เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1893 ช่วยเซี่ยหลินอีกครั้ง

บทที่ 1893 ช่วยเซี่ยหลินอีกครั้ง

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1893 ช่วยเซี่ยหลินอีกครั้ง

แสงสีขาวนําฟางหยวนมายังเกาะเล็กๆแห่งหนึ่ง

 ข้ามาที่นี่อีกครั้ง  ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง

เขารับภารกิจรวบรวมน้ํามันดิบในร่องลึกใต้สมุทรที่อยู่ใกล้ๆเกาะแห่งนี้

นี้เป็นภารกิจที่เขาเคยทําในชีวิตก่อนหน้า เขาคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างมาก

 มีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกี่ยวกับถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้าเมื่อเปรียบเทียบกับชีวิตก่อนหน้า 

 ไม่เพียงตําแหน่งของวาฬมังกรฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไปแต่ยังมีผู้อมตะมาที่นี่มากขึ้นและมีภารกิจเพิ่มขึ้น 

 ภารกิจรวบรวมน้ํามันดิบปรากฏขึ้นหลังจากที่ข้าทําภารกิจไปแล้วสิบภารกิจ 

ชีวิตก่อนหน้าเขาเคยใช้ภารกิจนี้ช่วยนางเงือกสาวเซี่ยหลิน ด้วยการใช้นางเป็นตัวหมาก นางกลายเป็นเทพธิดาเงือกและทําให้ฟางหยวนสามารถเข้าไปในทะเลปีศาจราไห้และได้รับวิญญาณความเสียใจ

การจัดเตรียมของเทพอมตะสวรรค์พิภพยังส่งเขาไปยังเกาะบัวหินในสายธารแห่งกาลเวลา และทําให้เขาได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง

หลังจากกําเนิดใหม่ฟางหยวนวางแผนที่เหมาะสมที่สุดสําหรับตนเองเอาไว้แล้ว

การต่อสู้ในสายธารแห่งกาลเวลาครั้งก่อน ฟางหยวนเอาชนะวังสวรรค์ เขาทําลายคฤหาสน์วิญญาณอมตะหกหลังและค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหิน

เกาะบัวหินถูกทําลายเช่นกัน

หากปราศจากเกาะบัวหิน การจัดเตรียมของเทพอมตะสวรรค์พิภพจะไม่ทํางาน นี่เป็นส่วนหนึ่งในแผนการของฟางหยวน

เกาะชาวประมงแห่งนี้อยู่ภายใต้การตรวจสอบของเขา ไม่มีความลับใดถูกเก็บซ่อนจากเขา

มันเป็นเกาะที่ค่อนข้างธรรมดา มีทรัพยากรไม่มาก มีหมู่บ้านชาวประมงและน้ําพุจิตวิญญาณธรรมชาติระดับต่า มีผู้ใช้วิญญาณระดับสองและสามไม่กี่คน ส่วนใหญ่เป็นมนุษย์ธรรมดา

ฟางหยวนไม่ได้เข้าไปในหมู่บ้านชาวประมงแต่ลงไปใต้ทะเล

ในทะเลเขาพบแมงมุมทอผ้าและฝูงฉลามเปลือกหอย แต่เขาไม่ต้องการต่อสู้กับพวกมัน เขาปกปิดตนเอง และมุ่งหน้าไปยังร่องลึกใต้สมุทรโดยตรง

น้ํามันดิบใต้สมุทรราวกับอสรพิษสีดําขนาดใหญ่ที่กําลังนอนหลับ แต่หากสังเกตอย่างถี่ถ้วนจะเห็นได้ว่ามันกําลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ

ฟางหยวนใช้วิธีการของเขาและทําให้น้ํามันดิบกระจัดกระจายออกไป

 ข้าจําได้ว่ามันคือที่นี่  ฟางหยวนแยกน้ํามันดิบบางส่วนออกจากกันแต่เขาไม่พบนางเงือกเกล็ดฟ้าเซี่ยหลิน

หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง

มีความเป็นไปได้ที่การเกิดใหม่ของเขาจะทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเซี่ยหลิน นางอาจไม่มาที่นี่

 บางทีนางอาจอยู่ใกล้ๆแถวนี้ ข้าอาจมาเร็วเกินไป  ฟางหยวนคิด เขายังไม่ยอมแพ้และเริ่มตรวจสอบน้ํามันดิบในบริเวณใกล้เคียง

หลังจากชั่วครู่ ฟางหยวนก็พบนางเงือกเกล็ดฟ้าเซียหลินหมดสติอยู่ในกลุ่มน้ํามันดิบ

ใบหน้าของนางไม่เหมือนเซี่ยฮันโม่แต่นิสัยของพวกนางคล้ายกันมาก

ฟางหยวนลอบถอนหายใจและช่วยชีวิตเสี่ยหลินเอาไว้อีกครั้ง

เมื่อนางตื่นขึ้น นางตระหนักว่าตนเองกําลังนอนอยู่ในแอ่งน้ําแห่งหนึ่ง

ท้องฟ้าสว่างสดใส แสงแดดสาดส่อง เงาของต้นไม้ปกคลุมร่างกายของนางเอาไว้ สายลมอ่อนราวกับสัมผัสจากมืออันอ่อนโยนของคนรักและทําให้เซียหลินรู้สึกอบอุ่น

 ไม่ใช่ว่าข้าถูกน้ํามันดิบกลืนกินขณะเก็บรวบรวมพวกมันงั้นหรือ?  ความทรงจําของเซียหลินค่อยๆกลับมา  ถูกต้อง ดูเหมือนข้าจะได้รับการช่วยชีวิต ข้าเห็นเงาสีขาวที่คลุมเครือท่ามกลางความมืด 

ร่างกายของนางยังอ่อนแอ นางแทบไม่สามารถขยับร่างกาย นางทําได้เพียงมองไปรอบๆแต่ยังไม่เห็นผู้ใด

 ผู้ใดช่วยข่าไว้  นางเริ่มสับสนและมองไปยังแอ่งน้ําที่นางนอนอยู่

มันเป็นแอ่งน้ําที่ใสสะอาดราวกับคริสตัล หางปลาสีฟ้าของนางสะท้อนแสงอยู่ในน้ํา

 นี่คือการจัดเตรียมของผู้มีพระคุณของข้างั้นหรือ?  เซียหลินคิดและรู้สึกอบอุ่นใจ นี่ไม่ใช่น้ําทะเลแต่เป็นน้ําชนิดพิเศษที่เหมาะสมสําหรับการพักฟื้นของมนุษย์เงือก

 เจ้าตื่นแล้ว  เป็นเพียงเวลานี้ที่พุ่มไม้ด้านข้างถูกเปิดออกขณะที่ฟางหยวนเดินเข้ามา

 ท่านช่วยข้าไว้เช่นนั้นหรือ?  เซี่ยหลินมองฟางหยวนในชุดคลุมขาวและรู้สึกคุ้นเคย

 เจ้าโชคดีมาก ข้าบังเอิญพบเจ้าที่นั่น  ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง

เซี่ยหลินรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก นางกําลังจะลุกขึ้นเพื่อแสดงความขอบคุณแต่ถูกฟางหยวนหยุดไว้

 ร่างกายของเจ้ายังอ่อนแอ กินสิ่งนี้  ฟางหยวนปลดปล่อยสายลมสีเขียวออกไป มันนําผลไม้ที่คล้ายมะพร้าวส่งให้กับเซียหลิน

ลมสีเขียวบินไปตรงหน้าเซี่ยหินและเริ่มปลอกเปลือกผลไม้ออกให้เห็นเนื้อสีแดงฉ่าที่อยู่ภายใน

เซี่ยหลินหยิบผลไม้ชิ้นเล็กๆเข้าไปในปาก เนื้อผลไม้ที่ชุ่มฉ่าค่อยๆไหลลงสู่ล่าคอและท้องของนาง

อร่อยมาก!

ดวงตาของเซี่ยหลินส่องประกายขึ้นทันที ตอนนี้นางหิวมาก นางเร่งหยิบผลไม้ชิ้นที่สองและสามเข้าไปในปาก และกลืนพวกมันลงท้องอย่างรวดเร็ว

 อร่อย!  นางอุทานออกมาแต่เมื่อนางเห็นฟางหยวนกําลังจ้องมองอยู่ ใบหน้าของนางก็กลายเป็นสีแดงก่า

นางกล่าวด้วยเสียงตะกุกตะกัก  ข้าขอถามชื่อผู้มีพระคุณได้หรือไม่? ข้าจะตอบแทนบุญคุณครั้งนี้อย่างแน่นอน 

ฟางหยวนหัวเราะ  มันเป็นเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆ เจ้าไม่จําเป็นต้องทําสิ่งใด ในอนาคตอยู่ให้ห่างจากน้ํามันดิบ ที่นั่นอันตรายมาก ครั้งนี้เจ้าโชคดีที่พบข้า 

การแสดงออกของเซี่ยหลินเปลี่ยนเป็นมืดมน

นางติดหนี้ก้อนโตเนื่องจากการจัดงานศพให้ปู่ของนาง นางต้องเสี่ยงชีวิตเดินทางมาเก็บรวบรวมน้ํามันดิบ เพื่อนําเงินไปชําระหนี้ แต่ผู้ใดจะคิดว่านอกจากนางจะไม่สามารถเก็บน้ํามันดิบ นางยังเกือบเสียชีวิตที่นี่

แม้ข้าจะรอดชีวิตแต่ข้าก็ถูกน้ํามันดิบกัดกร่อนและต้องตายในไม่ช้า เห้อ..ข้าจะตอบแทนบุญคุณผู้มีพระคุณได้อย่างไร? เชียหลินเป็นคนจิตใจดี นางรู้สึกกังวล

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงอันอ่อนโยนของฟางหยวนดังขึ้น  ถูกต้อง เจ้าเคยถูกน้ํามันดิบกัดกร่อน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ข้ารักษาอาการบาดเจ็บทั้งหมดของเจ้าแล้ว มันจะไม่มีผลกระทบใดๆตามมา 

 อา…  เซียหลินตกตะลึง

ผู้ใช้วิญญาณที่อยู่ด้านหน้านางสามารถรักษาปัญหาที่เกิดจากการกัดกร่อนของน้ํามันดิบ นี่เป็นสิ่งที่น่าทึ่งมาก

ฟางหยวนพยักหน้า  สาวน้อย เจ้ายังเด็ก อย่าคิดมาก เจ้ายังมีชีวิตอีกนาน กินซะ หลังจากที่เจ้าฟื้นตัวขึ้น ไปหาข้า 

 อา…  เซี่ยหลินมีนงง

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป

เซียหลินมองฟางหยวนเดินหายไปจากสายตาก่อนจะสามารถตอบสนองและเริ่มกินผลไม้ต่อไป

ผลไม้อร่อยมาก สายลมอ่อนพัดผ่านใบหน้าของนางขณะที่นางนอนอยู่ในน้ําบริสุทธิ์ หัวใจของนางเต็มไปด้วยความอบอุ่นและสุขสงบ

 นี่เป็นความฝันหรือไม่?  นางกินผลไม้ขณะที่น้ําตาไหลออกมาจากดวงตาของนางอย่างเงียบๆ

นางเป็นเพียงนางเงือกที่น่าสงสาร โลกใบนี้โหดร้ายกับนางมาก ก่อนหน้านี้ความอบอุ่นเดียวในชีวิตของนางมีเพียงปู่ของนางเท่านั้น

ตามธรรมเนียมปฏิบัติของเผ่ามนุษย์เงือก การฝังศพในน้ําเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายที่จะนําคนตายไปสู่สุคติ แต่การฝังศพในน้ํามีราคาแพงมาก เซียหลนต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล

เซียหลินสะอื้นไห้ขณะกินผลไม้

ฟางหยวนยืนอยู่นอกป่าและมองไปยังท้องทะเล เขารู้สถานการณ์ของนางเป็นอย่างดีแต่เขาไม่ได้ยื่นมือเข้าไป เขาให้เวลานางเงือกสาวปรับอารมณ์ด้วยตัวของนางเอง

ในชีวิตนี้เขามีแผนการใหญ่สําหรับสวรรค์วาฬมังกรฟ้า

ภารกิจเกี่ยวกับเซี่ยหลินไม่ใช่สิ่งสําคัญที่สุด

เพื่อให้ได้รับวิญญาณความเสียใจ ฟางหยวนต้องเข้าไปยังทะเลปีศาจร่าไห้ ย้อนกลับไปเขาใช้ประโยชน์จากเซียหลินเพื่อไปที่นั่น แต่นอกเหนือจากวิธีนี้ เขายังมีวิธีอื่น

ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนให้ความสําคัญกับวิญญาณความเสียใจ ขณะที่เมียวหมิงเฉินและคนอื่นๆทําภารกิจอื่น ยิ่งท่ามากเท่าใด พวกเขาก็ค้นพบความลึกลับของมันมากเท่านั้น พวกเขาแบ่งปันข้อมูลแก่กัน การค้นพบของพวกเขากลายเป็นความมั่งคั่งในปัจจุบันของฟางหยวน

ดังนั้นฟางหยวนจึงค่อนข้างเข้าใจถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้า

ภารกิจของเซียหลินถูกสร้างขึ้นโดยฟางหยวนเอง มันต้องใช้โชคและเวลาค่อนข้างมาก ความจริงก็คือหลัง จากผ่านไประยะหนึ่ง เมื่อภารกิจระดับกลางปรากฏขึ้น ภารกิจสองสามภารกิจจะนําไปสู่ทะเลปีศาจร่ําไห้

ในชีวิตก่อนหน้า เมื่อภารกิจเหล่านี้ปรากฏขึ้น ฟางหยวนก็มีเซี่ยหลินเป็นตัวหมากแล้ว นอกจากนั้นกลุ่มของเสี่ยวหมิงเฉินยังแสดงเจตจํานงที่จะรับภารกิจดังกล่าว ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่ได้แย่งชิงกับพวกเขา

 แต่เมื่อข้าพบเซี่ยหลิน นั่นก็หมายความว่าข้าสามารถใช้นางได้อีกครั้ง

 นางมีประโยชน์มาก ตราบเท่าที่ข้าจําลองความสําเร็จของชีวิตก่อนหน้า ข้าจะสามารถควบคุมเมืองเงือกศักดิ์สิทธิ์ทางอ้อม

 การควบคุมกองกําลังนี้จะเป็นประโยชน์ต่อแผนการในอนาคตของข้า 

ฟางหยวนคิดกับตนเอง

 ผู้มีพระคุณ ข้าให้ท่านรอแล้ว  ครู่ต่อมาเซี่ยหลินก็ลอยออกมาจากป่า นางฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้วและไม่ต้องการให้ฟางหยวนรอนาน

เมฆสีขาวรองรับร่างกายส่วนล่างของนางเอาไว้ มันช่วยให้นางสามารถเคลื่อนที่บนบก

 อย่าเรียกข้าว่าผู้มีพระคุณ ข้าชื่อชูอิง  ฟางหยวนยิ้ม

 ท่านช  เซี่ยหลินกล่าว

 อืม ไปกันเถอะ  ฟางหยวนพาเซียหลินไปยังหมู่บ้านชาวประมง

 

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท