เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1775 จัดการทะเลทรายผีเขียว

บทที่ 1775 จัดการทะเลทรายผีเขียว

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1775 จัดการทะเลทรายผีเขียว

คืนนี้ที่ภาคใต้ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว สายลมกรรโชกแรง พายุกําลังก่อตัวขึ้น

ผู้อมตะสองคนบินอยู่บนท้องฟ้า พวกเขาซ่อนร่องรอยของตนขณะที่กลุ่มเมฆสีดํา ช่วยปิดบังพวกเขาเอาไว้อีกชั้น

“ที่นี่” หนึ่งในสองเปิดปากกล่าวอย่างกะทันหัน

พวกเขาหยุดเคลื่อนไหว

ท่ามกลางเมฆสีดํา เขตแดนอมตะปรากฏขึ้นและแยกพวกเขาออกจากโลกภายนอกทันที

หลังจากเข้าสู่เขตแดนอมตะ ทั้งสองถอดชุดคลุมออกและเผยให้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริง

หนึ่งเป็นผู้อมตะระดับต่ําที่ดูธรรมดา อีกหนึ่งเป็นผู้อมตะระดับแปดที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลจือ จือชิวหยู

จ่อซิวหยูผู้ยิ่งใหญ่ย่องออกมาเพื่อพบผู้ใด? “ผู้อาวุโสจ่อซิวหยู เราพบกันอีกครั้ง” ผู้อมตะอีกคนที่สร้างเขตแดนอมตะกล่าว

จ่อชิวหยูมองเขาและรู้สึกไม่พอใจ “ฟางหยวน ข้าคิดว่าร่างหลักของเจ้าจะมาด้วยตนเองเจ้าระวังตัวมากเกินไป”

ฟางหยวนไม่ได้มาในร่างหลัก เขามาในร่างของกายาแห่งความฝัน

ฟางหยวนในร่างกายาแห่งความฝันยิ้ม “ข้าเป็นคนขี้ขลาดและกลัวตาย โปรดเข้าใจข้าด้วย”

“ขี้ขลาดและกลัวตายงั้นหรือ?” เปลือกตาของจ่อซิวหยูกระตุก เขานึกถึงกระดูกซี่โครงของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าที่วางขายอยู่ในสวรรค์สีเหลือง เขานึกถึงฟางหยวนที่ปลอมตัวเป็นรู ไห่ เขานึกถึงความสูญเสียครั้งใหญ่ของเขาที่เกิดจากการปล้นสะดมของฟางหยวน แต่ฟางหยวนก ลับบอกว่าตนเองขี้ขลาดและกลัวตาย?

จ่อชิวหยูเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ฟางหยวน เจ้าถ่อมตัวเกินไป ข้านําของที่เจ้าต้องการมาแล้วอย่าเสียเวลา มาทําธุรรมกันเถอะ”

สถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้ภูเขาอี้เทียน มันเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างอ่อนไหว จ่อชิวหยูไม่กล้าประมาท

“ตกลง” ฟางหยวนพยักหน้า

ทั้งสองทําธุรกรรมกันอย่างรวดเร็ว

จ่อชิวหยุได้รับวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูล ขณะเดียวกันเขาก็ส่งผู้อมตะที่มาพร้อมกันให้กับฟางหยวน

ผู้อมตะผู้นี้คือฟางหยวนในร่างกายาแห่งความฝันเช่นกัน

หลังจากฟางหยวนกับจือชิวหยูบรรลุข้อตกลง ฟางหยวนใช้กายาแห่งความฝันเพื่อติดต่อกับอชิวหยู

จ่อชิวหยูนหนึ่งในกายาแห่งความฝันของฟางหยวนเข้าไปในค่ายกลวิญญาณอมตะบนภูเขาอี้เทียนผ่านประตูลับ

ฟางหยวนในร่างกายาแห่งความฝันใช้ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นกายาแห่งความฝันและเก็บอาณาจักรแห่งความฝันไว้ในมิติช่องว่างก่อนจะกลับออกมาพร้อมจือชิวหยู

ในชีวิตก่อนหน้า เมื่อฟางหยวนโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบโดยใช้กายาแห่งความฝันฟงจินฮวงเปลี่ยนพวกมันเป็นกายาแห่งความฝันที่สมบูรณ์แบบของนางและใช้พวกมันสร้างปัญหาให้กับฟางหยวน อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังสามารถจับกายาแห่งความฝันที่สมบูรณ์บางตนหลังจากทําความเข้าใจพวกมันเขาได้รับวิธีสร้างกายาแห่งความฝันที่สมบูรณ์มาในที่สุด

ตอนนี้ฟางหยวนใช้กายาแห่งความฝันที่ไม่สมบูรณ์ติดต่อกับจอชิวหยู เนื่องจากกายาแห่งความฝันที่ไม่สมบูรณ์มีอายุการใช้งานที่จํากัด เมื่อถึงเวลา มันจะระเบิดตัวเองและกลายเป็นอาณาจักรแห่งความฝัน

ฟางหยวนใช้ข้อบกพร่องนี้ให้เกิดประโยชน์ แม้จื้อชิวหยูจะวางแผนร้าย แต่เขาก็จะไม่ได้รับกายาแห่งความฝัน

ก่อนการทําธุรกรรม ฟางหยวนแจ้งข้อบกพร่องนี้กับจือชิวหยูไว้แล้ว

หลังจากเรียนรู้ว่ากายาแห่งความฝันจะระเบิดตัวเอง การแสดงออกของจ่อซิวหยูกลายเป็นน่าเกลียด แต่เพื่องานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝัน เขาต้องยอมรับมัน

ธุรกรรมนี้มีความเสี่ยงอย่างมากสําหรับทั้งสองฝ่าย แต่ผลตอบแทนของมันน่าดึงดูดใจเกินไปนั่นทําให้ทั้งสองไม่สามารถปฏิเสธ

ธุรกรรมครั้งแรกราบรื่นและค่อนข้างน่าพอใจ นี่ทําให้พวกเขามีความมั่นใจมากขึ้นในการดําเนินการต่อ

ก่อนแยกย้าย พวกเขาตกลงเกี่ยวกับสถานที่และเวลาในการทําธุรกรรมครั้งต่อไป พวกเขายังจัดเตรียมวิธีการสื่อสารอย่างลับๆที่ปลอดภัยมากขึ้น

ธุรกรรมของฟางหยวนกับตระกูลจื่อเปลี่ยนไปมากจากชีวิตก่อนหน้า

ในชีวิตก่อนหน้าฟางหยวนแลกเปลี่ยนทรัพยากรอมตะและหินวิญญาณอมตะเนื่องจากเขาขาดแคลนพลังงานอมตะ แต่ชีวิตนี้เขากลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและก้าวเข้าสู่ระดับแปดดังนั้นเขาจึงไม่ขาดแคลนพลังงานอมตะ

สิ่งที่เขาขาดคืออาณาจักรแห่งความฝัน

ในชีวิตก่อนหน้า เขาสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ แต่มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ควรค่าแก่การสํารวจ

ฟางหยวนต้องการอาณาจักรแห่งความฝันจํานวนมากจากภูเขาอี้เทียน

เทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นปรมาจารย์เอกในทุกเส้นทาง มีความเป็นไปได้ที่อาณาจักรแห่งความฝันบนภูเขาอี้เทียนจะมีอาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางมนุษย์ เส้นทางแห่งข้อมูลและเส้นทางแห่งพลังปราณ

หากฟางหยวนสามารถรับสืบทอดความสําเร็จจากเทพปีศาจจิตวิญญาณได้อย่างสมบูรณ์เขาจะสามารถกลืนกินถ้ําสวรรค์ระดับแปดทั้งหมด

ความสําเร็จบนเส้นทางมนุษย์ของเทพปีศาจจิตวิญญาณต้องอยู่ในระดับปรมาจารย์เอกมิฉะนั้นเขาจะมีรากฐานพอที่จะสร้างวิญญาณทารกอมตะได้อย่างไร

“ความสําเร็จบนเส้นทางมนุษย์ของข้าอยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญ นี่คือการสะสมของข้าหลังจากหกร้อยปี” ฟางหยวนรู้ตัวว่าความสําเร็จบนเส้นทางมนุษย์ของเขาไม่เพียงพอที่จะจัดการวิธีบนเส้นทางมนุษย์ของวังสวรรค์

เขายังเด็กเกินไป รากฐานของเขายังไม่ลึกพอ

เทพปีศาจบัวแดงมีชีวิตสามพันปี นี่เป็นอายุขัยที่สั้นที่สุดท่ามกลางผู้อมตะระดับเก้าทั้งหมดอย่างไรก็ตามหากพิจารณาถึงการกําเนิดใหม่ของเขา แท้จริงแล้วอายุของเขาย่อมเกินกว่าสามพันปี

เทพอมตะแรกกําเนิดมีชีวิตสองหมื่นห้าพันปี เทพอมตะกลุ่มดาวมีอายุหนึ่งหมื่นเก้าพันปีเทพอมตะบัวสวรรค์มีอายุหนึ่งหมื่นสองพันปี คนทั้งสามมีอายุขัยมากที่สุดเป็นสามอันดับแรก

เพื่อจัดการวิธีการของพวกเขา ฟางหยวนต้องพึ่งพาอาณาจักรแห่งความฝันและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

นอกเหนือจากเส้นทางมนุษย์ เส้นทางแห่งข้อมูล เส้นทางแห่งพลังปราณ ฟางหยวนยังต้องการเส้นทางแห่งหิมะและน้ําแข็ง

ร่างหลักของฟางหยวนอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ทําธุรกรรม หลังจากจ่อชิวหยูจากไป เขาก็เรียกกายาแห่งความฝันกลับมา

ในไม่ช้าเขาก็นํากายาแห่งความฝันทั้งสองเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

อาณาจักรแห่งความฝันที่ฟางหยวนได้รับในครั้งนี้ไม่ใช่อาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางมนุษย์แต่เป็นเส้นทางแห่งพลังปราณ

อาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางแห่งพลังปราณมีประโยชน์มากสําหรับฟางหยวน

หากความสําเร็จบนเส้นทางแห่งพลังปราณของเขาบรรลุระดับปรมาจารย์เอก เขาจะสามารถกลืนกินถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ ด้วยวิธีนี้การบ่มเพาะของเขาจะยกระดับขึ้นอีกครั้ง

ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยตามด้วยท่าไม้ตายอมตะไข่มุกหยกเพื่อเดินทางออกจากภาคใต้

ในเวลาต่อมาเขาปรากฏตัวขึ้นที่ทะเลทรายตะวันตก เขาปลอมตัวเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาชวนรู้จินอีกครั้ง

เขาบินไปยังทะเลทรายผีเขียวเพื่อพบกับผู้อมตะระดับเจ็ดฟางฮั่วเฉิง

ฟางฮั่วเฉิงเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สามของตระกูลฟางที่เชี่ยวชาญด้านการักษา เขาสวมชุดคลุมสีขาวและมีเส้นผมสีขาว เขามองฟางหยวนด้วยการแสดงออกที่อบอุ่น

“สหายชวนงูจิน เป็นอย่างไรบ้าง?” ฟางชั่วเฉงทักทาย

ฟางหยวนพยักหน้า “ขอบคุณสําหรับความห่วงใย เป้าหมายของข้าในการมาที่นี่คือการร่วมมือกับตระกูลฟางจัดการทะเลทรายผีเขียวด้วยกัน”

ฟางหยวนกล่าวความตั้งใจของตนออกมาอย่างเปิดเผยโดยไม่เสียเวลา

สิ่งนี้แตกต่างจากชีวิตก่อนหน้า

ในชีวิตก่อนหน้า ตัวตนซวนปู่จนถูกเปิดเผย ความสัมพันธุ์ของเขากับตระกูลฟางถูกตัดขาดนั่นทําให้ฟางหยวนต้องใช้วิธีรีดไถตระกูลฟางโดยตรง แม้ตระกูลฟางจะมอบทรัพยากรให้ เขาแต่มันยังไม่สามารถเติมเต็มความต้องการของเขา

เขารู้สึกเสียใจกับการสูญเสียนี้อยู่บ่อยครั้ง

มันขัดขวางการเติบโตของเขา เส้นทางการบ่มเพาะของเขาต้องหยุดชะงัก

ดังนั้นในชีวิตนี้ฟางหยวนจึงให้ความสําคัญกับปัญหานี้และเปลี่ยนแปลงมัน

ชวนปู่จีนเคยใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณต่อหน้าเฉินอี้ ขณะที่ฟางหยวนใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณต่อต้านฟงจิวเก้อ แต่ทั้งสองเหตุการณ์แตกต่างกันมาก

โดยปราศจากหลักฐานที่เพียงพอ ไม่มีผู้ใดสามารถเชื่อมโยงฟางหยวนกับชวนรู้จิน

แม้พวกเขาจะมีวิธีบนเส้นทางแห่งการโจรกรรม แต่เส้นทางแห่งการโจรกรรมแพร่กระจายไปทั่วทั้งห้าภูมิภาค

คนส่วนใหญ่คิดว่าวิธีบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมของฟางหยวนมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาท้ายที่สุดบรรพชนผมยาวก็เคยร่วมงานกับเทพปีศาจปล้นสวรรค์

ฟางชั่วเฉิงถอนหายใจ “ตั้งแต่การต่อสู้ชิงวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ ชื่อของเจ้าก็ถูกจารึกไว้ในความทรงจําของพวกเรา เรายินดีอย่างยิ่งที่จะร่วมมือกับเจ้า แต่ครั้งนี้”

ฟางฮั่วเฉิงหยุดและลอบสังเกตการแสดงออกของชวนรู้จิน

แต่เขาต้องผิดหวังเพราะใบหน้าของซวนปู่จีนไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

ฟางฮั่วเฉิงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกล่าวต่อ “ตอนนี้ตระกูลฟางอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ เรากําลังเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเร็วๆนี้มีข่าวลือว่าสหายซวนจินเป็นปีศาจฟางหยวนเนื่องจากทั้งสองมีวิธีขโมยวิญญาณอมตะและต่อต้านวังสวรรค์!”

“ปีศาจฟางหวนมีใบหน้าที่คุ้นเคย เขาสามารถปกปิดตัวตน เราไม่สามารถป้องกันเขา กระทั่งวังสวรรค์ก็ไม่สามารถทําสิ่งใด”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท