เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1794 เรือรบหมื่นปี

บทที่ 1794 เรือรบหมื่นปี

บทที่ 1794 เรือรบหมื่นปี

การฝึกฝนท่าไม้ตายอมตะไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้อมตะอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสจากความล้มเหลว

ยิ่งท่าไม้ตายทรงพลังเท่าใด ความเสี่ยงก็ยิ่งมากเท่านั้น แต่พวกเขาก็ต้องยอมรับความเสี่ยงและฝึกฝนมัน พวกเขาไม่สามารถเสี่ยงใช้ท่าไม้ตายอมตะที่ไม่คุ้นเคยในการต่อสู้

หลายครั้งที่ผู้อมตะล้มเหลวในการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะและเสียชีวิตระหว่างการต่อสู้

หลายคนกระทั่งเสียชีวิตระหว่างการฝึกฝนท่าไม้ตายอมตะ

ฟางหยวนกําลังฝึกฝนท่าไม้ตายอมตะปราณแสงห้าภูมิภาคที่ทรงพลัง ดังนั้นเขาจึงต้องระวังตัวมาก

เขาไม่ได้เลือกระหว่างท่าไม้ตายอมตะปราณแสงห้าภูมิภาคหรือค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาคแม้ทั้งสองจะไม่สามารถใช้งานพร้อมกัน

พิจารณาจากความยืดหยุ่น ท่าไม้ตายอมตะปราณแสงห้าภูมิภาคมีความได้เปรียบมากกว่า แต่ค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาคก็มีข้อดีของมัน หากจัดตั้งค่ายกลเรียบร้อยแล้ว มันก็เหมือนกับเขามีท่าไม้ตายอมตะที่เตรียมไว้แล้วและสามารถใช้งานได้ทุกเมื่อ

ตัวอย่างเช่นการซุ่มโจมตีผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้โดยใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตาย

ไม่ว่าจะเป็นชีวิตก่อนหรือชีวิตนี้ การซุ่มโจมตีครั้งนี้ก็ประสบความสําเร็จและทําให้ฟางหยวนพอใจมาก

ปัจจัยสําคัญที่ทําให้การซุ่มโจมตีของฟางหยวนประสบความสําเร็จก็คือค่ายกลวิญญาณอมตะ

ตราบเท่าที่ศัตรูติดอยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะ ผู้ใช้งานมักมีข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่

แต่ข้อเสียของค่ายกลวิญญาณอมตะคือไม่สามารถเคลื่อนย้าย

หากศัตรูค้นพบ พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยง

ดังนั้นจือชิวหยูและเทพธิดาจื่อเว่ยจึงรู้สึกประหลาดใจที่ค่ายกลวิญญาณอมตะของฟางหยวนสามารถซ่อนตัวจากการตรวจสอบของผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้

นอกจากนั้นการจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะก็ไม่ใช่เรื่องง่าย มันต้องใช้เวลาที่ค่อนข้างนาน บางค่ายกลต้องใช้เวลาสองหรือสามวัน บางค่ายกลใช้เวลาสองหรือสามเดือน และบางค่ายกลใช้เวลานานนับปี

วังสวรรค์ต้องใช้เวลาหนึ่งปีก่อนที่จะประสบความสําเร็จในการจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ

ค่ายกลวิญญาณอมตะที่ยอดเยี่ยมไม่ใช่สิ่งที่ผู้อมตะทั่วไปจะสามารถจัดตั้งได้

ค่ายกลวิญญาณอมตะในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาไม่ได้ถูกจัดตั้งขึ้นโดยบรรพชนผมยาว เขาต้องร้องขอให้ผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งค่ายกลที่ยิ่งใหญ่มาจัดตั้งมัน

ฟางหยวนประเมินว่าเขาต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งปีในการจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาค

โชคดีที่เวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิเดินเร็วกว่าโลกภายนอกและสามารถบรรเทาข้อบกพร่อง

ตามแผนการของเขา เขาจะเก็บค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาคไว้ในวิญญาณอมตะธงค่ายกล ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถนํามันออกมาใช้งานได้ทุกเมื่อ

อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังไม่ได้อนุมานเกี่ยวกับค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาค

ในช่วงเวลานี้ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนกําลังคิดค้นและสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะขึ้นมาอีกครั้ง

คฤหาสน์วิญญาณอมตะมีต้นกําเนิดมาจากเส้นทางแห่งค่ายกล มันเหมือนค่ายกลวิญญาณอมตะแบบพกพา

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนอาบแสงแห่งปัญญาและอนุมานอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันร่างหลักของเขาก็ยุ่งอยู่กับการฝึกฝนท่าไม้ตายอมตะ เขายังใช้เวลาที่เหลือบ่มเพาะจิตวิญญาณและจัดการมิติช่องว่างจักรพรรดิ

ทุกอย่างดําเนินไปอย่างราบรื่น สิ่งสําคัญคือเขามีผู้ใต้บังคับบัญชาที่ยอดเยี่ยมให้ความช่วยเหลือ

สระแก่นแท้ปีเก็บอสูรปีจํานวนมากเอาไว้ มันยังผลิตวิญญาณบนเส้นทางแห่งกาลเวลาและสามารถควบคุมการไหลของเวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

ชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนต้องรวบรวมทรัพยากรอย่างยากลําบากเพื่อสร้างสระแก่นแท้ ปีแต่ในชีวิตนี้เขาได้รับมันมาจากเซี่ยชาโดยตรง อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังไม่พอใจ ครั้งก่อนเขาให้ความสําคัญกับโครงสร้างของสระแก่แท้ปีและทําให้มันมีประสิทธิภาพสูงกว่ามาตรฐานนั้น ทําให้สระแก่นแท้ปีของเขาเหนือกว่าสระแก่นแท้ปีของเชียชา

อย่างไรก็ตามอสูรปียังมีความสุขกับบ้านใหม่ของพวกมัน

ฝูงอสูรปและฝูงอินทรีย์เป็นภาระของฟางหยวนมาตลอด

ตอนนี้ปัญหาการเลี้ยงดูอสูรปิคลี่คลายแล้ว ขณะเดียวกันที่อยู่อาศัยและระบบนิเวศของฝูงอินทรีย์ก็พัฒนาไปมาก

เขาใช้วิญญาณอมตะฤดูร้อนและวิญญาณอมตะฤดูใบไม้ผลิเพื่อกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะสอง

หนึ่งเรียกว่าต้นอ่อนฤดูใบไม้ผลิ ท่าไม้ตายนี้ใช้วิญญาณอมตะฤดูใบไม้ผลิระดับแปดเป็นแกนกลางและใช้วิญญาณอมตะหน่อไม้เป็นส่วนสนับสนุน มันทําให้หญ้าวิหคเติบโตขึ้นบนดินเมฆอย่างรวดเร็ว

อีกหนึ่งเรียกว่าช่วงเวลาแห่งฤดูร้อน ท่าไม้ตายนี้ใช้วิญญาณอมตะฤดูร้อนระดับแปดเป็นแกนกลางและใช้วิญญาณอมตะบนเส้ทางแห่งแสงเป็นส่วนสนับสนุนเพื่อสร้างแสงอาทิตย์

นี่ทําให้ฝูงอินทรีย์ที่หิวโหยมีบางสิ่งเติมเต็มความอยากอาหารของพวกมัน

แต่เนื่องจากการปลูกหญ้าวิหคต้องใช้ดินเมฆจํานวนมาก ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องซื้อดินเมฆปริมาณมหาศาล ค่าใช้จ่ายของเขาเพิ่มขึ้นอีกมาก

นี่เป็นปัญหาที่จะเกิดขึ้นเสมอเมื่อผู้อมตะต้องการสร้างห่วงโซ่อาหารขึ้นในมิติช่องว่างของพวกเขา

ในช่วงเวลาเดียวกันของชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนไม่ได้ทําสิ่งใดเกี่ยวกับฝูงอินทรีย์ แต่ตอนนี้เขามีทรัพย์สินมากมายและสามารถจ่ายเพื่อมัน

อย่างไรก็ตามสิ่งนี้นําไปสู่ปัญหาอื่น

ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาทั้งสองกระตุ้นให้ฝูงอินทรีย์วางไข่

เนื่องจากฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนเกิดขึ้นบ่อยเกินไป ฝูงอินทรีย์จะต่อสู้กันเพื่อผสมพันธุ์โดยไม่มีเวลาพักผ่อน

ฟางหยวนต้องส่งบางคนไปทําหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงของฝูงอินทรีย์เหล่านี้

ห่วงโซ่อาหารที่เรียบง่ายนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ในอนาคตมันจะกลายเป็นระบบนิเวศขนาดใหญ่

แต่มันไม่ได้มีเพียงข้อเสีย อย่า

หยวนก็ได้รับไข่อินทรีย์จํานวนมาก

แตกต่างจากอสูรปีที่สระแก่นแท้ปีสามารถเลียนแบบสภาพแวดล้อมของสายธารแห่งกาลเวลาอย่างสมบูรณ์ ฝูงอินทรย์จัดการได้ยากกว่า

ระบบนิเวศที่สมบูณ์เกี่ยวข้องกับทุกแง่มุม เขาต้องเปลี่ยนแปลงและให้ความสําคัญกับสภาพแวดล้อมทั้งหมด บางครั้งกระทั่งหนอนผีเสื้อตัวเล็กๆก็อาจส่งอิทธิพลต่อมิติช่องว่างทั้งหมด

ฟางหยวนต้องพิจารณาทุกสิ่งอย่างรอบคอบ

ตอนนี้มิติช่องว่างจักรพรรดิยังเหลือพื้นที่อีกมากที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา ในอนาคตมันจะยิ่งยากในการจัดการสิ่งเหล่านี้

การกลืนกินมิติช่องว่างของผู้อมตะทําให้ฟางหยวนได้รับทรัพยากรมากมาย มิติช่องว่างจักรพรรดิของเขาอาจมีทรัพยากรมากกว่าผู้อมตะทุกคนบนโลกใบนี้

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนอนุมานโดยไม่หยุดพัก ในที่สุดเขาก็ประสบความสําเร็จ

คฤหาสน์วิญญาณอมตะ เรือรบหมื่นปี!

ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนต้องการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะเพื่อสํารวจสายธารแห่งกาลเวลาและอนุญาตให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาเข้าร่วมในการต่อสู้ระดับแปด

น่าเสียดายที่เขาไม่ประสบความสําเร็จมากนัก เขาสามารถสร้างเพียงคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ นอกจากนั้นมันยังถูกทําลายโดยหลี่ฮวง ต่อมาฟางหยวนยังพยายามสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากกรรโชกทรัพย์กองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ เขามีวิญญาณทุกชนิดและสามารถสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะ แต่มันยังเสียเปรียบอย่างมากในการต่อสู้ที่เมืองจักรพรรดิ มันไม่มีประโยชน์มากนัก

ในชีวิตนี้ ฟางหยวนมีบทเรียนจากชีวิตก่อนหน้า เขาลดมราตรฐานลงเล็กน้อยและประสบความสําเร็จในการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาหลังนี้ในที่สุด

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท