เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1891 จะเป็นผู้ใดได้นอกจากข้า

บทที่ 1891 จะเป็นผู้ใดได้นอกจากข้า

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1891 จะเป็นผู้ใดได้นอกจากข้า

เกาะที่พวกเขาถูกส่งไปไม่ใหญ่นัก กลุ่มผู้อมตะไม่ได้ตรวจสอบและเร่งเดินทางไปรวมตัวกันกลางเกาะทันที

ที่นี่ทําให้พวกเขาตกใจ

เสาทองคําขนาดใหญ่เรืองแสงสว่างไสวราวกับคริสตัล

มันคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด หอคอยเกียรติยศ!

มีข้อความแนะนําภูมิหลังและรายละเอียดเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพสลักเอาไว้

เพื่อให้ได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ พวกเขาต้องยอมรับภารกิจที่ปรากฏอยู่บนหอคอยเกียรติยศ พวกเขาสามารถใช้แต้มบุญแลกเปลี่ยนกับสมบัติล้ําค่า

หากบางคนไม่ยินดีรับภารกิจ พวกเขาทําได้เพียงรออยู่บนเกาะแห่งนี้ พวกเขาไม่สามารถออกจากเกาะหรือออกจากถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้า

แน่นอนว่าเทพอมตะสวรรค์พิภพจะไม่ปล่อยให้พวกเขากลับไปมือเปล่า ทรัพยากรอมตะบนเกาะถูกจัดเตรียมไว้สําหรับพวกเขา

สามร้อยวันหลังจากนี้ทุกคนจะถูกส่งออกไป

หลังจากอ่านข้อความ กลุ่มผู้อมตะต่างตกตะลึง

 เกาะแห่งนี้มีทรัพยากรอมตะอยู่จริงๆ ต้นไม้บันไดเมฆ หญ้าสายลม เหล็กไก่ และสมบัติอื่นๆไม่ใช่ของปลอม 

 พวกมันถูกบางคนนําออกไปแล้ว! 

 คนผู้นั้นต้องเป็นชูอิง! 

 ชูอิงอยู่ที่ใด? เหตุใดเราไม่เห็นเขา? 

 ข้าพบชูอิงแล้ว!  ฮวาชี้นิ้วออกไป

กลุ่มผู้อมตะมองไปยังตําแหน่งที่ฮวาที่ชื่นําและพบชื่อของชอิงปรากฏอยู่บนหอคอยเกียรติยศ

การจัดอันดับแต้มบุญ ชูอิง แปดสิบสองแต้ม

นอกจากชอิงก็ไม่มีชื่อของคนอื่นอีก

 คนผู้นี้!  เหรินซิ่วผิงกัดฟันด้วยความโกรธ

ในจังหวะนี้แต้มบุญของชองก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง มันกลายเป็นเก้าสิบสามแต้ม

ต่อมาหอคอยเกียรติยศก็ส่องประกายขึ้น

กลุ่มผู้อมตะรีบถอยหลัง

เมื่อแสงจางหายไปฟางหยวนก็ปรากฏตัวขึ้น

 ชูอิง!  เพิ่งเจียงอุทาน

 ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัว  ดวงตาของถูเทาเทากลายเป็นแดง…เมื่อเขาคิดถึงหลุมเหล็กไก่ที่กลายเป็นว่างเปล่า

 โอ้ พวกเจ้ามาแล้ว  ฟางหยวนพยักหน้าเบาๆและกล่าวเสียงเรียบ

 ทัศนคตินี้คือสิ่งใด!  เฉินตันไม่พอใจ

ทัศนคติที่ไม่แยแสของฟางหยวนท่าให้ทุกคนโกรธจัด

เฉินกงเจ๋งก้าวไปข้าหน้าและกล่าวด้วยน้ําเสียงที่เอาแต่ใจ  บอกข้า! เจ้านำทรัพยากรอมตะทั้งหมดบนเกาะนี้ไปหรือไม่? 

 จะเป็นผู้ใดได้นอกจากข้า  ฟางหยวนตอบอย่างไม่แยแสและรีบไปรับภารกิจต่อไปจากหอคอยเกียรติยศ

กลุ่มผู้อมตะยิ่งโกรธมากขึ้น

คนผู้นี้รับผลประโยชน์ไปหมดแล้วแต่ยังท่าตัวหยิ่งผยอง!

เหรินซิ่วฝังกล่าวอย่างเคร่งขรึม  เราเห็นข้อความที่สลักไว้บนเสาแล้ว ทรัพยากรอมตะทั้งหมดถูกจัดเตรียมไว้โดยเทพอมตะสวรรค์พิภพเพื่อพวกเรา ชองมันมากเกินไปหรือไม่ที่เจ้าจะนําพวกมันไปทั้งหมด เจ้าต้องอธิบายเรื่องนี้กับพวกเรา! 

ฟางหยวนไม่แม้แต่จะมองเห็นชีวผิง เขากดฝ่ามือลงบนเสาเพื่อเลือกภารกิจและหายตัวไป ณ จุดเกิดเหตุ

กลุ่มผู้อมตะตกตะลึงอีกครั้ง

เฉินฉีตะโกนด้วยความโกรธ  คนผู้นี้! 

 เขามาจากที่ใด? เขาไม่สนใจแม้แต่ท่านเฉินกงเจิ้ง  เหรินซิ่วผิงกล่าวด้วยใบหน้าซีดเผือด

 ตรวจสอบเขาหลังจากออกไป  เฉินกงเจิ้งเป็นผู้อมตะระดับแปดและเป็นผู้อาวุโสสูงสุดล่าดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิน เขาสามารถสงบจิตใจลงอย่างรวดเร็ว เขาเดินเข้าหาหอคอยเกียรติยศและเลียนแบบฟางหยวน

ชองแสดงท่าทางไม่เกรงกลัว เขาอาศัยเพียงความจริงที่ว่าเราไม่สามารถต่อสู้ที่นึ่งั้นหรือ?  เฉินกงเพิ่งคิด  ชูอิงเป็นเพียงผู้บ่มเพาะสันโดษระดับเจ็ด เราสามารถจัดการเขาได้ในภายหลัง สิ่งสําคัญในเวลานี้คือหอคอยเกียรติยศ!

การกระทําของฟางหยวนก่อนหน้านี้เป็นตัวอย่างที่ดีสําหรับพวกเขา

ในชีวิตก่อนหน้าเมี่ยวหมิงเฉินและคนอื่นๆยังรู้สึกสงสัยเมื่อมาถึงหอคอยเกียรติยศ พวกเขาแจกจ่ายทรัพยากรอมตะบนเกาะก่อนจะรับภารกิจ

แต่ตอนนี้ฟางหยวนตื่นขึ้นเป็นคนแรกและเริ่มลงมือก่อน

สิ่งเดียวที่เหลือให้กับผู้อมตะกลุ่มนี้มีเพียงหอคอยเกียรติยศเท่านั้น

มีภารกิจมากมายปรากฏอยู่บนหอคอยเกียรติยศ

ตัวอย่างเช่นช่วยมนุษย์เงือกในเมืองชายหาดทางทิศใต้ ขุดดอกบัวสีทองที่ทะเลสาบสีเงิน สร้างบ่อน้ําบน เกาะปลาแห้ง หมู่บ้านสามสายเกิดโรคระบาดและต้องการสมุนไพรจํานวนมาก เผ่านักดนตรีติดอยู่ในป่าหมอก และต้องการความช่วยเหลือ น้ําพุจิตวิญญาณธรรมชาติของภูเขาแสงเหนือเกิดปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข อย่างเร่งด่วน

กลุ่มผู้อมตะยืนมองด้วยความมึนงง

คล้ายกับชีวิตก่อนหน้า พวกเขาพบสถานการณ์เดียวกันอีกครั้ง

ภารกิจเหล่านี้เป็นเพียงข้อความสั้นๆ มันไม่มีรายละเอียด พวกเขาไม่ได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์

 ชูอิงรู้บางสิ่งหรือไม่?  บางคนพึมพํา

ทุกคนเงียบ ความเกลียดชัง ความโกรธ และความสงสัยที่มีต่อฟางหยวนทวีความรุนแรงมากขึ้นอีกครั้ง

มีรายการสมบัติที่สามารถใช้แต้มบุญแลกปลี่ยนปรากฏอยู่ด้านหลังของหอคอยเกียรติยศ อย่างไรก็ตามมันเขียวไว้เพียงชื่อสิ่งของและไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียด

หลังจากพูดคุย กลุ่มผู้อมตะตระหนักว่าพวกเขาต้องลองรับภารกิจเพื่อค้นหาความจริง เฉินกงเจิ้งเป็นคนแรกที่เลือกภารกิจ

ในชีวิตก่อนหน้า กลุ่มแปดคนของเมียวหมิงเฉินรวมถึงฟางหยวนมาที่หอคอยเกียรติยศและพบภารกิจเพียงสิบภารกิจปรากฏอยู่ แต่ครั้งนี้มีคนมากขึ้น ภารกิจก็มีมากขึ้นเช่นกัน

พวกเขาเลือกภารกิจและค่อยๆถูกส่งตัวไปยังจุดหมาย

ภารกิจของเฉินกงเพิ่งคือการสร้างบ่อน้ําที่เกาะปลากลม

เขาปรากฏตัวขึ้นในทะเลทรายแห่งหนึ่ง

รูม่านตาของเฉินกงเจิ้งหดเล็กลง เขาเป็นผู้อมตะระดับแปดที่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเดําจํานวนมาก วิธีขนส่งทั่วไปไม่สามารถใช้งานกับเขา แต่เขากลับถูกส่งตัวมาที่นี่อย่างง่ายดาย มันต้องเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่และลึกลับที่ส่งตัวเขามาที่นี่

 สมกับเป็นการจัดเตรียมของเทพอมตะสวรรค์พิภพ  เฉินกงเจิ้งถอนหายใจ เขามองไปรอบๆและเริ่มตรวจสอบสภาพแวดล้อม

เฉินกงเจิ้งสัมผัสถึงบางสิ่งได้อย่างรวดเร็ว  โอ้ วิธีการตรวจสอบของข้าใช้ได้ผลดีที่นี่ มันไม่เหมือนเกาะเริ่มต้น 

ห่างออกไปหลายสิบลี้มีหมู่บ้านเล็กๆตั้งอยู่กลางทะเลทราย

เฉินกงเจิ้งยืนอยู่ที่เดิมและลอบฟังเสียงสนทนาของผู้คนในหมู่บ้าน

ครูต่อมาเขาก็ยืนยันว่าตนเองอยู่บนเกาะปลากลม เกาะแห่งนี้เคยมีหมู่บ้านจํานวนมาก แต่เมื่อหลายสิบปีก่อน มันเริ่มแห้งแล้งและกลายเป็นทะเลทราย ตอนนี้มันเหลือหมู่บ้านเพียงไม่กี่แห่ง

 นหมายความว่าข้าต้องสร้างบ่อน้ําใกล้กับหมู่บ้านเหล่านี้งั้นหรือ?  หลังจากเข้าใจสถานการณ์ เฉินกงเจิ้งก็พ่นลมหายใจออกมาและสามารถผ่อนคลาย

ภารกิจนี้ง่ายกว่าที่เขาคิดไว้มาก

หลังจากทั้งหมดมันเป็นภารกิจระดับมนุษย์

แต่กระทั่งมันจะเป็นภารกิจระดับอมตะ ภารกิจส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ปัญหาสําหรับผู้อมตะระดับแปดเช่นเขา

เฉินกงเลิ้งคิดถึงฟางหยวนและพึมพํากับตนเอง  ชอิงเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดแต่เขารวบรวมแต้มบุญได้ เก้าสิบสามแต้มอย่างรวดเร็ว นี่แสดงให้เห็นว่าภารกิจต้องง่ายมาก 

แม้หลังจากทราบสถานการณ์แล้ว เฉินกงเจิ้งก็ยังไม่รีบร้อนดําเนินการ เขาต้องทดสอบหลายสิ่ง ตัวอย่างเช่นเขาสามารถทิ้งภารกิจนี้และบินออกจากเกาะหรือไม่ เขาสามารถสื่อสารกับโลกภายนอกหรือไม่ เขาสามารถใช้วิธีการใดได้บ้างในสถานการณ์นี้

เฉินกงเจิ้งไม่ได้ติดต่อกับมนุษย์ เขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งเสียงและลอบขุดบ่อน้ําใกล้หมู่บ้าน

เพื่อเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของที่นี่ เฉินกงเจิ้งต้องค้นหาน้ําบาดาลที่อยู่ใต้ดิน ด้วยการใช้แหล่งน้ําเหล่านี้ เขาจะสามารถสร้างบ่อน้ําลึกรอบๆ

หลังจากชั่วครู่เขาก็เริ่มดําเนินการ

 ผู้ใดจะคิดว่าวันหนึ่งข้าต้องลงมือทําเรื่องเช่นนี้ด้วยตนเอง  เฉินกงเจิ้งหัวเราะ

เขาสร้างบ่อน้ํามากกว่าสามสิบบ่อ มันเป็นภารกิจที่ง่ายมากสําหรับผู้อมตะระดับแปด

นอกจากนี้เขายังค้นพบหลายสิ่ง ตัวอย่างเช่นเขาพบว่าตนเองไม่สามารถออกจากที่นี่ เขาสามารถเคลื่อนที่อยู่บนเกาะแห่งนี้เท่านั้น การสื่อสารถูกตัดขาด ลืมสวรรค์สีเหลืองไปได้เลย เขาไม่แม้แต่จะสามารถส่งข้อความ ไปหาเฉินตันกับเฉินฉี เขาไม่สามารถโจมตีชาวบ้าน การโจมตีทั้งหมดของเขาจะล้มเหลวขณะที่เขาจะได้รับผลกระทบย้อนกลับ เขาสามารถเปิดมิติช่องว่างและนําบางสิ่งออกมาแต่เขาไม่สามารถนําบางสิ่งจากเกาะปลากลมเข้าไปในมิติช่องว่างของเขา

เฉินกงเพิ่งได้รับข้อมูลมากมายจากมนุษย์เหล่านี้ พวกเขาสามารถออกจากเกาะปลากลมและท่องเที่ยวไปในทะเล ในอดีตเคยเกิดความขัดแย้งระหว่างหมู่บ้านและมีผู้คนเสียชีวิตเป็นจํานวนมาก

สรุปได้ว่าถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้าให้อิสระแก่ผู้อยู่อาศัยขณะที่ผู้อมตะที่รับภารกิจถูกจํากัดอย่างมาก

สําหรับวิธีที่พวกเขาถูกจํากัด เฉินกงเจิ้งไม่สามารถตรวจสอบ เขาไม่สามารถจัดการหรือหลีกเลี่ยงมัน สิ่งนี้ทําให้เขารู้สึกชื่นชมเทพอมตะสวรรค์พิภพมากขึ้นไปอีก

 

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท