เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1749 การกําเนิดใหม่ของร่างแยก

บทที่ 1749 การกําเนิดใหม่ของร่างแยก

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1749 การกําเนิดใหม่ของร่างแยก

ท่ามกลางความมืด

แม่น้ําที่มองไม่เห็นจุดเริ่มต้นไหลไปข้างหน้าราวกับไม่มีจุดสิ้นสุด

มันคือแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ สายธารแห่งกาลเวลา!

ระลอกคลื่นจํานวนนับไม่ถ้วนส่องแสงหลากหลายสีสันทําให้มันดูเป็นฉากที่งดงาม

ทุกระลอกคลื่นคือเรื่องราว มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต

สายธารแห่งกาลเวลาเหมือนทุ่งดอกไม้ไฟที่ส่องประกายระยิบระยับและเจิดจ้า

วิญญาณดวงหนึ่งเรืองแสงสีเขียวมรกตบินทวนกระแสน้ําไปตามสายธารแห่งกาลเวลา

มันมีรูปร่างเหมือนจักจั่นไม้ที่มีลวดลายวงปีของต้นไม้อยู่บนพื้นผิว ปีกบนแผ่นหลังของมันใหญ่โตและโปร่งแสงเหมือนใบไม้สองใบซ้อนทับกัน

เปรียบเทียบกับสายธารแห่งกาลเวลา วิญญาณดวงนี้เล็กยิ่งกว่ามด

เมื่อมันพุ่งลงไปในน้ํา มันสร้างระลอกคลื่นสาดกระเซ็นออกไปรอบๆแต่มันยังสามารถลงจอดได้อย่างมั่นคง

สวรรค์สีเหลือง

ความโกลาหลทําให้กลุ่มผู้อมตะวิพากษ์วิจารณ์

มันเป็นความโกลาหลที่เกิดขึ้นจากกระดูกซี่โครงสามซี่และภาพฉากการต่อสู้

“เป็นไปได้อย่างไร ปีศาจฟางหยวนมีพลัง

ระดับนแลวงนหรอ!?

“เห้อ…การเติบโตของเขารวดเร็วเกินไป เขากลายเป็นเจ้าเหนือหัวบนเส้นทางสายปีศาจของยุคนี้ไปแล้ว”

“ฟางหยวนเป็นปีศาจต่างโลกและใช้วิญญาณกาลเวลาเพื่อกําเนิดใหม่ เขามีข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ในการบ่มเพาะ”

“ข้าจํานางได้ นี่คือจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าของวังสวรรค์ ผู้ใดจะคิดว่านางจะถูกฟางหยวนปราบปรามจริงๆ!”

“จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าจิ้งหลาน นี่คือผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ในอดีต นางยังมีชีวิตอยู่งั้นหรือ?”

“วังสวรรค์ได้รับการยกย่องว่าเป็นกองกําลังอันดับหนึ่ง พวกเขาพยายามจับฟางหยวนและต้องส่งผู้อมตะระดับแปดออกมา แต่ดูสิ่งนี้ ฟางหยวนสามารถเอาชนะขณะที่จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าตกอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช”

เจตจํานงของกลุ่มผู้อมตะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่รู้จบสิ้น

ร่างของเทพธิดาจ่อเว่ยสั่นสะท้านขึ้นด้วยความโกรธ

ฟางหยวนไม่เพียงขายกระดูกซี่โครงของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าแต่เขายังใช้วิธีการบางอย่างเพื่อแสดงภาพการต่อสู้ระหว่างเขากับจิ้งหลานอย่างต่อเนื่อง

โดยธรรมชาติแล้วเขาเลือกที่จะแสดงภาพในช่วงเวลาที่เขาโจมตีจิ้งหลานเท่านั้น

“เราควรรายงานเรื่องนี้กับจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าหรือไม่?” เฉินอี้ถาม

ฟางหยวนใช้กองทัพมังกรดาบบรรพกาลและหมอกสับสนเพื่อหลบหนีจากจิ้งหลาน

เมื่อจิ้งหลานไล่ล่าเขาอีกครั้ง ฟางหยวนก็จากไปไกลแล้ว

เทพธิดาจื่อเว่ยไม่สามารถอนุมานตําแหน่งของฟางหยวนขณะที่จิ้งหลานก็ไม่สามารถทําสิ่งใด

“จื่อเว่ย ปีศาจฟางหยวนอยู่ที่ใด?” จิ้งหลานตะโกนถามเทพธิดาจื่อเว่ยด้วยความโกรธ

จิ้งหลานถูกบังคับให้หยุดไล่ล่าแต่นางยังกัดฟันแน่นและต้องการฆ่าฟางหยวนเพื่อลบล้างความอับอายของตน

เทพธิดาจื่อเว่ยเงียบไปชั่วขณะก่อนจะแจ้งผลลัพธ์กับจิ้งหลาน

“ว่าไงนะ!? เจ้าไม่สามารถค้นหาตําแหน่งของเขางั้นหรือ?” จึงหลานไม่พอใจ

“ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่เขาจะไปที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอย่างแน่นอน เราเตรียมการบางอย่างไว้แล้ว แม้เราจะล้มเหลวในครั้งนี้แต่เราก็ได้กําไรมหาศาลเช่นกัน ไม่เพียงเราจะทําให้เขาสูญเสียพลังงานอมตะจํานวนมากเรายัง บังคับให้เขาเปิดไพ่หลายใบ ผู้อมตะเช่นเขาจะถูกกําจัดในการต่อสู้เพียงครั้งเดียวได้อย่าง ไร?” เทพธิดาจื่อเว่ยปลอบโยนจิ้งหลาน

จิ้งหลานเงียบ

ไม่นานหลังจากนั้นนางก็ถอนหายใจยาว นางสงบจิตใจลงแล้ว

“ข้าประเมินเขาต่ําเกินไป คนผู้นี้มีพรสวรรค์ที่ไม่น่าเชื่อ เขาคู่ควรที่จะถูกคัดเลือกโดยเจตจํานงสวรรค์และนิกายเงา ครั้งต่อไปที่เราพบกัน ข้าจะไม่ทําพลาดเช่นครั้งนี้”

จิ้งหลานไม่ใช่คนบ้าระห่ํา หลังจากได้รับการแจ้งเตือน นางก็สามารถสงบอารมณ์และยอมรับความผิดพลาดของตนเองอย่างตรงไปตรงมา

“หากเปรียบเทียบกับฟางหยวน มีเรื่องที่น่าอึดอัดใจยิ่งกว่า…” เทพธิดาอเว่ยแจ้งข่าวเกี่ยวกับสวรรค์สีเหลืองกับจิ้งหลาน

หัวใจที่พึ่งสงบลงของจิ้งหลานปะทุขึ้นอีกครั้งด้วยความโกรธ

“กระไรนะ!? ชายผู้นี้กล้าขายกระดูกซี่โครงของข้าจริงๆงั้นหรือ? ยืม ช่างอุกอาจนัก!”

จิ้งหลานเชื่อมต่อสวรรค์สีเหลืองและเห็นกระดูกซี่โครงของนางถูกวางขาย ความโกรธของนางพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ดวงตาของนางกลายเป็นแดงก่ํา

ไม่นานหลังจากนั้นนางยังเห็นภาพฉากการต่อสู้ที่ฟางหยวนกําลังทุบตีนาง นี่ทําให้นางกัดกรามจนแทบหัก “บัดซบ! คนสารเลว…ในอนาคตเมื่อเขาอยู่ในกํามือของข้า ข้าจะถลกหนัก ดังเส้นเอ็น และเลาะกระดูกของเขาออกมา!”

ฟางหยวนที่กําลังล่าถอยเย้ยหยันอยู่ในใจ

แม้เขาจะแพ้จิ้งหลานในการต่อสู้แต่ผลลัพธ์กลับทําให้จิ้งหลานสูญเสียชื่อเสียงและความรุ่งโรจนในอดีต

กระดูกซี่โครงสามซี่และภาพการต่อสู้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของฟางหยวน

“ชนะหรือแพ้เป็นเรื่องรองในการต่อสู้ สิ่งสําคัญกว่าคือกําไรหรือขาดทุน แม้ข้าจะแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้แต่ข้าได้รับสิ่งที่ต้องการแล้ว

ฟางหยวนพยายามนําอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดกลับมาแต่ถูกขัดขวางโดยลั่วเว่ยหยิน

ก่อนหน้านี้ฟงจิวเก้อบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและค้นพบการคงอยู่ของวิญญาณ สติปัญญานอกจากนี้เขายังนําฟางเลิ้งและภูเขาตงฮันไป

ฟางหยวนจุดชนวนภูเขาตงฮันทําให้เทพปีศาจจิตวิญญาณฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย

จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าจิ้งหลานซุ่มโจมตีฟางหยวนแต่ฟางหยวนสามารถหลบหนีเนื่องจากหลายปัจจัย

“วังสวรรค์ค้นพบและบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา พวกเขาจะโจมตีอีกครั้งอย่างแน่นอนแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีความสําคัญอย่างมากต่อข้า ข้าจะสูญเสียมันไปไม่ได้”

“ข้าต้องรวบรวมกําลังรบเพื่อต่อต้านการรุกรานครั้งต่อไปของวังสวรรค์ พันธมิตรสี่เผ่าพันธุ์สามารถใช้งาน

“ชื่อเสียงของข้าเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังการต่อสู้ครั้งนี้ ความคิดเห็นของข้าจะส่งอิทธิพลต่อพวกเขาและอาจถูกมองว่าเป็นความหวังในการต่อสู้

ขณะที่เขากําลังหลบหนี ผู้อมตะหลายคนในสวรรค์สีเหลืองสอบถามราคากระดูกซี่โครงของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า

แต่เหตุใดเขาต้องขายให้คนเหล่านี้?

นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะทําลายชื่อเสียงของวังสวรรค์และเป็นโอกาสสร้างขึ้นเสียงให้กับตัวเขาเอง เขาจะไม่โลภทํากําไรและขายกระดูกซี่โครงทั้งสามออกไป

“ข้าต้องคว้าทุกโอกาสเพื่อสร้างความเสียหายให้กับวังสวรรค์ ขณะเดียวกันข้าก็ต้องปลุกความกล้าหาญของผู้อมตะคนอื่นๆ เมื่อช่วงเวลาสําคัญในอนาคตมาถึง พวกเขาจะมีความกล้าต่อต้านวังสวรรค์

“นอกจากนั้นลูกค้าเหล่านี้จะไม่ใช่สมาชิกวังสวรรค์งั้นหรือ? ต้องมีอย่างแน่นอน มีความเป็นไปได้สูงมากที่จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าจะเป็นหนึ่งในนั้น ฮ่าฮ่า

ฟางหยวนหัวเราะคิกคัก

เขายังสามารถหัวเราะในช่วงเวลาที่ยากลําบาก

วังสวรรค์ค้นพบแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา พวกเขารู้ที่ตั้งของมัน นี่ทําให้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาไม่ปลอดภัย

หากแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกยึดครอง ฟางหยวนจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากนิกายหลางหยา แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถือเป็นความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่สําหรับเขา

แต่มันไม่ง่ายที่จะต่อต้านวังสวรรค์

เพียงเขาและพันธมิตรสี่เผ่าพันธุ์จะต่อต้านวังสวรรค์ได้จริงๆงั้นหรือ?

“ยังไม่ถึงเวลายอมแพ้!”

“เมื่อข้ากลับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ข้าจะซึมซับความหมายที่แท้จริงของบรรพชนผมยาว แม้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจะพ่ายแพ้และถูกยึดครอง แต่ข้าก็ต้องรีบเค้นผลประโยชน์จากนิกายหลางหยาให้ได้มากที่สุด”

ขณะที่ฟางหยวนกําลังคิดเรื่องนี้ ร่างกายของเขากลับสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง ความตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

สาเหตุเป็นเพราะร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนบอกข้อมูลล้ําค่ากับเขา

“ร่างแยกของข้ากําเนิดใหม่แล้ว?

“วิญญาณกาลเวลานําเจตจํานงของร่างแยกเดินทางกลับมาจากอนาคต”

“ดังนั้นความพยายามทั้งหมดของข้าก็ล้มเหลว วังสวรรค์สามารถฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม!”

ในไม่ช้าฟางหยวนก็สงบจิตใจลง สายตาของเขากลายเป็นมืดมิดราวกับขุมนรก

เมื่อเขามอบวิญญาณกาลเวลาให้กับร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลา เขาก็คาดเดาถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ดังกล่าวไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถยอมรับความจริงเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว

ความแข็งแกร่งของวังสวรรค์

“แต่นี่ไม่น่าสนใจกว่างั้นหรือ?” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น รอยยิ้มปรากฏ ขึ้นบนใบหน้าของเขาแต่มันเต็มไปด้วยความเย็นชาและบ้าคลั่ง

แม้เขาจะล้มเหลวนับหมื่นครั้ง ล้านครั้ง หรือหลายร้อยหลายพันล้านครั้ง ตราบเท่าที่ยังมีโอกาสฟางหยวนก็ไม่ยอมแพ้

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท