เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1821 ได้รับกายาสวรรค์อีกครั้ง

บทที่ 1821 ได้รับกายาสวรรค์อีกครั้ง

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1821 ได้รับกายาสวรรค์อีกครั้ง

“วังสวรรค์” ฉินติงหลิงยืนอยู่บนหอคอยดวงตาสวรรค์และมองทิวทัศน์ของวังสวรรค์ด้วยความคิดถึง

หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน นางจึงถอนหายใจออกมาเบาๆ “แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ข้ายังจําทิวทัศน์เมื่อสามแสนปีก่อนได้อย่างชัดเจน”

เทพธิดาจื่อเว่ยยืนอยู่ด้านข้างฉินติงหลิงด้วยท่าที่อ่อนน้อม

ความอาวุโสของฉินติงหลินไม่สามารถเปรียบเทียบกับราชันมังกรแต่นางมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน

เดิมที่นางเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของนิกายโบราณในภาคกลาง มันคือนิกายเหนือสวรรค์เมื่อนางกลายเป็นสมาชิกของวังสวรรค์ นางถูกบังคับให้เป็นนางสนมของเทพอมตะตะวันเดือด

เทพอมตะตะวันเดือดมีนางสนมมากมายจากทั้งห้าภูมิภาค

ฉินติงหลิงเป็นจักรพรรดินีของวังนางสนมภาคกลาง

หลังจากเทพอมตะตะวันเดือดเสียชีวิต ฉินติงหลิงหายตัวไปอย่างลึกลับและพึ่งปรากฏตัวขึ้นเมื่อสองสามวันก่อน

“ตัวตนของผู้อาวุโสฉินติงหลิงไม่ผิด แต่ตามประวัติศาสตร์ นางบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งโลหะเหตุใดนางจึงเปลี่ยนเป็นเส้นทางแห่งโชค?” เทพธิดาจื่อเว่ยมีคําถามอยู่ในใจ

ฉินติงหลิงไม่ใช่หญิงงามในอุดมคติของผู้คน แต่นางมีความงามที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและทําให้ผู้คนรู้สึกประทับใจเมื่อมองเห็น

นางสูงกว่าคนทั่วไป ไหล่กว้าง นางยืนตัวตรงและปลดปล่อยกลิ่นอายที่กล้าหาญออกมานางสวมเสื้อคลุมสีทองขนาดใหญ่ไว้บนแผ่นหลังและทิ้งตัวยาวไปบนพื้น

นางดูเหมือนจักรพรรดินีผู้ปกครองเหนือสามัญชนมาตั้งแต่กําเนิด กลิ่นอายของนางมักทําให้ผู้คนต้องก้มศีรษะลงและไม่กล้ามองหน้านางโดยตรง

ฉินติงหลิงกล่าวเบาๆ “จ่อเว่ย ข้ารู้ว่าเจ้ามีคําถาม ความจริงก็คือข้าตั้งใจหายตัวไป ย้อนกลับไป เวลานั้นเทพอมตะตะวันเดือดควบคุมโลกทั้งใบ ไม่มีผู้ใดสามารถต่อต้านเขา โชคดีที่เขาไม่ใช่เทพปีศาจ แม้ข้าจะถูกบังคับให้เป็นนางสนมของเขา ข้าก็มีเป้าหมายของตนเอง นั่นคือการเรียนรู้เส้นทางแห่งโชคจากเขา”

“หลังจากเทพอมตะตะวันเดือดเสียชีวิต ข้าได้รับความรู้มากมาย ข้าตัดสินใจที่จะละทิ้งเส้นทางแห่งโลหะและบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งโชค แต่เวลานั้นข้าเป็นผู้อมตะระดับแปดอยู่แล้วความเสี่ยงมีมากเกินไป ข้าได้รับความช่วยเหลือจากวังสวรรค์และมีโอกาสจําศีล ข้ายังละทิ้งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งโลหะทั้งหมดและเปลี่ยนมันเป็นโลงศพโลหะฝังข้าไว้ในเส้นโลหิตปฐพีเพื่อทําความเข้าใจเส้นทางแห่งโชค”

“การจําศีลดําเนินมาเป็นเวลาสามแสนปี เมื่อข้าตื่นขึ้น โลกก็เปลี่ยนแปลงเกินความเข้าใจของข้าไปแล้ว”

น้ําเสียงของฉินติงหลิงเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก

สามแสนปีไม่ใช่เวลาสั้นๆ ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว

ทุกคนที่นางรู้จักตายไปนานแล้ว

หลังจากเทพอมตะตะวันเดือด มันยังมีเทพปีศาจจิตวิญญาณและเทพอมตะสวรรค์พิภพ

ตอนนี้โลกกําลังเผชิญหน้ากับคลื่นแห่งยุคใหม่ คําทํานายและสัญญาณต่างๆ แสดงให้เห็นว่าเทพอมตะคนใหม่กําลังจะถือกําเนิด

“เป็นเช่นนั้น” เทพธิดาจ่อเว่ยรู้สึกยินดีที่ได้ยินคําอธิบาย “ผู้อาวุโส ท่านมาได้ถูกจัง หวะนักข้าต้องยอมรับผิดในเรื่องนี้ วังสวรรค์ล้มเหลวซ้ําแล้วซ้ําอีก สาเหตุหนึ่งที่ทําให้เกิดเรื่อง นี้คือจุดอ่อนบนเส้นทางแห่งโชคของเรา เรามักพ่ายแพ้ให้กับปีศาจตนนั้นเสมอ”

ฉินติงหลิงพยักหน้า “ข้าได้รับข้อมูลแล้ว ผู้ใดจะคิดว่าปีศาจเช่นฟางหยวนจะปรากฏตัวขึ้นนี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากแม้แต่ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของมนุษยชาติ อย่างไรก็ตามอย่าโทษตนเอง การตัดสินใจของเจ้าไม่ผิด มันเป็นเพียงเพราะศัตรูเจ้าเล่ห์เกินไปและมีมรดกที่น่าอัศจรรย์มากเกินไปโดยเฉพาะอย่างหลัง มันทําให้ฟางหยวนรับมือได้ยาก”

“ข้าเกรงว่าเหตุผลที่ข้าตื่นขึ้นในครั้งนี้จะเกิดจากอิทธิพลของฟางหยวน”

เทพธิดาจอเว่ยประหลาดใจ “ผู้อาวุโสหมายความว่าอย่างไร?

ฉินติงหลิงยิ้ม “จ่อเว่ย มีความหมายลึกซึ้งในการตื่นขึ้นของข้า ให้ข้าถามเจ้า ผู้ใดเป็นคนปลุกข้า?”

“มันคือฟางเลิ้ง”

“ถูกต้อง” ฉินติงหลิงกล่าวอย่างช้าๆ “ปีศาจต่างโลกไม่มีอยู่ในโชคชะตาของโลกใบนี้ มันเป็นสิ่งผิดปกติ เจตจํานงสวรรค์พยายามใช้หมากเบี้ยตัวนี้เพื่อต่อต้านเทพปีศาจจิตวิญญาณ เช่นเดียวกับยาแก้พิษของอสูรพิษที่มักอยู่ใกล้ชิดกับมัน ฟางเจิ้งเป็นสิ่งที่เจตจํานงสวรรค์สร้างขึ้นเพื่อต่อต้านฟางหยวน”

ฉินติงหลิงมองเทพธิดาจื่อเว่ยด้วยความชื่นชม “เจ้ารู้จักเส้นทางแห่งโชคเพียงเล็กน้อยแต่เจ้าสามารถอนุมานสิ่งนี้และเลี้ยงดูฟางเลิ้ง นี่ไม่ง่ายเลย”

“ผู้น้อยไม่สมควรได้รับคําชมนี้ ข้าพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องวังสวรรค์และความชอบธรรมของมนุษยชาติเท่านั้น”

“ฮ่าฮ่าฮ่า พูดได้ดี นี่คือจิตวิญญาณของวังสวรรค์ แม้สามแสนปีจะผ่านไปแต่สิ่งนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง!”

ฉินติงหลิงหัวเราะอย่างมีความสุข “ฟางหยวน ปีศาจต่างโลกเป็นตัวแปรที่ไม่แน่นอน ฟาง เจิ้งเป็นกุญแจสําคัญในการหยุดยั้งเขา ฟางเจิ้งจะเปลี่ยนไปเมื่อฟางหยวนเกิดการเปลี่ยนแปลง เทพปีศาจจิตวิญญาณล้มเหลวในการต่อต้านสวรรค์ขณะที่ฟางหยวนหลบหนีจากการควบคุมของเจตจํานงสวรรค์และแข็งแกร่งขึ้น กระทั่งวังสวรรค์ก็ไม่สามารถทําสิ่งใดกับ เขาเพื่อแก้ปัญหานี้ เจตจํานงสวรรค์จึงส่งฟางเลิ้งไปปลุกข้าให้ตื่นขึ้น”

“โชคชะตาเป็นสิ่งที่แน่นอนขณะที่โชคผันแปร ยิ่งการบ่มเพาะของผู้อมตะสูง เท่านั้น โชคของพวกเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งเท่านั้น การกระทําของพวกเขาจะส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ ฟางหยวนมีโชคที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เจ้าทําให้ฟางเลิ้งกลายเป็นผู้อมตะ สิ่งนี้ทําให้เขามีอิทธิพลมากพอที่จะปลุกข้าให้ตื่นขึ้นเพื่อต่อต้านความได้เปรียบของฟางหยวน ข้าแน่ใจว่าสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันนี้จะยังเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต ปีศาจฟางหยวนจะอยู่ได้ไม่นาน”

เมื่อกล่าวถึงจุดนี้ฉินติงหลิงก็ออกคําสั่งเทพธิดาอเว่ย “เจ้าต้องเลี้ยงดูฟางเจิ้งต่อไปและทําให้แน่ใจว่าเขาจะปลอดภัย ตราบเท่าที่เรามีเขา เราจะสามารถทําตามเจตจํานงสวรรค์ เราจะประสบความสําเร็จโดยใช้ความพยายามน้อยลง”

“ผู้น้อยเข้าใจแล้ว” ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องประกายเจิดจ้า

ก่อนหน้านี้เทพธิดาจื่อเว่ยไม่ได้ให้ความสําคัญกับฟางเจิ้งมากนัก นางเชื่อในความแข็งแกร่งของตัวนางเองและวังสวรรค์ การจัดการเกี่ยวกับฟางเจิ้งเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น

แต่หลังจากได้รับการแจ้งเตือนจากฉินติงหลิง เทพธิดาจื่อเว่ยจึงเข้าใจว่าฟางเจิ้งเป็นตัวหมากเบี้ยที่มีประโยชรน์ในการจัดการฟางหยวนมากที่สุด

หลังจากเทพธิดาจื่อเว่ยทําให้ฟางเจิ้งกลายเป็นผู้อมตะ เขาก็ทําให้ฉินติงหลิงตื้นขึ้น

ตราบเท่าที่เทพธิดาจื่อเว่ยยังลงทุนกับฟางเจิ้ง ผู้คนเช่นฉินติงหลิงอาจปรากฏขึ้นเรื่อยๆ

“ยิ่งฟางเจิ้งเติบโตขึ้นเท่าใด โชคของเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น เขาจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลง ทั้งหมดคือการจัดเตรียมของเจตจํานงสวรรค์เพื่อตอบโต้ฟางหยวนโดยเฉพาะ

“ในกรณีนี้เราจะให้ความสําคัญกับฟางเลิ้ง วังสวรรค์จะสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่

เทพธิดาจื่อเว่ยเข้าใจสถานการณ์อย่างชัดเจน นางเปลี่ยนกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุดทันที

“อีกอย่าง ข้ามีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์มากมาย ข้าได้รับมันมาอย่างลับๆ พวกมันเป็นเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคของเทพอมตะตะวันเดือด ข้าต้องการให้เจ้าพัฒนาและหลอมรวมพวกมัน” ฉินติงหลิงนําวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลออกมา

เทพธิดาจื่อเว่ยรับมันไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง “ข้าจะทําอย่างดีที่สุด ผู้อาวุโสโปรดวางใจ”

สวรรค์สีขาว ถ้ําสวรรค์ห้าเชียง

ฟางหยวนมาที่นี่เมื่อเร็วๆนี้ ท่าไม้ตายอมตะน้ําตกดาบแห่งปัญญา

น้ําตกสีเงินขนาดใหญ่ร่วงหล่นลงมาจากความว่างเปล่าและพุ่งเข้าปะทะกายาสวรรค์ที่อยู่ด้านล่าง

หยดน้ําแต่ละหยดคือความคิดที่อยู่ในรูปลักษณ์ของดาบ

เมื่อเวลาผ่านไปมันก็กลายเป็นทะเลสาบ

ท่าไม้ตายอมตะนักดาบแห่งปัญญา!

ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายต่อเนื่อง

น้ําในทะเลสาบเริ่มเดือดพล่าน จากนั้นนักรบที่ถือดาบยาวจํานวนมากก็กระโดดออกมาจากทะเลสาบและทําลายเจตจํานงที่อยู่ในกายาสวรรค์

ท่าไม้ตายอมตะน้ําตกดาบแห่งปัญญาใช้วิญญาณอมตะดาบแห่งปัญญาเป็นแกนกลางมันเป็นการรวมตัวกันระหว่างเส้นทางแห่งดาบและเส้นทางแห่งปัญญา ดังนั้นมันจึงมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้วิญญาณอมตะดาบแห่งปัญญาเพียงลําพังเพื่อกําจัดเจตจํานงเหล่านั้น

ท่าไม้ตายอมตะนักดาบแห่งปัญญาเป็นการรวมตัวระหว่างเส้นทางแห่งดาบและเส้นทางมนุษย์ฟางหยวนสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาหลังจากที่เขากลายเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางมนุษย์

สองชั่วโมงต่อมา

เสียงกรีดร้องของนกกระเรียนก็ดังไปทั่วถ้ําสวรรค์ห้าเซียง

มันตื่นขึ้นและกระพือปีกอย่างสง่างาม

“ในที่สุดข้าก็ได้รับกายาสวรรค์อีกครั้ง!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ครั้งนี้ข้าใช้เวลาน้อยกว่าครึ่งของชีวิตก่อนหน้า”

“ถึงเวลาไปยังถ้ําสวรรค์นักรบอสูรและถ้ําสวรรค์วรรณกรรมแล้ว”

ฟางหยวนยิ้มด้วยดวงตาส่องประกาย

เหตุการณ์ที่ดีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาได้รับรายงานจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาว่าวิญญาณอมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งโชคถูกหลอมรวมแล้ว

ฟางหยวนยังไม่ได้รับวิญญาณความเสียใจ เขาไม่ต้องการยกระดับวิญญาณอมตะดวงอื่นของเขาในเวลานี้

แต่เขารีดไถทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งโชคมากมายจากกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้เขาต้องการวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคมากที่สุดในเวลานี้

วิญญาณอมตะทุกดวงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อพวกมันถูกหลอมรวมแล้ว ผู้อื่นจะไม่สามารถหลอมรวมเป็นดวงที่สอง

มิติช่องว่างจักรพรรดิพัฒนาไปได้ด้วยดี ฟางหยวนร่ํารวยพอที่จะเลี้ยงดูวิญญาณอมตะระดับหกได้อย่างไม่มีปัญหา

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท