เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1594 วางแผนต่อต้านฟางหยวน

บทที่ 1594 วางแผนต่อต้านฟางหยวน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1594 วางแผนต่อต้านฟางหยวน

“เราต้องกําจัดฟางหยวน! เขากล้าโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะของฝ่ายธรรมะอย่างเปิดเผยเขากล้าหาญเกินไป!” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลถั่วคําราม

“คราวนี้ผู้อมตะของตระกูลข้าเสียสละตนเองอย่างกล้าหาญ ปีศาจฟางหยวนต้องชดใช้!” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลถั่วกล่าวด้วยความโกรธแค้น

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเหยาถอนหายใจ “เราต้องจัดการฟางหยวน แต่เขาไม่ใช่ปีศาจอมตะทั่วไปตัวตนของเขาซับซ้อนมาก ไม่เพียงเขาจะเป็นปีศาจต่างโลก แต่เขายังเดินทางมาจากอนาคตด้วยวิญญาณกาลเวลา เขาทําลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงและได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะตะวันเดือดเขาได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณและกลายเป็นผู้นํานิกายเงา นอกจากนี้เขายังสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา กระทั่งวังสวรรค์ก็ไม่สามารถจัดการเขา เขาอาละวาดไปทั่วและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว กล่าวตามตรงเขามีลักษณะนิสัยเหมือนเทพปีศาจในวัยเยาว์”

“ยืม! ในอนาคตจะมีเพียงเทพอมตะแห่งความฝัน ไม่มีเทพปีศาจ! ตระกูลเหยา พวกเจ้ากลัวงั้นหรือ?” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเซียประชด

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเหยาเผยรอยยิ้มเยาะ “ข้าเพียงกล่าวตามความจริง หากเราต้องการสังหารฟางหยวน เราต้องยอมรับความจริงเรื่องนี้ให้ได้ก่อน มิฉะนั้นมันจะเหมือนกับตระกูลเซียของเจ้าที่พ่ายแพ้ให้กับตระกูลเหยาของข้าก่อนหน้านี้”

“เจ้า!” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเซียโกรธมาก

เมื่อเร็วๆนี้ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นจากเส้นโลหิตปฐพี่ทําให้ทรัพยากรมากมายปรากฏขึ้นนั่นทําให้เกิดความขัดแย้งระหว่างกองกําลังต่างๆ ตระกูลเซียถูกตระกูลเหยาซุ่มโจมตีและพบกับความพ่ายแพ้ แต่ตระกูลเหยาก็ต้องจ่ายด้วยราคามหาศาลเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาต

“เอาล่ะ พวกเรามาหารือไม่ใช่มาทะเลาะวิวาท เราจะจัดการฟางหยวนอย่างไร หากเขายังปล้นสะดมพวกเราต่อไป พวกเราจะรับมืออย่างไร?” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิงกล่าว

เงียบ!

ตระกูลเฉิงวางตัวเป็นกลางมาตลอด พวกเขามีความเชี่ยวชาญในการค้าขายกับกองกําลังต่างๆ เมื่อผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิงเป็ดปากกล่าว ทุกคนจึงต้องฟังเขา

หลังจากชั่วครู่ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลปาก็ทําลายความเงียบ “ฟางห ยวนต้องมีวิธีสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันและได้รับประโยชน์มากมายจากมัน มิฉะนั้นเหตุใดเขาต้องปลอมตัวเป็นอให้ คราวนี้เขาโจมตีรอยแยกปล้นเงาและนําอาณาจักรแห่งความฝันทั้งหมดออกไป นี่เป็นข้อพิสูจน์คํากล่าวของข้า ข้าสงสัยว่าผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลวูคิดเห็นอย่างไร?”

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลวูแน่นอนว่าไม่ใช่ผู้ใดนอกจากพี่ชายของวอี้ไหวหยง!

ตระกูลวเป็นกองกําลังอันดับหนึ่งของภาคใต้มาอย่างยาวนาน แต่ตระกูลปาต้องการชิงตะแหน่งอันดับหนึ่งมาจากพวกเขา อย่างไรก็ตามเมื่อบ้านไม้ไผ่สายลมของวูหยงถูกเปิดเผย ความหวังของตระกูลปาจึงพังทลายลง

วูหยงเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเบิดปากกล่าว “ฟางหยวนเป็นศัตรูของทุกคน เมื่อวานเขาปล้นสะดมทรัพยากรของตระกูลจือ พรุ่งนี้เขาอาจปรากฏตัวที่แหล่งทรัพยากรของพวกเรา กระทั่งฐานทัพใหญ่ของตระกูลก็อาจตกเป็นเป้าหมายของเขา”

วูหยงกล่าวอย่างชัดเจนว่าการจัดการฟางหยวนเป็นความรับผิดชอบของสมาชิกฝ่า ยธรรมะของภาคใต้ทั้งหมดตระกูลปาและตระกูลอื่นไม่สามารถผลักความรับผิดชอบให้กับตระกูลวูเพียงลําพัง

เมื่อได้ยินคํากล่าวของวูหยง หลายคนขมวดคิว

ตู้จิ๋วกับวหยงแตกต่างกันมาก หากนี่เป็นรูตู้ซิ่ว นางจะพุ่งออกไปข้างหน้าทันที นั่นคื อลักษณะนิสัยของนาง

แต่วหยงกลับทําตัวราวกับความอัปยศที่ฟางหยวนเคยมอบให้ตระกูลวก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิด

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลปาไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ผ่านไป เขากล่าว “เหตุผลที่ฟางหยวนเป็นปัญหาที่ต้องจัดการเพราะเขามีวิญญาณท่องแดนอมตะ ข้าสงสัยว่าผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลรูมีวิธีการจัดการกับมันหรือไม่?”

วูหยงเผยรอยยิ้มขมขึ้น “ข้ารู้สึกละอายใจนัก ตระกูลวไม่มีวิธีการดังกล่าว ข้าไม่สามารถเปรียบเทียบกับท่านแม่ เราสามารถป้องกันตนเองแต่นั่นคือขีดจํากัดของเรา ในความคิดเห็นของข้า ค่ายกลวิญญาณอมตะของตระกูลจือมีประสิทธิภาพมาก แม้ฟางหยวนจะสามารถทําลายแต่เขายังต้องใช้เวลาค่อนข้างนานเหตุใดผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลจือไม่ช่วยสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะที่แหล่งทรัพยากรของพวกเราเพื่อหยุดการโจมตีของฟางหยวน?”

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลจือ จื่อชิวหยู เร่งโบกมือ “ข้ารู้สึกละอายใจนัก ค่ายกลวิญญาณอมตะของข้าถูกฟางหยวนทําลาย ข้าจะทําให้ทุกท่านผิดหวัง”

วูหยงเผยรอยยิ้ม “ไม่จําเป็นต้องถ่อมตัว ฟางหยวนไม่สามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะบนภูเขาวายุเพลิง ค่ายกลวิญญาณอมตะที่รอยแยกปล้นเงาก็ยังสามารถป้องกันการโจมตีของฟางหยวน มันเป็นเพราะระดับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของฟางหยวนสูงเกินไป นอกจากนั้นเขายังเป็นสหายของจื่อซานศิษย์ของท่าน เราทุกคนต่างรู้เรื่องนี้”

คํากล่าวของวูหยงมีความหมายลึกซึ้ง จื่อชิวหยูหลอบสูดหายใจลึกแต่ยังเงียบ

กองกําลังใหญ่ของภาคใต้มีแหล่งทรัพยากรทุกประเภท หากจื่อชิวหยูหยุต้องสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะที่ละแห่ง แล้วเขาต้องใช้เวลานานเท่าใด?

สิ่งสําคัญก็คือเรื่องนี้ละเอียดอ่อนมาก

แหล่งทรัพยากรเป็นพื้นที่สําคัญของตระกูลต่างๆ พวกเขาไม่ต้องการให้คนนอกเป็นผู้จัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะให้กับพวกเขา

ท่ามกลางตระกูลต่างๆที่อยู่ที่นี่ มีเพียงตระกูลจอที่ถูกปล้นทรัพยากร โดยไม่ได้สัมผัสกับความสูญเสียด้วยตนเอง กองกําลังอื่นไม่รู้สึกว่าพวกเขาจะต้องขอความช่วยเหลือจากจื่อชิวหยู

จื่อชิวหยูหยูเข้าใจเรื่องนี้ซึ่งเป็นสาเหตุที่เขาหยุดพูด

วูหยงเห็นจือชิวหยูเงียบ เขาจึงไม่สามารถกล่าวสิ่งใดได้อีก

เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลไท่กล่าวด้วยตื่นเต้น “ในความเป็นจริงวิธีของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลวูเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับฟางหยวนแต่นั่นเป็นเพียงครึ่งเดียว ค่ายกลวิญญาณอมตะของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลจือสามารถป้องกันฟางหยวนได้ชั่วครู่ หากเรามีหอคอยดวงประทีปของตระกูลไท เราสามารถเคลื่อนย้ายสถานที่ในพริบตาเพื่อเดินทางไปหาฟางหยวนและร่วมมือกันฆ่าเขา!”

กลุ่มผู้อมตะเงียบ

หอคอยดวงประทีปของตระกูลไท่เป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่สามารถขนส่งผู้อมตะ หากหอคอยดวงประทีปจํานวนมากถูกรวมเข้าด้วยกัน พวกเขาจะสามารถขนส่งผู้อมตะระดับแปด!

ความคิดของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลไท่ไม่ผิด ในความเป็นจริงตระกูลไม่ต้องการสร้างหอคอยดองประทีปทั่วทั้งภาคใต้มาตลอด

แต่การสร้างสิ่งนี้เป็นภัยคุกคามกองกําลังอื่นมากเกินไป ดังนั้นความพยายามของตระกูลไทในการสร้างหอคอยดวงประทีปจึงไม่สําเร็จ

อย่างไรก็ตามผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลไม่ได้ใช้โอกาสนี้เพื่อนําเสนอหอคอยดวงประทีปอีกครั้ง แต่ผู้นําตระกูลอื่นยังนิ่งเงียบและกระทั่งรู้สึกต่อต้าน

“ข้ามีแผนอื่น” หลังจากไม่นานผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิงก็เป็ดปากกล่าวอีกครั้ง

สิบห้านาทีผ่านไปการหารือของผู้นํากองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ก็สิ้นสุดลง

ภายใต้แสงจันทร์ จื่อชิวหยูหยูหยุดใช้ท่าไม้ตายของเขา เขาบินขึ้นสู่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยกลุ่มเมฆหมอกหนาทึบด้วยสายตาที่น่าขนลุก

โลกของผู้อมตะภาคใต้เต็มไปด้วยความขัดแย้ง โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เส้นโลหิตปฐพี่เกิดความปั่นปวน ผลประโยชน์มหาศาลทําให้ควาดขัดแย้งของกองกําลังต่างๆยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

เรื่องนี้สามารถมองเห็นได้จากเหตุการณ์ที่ฟางหยวนโจมตีแหล่งทรัพยากรของตระกูลจื่อแต่ไม่มีกองกําลังอื่นให้การช่วยเหลือพวกเขา

หลังจากบินมาได้ระยะหนึ่ง วิสัยทัศน์ของชื่อชิวหยูก็เปลี่ยนแปลงไป เขาติดอยู่ในเขตแดนอมตะ

แต่เขาไม่กังวลเพราะนี่คือสนามรบราชันภูต

มันเป็นสถานที่นัดพบระหว่างเขากับฟางหยวน!

“นี่เป็นของท่าน” ฟางหยวนโยนกายาแห่งความฝันหลายร่างและวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์ออกไป “แล้วของข้าอยู่ที่ใด?”

“ข้านํามาแล้ว” จื่อชิวหยูหยูนําหินวิญญาณอมตะและทรัพยากรอมตะจํานวนมากออกมา นอกจากนี้ยังมีวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์ที่บันทึกมรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลเอาไว้

หลังจากตรวจสอบสินค้า จื่อชิวหยูหยูขมวดคิ้วบางขณะที่ฟางหยวนเผยรอยยิ้ม

“ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลจือ ในอนาคตข้าจะทําธุรกรรมกับท่านอีกครั้ง!” ฟางหยวนกล่าวก่อนจากไป

“เจ้าจะติดต่อข้าอย่างไร?”

“เดี๋ยวท่านก็รู้”

ทั้งสองรีบออกจากสถานที่แห่งนี้ ไม่มีฝ่ายใดต้องการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทําธุรกรรมครั้งนี้รั่วไหล

ข้อมูลที่อยู่ในวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลนี้ยังไม่สมบูรณ์ เห็นได้ชัดว่าฟางหยวนมีงานวิจัยเกี่ยวกับเส้นทางแห่งความฝันอยู่มากมาย อย่างไรก็ตามสิ่งที่ข้าได้รับในครั้งนี้ก็ยังเหนือกว่ากองกําลังอื่นของภาคใต้!” จื่อชิวหยูหยูถอนหายใจ

เมื่อนึกถึงฟางหยวน สายตาของเขาก็กลายเป็นมืดครื้ม “ฟางหยวนเป็นวายร้ายตัวจริง เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการร่วมมือกับข้าอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเขาต้องการข้อมูลเกี่ยวกับค่ายกลวิญญาณอมตะบนภูเขาอี้เทียน ตอนนี้ข้าควรร่วมงานกับเขาและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ให้มากขึ้น หลังจากนั้นข้าจะใช้กองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้เพื่อกําจัดเขาในภายหลัง!”

ธุรกรรมระหว่างจื่อชิวหยูกับฟางหยวนเป็นเพียงเรื่องของผลประโยชน์ แต่การกําจัดฟางหยวนก็ทําให้เขาได้รับประโยชน์เช่นกัน

หากฟางหยวนขายงานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝันให้กับกองกําลังอื่น ความได้เปรียบของตระกูลจือจะหายไป ผลประโยชน์ของพวกเขาจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

“แม้ข้าจะมอบอาณาจักรแห่งความฝันให้แก่ตระกูลจือในครั้งนี้ แต่ข้าก็ได้รับอาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางแห่งกาลเวลามาแล้ว ข้าต้องยกระดับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาอย่างรวดเร็วที่สุด!” ฟางหยวนคิดและวางแผน

ตระกูลจื่อต้องการสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน แม้ภูเขาอี้เทียนจะมีอาณาจักรแห่งความฝันขนาดใหญ่แต่พวกเขาก็ไม่สามารถสํารวจมันภายใต้สายตาของทุกคน

ครั้งนี้ข้าบุกรอยแยกปล้นเงาสําเร็จ ฝ่ายธรรมะของภาคใต้ต้องวางแผนต่อต้านข้า แม้วิญญาณท่องแดนอมตะจะมีประสิทธิภาพสูงมาก แต่ก็มีหลายวิธีที่สามารถตอบโต้มัน ยังไม่ต้องกล่าวถึงรากฐานของฝ่ายธรรมะภาคใต้ เพียงความสัมพันธ์ระหว่างวูหยงกับวังสวรรค์ มันก็ทําให้ข้ากลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบแล้ว

ความจริงก็คือฟางหยวนสามารถทําธุรกรรมกับทุกกองกําลัง แต่เขาเลือกตระกูลจือเพราะมีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง

เหตุผลสําคัญที่สุดก็คือในสงครามห้าภูมิภาค ตระกูลจื่อเป็นแนวหน้าในการต่อต้านวังสวรรค์!

สําหรับวูหยง เนื่องจากเขาสามารถนําวิญญาณอมตะที่วังสวรรค์ปล้นชิงไปกลับมาคืนให้แก่กองกําลังต่างๆ ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่สามารถไว้ใจเขา

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท