เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1747 การเสียสละของเทพอมตะกลุ่มดาว

บทที่ 1747 การเสียสละของเทพอมตะกลุ่มดาว

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1747 การเสียสละของเทพอมตะกลุ่มดาว

แม้หอคอยดวงตาสวรรค์จะเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้าแต่มันก็ไม่สามารถหยุดการโจมตีบนเส้นทางแห่งความฝัน

วังมังกรเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดที่มีวิญญาณตราประทับความฝันระดับแปดท่าไม้ตายอมตะระดับแปดที่สร้างขึ้นจากสิ่งนี้ถือเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันอันดับหนึ่งในโลกยุคปัจจุบัน

หอคอยดวงตาสวรรค์ไม่มีวิธีป้องกันการโจมตีบนเส้นทางแห่งความฝัน ดังนั้นผลลัพธ์จึงปรากฎทันที

“หากเป็นเช่นนี้ต่อไปหอคอยดวงตาสวรรค์จะพังทลาย!”

“นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะสายโจมตีบนเส้นทางแห่งความฝันที่แท้จริง วังสวรรค์ไม่มีวิธีรับมือมันกระทั่งท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นกายาแห่งความฝันก็ไม่สามารถทําสิ่งใด!”

เหยากวงและคนอื่นๆมองเห็นความหวังที่จะได้รับชัยชนะ

“ผู้ใดจะคิดว่าในช่วงเวลาสําคัญจะเป็นไปหนิงปิงที่พลิกสถานการณ์!”

“เราต้องอดทน!”

“ทุกคน ปกป้องวังมังกร!”

ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือร่วมมือกันอย่างแข็งขัน ผู้อมตะของวังสวรรค์หน้าซีดด้วย ความตกใจความมั่นใจของพวกเขาเปลี่ยนเป็นความประหม่า

“บางสิ่งไม่ถูกต้อง!” ฟางหยวนมองราชันมังกรและตระหนักถึงสิ่งผิดปกติอย่างรวดเร็ว

แม้ราชันมังกรจะถูกพัวพันโดยตี้จางเฉิงแต่เขายังสงบนิ่ง

กว่าล้านปีมากแล้ว

ในส่วนลึกของวังสวรรค์

“หงถึง เจ้ายังกล้ามาที่วังสวรรค์อีกงั้นหรือ? ครั้งนี้เจ้าจะไม่สามารถหลบหนี! ความลับเรื่องการกําเนิดใหม่ของเจ้าถูกเปิดเผยแล้ว เจ้ากล้าต่อต้านโชคชะตาและท้าทายเจตจํานงสวรรค์เจ้าพยายามชุบชีวิตคนตาย เจ้าทําให้ข้าผิดหวังจริงๆ!” ราชันมังกรมองเทพปีศาจบัวแดงด้วยความโกรธ

เทพปีศาจบัวแดงยิ้ม “ท่านอาจารย์ เมื่อข้ามาที่นี่ ข้าย่อมตัดสินใจที่จะตายแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อทําลายวิญญาณชะตากรรม ดังนั้นท่านไม่จําเป็นต้องวิตกมากนัก”

“โอ้ แล้วเจ้าพยายามทําสิ่งใด?”

เทพปีศาจบัวแดงหรี่ตามองราชันมังกร “ข้าต้องการชักชวนให้ท่านอาจารย์ช่วยทําลายวิญญาณชะตากรรม!”

ราชันมังกรตะลึงก่อนจะหัวเราะเสียงดัง “เช่นนั้นก็ลองพูดมา ข้าจะตั้งใจฟัง”

เทพปีศาจบัวแดงยิ้ม “การกําเนิดใหม่หลายหมื่นครั้งทําให้ข้าพบเบาะแสบางอย่าง ข้ากําเนิดใหม่อีกมากกว่าสิบครั้งเพื่อทําความเข้าใจอย่างชัดเจน วิญญาณชะตากรรมละทิ้งมนุษยชาติไปแล้วชะตากรรมกําหนดไว้ว่า…”

เขายังกล่าวไม่จบแต่ราชันมังกรชิงกล่าว“เผ่ามนุษย์มังกรจะครองโลก”

เทพปีศาจบัวแดงชะงักก่อนจะหัวเราะ “ท่านอาจารย์ ท่านรู้เรื่องนี้จริงๆ! ท่านกําลังปกป้องวิญญาณชะตากรรมเพื่อทําให้แน่ใจว่าเผ่ามนุษย์มังกรจะผงาดขึ้นงั้นหรือ? เผ่ามนุษย์มังกรที่มีอยู่ในปัจจุบันล้วนเป็นบุตรหลานในสายเลือดของท่าน”

“ไม่อย่างแน่นอน!” ราชันมังกรส่ายศีรษะ “หงถึง เจ้ายังไม่เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด อาจารย์เป็นคนแรกที่ค้นพบความลับเรื่องนี้และแจ้งเตือนวงสวรรค์ แม้ข้าจะเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกรและกลายเป็นบรรพบุรุษของเผ่ามนุษย์มังกร แต่หัวใจของข้ายังเป็นมนุษย์ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่ก็ตามนี่คือความจริง”

“ข้าเชื่อท่าน!” เทพปีศาจบัวแดงไม่ลังเล “ข้าเชื่อหัวใจของท่านอาจารย์ โอ้ ท่านอาจารย์ท่านเข้าใจข้า ข้าก็เข้าใจท่าน ท่านจะไม่มีวันทรยศต่อมนุษยชาติเพื่อผลประโยชน์ของตนเองก่อนหน้านี้ข้าเกรงว่าท่านจะปฏิเสธคํากล่าวของข้า ดังนั้นข้าจึงตั้งใจยั่วโมโหท่าน”

“ฮีม เด็กเลว!” ราชันมังกรเย้ยหยันแต่เขาลอบรู้สึกอบอุ่นอยู่ภายใน เขากล่าวต่อ “อาจารย์สร้างเผ่ามนุษย์มังกรขึ้นมา ดังนั้นอาจารย์จึงสั่งสอนเจ้าและช่วยให้เจ้าเป็นผู้นําของวังสวรรค์เพื่อนําเผ่ามนุษย์สู่ความรุ่งโรจน์ แต่ข้าไม่เคยคิดว่าวิญญาณชะตากรรมจะต้องการให้เผ่ามนุษย์มังกรปกครองโลก”

“อย่างไรก็ตามหลังจากตกใจ อาจารย์เริ่มตระหนักว่าวิญญาณชะตากรรมเป็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งสวรรค์ สวรรค์จะกําจัดส่วนเกินและเพิ่มส่วนขาด เผ่ามนุษย์เจริญรุ่งเรืองมากเกินไปสิ่งนี้ทําให้สวรรค์ต้องการรักษาสมดุล นี่เป็นสถานการณ์เดียวกันเมื่อเทพอมตะแรกกําเนิดได้รับวิญญาณชะตากรรมและทําให้เผ่ามนุษย์ปกครองโลก”

“อย่างไรก็ตามอาจารย์ยังคงปกป้องวิญญาณชะตากรรม เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด?”

ดวงตาของเทพปีศาจบัวแดงส่องประกายขึ้น เขาถาม “เพราะเหตุใด?”

ราชันมังกรถอนหายใจ “ภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่ของวิญญาณชะตากรรมเกิดขึ้นแล้ว ในยุคของเทพอมตะแรกกําเนิด เผ่ามนุษย์รวมตัวกันเพราะวิญญาณชะตากรรม เผ่ามนุษย์กล้าต่อต้านเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์หลังจากเรียนรู้ว่าสวรรค์อยู่ข้างฝ่ายใด อย่างไรก็ตามเมื่อชะตากรรมที่กําหนดให้มนุษย์ปกครองโลกหายไป มนุษย์จะทําอย่างไร?”

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่ ปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขแม้เทพอมตะแรกกําเนิดจะตายไปแล้ว ก่อนตาย เขามอบภาระอันยิ่งใหญ่ให้กับศิษย์ของเขา ศิษย์ผู้นี้ก็คือเทพอมตะกลุ่มดาว เมื่ออายุขัยของนางใกล้สิ้นสุด นางสามารถคิดวิธีแก้ไขภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่นี้นางเสียสละตนเองและหลอมรวมกับเต๋”

เทพปีศาจบัวแดงขมวดคิ้ว “หลอมรวมกับเต๋า?”

“ถูกต้อง” ราชันมังกรอธิบายต่อ “วิญญาณชะตากรรมถูกควบคุมโดยเตสวรรค์ ในปัจจุบันผู้อมตะเผ่ามนุษย์หรือมนุษย์กลายพันธุ์สามารถทําความเข้าใจเต๋ได้เพียงหนึ่งหรือสองชนิดเป็นอย่างมาก แต่ในอนาคตอาจมีการพัฒนาขึ้น ผู้อมตะอาจมีวิธีใช้วิญญาณชะตากรรมได้โดยตรง”

“เมื่อเทพอมตะกลุ่มดาวไม่สามารถควบคุมวิญญาณชะตากรรม นางหันไปหาแหล่งที่มาของมันสุดท้ายนางจึงเสียสละตนเองและหลอมรวมกับเต๋สวรรค์ นางใช้เจตจํานงของตนเองแทรกแซงการทํางานของเจตจํานงสวรรค์ ด้วยวิธีนี้วังสวรรค์จึงสามารถใช้งานวิญญาณชะตากรรม”

“เป็นเช่นนั้น” หัวใจของเทพปีศาจบัวแดงสั่นสะท้านขึ้น “ทุกสิ่งบนโลกใบนี้ถูกผูกมัดโดยวิญญาณชะตากรรมเพื่อจัดการและควบคุมชะตากรรม เทพอมตะกลุ่มดาวจึงต้องควบคุมเจตจํานงสวรรค์และส่งอิทธิพลต่อวิญญาณชะตากรรมเพื่อทําให้เผ่ามนุษย์ปกครองโลกตลอดกาล”

“ไม่แปลกใจเลยที่วิญญาณชะตากรรมมีความสําคัญกับวังสวรรค์เป็นอย่างมาก ไม่แปลกใจเลยที่การจัดเตรียมของเทพอมตะกลุ่มดาวสามารถหยุดสามเทพปีศาจรวมทั้งข้าไม่แปลกใจเลยที่วังสวรรค์ไม่เคยพ่ายแพ้ มันเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของมนุษยชาติและเป็นกองกําลังอันดับหนึ่งของโลกอย่างแท้จริง!”

ราชันมังกรพยักหน้า “หงถึง สติปัญญาของเจ้าไม่เคยทําให้อาจารย์ผิดหวัง สวรรค์จะสร้างสมดุลเสมอ เจ้าเคยเห็นกองกําลังใดที่สามารถคงอยู่ตลอดไปหรือไม่? มองดูตัวเราเองใจคนเปลี่ยนง่ายและเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ไม่เคยเพียงพอ แม้แต่ความแข็งแกร่งหรือโซ่ตรวนของครองครัวก็ไม่สามารถเติมเต็มความทะเยอทะยานในหัวใจมนุษย์ หากผู้อมตะที่ทรงอํานาจถูกทําให้ขุ่นเคือง มันจะทําให้กองกําลังใหญ่ประสบปัญหาร้ายแรง หากผู้อมตะผู้นี้เป็นผู้อมตะระดับแปด เขาอาจทําลายกองกําลังใหญ่เหล่านั้นได้อย่างสมบูรณ์ ในโลกนี้ความแข็งแกร่งส่วนบุคคลสามารถเอาชนะกองกําลังใหญ่ได้อย่างง่ายดาย”

“แทบไม่มีกองกําลังใหญ่ใดที่สามารถคงอยู่ได้เป็นเวลานาน แต่วังสวรรค์ของเราเป็นข้อยกเว้นเหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ เพราะเรามีวิญญาณชะตากรรม”

“ภายใต้การจัดการของโชคชะตา เราเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของมนุษยชาติมาตลอด แม้เราจะพบปัญหาร้ายแรง แต่มันจะได้รับการแก้ไขอย่างราบรื่นผ่านความบังเอิญทุกประเภทด้วยความช่วยเหลือจากวิญญาณชะตากรรม”

“ปาฏิหาริย์ทั้งหมดเกิดขึ้นจากการเสียสละของเทพอมตะกลุ่มดาว หากปราศจากการบ่มเพาะระดับเก้าบนเส้นทางแห่งปัญญาของนาง นางจะไม่สามารถแทรกแซงเตสวรรค์อย่างไรก็ตามแม้นางจะเป็นเทพอมตะ แต่นางมักเสียเปรียบในการต่อสู้กับเจตจํานงสวรรค์”

เทพปีศาจบัวแดงตระหนักถึงบางสิ่ง เช่นเดียวกับชะตากรรมที่กําหนดให้เผ่ามนุษย์มังกรปกครองโลกใช่หรือไม่?”

“ถูกต้อง ครั้งแรกข้ารู้สึกตกใจ แต่เมื่อข้ารู้ความลับโบราณนี้แล้ว ข้าเลือกที่จะรอ ไม่นานหลังจากนั้นวิญญาณชะตากรรมก็เปลี่ยนการตัดสินของมัน มันอนุญาตให้เผ่ามนุษย์ปกครองโลกอีกครั้ง” ราชันมังกรยิ้ม “ต่อมาข้าอ่านบันทึกลับของวังสวรรค์และพบว่ากรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลายครั้ง วิญญาณชะตากรรมกําหนดให้เผ่ามนุษย์มังกรจะปกครองโลก แต่มันก็ถูกเปลี่ยนกลับไปทุกครั้ง”

หัวใจของเทพปีศาจบัวแดงจมดิ่งลง

ราชันมังกรรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เหตุใดเขาจึงฟังคําถามของเทพปีศาจบัวแดง?

ราชัง

เทพปีศาจบัวแดงเข้าใจทันทีว่าราชันมังกรรอให้เขามาถามและบอกความลับโบราณนี้แก่เขา

เทพปีศาจบัวแดงคิดและมองไปยังราชันมังกร

ราชันมังกรยิ้ม “หงถึง อาจารย์รอให้เจ้าถามและบอกเรื่องนี้แก่เจ้าเพื่อทําให้เจ้ากลับใจ เจ้าสร้างวิญญาณกาลเวลาและสามารถกําเนิดใหม่ นี่เป็นการกระทําของปีศาจ เจ้าหวังที่จะเปลี่ยนแปลงอดีต แต่เจ้าพร้อมหรือยัง?”

“ไม่” ราชันมังกรสายศีรษะ

“เหนือเจ้ายังมีสวรรค์ มีเตสวรรค์ มีเจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาว มีการกําหนดของวิญญาณชะตากรรม เจ้าจะพลิกสวรรค์ได้อย่างไร? เจ้าจะเปลี่ยนอดีตได้อย่างไร?”

“แม้เจ้าจะเป็นผู้อมตะระดับเก้าแล้วอย่างไร? เทพปีศาจได้ของเขตเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดเขามีชีวิตอยู่ได้นานเท่าใด? ผู้อมตะระดับเก้าที่มีชีวิตยืนยาวที่สุดคือเทพอมตะแรกกําเนิด แต่เขายังมีอายุเพียงสองหมื่นห้าพันปีเท่านั้น แล้ววังสวรรค์? มันคงอยู่มานับล้านปี มีการเสียสละและการคุ้มกันจากผู้อมตะมากมาย มันมีวิญญาณชะตากรรม นี่คือภาพใหญ่ เจ้าสามารถโค่นล้มรากฐานนี้ได้หรือไม่? โดยเฉพาะเมื่อเจ้ากําเนิดใหม่ เจ้าใช้ท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตเพื่อเพิ่มพลังการต่อสู้แต่เจ้าก็ยังไม่ใช่ผู้อมตะระดับเก้าที่แท้จริง”

เทพปีศาจบัวแดงเงียบ

แม้เขาจะสามารถทําลายวังสวรรค์ แต่ตราบเท่าที่วิญญาณชะตากรรมยังอยู่ วังสวรรค์ก็จะถูกสร้างขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากเจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาวส่งอิทธิพลต่อเจตจํานงสวรรค์วิญญาณชะตากรรมจึงกําหนดให้เผ่ามนุษย์ปกครองโลก วังสวรรค์จะกลายเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของมนุษยชาติและเป็นกองกําลังอันดับหนึ่งของโลกใบนี้ตลอดกาล

ภายใต้การควบคุมของโชคชะตา การเผชิญหน้าโดยบังเอิญทุกประเภทจะถูกจัดเตรียมอัจฉริยะจํานวนนับไม่ถ้วนจะยอมจํานนต่อวังสวรรค์

วังสวรรค์ไม่ใช่จุดสําคัญ เจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาวและวิญญาณชะตากรรมคือสิ่งสําคัญที่สุด

เจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาว

เทพปีศาจบัวแต่ ะระดับเก้าบนเส้นทางแห่งปัญญา เขาไม่มีวิธีจัดการเจตจํานงของ เทพอมตะกลุ่มดาวและหลอมรวมกับเต่ําสวรรค์

นอกจากนั้นเขาก็ไม่ต้องการจัดการกับเจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาวเพราะสิ่งที่นางทําคือพยายามขัดขวางเจตจํานงสวรรค์และปกป้องสถานะของเผ่ามนุษย์

เทพปีศาจบัวแดงเพียงต้องการชุบชีวิตครอบครัวและคนรัก เขาไม่เคยต้องการทรยศหรือทําร้ายเผ่าพันธุ์ของตนเอง

ดังนั้นมันจึงเหลือเพียงคําตอบเดียวสําหรับเทพปีศาจบัวแดง นั่นคือการทําลายวิญญาณชะตากรรม!

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท