เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1845 โศกนาฏกรรมแห่งชีวิต

บทที่ 1845 โศกนาฏกรรมแห่งชีวิต

บทที่ 1845 โศกนาฏกรรมแห่งชีวิต

อู่ส่วยกลับไปที่เกาะดอกไม้แดนใต้ ไฟฉินก็ให้กำเนิดลูกของเขา!

 ในที่สุดเราก็มีทายาทสืบทอดสายเลือดของเรา! ไฟฉิน ลำบากเจ้าแล้ว  อู่ส่วยกอดทารกที่พึ่งเกิดและหมุนไปรอบๆด้วยความยินดี

ต่อมาเขาวางทารกไว้บนเตียงด้านข้างไฟฉินอย่างระมัดระวัง

เขามองไฟฉินที่อ่อนล้าจากการคลอดบุตรด้วยความรัก

 เราจะตั้งชื่อเขาว่าอย่างไร?  ไปฉันยิ้ม

 เด็กคนนี้ตาโตมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ เรียกเขาว่าหลงหลิง  อู่ส่วยกล่าว

ไฟฉินพยักหน้า  หลงหลิง เป็นชื่อที่ดี 

บุตรชายของพวกเขาจึงถือกำเนิด นี่ท่าให้อู่ส่วยมีความสุขมาก แต่เขาก็รู้สึกถึงภาระที่หนักขึ้นเช่นกัน

 ฮวงเว่ยและท่านพ่อของข้าจากไปแล้ว 

 ตอนนี้ข้าเหลือเพียงไฟฉินและบุตรคนใหม่ 

 ข้าต้องทำให้ไม่ฉันมีสถานะที่เหมาะสม ข้าต้องทำให้บุตรของข้ามีอนาคตที่สดใส เขาไม่สามารถอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการกีดกัด ข้าต้องการให้เขามีชีวิตอย่างถูกต้องและภาคภูมิใจในฐานะมนุษย์มังกรเขาจะเติบโตขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ

ความรับผิดชอบเป็นแรงผลักดันธุ์ส่วย หลังจากพักผ่อนสองสามวันบนเกาะดอกไม้แดนใต้ อู่ส่วยก็ออกเดินทางอีกครั้งเพื่อรวบรวมทรัพยากรบนเส้นทางแห่งความฝัน

วิธีการหลอมรวมวิญญาณอมตะป่าคำสั่งแห่งความฝันลึกลับมาก

ทั้งหมดเกิดขึ้นในความฝันของเขา

ทรัพยากรถูกปรับแต่งที่ละชิ้น ในที่สุดเขาก็มาถึงขั้นตอนสุดท้าย

 นี่!?  อู่ส่วยตกตะลึง

การเปิดเผยในความฝันของเขาบอกว่าเขาต้องเสียสละไฟฉิน ตราบเท่าที่นางเต็มใจเสียสละชีวิตของนางมันจะทำให้ขั้นตอนสุดท้ายประสบความสำเร็จ

 ไม่ ข้าไม่สามารถทำเช่นนั้น!  ร่างกายของคู่ส่วยสั่นสะท้าน ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาว เขาไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้

เขาเดินทางไปในสวรรค์สีขาวด้วยร่างที่ราวกับไร้วิญญาณ เขาถูกโจมตีโดยสัตว์อสูรแรกกำเนิดและเกือบเสียชีวิต

เขาสามารถสังหารสัตว์อสูรแรกกำเนิดแต่เขายังรู้สึกหงุดหงิดมาก

 ข้าควรเสียสละน้องหญิงจริงๆงั้นหรือ? ไม่ ไม่อย่างแน่อนน

 มันต้องมีวิธี มันต้องมี! 

อู่ส่วยตัดสินใจหยุดแผนการหลอมรวมวิญญาณอมตะป่ายค่าสังแห่งความฝันชั่วคราว

ในคืนที่สองเขาได้รับการเปิดเผยครั้งใหม่ในความฝัน

 บรรพชนราชันมังกรมีวิธีกำจัดเผ่ามนุษย์มังกรทั้งหมด! เขาต้องการใช้ท่าไม้ตายนี้หลายครั้งแล้ว? 

แม้อู่ส่วยจะเชื่อการเปิดเผยในความฝัน แต่ข่าวนี้น่าเหลือเชื่อเกินไป เขาแทบไม่สามารถยอมรับ

เขาไตร่ตรองก่อนจะตัดสินใจกลับภาคกลางและค้นหาความจริง

ภาคกลางเต็มไปด้วยความโกลาหล ความขัดแย้งระหว่างราชันมังกรกับเทพปีศาจบัวแดงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

แม้วังสวรรค์จะสงสัยเกี่ยวกับการตายของพ่ออู่ส่วย แต่ราชันมังกรยังเชื่อใจเขา

อู่ส่วยใช้กำลังทั้งหมดเพื่อตรวจสอบความจริง

ในเวลาเดียวกันเขายังได้รับการเปิดเผยในความฝันมากขึ้น

ด้วยความช่วยเหลือจากการเปิดเผยในความฝัน อู่ส่วยได้รับเบาะแสมากขึ้นเรื่อยๆ เบาะแสเหล่านี้พิสูจน์ว่าการเปิดเผยในความฝันเป็นเรื่องจริง มันทำให้เขาได้เรียนรู้การคงอยู่ของท่าไม้ตายอมตะทำลายล้างมนุษย์มังกร

 ย้อนกลับไปบรรพชนราชันมังกรสร้างวิธียืดอายุด้วยการเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกร นั่นทำให้เผ่ามนุษย์มังกรเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว มันค่อยๆพัฒนามาสู่เผ่ามนุษย์มังกรในปัจจุบัน 

 บรรพชนราชันมังกรเป็นต้นกำเนิดของมนุษย์มังกรทั้งหมด เมื่อเขาสร้างเผ่ามนุษย์มังกรขึ้นครั้งแรก เขาก็ซ่อนไพ่ตายเอาไว้แล้ว มันคือท่าไม้ตายอมตะทำลายล้างมนุษย์มังกร 

 ด้วยท่าไม้ตายนี้ มนุษย์มังกรทั้งหมดจะระเบิดตัวเอง ไม่มีผู้ใดสามารถรอดชีวิต! 

 นอกจากนั้นบรรพชนราชันมังกรยังต้องการใช้มันมานานแล้ว เขารอเพราะคำสั่งของเทพอมตะกลุ่มดาว บรรพชน ท่านช่างโหดร้ายและเย็นชานัก! 

อู่ส่วยทั้งโกรธและกังวล

การทางานหนักของเขา อนาคตของเผ่ามนุษย์มังกร ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องตลก พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ในภาพลวงตา

 ข้าควรทำอย่างไร? 

อู่ส่วยเงยหน้าขึ้นและกรีดร้องอย่างหมดสิ้นหนทาง

 ถูกต้อง ขายังมีความฝัน!  ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักถึงความหวังสุดท้ายที่เป็นไพ่ตายของเขา

คืนนั้นเขาฝันเช่นเดียวกับเมื่อสองสามปีก่อน

มันเกี่ยวกับการหลอมรวมวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งแห่งความฝัน

ขั้นตอนสุดท้ายของการหลอมรวมวิญญาณอมตะดวงนี้คือการเสียสละตนเองของไทฉิน

ความฝันบอกอู่ส่วยว่าเพื่อจัดการท่าไม้ตายอมตะทำลายล้างมนุษย์มังกร เขาต้องหลอมรวมวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งแห่งความฝันเป็นอันดับแรก

อู่ส่วยตื่นขึ้นด้วยความตกใจ ท่ามกลางความมืด เขาร้องไห้โดยไร้เสียง

เขามองหญิงคนรักของตนด้วยความมีนงง

ไฟฉินนอนหลับอย่างสงบ แต่ราวกับนางสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง นางเปิดเปลือกตาขึ้นและเห็นอู่ส่วยที่กำลังเจ็บปวดและโศกเศร้า

 เกิดสิ่งใดขึ้น?  ไฟฉินสวมกอดอู่ส่วยอย่างอ่อนโยน

อู่ส่วยกอดนาง เขาไม่เคยรู้สึกอ่อนแอและไร้ประโยชน์เช่นนี้มาก่อนในชีวิต

อู่ส่วยต้องบอกความจริงกับไฟฉิน

ไก่ฉันสามารถยอมรับมันได้อย่างรวดเร็ว นางใช้มืออันอบอุ่นสัมผัสใบหน้าของอู่ส่วยและเผยรอยยิ้มอ่อนโยน  นั่นคือเหตุผลที่ข้ารักท่าน ข้าสามารถเสียสละทุกสิ่งเพื่อท่าน รวมถึงชีวิตของข้า นั่นไม่ใช่สิ่งใด แต่ในชีวิตนี้ นอกจากท่าน ข้ายังมีความกังวลอยู่อีกเรื่อง นั่นคือลูกของเรา 

 หลังจากที่ข้าตาย ท่านต้องดูแลเขา เลี้ยงดูเขาให้ดี สัญญากับข้าได้หรือไม่? 

 ข้าสัญญา ข้าสัญญาด้วยชีวิตและศักดิ์ศรีของข้า ข้าสัญญากับเจ้าด้วยทุกสิ่งที่ข้ามี!  อู่ส่วยร้องไห้และเต็มไปด้วยความปวดร้าว

วิญญาณอมตะป้ายคำสั่งแห่งความฝันถูกหลอมรวมขึ้นในที่สุด

ต่อมาวังมังกรระดับแปดก็ถูกสร้างขึ้นเช่นกัน

หลังจากสร้างเสร็จ อู่ส่วยใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในวังมังกร เขาสัมผัสผนังและเสาของมันราวกับเขาสามารถสัมผัสถึงความอบอุ่นของไฟฉิน แม้ความจริงเขาจะสัมผัสได้เพียงความเย็นเยียบของคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ก็ตาม

บุตรชายของอู่ส่วยค่อยๆเติบโตขึ้น บางครั้งเขาจะถามว่า  ท่านพ่อ ท่านแม่อยู่ที่ใด? เหตุใดท่านแม่ยังไม่กลับมา? 

ทุกครั้งที่เขาถามเรื่องนี้ อู่ส่วยจะรู้สึกเหมือนหัวใจถูกทิ่มแทงด้วยหอกอันแหลมคม

อู่ส่วยต้องกอดบุตรชายของเขาเอาไว้และโกหก

หลงหลิงที่ไร้เดียงสาเป็นเหมือนยาแก้พิษของเขา สิ่งเดียวในโลกใบนี้ที่สามารถรักษาหัวใจที่แตกสลายของเขาก็คือเด็กชายผู้นี้

อู่ส่วยครอบครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดแต่เขาไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้เพื่อชื่อเสียงหรือเกียรติยศ

เขาลอบจับนักพรตมดเขียว เทพธิดาสรา และท่านหญิงวังอักษรศิลป์มาเป็นทาส

เขาสามารจับชูจิ๋วหลิงไว้ในคุกและทรมานฟานจอจนตกตายต่อหน้านาง แต่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น เขาปล่อยให้ชจิ๋วหลิงไปอยู่กับคนที่นางรัก

เขาไม่สนใจความรุ่งโรจน์หรือความอัปยศในอดีตอีกต่อไป

อู่ส่วยมีประสบการณ์ชีวิตมากมาย เขาสามารถปล่อยวางหลายสิ่ง

ตอนนี้อู่ส่วยรู้สึกเหนื่อยมาก เขาเหนื่อยจริงๆ แต่เขาหยุดไม่ได้ เขาต้องท่าต่อไปเพราะเรื่องการทำลายล้างเผ่ามนุษย์มังกรของราชันมังกรยังไม่ได้รับการแก้ไข

การเปิดเผยในความฝันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดการปัญหาดังกล่าว เขาต้องใช้วังมังกรระดับแปดทำการทดลองกับร่างมนุษย์มังกร

มนุษย์มังกรเป็นผลผลิตจากวิธียืดอายุขัย ขณะที่ท่าไม้ตายอมตะทำลายล้างมนุษย์มังกรถูกสร้างขึ้นผ่านสิ่งนี้ ทั้งหมดเชื่อมต่อกันอย่างแน่นหนา

อู่ส่วยเข้าใจวิธียืดอายุด้วยการเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกรแล้ว

ด้วยการหยิบยืมพลังอำนาจของวังมังกร เขาสามารถตอบโต้ท่าไม้ตายอมตะทำลายล้างมนุษย์มังกร

แต่การทำเช่นนั้นอู่ส่วยเพียงคนเดียวยังไม่เพียงพอ เขาต้องรวบรวมสมาชิกเผ่ามนุษย์มังกรทั้งหมดและบอก ความจริงกับทุกคนเพื่อขอความช่วยเหลือจากพวกเขา

ในวังมังกรเกิดการประชุมครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรเกือบทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่

แรกเริ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรไม่เชื่อ แต่เมื่ออู่ส่วยนำหลักฐานที่ไม่สามารถปฏิเสธออกมา พวกเขาจึงต้องเชื่อ ในเวลาเดียวกันกู้เหลียงก็ปรากฏตัวขึ้นเพื่อเป็นพยานว่าพ่อของอู่ส่วยค้นพบความลับเรื่องการเปิดเผยของวิญญาณชะตากรรม ทั้งหมดได้รับการประกาศให้พวกเขารับรู้

 เพื่อทำการทดลอง เราต้องการมนุษย์มังกรจำนวนมาก คนเหล่านี้อาจตาย แม้พวกเขาจะรอดชีวิต แต่พวกเขาอาจต้องการตายมากกว่า อย่างไรก็ตามข้าหยุดแผนนี้ไม่ได้ หากผู้ใดคัดค้านจงพูดออกมาเดี๋ยวนี้! 

 ข้าคัดค้าน!  บางคนตะโกนออกมาทันที

ทุกคนมองคนผู้นี้ เขาคือนายน้อยเจ็ด หลานชายที่ราชันมังกรโปรดปรานมากที่สุด

นายน้อยเจ็ดชี้นิ้วไปที่อู่ส่วย  เจ้าคนเลว! เจ้ามันบ้า! 

 เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากวังสวรรค์ เจ้าฆ่าฮวยเว่ยพี่น้องที่ซื่อสัตย์ที่สุดของเจ้า! 

 เพื่อปกปิดความลับเรื่องการปกครองโลกของเผ่ามนุษย์มังกร เจ้าทำให้พ่อของตนเองตาย! 

 เพื่อหลอมรวมวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งแห่งความฝัน เจ้าใช้ภรรยาของตนเองเป็นวัสดุในการหลอมรวม! 

 ตอนนี้เพื่อจัดการท่าไม้ตายอมตะทำลายล้างมนุษย์มังกร เจ้ายังต้องการสังเวยมนุษย์มังกรที่บริสุทธิ์และท่าการทดลองกับพวกเขาอีกขั้นหรือ? 

 เหตุใดเจ้าจึงชั่วร้ายนัก? เหตุใดเจ้าช่างเลือดเย็นนัก!? 

 เจ้าคิดว่าหลักฐานของเจ้าจะทำให้พวกเราเชื่อเจ้างั้นหรือ? ฮ่าฮ่า น่าขัน คิดว่าพวกเราโง่เขลางั้นหรือ? 

 ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ เจ้าไม่ใช่คนที่น่าหัวเราะ แต่เจ้าเป็นคนที่น่าสงสาร! 

 เจ้าต้องการมอบความสุขให้กับภรรยาแต่เจ้ากลับเสียสละนางเพื่อหลอมรวมวิญญาณอมตะ ฮ่าฮ่า 

 เจ้าต้องการทำให้พ่อของเจ้าภาคภูมิใจ แต่เจ้ากลับฆ่าเขา! 

 เจ้าสัญญกับฮวงเว่ยว่าจะมีอนาคตที่สดใส เจ้าให้ความหวังเขา แต่สุดท้ายเจ้ากลับประหารเขา แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไร? 

 ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า  นายน้อยเจ็ดหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง  เจ้าพยายามอย่างมากที่จะนำเผ่ามนุษย์มังกรให้ลุกขึ้น แต่สุดท้ายเผ่ามนุษย์มังกรกลับกำลังจะถูกทำลายล้าง พวกเราจะต้องสูญพันธุ์! 

 มันเป็นเพราะเจ้า! มันเป็นเพราะเจ้า! หากเจ้าไม่ยึดเกาะดอกไม้แดนใต้ ย้ายพวกเรามา พัฒนา และสร้างความขัดแย้งกับมนุษย์ ทุกสิ่งจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? หากเผ่ามนุษย์มังกรอาศัยอยู่อย่างสงบสุข บรรพชนคงจะไม่ทำลายล้างพวกเรา! 

 อู่ส่วย เจ้าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดรองจากบรรพชนของเรา แต่สิ่งที่เจ้ามอบให้กับพวกเราไม่ใช่เกียรติยศ หรือความหวังมันไม่ใช่ทั้งความเท่าเทียมหรือศักดิ์ศรี มันคือการทำลายล้าง! 

 เจ้าคือโศกนาฏกรรมที่แท้จริง! ทั้งชีวิตของเจ้าคือโศกนาฎกรรม! 

ห้องโถงตกสู่ความเงียบงัน

อู่ส่วยนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรของเขาอย่างไร้ความรู้สึก

เมื่อมาถึงจุดนี้อาณาจักรแห่งความฝันก็จางหายไปในที่สุด

ในส่วนลึกของทะเลเหลือเพียงวังมังกรที่งดงามและสี่แม่ทัพมังกรเท่านั้น

สีแม่ทัพมังกรมองร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนด้วยการแสดงออกที่ซับซ้อนและยอมจำนน

ประตูวังมังกรเปิดออกด้วยตัวของมันเอง

ร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนก้าวออกมาจากวังมังกรอย่างยิ่งใหญ่

เขาไม่แสดงอารมณ์ใดๆแต่สามารถมองเห็นความรู้สึกมากมายในดวงตาของเขา

เสียงของนายน้อยเจ็ดยังดังอยู่ในห้วงความคิดของเขา เช่นเดียวกับภาพการรวมตัวของผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรที่ติดอยู่ในความทรงจำของเขา

แต่เมื่อเขามองมันอีกครั้ง มันกลับมีเพียงความว่างเปล่า

 มัน…ผ่านมานับล้านปีแล้ว 

 ข้ากลับมาแล้ว  เสียงของร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนดังขึ้น

 แต่ข้า…ไม่ใช่ตัวข้าอีกต่อไป  ร่างแยกมนุษย์มังกรเผยรอยยิ้มขมขึ้น

นี่ไม่ใช่ใบหน้าของเขา นี่ไม่ใช่ร่างกายของเขา มันไม่ใช่แม้แต่ดวงวิญญาณของเขา

สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงเจตจำนงของเขา

เจตจำนงที่คงอยู่มานับล้านปีเพื่อวันนี้!

 จิตวิญญาณมังกรคารวะนายท่าน!  จิตวิญญาณมังกรปรากฏตัวขึ้นและทำความเคารพ  ในที่สุดวังมังกรก็มีเจ้านายคนใหม่! 

ร่างแยกมนุษย์มังกรมองจิตวิญญาณมังกรด้วยดวงตาที่เปลี่ยนเป็นสีแดง

เขาต้องการเรียกจิตวิญญาณมังกรว่า ท่านพ่อ!

แต่ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้

 ไฟฉิน ข้าทำให้เจ้าผิดหวัง ข้าทำตามคำขอสุดท้ายของเจ้าไม่ได้  อู่ส่วยเงยหน้าขึ้นและถอนหายใจด้วยความรู้สึกผิดและเสียใจ

แต่เขาไม่ได้ร้องไห้

หนึ่งล้านปีก่อน น้ำตาของเขาเหือดแห้งไปหมดแล้ว

 

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท