เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1852 การแข่งขันที่ซ่อน

บทที่ 1852 การแข่งขันที่ซ่อน
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1852 การแข่งขันที่ซ่อน
ภาคใต้
ตระกูลปา
ปาซื่อปาถือวิญญาณระดับหนึ่งเอาไว้ในมืออย่างระมัดระวัง “นี่คือวิญญาณทะเลวิญญาณที่สองงั้นหรือ?”
เขาใช้ทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งโชคจํานวนมากเพื่อแลกเปลี่ยนกับวิญญาณระดับมนุษย์ดวงนี้
ฟางหยวนใช้มันกรรโชกทรัพย์พวกเขา แต่ปาซื่อปาต้องยอมรับ แม้มันจะเป็นเพียงวิญญาณระดับหนึ่งแต่มันเป็นความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกใบนี้ของเขา
วิญญาณทะเลวิญญาณที่สองใช้งานง่ายมาก เพียงหยดเลือดลงไป มันก็จะระเบิดตัวเองและกลายเป็นทะเลวิญญาณของคนผู้นั้นทันที
แม้มันจะเป็นทะเลวิญญาณระดับหนึ่ง แต่ปาซื่อปาก็มีความสุขมาก
“แม้ปีศาจฟางหยวนจะรีดไถพวกเรา แต่ข้าก็ต้องซื้อมัน!”
“ด้วยทะเลวิญญาณที่สอง ข้าจะสามารถบ่มเพาะอีกครั้ง ตั้งแต่ระดับหนึ่งถึงห้า ข้าสามารถยกระดับมันได้อย่างง่ายดาย ข้าสามารถขอให้ผู้อมตะของตระกูลช่วยข้าก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะอีกครั้ง”
“แต่การสร้างรากฐานให้กับมิติช่องว่างตั้งแต่เริ่มต้นยังเป็นเรื่องยาก”
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ปาซื่อปาก็กัดฟันด้วยความเกลียดชังที่มีต่อฟางหยวน
ฟางหยวนจับตัวและค้นวิญญาณของปาซื่อปา กระทั่งมิติช่องว่างของเขายังถูกฉกชิง แม้เขาจะได้รับวิญญาณทะเลวิญญาณที่สอง แต่นี่ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการกรรโชกทรัพย์
สําหรับปาซื่อปาที่เคยเป็นผู้อมตะระดับแปด นี่ถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่
“ฟางหยวน เพียงรอก่อน วันหนึ่งข้าจะชําระหนี้ของความอัปยศครั้งนี้ ข้าจะคืนความเจ็บปวดให้เจ้านับร้อยนับพันเท่า เจ้าจะต้องรู้สึกถึงสิ่งนี้ด้วยตัวของเจ้าเอง!”
ปาซื่อปาแสดงออกด้วยใบหน้าเหี้ยมโหด หลายวันที่ผ่านมาเขาไม่ได้มีช่วงเวลาที่ดี
เขายังเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลปา แต่ตอนนี้เขากลายเป็นคนพิการ เปรียบเทียบกับเซี่ยชา สถานการณ์ของปาซื่อปายิ่งเลวร้ายกว่าเพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาตระกูลปามีผู้อมตะระดับแปดคนใหม่
เขาคือปาเต๋อ!
หลังจากปาเต๋อก้าวเข้าสู่ระดับแปด เขากลายเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองและเป็นผู้ดูแลตระกูลปาทั้งหมด
อํานาจของปาซื่อปาถูกพรากไป
“โชคดีที่ตอนนี้ข้ามีวิญญาณทะเลวิญญาณที่สอง”
“ข้ามีประสบการณ์การบ่มเพาะมากมาย ข้าสามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะอีกครั้ง ข้ามั่นใจ”
“ข้าต้องก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะอย่างรวดเร็วที่สุด ท้ายที่สุดอิทธิพลของข้าก็จะลดน้อยลงเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไป ข้าต้องใช้อิทธิพลที่ยังเหลืออยู่เพื่อยกระดับการบ่มเพาะของข้า”
ปาซื่อปามีแผนการของตนเอง เขาเตรียมวิญญาณรากพฤกษาไว้แล้ว
เขาจะใช้พวกมันยกระดับการบ่มเพาะอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งไม่ว่าปาซื่อปาจะโจมตีกําแพงของทะเลวิญญาณอย่างไร มันก็ยังนิ่งเฉย
“เกิดสิ่งใดขึ้น?”
“เหตุใดข้าไม่สามารถยกระดับมัน? ทะเลวิญญาณที่สองมีปัญหางั้นหรือ?”
ปาซื่อปาทั้งโกรธและตกใจมาก เขารู้สึกเหมือนถูกหลอก เขาซื้อของปลอมมาด้วยราคามหาศาล
เขารีบขอให้ผู้อมตะที่อยู่ใกล้ๆติดต่อฟางหยวนเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเมื่อได้รับการติดต่อ “ดูเหมือนพวกเขาจะพบปัญหาแล้ว”
ปาซื่อปาโกรธมากเมื่อได้รับคําตอบของฟางหยวน “ปีศาจชั่ว เจ้าทํามากเกินไปแล้ว!”
ปรากฏว่าฟางหยวนกล่าวถึงการปลุกทะเลวิญญาณที่สองเท่านั้น แต่เขาไม่ได้กล่าวว่ามันสามารถยกระดับ ปาซื่อปาถูกหลอก เซี่ยชาก็เช่นกัน คําตอบของฟางหยวนทําให้นางพูดไม่ออก
ผู้อมตะภาคใต้ต่างเกลียดชังฟางหยวนแต่พวกเขาก็มีศัตรูร่วมกัน นั่นคือวังสวรรค์
วังสวรรค์ต้องการซ่อมแซมวิญญาณชะตากรรม ในชีวิตก่อนหน้าฟางหยวนเห็นทัศนคติของผู้อมตะภาคใต้มาแล้ว
ดังนั้นฟางหยวนจึงส่งคืนร่างกายและดวงวิญญาณของผู้อมตะภาคใต้โดยใช้วิญญาณทะเลวิญญาณที่สองเพื่อกรรโชกทรัพย์
แรงจูงใจของเขาคือเพื่อทําให้แน่ใจว่ากองกําลังของภาคใต้จะเหลือพลังการต่อสู้เพียงพอที่จะสร้างปัญหาให้กับวังสวรรค์
หลังจากทั้งหมดตอนนี้ฟางหยวนมีรากฐานเพียงพอที่จะปลุกปั่นกองกําลังของทั้งห้าภูมิภาค เขาใช้วิธีการที่หลากหลายเพื่อวางแผนต่อต้านวังสวรรค์ในอนาคต
“ฟางหยวน ข้าจะกินเนื้อดื่มเลือดของเจ้า!” ปาซื่อปามองจดหมาของฟางหยวนด้วยร่างกายที่สั่นเทาด้วยความโกรธ
ในที่สุดเขาก็เข้าใจเป้าหมายของฟางหยวน
ฟางหยวนหลอมรวมวิญญาณทะเลวิญญาณที่สองขึ้นมาเป็นพิเศษ หากปาซื่อปาต้องการยกระดับการบ่มเพาะจากระดับหนึ่งสู่ระดับสองและสูงกว่านั้น เขาต้องใช้วิญญาณทะเลวิญญาณที่สองตามระดับนั้นๆ
กล่าวคือหากปาซื่อปาต้องการกู้คืนความรุ่งโรจน์ในอดีต เขาต้องถูกฟางหยวนกรรโชกทรัพย์หกครั้งก่อนจะสามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะและบ่มเพาะต่อไป
ปาซื่อปาสาปแช่งก่อนจะสงบจิตใจลงอย่างช้าๆ
เขาครุ่นคิดก่อนจะหัวเราะเสียงดัง “ปาซื่อปา โอ้ ปาซื่อปา เหตุใดเจ้าทําตัวเยี่ยงนี้? เจ้าแพ้ตั้งแต่ถูกจับ โชคดีมากแล้วที่เจ้ารอดมาได้ ตอนนี้เจ้ายังกังวลเรื่องกําไรหรือการสูญเสียอีกงั้นหรือ?”
“หากเจ้าไม่สามารถกู้คืนการบ่มเพาะของตนเองจะเป็นอย่างไร? ตราบเท่าที่เจ้าทํางานหนักพอ เจ้าจะไม่เสียใจแม้เจ้าต้องตาย”
เขาพึมพําและหาเหตุผลเพื่อสนับสนุนตนเอง
นี่ทําให้เขารู้สึกผ่อนคลายลงและสามารถเผยรอยยิ้มอีกครั้ง
“ฟางหยวน เจ้าช่างยอดเยี่ยมนัก ข้าตกลงสู่หลุมพรางของเจ้าอีกครั้ง” ปาซื่อปายังเกลียดชังฟางหยวน แต่เขาสามารถเผชิญหน้ากับความจริงและทําตัวราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
แม้เขาจะไม่ใช่ผู้อมตะระดับแปดอีกต่อไป แต่ความคิดและประสบการณ์ของเขายังเหมือนเดิม
“ตอนนี้ข้าไม่มีทางเลือก ข้าต้องยอมรับการกรรโชกของเขา ท้ายที่สุดการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะก็เป็นเรื่องสําคัญที่สุดในเวลานี้” ปาซื่อปาเข้าใจเรื่องนี้อย่างชัดเจน
ตระกูลสามารถพึ่งพาได้เพียงบางเวลาเท่านั้น อิทธิพลของเขาจะค่อยๆลดน้อยลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากผู้อมตะระดับแปดคนใหม่ถือกําเนิดขึ้นในกองถ่าลัง
ดังนั้นเขาจึงต้องรีบจัดการเรื่องนี้
ฟางหยวนดัดแปลงเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณทะเลวิญญาณที่สองตั้งแต่ระดับหนึ่งถึงระดับหกใหม่ด้วยความสาเร็จระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของเขา
“ด้วยวิญญาณชุดนี้ ข้าสามารถรีดไถพวกเขาได้อย่างต่อเนื่อง”
“ในความเป็นจริงวิธีนี้สามารถใช้ในทะเลตะวันออก ทะเลทรายตะวันตก และภาคเหนือเช่นกัน สําหรับผู้อมตะของภาคกลาง ข้าจะฆ่าพวกเขาทั้งหมด”
ฟางหยวนเป็นพ่อค้าที่ไร้ยางอายและปราศจากความเห็นใจ
วิญญาณทะเลวิญญาณที่สองมีต้นทุกการผลิตที่ต่ํามากขณะที่เขาขายมันในราคาที่สูงมาก
แต่นี่เป็นความหวังในการมีชีวิตต่อไปของผู้อมตะภาคใต้เหล่านั้น แม้ฟางหยวนจะขายมันในราคาใด พวกเขาก็ต้องซื้อมันโดยไม่สามารถต่อต้าน
แน่นอนว่าฟางหยวนพิจารณาถึงขีดจํากัดของพวกเขาไว้แล้ว เขายังต้องพิจารณาถึงภาพรวมที่จะส่งผลกระทบต่ออนาคต
“ท่านฟางหยวน เราประสบความสําเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้ทางแห่งโชคอีกดวงหนึ่งแล้ว!” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนแจ้งข่าวดีกับเขาอีกครั้ง
“ดีมาก ทําต่อไป” ฟางหยวนยกย่องอย่างไม่เป็นทางการ
การกรรโชกทรัพย์ผู้อมตะภาคใต้ดําเนินไปอย่างราบรื่น ฟางหยวนได้รับทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งโชคจํานวนมาก
ฟางหยวนสั่งให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนใช้สิ่งเหล่านี้หลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคอย่างไม่หยุดยั้ง
ราคาของการหลอมรวมวิญญาณอมตะสูงมากแต่กําไรของเขาก็มหาศาลเช่นกัน
หลายวันที่ผ่านมาเขาได้รับวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคหลายดวง
วังสวรรค์
“บัดซบ! ขาล้มเหลวอีกครั้ง!” ใบหน้าของหยวนเชียนตู๋กลายเป็นน่าเกลียด
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาพยายามหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคแต่มันล้มเหลวทั้งหมด
“วิธีการของข้าไม่มีสิ่งใดผิดพลาด กระบวนการทั้งหมดเป็นไปอย่างราบรื่นแต่มันกลับล้มเหลวในจังหวะสุดท้าย”
“วิญญาณอมตะแต่ละดวงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพวกมัน พวกมันมีเพียงหนึ่งไม่มีสอง ข้าไม่สามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะที่มีอยู่แล้ว”
“เห้อ…หากข้ารู้ว่าวิญญาณอมตะดวงใดมีอยู่แล้ว นั่นจะดีมาก”
การหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคของฟางหยวนทําให้ทั้งสวรรค์ประสบความสูญเสียครั้งใหญ่
นี่เป็นการแข่งขันที่ซ่อนอยู่ ฝ่ายใดเริ่มก่อนจะได้รับประโยชน์สูงสุด
วังสวรรค์มีรากฐานที่ล้ําลึกและมีทรัพยากรจํานวนนับไม่ถ้วนอยู่ในคลังสมบัติ ขณะเดียวกันฟางหยวนก็สามารถกรรโชกทรัพยากรจากฝ่ายธรรมะของภาคใต้
หากฟางหยวนไม่หยุดการหลอมรวมวิญญาณอมตะของเขา หยวนเชียนตู๋จะล้มเหลวต่อไปเรื่อยๆ
เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท