เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1685 ถ้ําสวรรค์นักรบอสูร

บทที่ 1685 ถ้ําสวรรค์นักรบอสูร

บทที่ 1685 ถ้ําสวรรค์นักรบอสูร

ภาคกลาง ร่องลึกใต้พิภพ

“เจี้ยก!”

วานรเดียวดายคํารามเป็นครั้งสุดท้าย มันรู้สึกถึงร่างกายที่ถูกแช่ แข็ง ความหนาวเย็นแทรกซึมเข้าแช่แข็งเลือดที่ไหวเวียนอยู่ในร่างกายของมัน

ท่าไม้ตายอมตะเลือดเย็น!

ผู้อมตะที่ใช้ท่าไม้ตายนี้ไม่ใช่ผู้ใดนอกจากฟางเลิ้งน้องชายของฟางหยวน

“ยินดีด้วย ฟางเจิ้ง เจ้าเชี่ยวชาญท่าไม้ตายอมตะเลือดเย็นหลังจากต่อสู้มาสองสามวัน” จ้าวเหลียนหยุนค่อยๆบินเข้ามาและกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ฟางเจิ้งมองศพของวานรยักษ์ขณะที่แสงสีแดงในดวงตาของเขาค่อยๆจางหายไป เขากล่าวอย่างสงบนิ่ง “ข้าต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยปกป้องข้าจากด้านข้าง มิฉะนั้นข้าจะสามารถฝึกฝนท่าไม้ตายของข้าได้อย่างไร?”

ความปั่นป่วนที่เกิดจากเส้นโลหิตปฐพี่ทําให้กองกําลังทั้งหมดตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ พวกเขามีกําลังคนไม่พียงพอ เพื่อแก้ปัญหานี้ นิกายกระเรียนอมตะจึงต้องส่งฟางเจิ้งออกมา

แน่นอนว่าทุกการเคลื่อนไหวของฟางเลิ้งอยู่ภายใต้การเฝ้ามองของวังสวรรค์ ตราบเท่าที่ไม่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง วังสวรรค์ก็มีความสุขที่ได้เห็นฟางเจิ้งแข็งแกร่งขึ้น

ฟางเลิ้งได้รับการสนับสนุนจากวังสวรรค์ นอกจากวิญญาณอมตะเลือดล้างเลือด เขายังได้รับวิญญาณอมตะเลือดเย็นระหว่างการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ

เทพธิดาจอเว่ยคิดค้นท่าไม้ตายอมตะเลือดเย็นและมอบให้ฟางเลิ้ง

ทะเลตะวันออก ใต้ทะเลแห่งหนึ่ง

ราชันมังกรและฟงจินฮวงจัดการอาณาจักรแห่งความฝันมาหลายวันแล้ว

อาณาจักรแห่งความฝันที่ปิดล้อมวังมังกรมีขนาดใหญ่โตมาก พวกเขาเปลี่ยนอาณาจักรแห่งความฝันเป็นกายาแห่งความฝันหลายสิบตัว แต่อาณาจักรแห่งความฝันยังแพร่กระจายออกมาจากวังมังกรและเติมเต็มช่องว่างอย่างไม่รู้จบสิ้น

ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นกายาแห่งความฝันเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับหก มันมีพลังจํากัดเนื่องจากมันใช้วิญญาณอมตะปีกแห่งความฝันระดับหกเป็นแกนกลาง

ในความเป็นจริงราชันมังกรสามารถฉวยโอกาสเข้าสู่วังมังกร แต่เป้าหมายของเขาคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดที่สมบูรณ์แบบ หากเขาไม่กําจัดอาณาจักรแห่งความฝันทั้งหมดเขาจะไม่สามารถยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ได้อย่างปลอดภัย

ขณะที่ราชันมังกรกําลังจัดการอาณาจักรแห่งความฝัน ฟงจินฮวงยังฝึกฝนตนเองต่อไป

นางกําลังค้นคว้าเกี่ยวกับกายาแห่งความฝัน บางครั้งนางจะย้ายดวงวิญญาณของนางเข้าสู่ร่างกายาแห่งความฝัน บางครั้งนางก็ค้นคว้าด้วยร่างหลักของนาง

“กายาแห่งความฝันเกิดจากนิกายเงาที่พยายามแสวงหาความมั่งคั่ง มันอยู่ได้ไม่นาน

“อาณาจักรแห่งความฝันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ลักษณะพิเศษของมันคือความ ไม่แน่นอนท่าไม้ตายทําลายความฝันของข้านําไปสู่ท่าไม้ตายเปลี่ยนเป็นกายาแห่งความฝัน

ทุกครั้งที่ฟงจินฮวงคิดย้อนกลับไป นางรู้สึกว่าตนเองค่อนข้างโชคดี

“เป็นไปได้หรือไม่ว่านี่คือผลของโชคชะตา? มันหยิบยืมความพยายามของข้าเพื่อทําให้เกิดกายาแห่งความฝันที่สมบูรณ์แบบ

ฟงจินฮวงส่ายศีรษะปัดเป่าความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว

นางนึกถึงคํากล่าวของราชันมังกร

“ฮวงเอ๋อ แม้เจ้าจะประสบความสําเร็จในการค้นคว้ากายาแห่งความฝันที่สมบูรณ์แบบ แต่มันยังไม่เพียงพอ เจ้าต้องทําความเข้าใจมันอย่างลึกซึ้งเพื่อใช้ในการบ่มเพาะของเจ้าเมื่อเจ้าค้น พบวิธีเปลี่ยนร่างกายของตัวเจ้าเองเป็นกายาแห่งความฝัน มันจะเป็นช่วงเวลาที่เจ้าสามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ”

ผู้อมตะ!

รากฐานของฟงจินฮวงเพียงพอแล้วสําหรับการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ แต่นางถูกหยุดไว้โดยราชันมังกรเสมอ

ตอนนี้ราชันมังกรยอมจํานน ฟงจินฮวงรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่นางยังรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะเงื่อนไขที่ยากลําบากของเขา

ฟงจินฮวงพยายามคิดวิธีแก้ปัญาอย่างอดทน

“ข้ารีบร้อนเกินไปหรือไม่?

ท้ายที่สุดการเปลี่ยนร่างกายของตนเองให้เป็นกายาแห่งความฝันก็มีความเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งมนุษย์

“ตํานานกล่าวว่าสิบสุดยอดกายาถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์คนแรก สิ่งเหล่านี้เกี่ยวกับเส้นทางแห่งมนุษย์ บางทีข้าอาจพบบางสิ่งจากการอ่านตํานานมนุษย์คนแรก”

ราชันมังกรคือต้นกําเนิดของเผ่าพันธุ์มนุษย์มังกร ความสําเร็จของเขาเกิดจากการทําความเข้าใจตํานานมนุษย์คนแรก

“แม้ข้าจะรับฟงจินฮวงเป็นศิษย์ แต่ข้าไม่ได้สอนสิ่งใดแก่นาง นางอาจไม่สามารถตอบสนองความต้องการของข้า บางทีข้าควรสอนความลึกซึ้งเกี่ยวกับมนุษย์มังกรให้นาง แน่นอนว่าข้าต้องห้ามไม่ให้นางสร้างมนุษย์มังกร!”

“ไม่ ด้วยธรรมชาติของนาง นางอาจลอบสร้างมนุษย์มังกรขึ้นมา ฮวงเอ๋อแตกต่างจา กหงถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลิกและทัศนคติเกี่ยวกับชะตากรรม เห้อ…ใจมนุษย์เปลี่ยนแปลงไปจากยุคโบราณ ความคิดที่อันตรายเช่นนี้ไม่ควรเกี่ยวข้องกับไปชิง มันน่าจะเกิดจากอิทธิพลของฟงจิวเก้อ

เป็นธรรมดาที่ราชันมังกรจะตรวจสอบภูมิหลังของฟงจิวเก้อและเทพธิดาไปชิงมาแล้ว

“ฮัดชิ้ว! ฮัดจิ๋ว!”

ฟงจิวเก้อถูจมูก เขาพึมพํา “ผู้ใดกําลังพูดถึงข้าลับหลัง”

ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพที่น่าอนาถ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยคราบเลือด เสื้อคลุมของเขาฉีกขาดเป็นส่วนใหญ่และเผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อบนร่างกาย

“แค่ก แค่ก”

เขาไอออกมาเป็นเลือด

ผู้อมตะสองคนปรากฏตัวขึ้น พวกเขามองฟงจิวเก้อที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและแสดงออกด้วยความยินดี “ขอแสดงความยินดีกับท่านฟงจิวเก้อที่ก้าวเข้าสู่ระดับแปด!”

“อืม” ฟงจิวเก้อพยักหน้าเบาๆ เขาไม่รู้สึกตื่นเต้นกับการบ่มเพาะระดับแปดของตน ในความเป็นจริงเขาสามารถก้าวเข้าสู่ระดับแปดมานานแล้ว มันเป็นเพียงว่าเขายังไม่มีโอกาสที่เหมาะสมเท่านั้น

มีโซ่ตรวนมากมายคอยรั้งเขาไว้เสมอ เขามีครอบครัวและเป็นสมาชิกคนสําคัญของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

“การบ่มเพาะระดับแปดไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตอนนี้ข้าสามารถผลิตลิ้นจี่ขาวอมตะ แต่ข้า ยังต้องใช้เวลาปรับตัว

“ข้าไม่มีทุนทรัพย์ที่จะยกระดับวิญญาณหลักของเขาให้เป็นวิญญาณอมตะระดับแปด

“แม้ข้าจะมีเงินแต่ข้ายังต้องขอให้บางคนช่วยข้าหลอมรวมวิญญาณอมตะ”

“บางทีข้าอาจขอความช่วยเหลือจากวังสวรรค์?”

ฟงจิวเก้อคิดถึงสถานะผู้พิทักษ์เต่ําของเขาและรู้สึกว่ามันมีประโยชน์

“แต่สิ่งสําคัญคือแรงบันดาลใจที่ได้รับจากภัยพิบัติใหญ่ครั้งนี้ บางทีข้าอาจแต่งเพลงเกี่ยวกับพรหมลิขิต!”

สวรรค์พิภพมีโชคชะตา ทุกสิ่งถูกจัดการโดยมัน แต่หลังจากเส้นทางแห่งโชคถือกําเนิดมีบาง สิ่งเปลี่ยนแปลงไป ทุกสิ่งและทุกคนบนโลกใบนี้มีโอกาสส่องประกาย

เพลงพรหมลิขิตจะพรรณาถึงความสว่างไสวนี้ มันจะบรรยายถึงความแน่นอนและความไม่แน่นอนของสวรรค์พิภพตลอดจนเส้นทางทั้งหมดของชีวิต”

เวลาผ่านไป

สวรรค์สีขาว

ฟางหยวนมองกระเรียนขาวบินวนเป็นวงกลมด้วยความตื่นเต้น

“พบแล้ว ในที่สุดข้าก็พบถ้ําสวรรค์แห่งที่สอง!”

“นี่คือถ้ําสวรรค์นักรบอสูร?”

“ดี มันไม่เคยกลืนกินเศษชิ้นส่วนของสวรรค์ทั้งเก้า!”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท