เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1600 ซ้อนแผน

บทที่ 1600 ซ้อนแผน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1600 ซ้อนแผน

ในสวรรค์สีเหลือง ยิ่งสมบัติมีค่ามากเท่าใด แสงสมบัติก็ยิ่งสูงและสว่างไสวมากเท่านั้น

สินค้าของร้านนี้ทําให้แสงสมบัติส่องประกายสว่างไสวมากกว่าร้านอื่น

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของผู้อมตะภาคใต้ไท่ชิวจงเคลื่อนที่ไปรอบๆร้านค้าร้านนี้

“ข้าต้องการปลามังกรทองแดงสามพันตัว” หลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่ ไท่ชิวจงก็กล่าวต่อ “และปลามังกรเงินสองร้อยตัว”

การทําธุรกรรมเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว ไท่ชิวจงจ่ายหินวิญญาณอมตะจํานวนมหาศาล

เมื่อเขาดึงสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับไป เขาก็บินผ่านท้องฟ้าของภาคใต้ก่อนที่วิสัยทัศน์ของเขาจะถูกบดบังด้วยกลุ่มเมฆหมอก

ความกังวลของไท่ชิวจงหายไป

“ด้วยปลามังกรเหล่านี้ วิญญาณอมตะใบมีดระดับเจ็ดของข้าก็จะได้รับอาหาร อย่างไรก็ตามปลามังกรเป็นเพียงของทดแทนชั่วคราวเท่านั้น เพื่อแก้ปัญหานี้ ข้าต้องสร้างแหล่งทรัพยากรเหมืองหลอมเหล็กขาวในมิติช่องว่างของข้า”

เหล็กขาวเป็นทรัพยากรอมตะระดับหก แก่นแท้เหล็กขาวเป็นทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดที่เกิดจากเหล็กขาวขนาดใหญ่

ไท่ชิวจงต้องการสร้างแหล่งทรัพยากรดังกล่าวแต่มันเป็นโครงการขนาดใหญ่

หากเขาไม่สามารถแก้ปัญหานี้และต้องใช้ปลามังกรเลี้ยงดูวิญญาณอมตะใบมีดระดับเจ็ดอย่างต่อเนื่อง เขาจะเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล

ในการบ่มเพาของผู้อมตะ พวกเขาไม่เพียงต้องต่อสู้ แต่พวกเขายังต้องจัดการทรัพยากร บางครั้งมันยังสําคัญยิ่งกว่าการต่อสู้

เมื่อคิดถึงแก่นแท้เหล็กขาว ไท่ชิวจงก็หันหน้าไปทางขวา มีผู้อมตะอีกคนกําลังเคลื่อนที่เข้ามาหาเขา

“เฉิงหูจาง” ไท่ชิวจงส่งข้อความออกไป

ผู้อมตะตระกูลเฉิงตอบกลับด้วยความกังวล “เจ้าพบร่องรอยของปีศาจฟางหยวนงั้นหรือ?”

ปรากฏว่าผู้อมตะระดับเจ็ดทั้งสองเป็นสมาชิกฝ่ายธรรมะของภาคใต้ที่กําลังไล่ล่าฟางหยวน

ด้วยความช่วยเหลือจากลั่วเว่ยหยิน กลุ่มไล่ล่าฟางหยวนจึงได้รับเบาะแสใหม่เป็นครั้งคราว

ครั้งนี้ผู้อมตะภาคใต้มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของภาคใต้ตามคําแนะนําของลั่วเว่ยหยินและได้รับเบาะแสใหม่

ไท่ชิวจงเผยรอยยิ้มบาง “อย่ากังวล ข้าเพียงต้องการถามเกี่ยวกับแก่นแท้เหล็กขาว”

เฉิงหูจางผ่อนคลายลงและเผยรอยยิ้ม “ดังนั้นเจ้าก็ต้องการสร้างเหมืองเหล็กขาวเพื่อวิญญาณอมตะใบมีดของเจ้า นี้ไม่ใช่เรื่องยาก ตระกูลเฉิงสามารถช่วยได้ แต่ราคา…”

ทั้งสองเจรจากันก่อนจะตกลงราคาที่พวกเขาสามารถยอมรับได้

หลังจากประสบความสําเร็จในการทําธุรกรรม รอยยิ้มของเฉิงหูจางก็กว้างขึ้น “สหายชิวจง เจ้าฉลาดมาก แม้ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล แต่ในระยะยาว มันจะช่วยเจ้าประหยัดได้เป็นอย่างมาก”

“ตอนนี้ข้าต้องซื้อปลามังกรเพื่อใช้แทนอาหารของมัน หากข้าต้องทําเช่นนี้ทุกครั้ง ข้าจะมีค่าใช้จ่ายมหาศาล” ไท่ชิวจงถอนหายใจ

สายตาของเฉิงหูจางสั่นไหว “ปลามังกร กล่าวตามตรง ตระกูลเฉิงของเรามีแผงขายปลามังกรอยู่ในสวรรค์สีเหลือง นอกจากปลามังกรธรรมดา เรายังมีปลามังกรทองแดง เห้อ…สหาย เจ้าควรบอกข้าให้เร็วกว่านี้ ข้าสามารถลดราคาให้เจ้า”

ไท่ชิวจงหัวเราะ “ตระกูลเฉิงอยู่ในธุรกิจปลามังกรด้วยงั้นหรือ?”

“ตระกูลของเราสนใจธุรกิจทุกประเภท สหายชิวจง เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ขายปลามังกรรายใหญ่ที่สุดตอนนี้ก็คือฟางหยวน! เดี๋ยวข้าจะแนะนําให้เจ้ารู้จักแผงขายปลามังกรของตระกูลเฉิง” เฉิงหูจางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ไท่ชิวจงขอบคุณแต่ภายในกลับไม่สนใจ

แม้ตระกูลเฉิงจะให้ส่วนลด แต่ราคาปลามังกรของพวกเขายังค่อนข้างสูง นอกจากนั้นพวกเขายังมีเพียงปลามังกรทองแดง ไม่มีปลามังกรเงิน

ฟางหยวนฆ่าฉันไปอี้และหยุชานเพื่อยึดครองตลาดปลามังกร เทพธิดาจื่อเว่ยรู้เรื่องนี้และเปิดเผยข้อมูลของเขาออกไป

ดังนั้นผู้อมตะทั้งหมดจึงรู้ว่าฟางหยวนคือผู้ขายอันดับหนึ่งในธุรกิจปลามังกรของสวรรค์สีเหลือง

เป็นธรรมดาที่เขาจะดึงดูดความอิจฉาของผู้อมตะเหล่านี้

แม้ผู้ขายรายอื่นจะสามารถผลิตปลามังกรทองแดงออกมาวางขายแต่ต้นทุนของพวกเขาก็สูงมากและไม่สามารถแข่งขันกับฟางหยวน

ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ ตําแหน่งอันดับหนึ่งในธุรกิจปลามังกรจึงยังเป็นของฟางหยวนเสมอมา

แน่นอนว่าฟางหยวนจะไม่ขายปลามังกรโดยใช้ตัวตนของเขาเพียงลําพัง เขาเปิดแผงขายปลามังกรมากมายและแสดงเป็นผู้อมตะคนอื่นๆที่สามารถเลียนแบบปลามังกรเงินเพื่อขายสินค้าเหล่านี้และสามารถทํากําไรมหาศาลได้ทุกวัน

แต่ถึงกระนั้นหินวิญญาณอมตะของข้าก็ลดลงอย่างรวดเร็ว” ฟางหยวนถอนหายใจ

การซ่อมแซมภูเขาตงฮันต้องใช้หินวิญญาณอมตะจํานวนมาก ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเขาเกินกว่าพลังงานอมตะที่มิติช่องว่างของเขาผลิตได้

อย่างไรก็ตามข่าวดีก็คือด้วยการลงทุนครั้งใหญ่ ภูเขาตงฮันจึงฟื้นตัวขึ้นแล้วหกสิบส่วน ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพและสามารถผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยวได้อีกครั้ง

แต่จํานวนวิญญาณความเด็ดเดี่ยวที่ผลิตได้ยังน้อยมาก ฟางหยวนจําเป็นต้องฟื้นฟูภูเขาตงฮันต่อไป

“ธุรกิจปลามังกรมีกําไรมากเกินไป นอกจากกองกําลังมากมายจะพยายามเข้าแทรกแซง วังสวรรค์ก็จะปราบปรามข้า แต่ในปัจจุบันปลามังกรเงินผลิตยากเกินไป ขณะที่ปลามังกรธรรมดา ปลามังกรเหล็กไหล และปลามังกรทองแดงสามารถผลิตเลียนแบบแต่ต้นทุนของพวกเขายังไม่สามารถแข่งขันกับข้า”

เมื่อเวลาผ่านไปความได้เปรียบของฟางหยวนจะลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากวังสวรรค์ได้รับมรดกบนเส้นทางอาหารของเทพปีศาจจิตวิญญาณจากการค้นวิญญาณ ในเวลานั้นธุรกิจปลามังกรของฟางหยวนจะพบการท้าทายครั้งใหญ่

ฟางหยวนเข้าใจเรื่องนี้และต้องการสร้างแหล่งรายได้ใหม่

ธุรกิจปลามังกรอยู่ได้ไม่นานขณะที่วิญญาณความเด็ดเดี่ยวกําลังขาดตลาดเพราะแผนการในทะเลทรายผีเขียวของฟางหยวนถูกหยุด

แม้ฟางหยวนจะเริ่มสร้างแหล่งรายได้ใหม่แล้วเช่นอสูรหิมะและอสรพิษวิญญาณ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ธุรกิจที่สามารถทํากําไรได้มากนัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฟางหยวนวางแผนที่จะหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

ท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาจําเป็นต้องใช้วิญญาณอมตะที่เฉพาะเจาะจง ฟางหยวนคิดและตัดสินใจที่จะทดลอง หลังจากทั้งหมดท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาทรงพลังเกินไป ฟางหยวนไม่ต้องการยอมแพ้

“โอ้?” เป็นเพียงเวลานี้ที่การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนแปลงไป

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ปรากฏตัวขึ้นบิดล้อมเขาอย่างกะทันหัน

ผู้นํากลุ่มก็คือผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเซี่ยชา นางเผยรอยยิ้มเย็นชาให้กับฟางหยวน “ฟางหยวนคนเจ้าเล่ห์ ในที่สุดเจ้าก็ตกอยู่ในกํามือของข้า”

“ท่านลั่วเว่ยหยินช่างยอดเยี่ยมนัก ในที่สุดเราก็พบปีศาจตนนี้!” เฉิงหูจางหัวเราะเสียงดัง

“ฆ่าปีศาจตนนี้และกําจัดภัยคุกคามในอนาคต!” ไท่ชิวจงตะโกนเสียงดังด้วยเจตนาสังหาร

หลิวห่าวสายลับของวังสวรรค์มีการแสดงออกที่น่ากลัว วิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติพร้อมใช้งานอยู่ในมิติช่องว่างของเขาแล้ว วิญญาณอมตะดวงนี้สามารถต่อต้านวิญญาณท่องแดนอมตะ

ลั่วเว่ยหยินเงียบ

ฟางหยวนหัวเราะ “พวกเจ้ามาช้าเกินไป แต่พวกเขามากันทั้งหมด แผนการของข้าถือว่าไม่ไร้ประโยชน์”

เมื่อได้ยินเรื่องนี้ บรรยากาศก็เปลี่ยนไป กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ระวังตัวมากขึ้น

เซี่ยชาหรี่ตามอง “ยืม! วายร้ายน้อย เจ้ายังจะกล้าหลอกลวงพวกเราแม้เจ้ากําลังจะตายงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง มันเป็นเพียงการแสดงเท่านั้น ท่านหญิงเชียชาเป็นผู้ลงมือปกปิดร่องรอยของพวกเราด้วยตัวท่านเอง” บางคนตะโกน

ฟางหยวนยิ้ม “แน่นอนว่าข้าไม่รู้สึกถึงการมาถึงของพวกเจ้า แต่ข้าสัมผัสได้ถึงการอนุมานของพวกเจ้า พวกเจ้าคิดว่าข้าอยู่ที่ภาคใต้โดยทิ้งร่องรอยเอาไว้และอนุญาตให้พวกเจ้าอนุมานข้าเพราะเหตุใด?”

วินาทีต่อมาค่ายกลวิญญาณอมตะก็ถูกกระตุ้นใช้งาน

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท