เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1590 เทือกเขาไผ่เมฆา

บทที่ 1590 เทือกเขาไผ่เมฆา

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1590 เทือกเขาไผ่เมฆา

“มานี่!” ฟางหยวนลอยอยู่กลางอากาศขณะเปิดทางเข้ามิติช่องว่างของเขา

วิญญาณสัมผัสใจปาจํานวนนับไม่ถ้วนถูกดึงเข้าไปโดยไม่สามารถต่อต้าน

กระบวนการนี้กินเวลาหลายนาทีเนื่องจากมีวิญญาณสัมผัสใจปาอยู่เป็นจํานวนมาก

ฟางหยวนประเมิน วิญญาณสัมผัสใจระดับห้ามากกว่าสามพันดวงระดับสีประมาณห้าหมื่นดวงและระดับต่ํากว่านั้นอีกมากกว่าหนึ่งล้านดวง

วิญญาณสัมผัสใจเป็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งปัญญาที่สามารถขโมยสมาธิของคู่ต่อสู้ มันจะทําให้พวกเขามีนงงและสูญเสียความสามารถในการคิด หากใช้มันร่วมกับวิญญาณดวงอื่น มันอาจกลายเป็นท่าไม้ตายที่มีประโยชน์ในการต่อสู้ วิธีพื้นฐานที่สุดคือใช้มันสนับสนุนวิธีบนเส้นทางแห่งทาสเพื่อเพิ่มความสามารถในกดขี่ แน่นอนว่าผู้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปัญญาก็ใช้มันเช่นกันแต่ผู้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปัญญาหายากเกินไป

ผู้ใช้วิญญาณมักประสบปัญหาเกี่ยวกับการเลี้ยงดูวิญญาณ โดยทั่วไปพวกเขาจะเลี้ยงดูวิญญาณไม่เกินสิบดวงและเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะใช้วิญญาณหลายดวงพร้อมกันเพื่อสร้างท่าไม้ตาย สําหรับผู้อมตะ พวกเขาสามารถเลี้ยงและใช้วิญญาณระดับมนุษย์ได้นับแสนดวงในครั้งเดียว มีเพียงวิญญาณอมตะเท่านั้นที่ยากจะครอบครอง

สถานการณ์ของฟางหยวนเป็นข้อยกเว้นที่หาได้ยาก

“ทะเลสาบสัมผัสใจเป็นแหล่งทรัพยากรขนาดกลาง ข้าโจมตีและทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะขณะที่ผู้อมตะที่ปกป้องมันหลบหนีโดยไม่ทําลายวิญญาณสัมผัสใจเหล่านี้ นี่คือเหตุผลที่ข้าได้รับความมั่งคั่งนี้

หากผู้อมตะที่ปกป้องแหล่งทรัพยากรนี้ทําลายวิญญาณสัมผัสใจก่อนออกเดินทาง ผลประโยชน์ของฟางหยวนจะลดลงอย่างมาก

เหตุผลเป็นเพราะพวกเขาต้องใช้ความพยายามทั้งหมดในการต่อต้านฟางหยวน พวกเขาไม่สามารถให้ความสนใจกับสิ่งอื่น เมื่อพวกเขาจากไป พวกเขาก็ไม่มีวิธีจัดการและไม่กล้าทําลายสถานที่แห่งนี้

หลังจากเก็บเกี่ยววิญญาณสัมผัสใจ ฟางหยวนบินลงไปที่ทะเลสาบ

วิญญาณอมตะดึงแม่น้ํา

เขานําทะเลสาบสัมผัสใจเข้าสู่มิติช่องว่างจักรพรรดิโดยตรง

ทะเลสาบแห่งนี้เต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปัญญา เส้นทางแห่งปฐพี เส้นทางแห่งวารี เส้นทางแห่งไม้ และเส้นทางอื่นๆ อย่างไรก็ตามเส้นทางแห่งปัญญามีมากที่สุด

ฟางหยวนนําทะเลสาบสัมผัสใจออกไปแต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งบัญญาส่วนใหญ่ยังถูกทิ้งไว้บนภูเขา

“น่าเสียดายที่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งปัญญาส่วนใหญ่อยู่บนพื้นดิน” ฟางหยวนถอนหายใจ

แต่ไม่มีสิ่งใดที่เขาสามารถทําได้

แม้เขาจะมีวิญญาณอมตะยกภูเขา แต่มันมุ่งเน้นไปที่ภูเขาไม่ใช่พื้นดิน

“ข้าจะนําหินเหล่านี้ไป” ริมทะเลสาบสัมผัสใจเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปัญญา หินเหล่านี้เป็นทรัพยากรชั้นยอด ฟางหยวนต้องนําพวกมันไป

เขาขโมยทุกสิ่งที่สามารถขโมยได้

หลังจากชั่วครู่เขาก็ใช้วิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดเพื่อออกจากสถานที่แห่งนี้และทิ้งเพียงแหล่งทรัพยากรที่ว่างเปล่าเอาไว้

ฟางหยวนกําลังถูกไล่ล่า เขาไม่สามารถอยู่ที่เดิมได้เป็นเวลานาน มิฉะนั้นศัตรูจะสามารถปิดล้อมและวางแผนโจมตีเขา

ก่อนหน้านี้ที่รอยแยกปล้นเงา เขาถูกปิดกั้นโดยค่ายกลวิญญาณอมตะ แต่เขาเลือกล่าถอยอย่างชาญฉลาดมันไม่ใช่เพราะเขาตระหนักถึงแผนการของชื่อชิวหยู

ฟางหยวนใช้วิญญาณท่องแดนอมตะข้ามผ่านระยะทางมหาศาลเพื่อไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่ง

มันเป็นเทือกเขาสูงตระหง่านที่เต็มไปด้วยป่าไผ่ ต้นไผ่แต่ละต้นมีขนาดใหญ่โตผิดปกติ ใบไผ่เป๊นรูปสามเหลี่ยม ฐานยาวปลายแหลม มนุษย์มักใช้ใบไผ่เหล่านี้สร้างหอกอันแหลมคม นี่เป็นสาเหตุที่มันถูกเรียกว่าไผ่หอก

ป่าไผ่หอกครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของเทือกเขา สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งมากมายอาศัยอยู่ที่นี่ ส่วนใหญ่เป็นสิ่งมีชีวิตบนเส้นทางแห่งเมฆาเช่นจิ้งจอกเมฆาที่มีร่างกายสีขาวราวหิมะและสามารถลอยอยู่ในอากาศได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ตอนนี้ฟางหยวนเห็นฝูงจิ้งจอกเมฆากําลังบินเล่นอย่างมีความสุขอยู่ในป่าไผ่ มันเป็นฉากที่สงบสุข

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น นี่คือเทือกเขาไผ่เมฆา แหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ในการปกครองของตระกูลจือ”

กองกําลังใหญ่ของทั้งห้าภูมิภาคมีแหล่งทรัพยากรในการปกครองของตนเอง แหล่งทรัพยากรถูกแบ่งออกเป็นแหล่งทรัพยากรขนาดจิ๋ว ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ และขนาดยักษ์

ทะเลปลามังกรในมิติช่องว่างของฟางหยวนถือเป็นแหล่งทรัพยากรขนาดยักษ์ มันสามารถผลิตปลามังกรทองแดง ปลามังกรเหล็กไหล ปลามังกรเงิน และปลามังกรทอง ตอนนี้มันกลายเป็นแหล่งรายได้ที่สําคัญที่สุดของเขาไปแล้ว

“โอ้ ไม่ ปีศาจฟางหยวนอยู่ที่นี่!”

“รอยแยกปล้นเงาถูกโจมตี ตามมาด้วยทะเลสาบสัมผัสใจ ตอนนี้เขายังมาที่เทือกเขาไผ่ เมฆาเห้อ…”

ผู้อมตะระดับหกทั้งสองคนของตระกูลจือที่ปกป้องสถานที่แห่งนี้รู้สึกสับสนเมื่อเห็นฟางหยวน

ฟางหยวนใช้วิญญาณท่องแดนอมตะมาที่นี่โดยไม่ปกปิดตัวตน นี่ทําให้สองผู้อมตะตระกูลอสังเกตเห็นทันที

ผู้อมตะทั้งสองอยู่ลึกเข้าไปในเทือกเขาโดยมีป่าไผ่หอกอยู่รอบๆ

ภายในป่าไผ่หอกขนาดใหญ่แห่งนี้มีวิญญาณอมตะปาดวงหนึ่งกําลังถือกําเนิดขึ้น

สองผู้อมตะตระกูลจือกําลังเฝ้ามองมัน นี่เป็นสิ่งสําคัญที่สุดของเทือกเขาไผ่เมฆา

“ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม!”

ฟางหยวนสะบัดมือส่งควันสีดําออกไป สองผู้อมตะตระกูลจื้อถอนหายใจและกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะเพื่อต่อต้านการโจมตีของฟางหยวน

ตระกูลจือมีความเชี่ยวชาญด้านค่ายกลวิญญาณมากที่สุด ขณะที่ชื่อชิวหยูเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกลที่สามารถใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าตามธรรมชาติเพื่อสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะ

ดังนั้นแหล่งทรัพยากรทั้งหมอของตระกูลจือจึงมีค่ายกลวิญญาณอมตะปกป้องอยู่ สิ่งที่คล้ายคลึงกันของค่ายกลวิญญาณอมตะเหล่านี้คือพวกมันต่างพึ่งพาร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของสถานที่นั้นๆ

แสงสีเขียวส่องประกายขึ้นบนเทือกเขาไผ่เมฆาและต่อต้านการโจมตีของฟางหยวน ไผ่หอกจํานวนนับไม่ถ้วยเริ่มสั่นไหวขณะที่ใบไผ่ที่แหลมคมเหมือนปลายหอกพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนราวกับพายุหอก

“ค่ายกลวิญญาณอมตะของที่นี้ไม่เพียงใหญ่โตกว่าค่ายกลวิญญาณอมตะของทะเลสาบสัมผัสใจแต่มันยังสามารถตอบโต้ได้อีกด้วย ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบางขณะกระตุ้นใช้เกราะหวนคืน

ใบไผ่ปะทะร่างของเขาและถูกส่งกลับไปโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะอย่างไม่มีต้องสงสัย

“นี่คือเกราะหวนคืน เร็ว หยุดการโจมตี!” สองผู้อมตะระดับหกตื่นตระหนกก่อนจะให้กําลังใจ กันและกัน“ค่ายกลวิญญาณอมตะก่อตัวขึ้นแล้ว อีกไม่กี่นาที่มันจะสมบูรณ์แบบ เราต้องอดทนรอกําลังเสริม”

ค่ายกลวิญญาณอมตะหยุดโจมตีและหันไปมุ่งเน้นกับการป้องกัน

ฟางหยวนไม่สามารถสะท้อนการโจมตีกลับไปได้อีก แต่เขายังเผยรอยยิ้มเฉยเมยขณะปลดเกราะหวนคืนออก

เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกรอีกครั้ง

ค่ายกลวิญญาณอมตะที่ถูกโจมตีสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง สองผู้อมตะระดับหกพ่นเลือดออกมาจากปากและพยายามปกป้องตนเองอย่างสิ้นหวัง

หลังจากไม่นานดวงตาของฟางหยวนก็ส่องประกายขึ้นเมื่อเขาพบจุดอ่อนของค่ายกลวิญญาณ

ต้องไม่ลืมว่าฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกล!

เขาสังเกตเห็นจุดอ่อนนี้และเริ่มโจมตีมัน

หลังจากนั้นค่ายกลวิญญาณอมตะของเทือกเขาไผ่เมฆาก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ ส่วนหนึ่งของมันพังทลายลงทันที

“โอ้ ไม่ เขาทําลายส่วนหนึ่งของค่ายกลวิญญาณอมตะไปแล้ว!”

“อดทนไว้! กําลังเสริมกําลังมา!”

สองผู้อมตะระดับหกตกใจและหวาดกลัวมาก

ฟางหยวนโจมตีอีกครั้งและระเบิดเทือกเขาไผ่เมฆาส่วนที่ไร้การป้องกัน

บุตรแห่งภูต! ระเบิดวิญญาณ!

เขาพบว่าท่าไม้ตายอมตะระเบิดวิญญาณเหมาะสมที่สุดในการทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะใช้มัน

ก้าวแรกมักเป็นเรื่องยาก แต่ก้าวต่อไปความยากลําบากจะลดน้อยลง ฟางหยวนสามารถใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของค่ายกลวิญญาณอมตะ นั่นทําให้ความเร็วในการทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะของเขารวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ

“สายไปแล้ว ถอย!”

“แล้วเราจะทําอย่างไรกับวิญญาณอมตะ? อีกไม่นานมันจะถือกําเนิดขึ้นแล้ว!”

“ไป เราจะตายหากอยู่ต่อ!”

ผู้อมตะอีกคนปาดเหงื่อบนใบหน้าแต่ยังลังเล “ถูกต้อง เราต้องไป! แต่วิญญาณอมตะ”

ผู้อมตะคนเดิมกัดฟันกล่าว “ทําลายมันซะ!”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท