยวนกล่าวถึงเรื่องนี้โดยตรง มันเหมือนกับดาบที่แทงทะลุหัวใจของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับปาก
สิ่งที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาวางแผนมาตลอดคือการพยายามควบคุมวิญญาณสติปัญญาโดยการให้อาหารมันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะช่วยฟางหยวนเลี้ยงดูวิญญาณสติปัญญา
แต่น่าเสียดายที่จนถึงเวลานี้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก็ยังไม่บรรลุเป้าหมาย แผนการของเขาไม่ประสบความสำเร็จ
เมื่อฟางหยวนร้องขอสิ่งนี้และเอ่ยอ้างกรรมสิทธิ์ ความพยายามทั้งหมดของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงกลายเป็นสูญเปล่า
แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการ
แต่เขาไม่สามารถตอบโต้
ท้ายที่สุดแม้วิญญาณสติปัญญาจะเป็นวิญญาณป่าแต่มันก็ถูกนำมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ของฟางหยวน
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวอย่างลังเล “นั่น…จะดีหรือ? แท้จริงแล้วหากพวกเราสามารถควบคุมวิญญาณสติปัญญา พวกเราจะสามารถใช้มันเป็นแกนกลางของคฤหาสน์วิญญาณอมตะ ไม่เพียงเราจะสามารถป้องกันตัวเอง แต่มันยังสามารถต่อต้านการอนุมานจากผู้คนทั้งโลก!”
ฟางหยวนยิ้ม “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง แผนการของท่านก็ดีแต่มันยากมากที่จะทำได้จริง ท่านมีความมั่นใจที่จะดำเนินการตามแผนการนี้ได้ในเร็ววันนี้หรือไม่?”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเงียบ
ฟางหยวนกล่าวต่อ “สถานการณ์ปัจจุบันอันตรายมาก มันเป็นเรื่องยากที่ท่านจะปกป้องวิญญาณสติปัญญา ฟงจิวเก้อค้นพบมันแล้วซึ่งหมายความว่าวังสวรรค์จะรู้เรื่องนี้เช่นกัน พวกเขาย่อมไม่เต็มใจที่จะปล่อยมันไป เมื่อพวกเขาบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอีกครั้ง เราจะทำอย่างไรหากพวกเขาคว้าวิญญาณสติปัญญาไป”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถอนหายใจลึก
สิ่งที่ฟางหยวนกล่าวคือความจริง คฤหาสน์วิญญาณอมตะเป็นเพียงจินตนาการในขณะที่วังสวรรค์ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว
ในความเป็นจริงจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาได้ซ่อนวิญญาณสติปัญญาไว้อย่างสุดความสามารถแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใดเพราะวิธีการตรวจสอบของฟงจิวเก้อทรงพลังเกินไป
วิญญาณสติปัญญาเคยเป็นวิญญาณหลักของเทพอมตะกลุ่มดาว ตอนนี้มันถูกค้นพบแล้วและแน่นอนว่าวังสวรรค์จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ การโจมตีครั้งต่อไปของพวกเขาจะรุนแรงและอันตรายมากขึ้น
ฟางหยวนกล่าวถูกต้อง แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่เต็มใจที่จะล้มเลิกแผนการของเขา
ฟางหยวนกล่าวเสริม “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง คฤหาสน์วิญญาณอมตะเป็นความคิดที่ดีแต่มันก็มีข้อเสีย หากเราทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยากลายเป็นสถานที่สงบสุข แล้วผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนจะมีแรงจูงใจในการพัฒนาตนเองงั้นหรือ? พวกเราต้องการนำเผ่ามนุษย์ขนขึ้นสู่จุดสูงสุด หากพวกเราอนุญาตให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนอาศัยอยู่ภายใต้การคุ้มครองของคฤหาสน์วิญญาณอมตะ พวกเขาจะไม่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขตลอดไปงั้นหรือ?”
“หือ?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตะลึง คำกล่าวของฟางหยวนสมเหตุสมผล
ก่อนหน้านี้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนไม่เคยเผชิญหน้ากับภัยอันตรายใดๆ
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผมขาวปกป้องผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนมากเกินไปและทำให้พวกเขาแทบไม่มีพลังการต่อสู้ เมื่อนิกายเงาบุกเข้าโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา พวกเขาเกือบพ่ายแพ้
พวกเขาไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมได้
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาสูดหายใจลึกและหยักหน้า “ฟางหยวน ข้าจะยอมรับคำขอของเจ้า ข้าจะมอบวิธีทั้งหมดให้เจ้า จากค่าชดเชยภูเขาตงฮันสิบส่วน นี่เท่ากับหนึ่งส่วนของมัน”
“ตกลง” ฟางหยวนไม่สงสัยคำกล่าวของจิตวิญาณแผ่นดินหลางหยา
จิตวิญญาณแผ่นดินไม่สามารถโกหก
“ต่อไปข้าต้องการวิญญาณอายุยืน” ฟางหยวนกล่าวคำขอที่สอง
หากเขาเก็บวิญญาณสติปัญญาไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ เขาต้องแบกรับภาระเรื่องอาหารของมัน ฟางหยวนมีวิญญาณอายุยืนในคลังสมบัติของเขา แต่มันไม่ปลอดภัยที่จะพึ่งพาเพียงสิ่งที่เขามีอยู่
“ตกลง” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเห็นด้วยกับคำขอนี้อย่างมีความสุข
เขาเป็นจิตวิญญาณแผ่นดิน เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไปตราบเท่าที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยายังดำรงอยู่ ดังนั้นวิญญาณอายุยืนจึงไม่มีประโยชน์กับเขา
แน่นอนว่าผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนต้องใช้มันในการยืดอายุขัย อย่างไรก็ตามมนุษย์ขนมีอายุขัยมากกว่ามนุษย์ค่อนข้างมาก นอกจากนั้นการให้อาหารวิญญาณสติปัญญาก็มีความสำคัญมากกว่าการยืดอายุขัยของผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนอย่างเห็นได้ชัด
ฟางหยวนใช้ค่าชดเชยอีกส่วนหนึ่งเพื่อแลกเปลี่ยนกับวิญญาณอายุยืนจำนวนมาก
บรรพชนผมยาวเป็นบุคคลเมื่อสามแสนปีก่อน แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ดังนั้นคลังสมบัติของมันจึงเต็มไปด้วยวิญญาณอายุยืน
แม้ฟางหยวนจะนำวิญญาณอายุยืนส่วนใหญ่ไป แต่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยายังเหลือวิญญาณอายุยืนอีกมาก!
ฟางหยวนคำนวนว่าหากเขาใช้วิญญาณอายุยืนทั้งหมดกับตัวเขาเอง เขาจะสามารถยืดอายุของเขาได้มากกว่าสี่พันปี!
กระทั่งเทพปีศาจบัวแดงก็มีชีวิตอยู่เพียงสามพันปีเท่านั้น
นี่หมายความว่าหากฟางหยวนใช้วิญญาณอายุยืนเหล่านี้ เขาจะมีอายุยืนกว่าเทพปีศาจบัวแดง! แน่นอนว่ามันอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าเขาต้องไม่ถูกฆ่าตายในช่วงเวลานี้
วิญญาณอายุยืนเหล่านี้สามารถแก้ปัญญาเรื่องอาหารของวิญญาณสติปัญญาได้เป็นเวลานาน
ท่ามกลางผู้อมตะระดับเก้าทั้งหมด เทพปีศาจบัวแดงมีอายุขัยสั้นที่สุด เทพปีศาจไร้ขอบเขตและเทพปีศาจคลั่งมีชีวิตอยู่มากกว่าหกพันปี เทพปีศาจปล้นสวรรค์มีอายุมากกว่าเจ็ดพันปี และเทพอมตะตะวันเดือดมีอายุมากกว่าแปดพันปี สามคนที่อายุยืนที่สุดได้เข้าร่วมกับวังสวรรค์ เทพอมตะบัวสวรรค์มีชีวิตอยู่มากกว่าหนึ่งหมื่นสองพันปี เทพอมตะกลุ่มดาวอยู่นานกว่าหนึ่งหมื่นเก้าพันปี และเทพอมตะแรกกำเนิดมีอายุเกินสองหมื่นห้าพันปี เขาเป็นผู้อมตะระดับเก้าคนแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติและมีอายุยาวนานที่สุด
‘เทพอมตะและเทพปีศาจทั้งหมดมีอายุขัยที่ยาวนาน แต่ในประวัติศาสตร์ ผู้อมตะระดับแปดและผู้อมตะระดับเจ็ดก็มีชีวิตยืนยาวเช่นกัน บางคนถึงกับมีชีวิตอยู่หลายพันปี’
‘แต่ด้วยสงครามห้าภูมิภาคที่กำลังจะมาถึง ยุคที่ยิ่งใหญ่กำลังจะเปิดม่าน วิญญาณอายุยืนจะหายากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทพอมตะแห่งความฝันปรากฏตัวขึ้น วิญญาณอายุยืนจะยิ่งหายาก โลกจะไม่ผลิตมันขึ้นมาอีกนาน’
ฟางหยวนครุ่นคิด วิญญาณอายุยืนมีค่ามหาศาลและมูลค่าของมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป
ตามบันทึกในประวัติศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญและสัตว์ประหลาดเฒ่ามากมายยอมจ่ายด้วยทุกสิ่งเพื่อยืดอายุของพวกเขาแม้จะเป็นเวลาเพียงสองสามวันก็ตาม
วิญญาณอายุยืนเป็นเพียงวิญญาณระดับมนุษย์แต่มีตัวอย่างมากมายในประวัติศาสตร์ที่มันถูกแลกเปลี่ยนกับวิญญาณอมตะ
ค่าชดเชยของฟางหยวนถูกคำนวณโดยจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตามมูลค่าในปัจจุบันของมัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฟางหยวนเสนอราคาที่ถูกมาก
นอกจากวิญญาณอายุยืน ฟางหยวนยังใช้ค่าชดเชยแลกเปลี่ยนกับแต้มผลงานของนิกายหลางหยารวมถึงวิญญาณอมตะทาสสัตว์อสูร
ฟางหยวนเคยยืมวิญญาณอมตะทาสสัตว์อสูรมาก่อนหน้านี้และมันมีประโยชน์มาก
สำหรับวิญญาณบัวสวรรค์อมตะ มันไม่ใช่เรื่องง่าย ฟางหยวนรู้ว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะไม่แลกเปลี่ยนกับวิญญาณอมตะดวงนี้
ดังนั้นจากค่าชดเชยสิบส่วนของภูเขาตงฮันยังเหลืออยู่อีกเจ็ดส่วน
ตอนนี้ฟางหยวนกำลังจะร้องขอสิ่งที่ยิ่งใหญ่
“ข้าต้องการใช้ค่าชดเชยนี้เพื่อแลกเปลี่ยนกับบางสิ่งในนิกาย” ฟางหยวนกล่าวกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากลายเป็นเคร่งเครียด เขาเร่งถาม “อา…เจ้าต้องการแลกเปลี่ยนสิ่งใด?”