เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1578 พลังโจมตีระดับแปดของฟางหยวน

บทที่ 1578 พลังโจมตีระดับแปดของฟางหยวน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1578 พลังโจมตีระดับแปดของฟางหยวน

“ผู้ใดจะคิดว่าวันหนึ่งข้าจะได้วิญญาณท่องแดนอมตะกลับมา!” ฟางหยวนถอนหายใจขณะที่เขามองวิญญาณอมตะที่มือปีศาจปล้นวิญญาณปล้นชิงมา

“โอ้ มันถูกเลื่อนเป็นระดับเจ็ดแล้วจริงๆ นี่คือสิ่งที่ข้าเคยอนุมานมาก่อนหน้านี้” ฟางหยวนลอบมีความสุข

แม้เขาจะมีค่ายกลวิญญาณทองรอบทิศซึ่งสามารถใช้แทนวิญญาณท่องแดนอมตะได้ในระดับหนึ่ง แต่มันยังมีข้อบกพร่องมากมาย มันต้องใช้ผู้อมตะสี่คนในการกระตุ้นใช้งาน นอกจากนี้ระยะทางที่มันสามารถขนส่งยังสั้นกว่าวิญญาณท่องแดนอมตะที่สามารถเดินทางไปได้ทั่วโลก

วิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดยังอยู่ในรูปลักษณ์เดียวกับระดับหก

ตอนนี้มันกําลังดิ้นรนอยู่ในมือปีศาจปล้นวิญญาณแต่มันก็ไม่สามารถขยับเขยื้อน

มือปีศาจปล้นวิญญาณบินลงไปยังยอดเขาผนึกสวรรค์ในภาคใต้น้อยที่มีค่ายกลวิญญาณอมตะจัดตั้งอยู่

เมื่อมือปีศาจปล้นวิญญาณมาถึง มันก็ปล่อยวิญญาณท่องแดนอมตะเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณ

ค่ายกลวิญญาณนี้ใช้วิญญาณอมตะสองดวงเป็นแกนกลางได้แก่วิญญาณรักตัวเองและวิญญาณความใคร่ พลังอํานาจของมันคือการช่วยมือปีศาจปล้นวิญญาณปรับแต่งวิญญาณอมตะที่ขโมยมาอย่างรวดเร็ว

แม้ฟางหยวนจะสามารถใช้ประโยชน์จากแม่น้ำหวนคืนได้เช่นกัน แต่เขาต้องการเก็บมันไว้ใช้สร้างเกราะหวนคืนในการต่อสู้

ฟางหยวนเคยประสบความสําเร็จในการใช้วิญญาณอมตะรักตัวเองและวิญญาณอมตะความใคร่เพื่อปรับแต่งวิญญาณอมตะของคนอื่นๆมาแล้ว

แผนเดิมของเขาคือการผสานวิญญาณอมตะรักตัวเองและวิญญาณอมตะความใคร่ไว้ในมือปีศาจปล้นวิญญาณเพื่อปรับแต่งวิญญาณอมตะที่ขโมยมาทันที

สิ่งนี้อาจดูเหมือนไม่จําเป็น แต่นั่นไม่เป็นความจริง

หากฟางหยวนสามารถปรับแต่งวิญญาณที่ขโมยมาได้ทันที มือปีศาจปล้นวิญญาณก็ไม่จําเป็นต้องผนึกวิญญาณอมตะและนํามันกลับมาหาฟางหยวน มันจะสามารถขโมยวิญญาณอมตะได้อย่างต่อเนื่อง

หลังจากนําวิญญาณท่องแดนอมตะเข้าสู่ภูเขาผนึกสวรรค์ มันก็ถูกผนึกและปรับแต่งทันที

ฟางหยวนมองไปที่ฟงจิวเก้ออีกครั้ง

ตอนนี้ฟงจิวเก้อตื่นตัวมาก เขาแสดงออกด้วยความเคร่งขรึม ความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อถูกซ่อนไว้ในดวงตาของเขา

“ฟางหยวนมีวิธีขโมยวิญญาณอมตะของผู้อื่นจริงๆ แม้มันจะอยู่ในมิติช่องว่างก็ยังไม่รอด เขาได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์งั้นหรือ?”

สิ่งนี้ทําให้ฟงจิวเก้อรู้สึกถึงภัยคุกคามร้ายแรง

คลื่นเสียงที่เขาเคยใช้บังคับมือปีศาจปล้นวิญญาณให้เผยตัวถูกใช้งานอีกครั้งเพื่อเฝ้าระวัง

ท่านี้น่ากลัวเกินไป หากวิญญาณอมตะที่ถูกขโมยไปก่อนหน้านี้เป็นวิญญาณอมตะหลักของท่าไม้ตายอมตะขยายเสียงสามเท่าของข้า ท่าไม้ตายของข้าจะล้มเหลว มันจะทําให้ข้าได้รับผลกระทบย้อนกลับและได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที!”

ฟงจิวเก้อรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยแต่ยังมีความกลัวซ่อนอยู่

ฟางหยวนรู้สึกเสียดายแต่มือปีศาจปล้นวิญญาณไม่สามารถเลือกเป้าหมาย หากเขาสามารถขโมยวิญญาณอมตะที่สําคัญของฟงจิวเก้อเช่นเมื่อครั้งที่เขาต่อสู้กับเมิ้งตู๋ ท่าไม้ตายอมตะของฟงจิวเก้อจะล้มเหลว เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสและสามารถถูกสังหารได้อย่างรวดเร็ว

แม้ฟางหยวนจะประสบความสําเร็จในการขโมยวิญญาณอมตะครั้งแรกแต่ตอนนี้ฟงจิวเก้อระวังตัวมากขึ้นแล้ว เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสงเพื่อย้ายตําแหน่งอย่างไม่หยุดยั้ง ในเวลาเดียวกันเขาก็ปลดปล่อยคลื่นเสียงออกมาตลอดเวลาโดยไม่คํานึงถึงค่าใช้จ่าย สําหรับท่าไม้ตายอมตะขยายเสียงสามเท่า ฟงจิวเก้อหยุดใช้มันแล้ว เขามุ่งเน้นไปที่การหลบหนีเท่านั้น

หลังจากร่างจริงของฟางหยวนถูกเปิดเผย เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยอีกครั้งเพื่อลอบเคลื่อนที่เข้าไปใกล้ฟงจิวเก้อ

สิ่งนี้สร้างแรงกดดันทางจิตใจต่อฟังจิวเก้อเป็นอย่างมาก

แต่ฟางหยวนก็ไม่รู้สึกดีเช่นกัน

ฟงจิวเก้อไหลลื่นเกินไป เขายังเคลื่อนที่ไปรอบๆ และไม่เปิดโอกาสให้ฟางหยวนสามารถโจมตี

“ดูเหมือนข้าต้องใช้ความพยายามบางอย่างในการปกปิดมือปีศาจปล้นวิญญาณ” ฟงจิวเก้อมีวิธีบังคับให้มือปีศาจปล้นวิญญาณเผยตัว สิ่งนี้ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของฟางหยวน แต่มันก็ทําให้เขานึกไปถึงมือปีศาจไร้ลักษณ์

เทพปีศาจปล้นสวรรค์มีท่าไม้ตายสองท่าในการปล้นวิญญาณ เขาสามารถสลับระหว่างท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจปล้นวิญญาณกับท่าไม้ตายมือปีศาจไร้ลักษณ์ เขาสามารถเปลี่ยนมือปีศาจปล้นวิญญาณให้กลายเป็นมือภูตผีที่ไร้ตัวตน ด้วยวิธีนี้คลื่นเสียงของฟงจิวเก้อจะกลายเป็นไร้ประโยชน์ นอกจากนั้นท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจไร้ลักาณ์ที่ปราศจากกายหยาบยังมีความรวดเร็วเหนือกว่า เมื่อเทพปีศาจปล้นสวรรค์ใช้สิ่งนี้ คู่ต่อสู้ของเขาสามารถทําได้เพียงมองวิญญาณอมตะของพวกเขาถูกขโมยไปทีละดวงเท่านั้น พวกเขาจะกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธและรู้สึกช่วยไม่ได้

แต่มือปีศาจปล้นวิญญาณของฟางหยวนเป็นเพียงร่องรอยแห่งความรุ่งโรจน์เล็กๆของเทพปีศาจจิตวิญญาณเท่านั้น

อย่างไรก็ตามมันก็ยังทําให้ฟงจิวเก้อผู้ยิ่งใหญ่รู้สึกกระวนกระวายใจและหลบหนีด้วยความวิตกกังวล

ฟางหยวนบังคับฟงจิวเก้อให้เคลื่อนย้ายสถานที่ไปรอบๆ แต่เขาไม่รู้สึกเย่อหยิ่งกับความสําเร็จ เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่า เพื่อคว้าความหวังที่จะได้รับชัยชนะ มีเพียงต้องสังหารฟงจิวเก้อและออกไปช่วยแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอย่างเร่งด่วนที่สุดเท่านั้น

แต่ฟังจิวเก้อไม่ให้โอกาสฟางหยวน เขาเคยเป็นปีศาจอมตะที่สร้างความปั่นป่วนให้กับสิบนิกายโบราณของภาคกลาง เขามีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปขีดจํากัดด้านเวลาของท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสงก็มาถึง

“โอกาสมาแล้ว!” ฟางหยวนรู้สึกทั้งกังวลและมีความสุข เขากังวลเพราะเขาเสียเวลาไปมากแต่ฟงจิวเก้อยังมีชีวิตอยู่ เขามีความสุขเพราะข้อบกพร่องของฟงจิวเก้อปรากฏขึ้นในที่สุด

หัวใจของฟงจิวเก้อจมดิ่งลง

ในอดีตการโจมตีที่รุนแรงของเขาทําให้ศัตรูหมดหนทาง หลังจากที่เขากลายเป็นคนมีชื่อเสียง เขาไม่เคยเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ผู้อมตะระดับเจ็ดไล่ล่าชีวิตเขา

ตอนนี้เมื่อเขาได้สัมผัสประสบการณ์นี้จากฟางหยวน ในที่สุดเขาก็จดจําจุดอ่อนของตนเองได้ นั่นคือวิธีการเคลื่อนไหว

เมื่อท่าไม้ตายอมตะทางผ่านแสงไม่สามารถใช้งาน ความเร็วของฟงจิวเก้อจะลดลงอย่างมาก ในไม่ช้าเขาจะถูกกองทัพบุตรแห่งภูตปิดล้อมและไม่สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดายอีกต่อไป

ฟงจิวเก้อถูกบังคับให้ปกป้องตัวเอง แม้ท่าไม้ตายอมตะของเขาจะทรงพลังแต่กองทัพบุตรแห่งภูตมีมากเกินไปและยังพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง

ฟางหยวนซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางพวกมันอย่างสมบูรณ์แบบ มือปีศาจปล้นวิญญาณพร้อมโจมตีทุกเมื่อที่ฟงจิวเก้อเผยช่องโหว่

แต่ในเวลานี้สนามรบราชันภูตกลับเกิดการสั่นสะท้านขึ้นอย่างกะทันหัน

“โอ้ ไม่!” การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนแปลงไป

“ท่านหญิงจื่อเว่ยต้องเป็นคนทําสิ่งนี้” ฟงจิวเก้อมีความสุขมาก

สนามรบราชันภูตสั่นสะเทือนแรงขึ้นเรื่อยๆ การเคลื่อนไหวของเทพธิดาจื่อเว่ยมีประสิทธิภาพสูงมาก

“เวลาสั้นๆแต่เทพธิดาจื่อเว่ยกลับสามารถถอดรหัสสนามรบราชันภูตของข้า ด้วยความเร็วนี้ สนามรบราชันภูตไม่สามารถอยู่ได้นานเกินสามสิบลมหายใจ ข้าต้องได้รับชัยชนะเดี๋ยวนี้!”

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายด้วยความโหดเหี้ยม

ข้าเก็บสิ่งนี้ไว้สําหรับเทพธิดาจื่อเว่ยและคนอื่นๆ แต่ตอนนี้ข้าจะใช้มันกับเจ้าเป็นคนแรก!” ฟางหยวนไม่มีเวลาแล้ว หากสนามรบราชันภูตถูกทําลาย เขาจะเสียโอกาสสังหารฟงจิวเก้อ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้ไพ่ตายใบนี้

ท่าไม้ตายอมตะระเบิดวิญญาณ!

มันยังเป็นการระเบิดวิญญาณ อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่ได้จุดชนวนบุตรแห่งภูตบรรพกาลแต่เป็นบุตรแห่งภูตแรกกําเนิด!

ฟางหยวนมีอสูรวิญญาณแรกกําเนิดสองตัว ก่อนหน้านี้เขาเปลี่ยนอสูรวิญญาณแรกกําเนิดทั้งสองตัวให้เป็นบุตรแห่งภูตเช่นกัน

นี่เป็นสิ่งที่ฟางหยวนเก็บเอาไว้เป็นไพ่ตาย

การระเบิดวิญญาณของบุตรแห่งภูตบรรพกาลมีพลังทําลายล้างระดับเจ็ดขณะที่การระเบิดวิญญาณของบุตรแห่งภูตแรกกําเนิดมีพลังทําลายล้างระดับแปด

แม้ฟางหยวนจะยังไม่ประสบความสําเร็จในการคิดค้นท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโป แต่เขายังมีวิธีการโจมตีระดับแปดซ่อนอยู่!

“บึม!”

บุตรแห่งภูตแรกกําเนิดระเบิดวิญญาณ!

ฟงจิวเก้อถูกโจมตีโดยตรง

กระเด็น!

ในบางพื้นที่ของภาคกลาง ฟงจินฮวงตกอยู่ในความงุนงง ถ้วยชาในมือของนางตกลงบนพื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

“หือ?” ราชันมังกรส่งสายตาถาม

ฟงจินฮวงจับหน้าอกของนางด้วยความไม่แน่ใจ เมื่อครู่นางรู้สึกราวกับหัวใจหล่นหายไปอย่างกะทันหัน

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท