ตึง! ร่างเปียกโชกของหลวงจีน นอนแน่นิ่งบนท้องเรือ
แม้โจวอวี่จะเกลียดขี้หน้าไอ้หมอนี่ แต่ในเมื่อเจ้านายช่วยไว้ย่อมต้องมีประโยชน์ สองตาที่กรุ่นด้วยโทสะจึงเขม้นใส่อินชวนกงที่อยู่อีกด้านหนึ่ง
แม้อินชวนกงจะสวมงอบบังใบหน้ากว่าครึ่ง กลับรับรู้ถึงสายตาที่มองมา จึงหัวร่อเย็นชาด้วยน้ำเสียงบาดหู “ไอ้หนู เจ้ามองอะไร คราวนี้มิใช่ฝีมือข้า!”
โจวอวี่ถลึงใส่ “มิใช่เจ้า…”
“โจวอวี่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับอินชวนกงหรอก อินชวนกงเป็นคนที่เคร่งกฎเกณฑ์ของตนเองมาก ไม่มีทางลงมือซ้ำสองใส่คนที่หนีออกจากฟากฟ้าได้!” ชิวเยี่ยไป๋ขัดคำคาดคั้นของโจวอวี่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วนั่งลงข้างกราบเรือ
นางเป็นมนุษย์มิใช่เทพ เมื่อครู่ฉุดบุรุษร่างใหญ่สองคนบวกกับอาหารคาวถุงใหญ่เหินกายกลางอากาศเป็นเวลานาน เป็นเรื่องที่สูญเสียกำลังภายในอย่างร้ายแรง บัดนี้ยังมิรู้ว่าเพราะเหตุใดหลวงจีนจึงตกน้ำ และนางต้องใช้เรี่ยวแรงอีกมหาศาลในการลากตัวขึ้นมาจึงรู้สึกเหนื่อยไม่น้อย
โจวอวี่เห็นสภาพชิวเยี่ยไป๋ที่แม้จะมิได้แสดงความเหนื่อยล้าให้เห็น แต่แววตาระโหยอยู่บ้างและเขายังคงดูออก จึงกล่าวอย่างลังเลว่า “เมื่อครู่ทำไมใต้เท้าไม่บอกข้าน้อยสักคำ แม้ข้าน้อยจะด้อยความสามารถแต่อาจช่วยท่านได้บ้าง…”
“เคี๊ยกๆ เคี๊ยกๆ” อินชวนกงหัวร่อลั่น เสียงหัวร่อที่บาดหูมีแววหยามเหยียดอย่างมิปิดบัง “อาศัยเจ้าที่มีพลังฝีมือแค่ขั้นที่สาม คิดจะรอดตัวจากแม่น้ำอเวจีของข้าหรือ ช่าง…”
สายตาของอินชวนกงมองไปยังหลวงจีนที่นอนเปียกโชกตรงหัวเรือ แววตาเย็นเยียบหยุดมองแล้วยั้งคำพูดไว้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลวงจีนโง่งมที่ตกน้ำคนหนึ่ง จะเป็นยอดฝีมือได้อย่างไร
ถูกเหยียดหยามซึ่งหน้าเช่นนี้ โจวอวี่จะทนได้อย่างไร แต่ขณะที่เขาถลึงตาใส่อินชวนกงและคิดจะสวนกลับ พอเห็นท่าทางระโหยของชิวเยี่ยไป๋ก็กลืนคำผรุสวาทลงท้องอย่างแข็งขืน รู้สึกเสียใจวูบหนึ่ง
นั่นนะสิ ความจริงเขาเองก็รู้ตัวดีว่า ตนจะทำเช่นใต้เท้าที่เหินตัวกลางอากาศนานเค่อหนึ่งเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ พลังฝีมือของใต้เท้าไม่ธรรมดา ตนเองก็แค่พลังฝีมือต่ำต้อย กล้าพูดว่าจะช่วยใต้เท้าได้อย่างไร
“ไปดูสิว่าไอ้หมอนั่นเป็นอย่างไรบ้าง เหตุใดถึงตกน้ำ!” ชิวเยี่ยไป๋พิงกราบเรือ มือข้างหนึ่งวางบนขาที่ขดไว้อย่างอ่อนล้าและสั่งการ
หลวงจีนคนนี้ก็ประหลาด ตกลงในน้ำไม่นานนัก ไม่น่าจะถึงกับสำลักจนหมดสติ ทำไมจึงสลบไปนานขนาดนี้ คงมิใช่เป็นโรคร้ายแรงอยู่แล้วและอาจเสียชีวิตหรอกนะ!
โจวอวี่ผงกศีรษะรีบเข้าไปดูทันที เขาลูบอกของหลวงจีนแล้วตรวจม่านตา ผลักไปมาสองสามครั้ง แล้วก็เหลียวหลังตอบอย่างไม่สบายใจว่า “ใต้เท้า คนผู้นี้แม้ลมหายใจจะช้ามากแต่สม่ำเสมอดี ดูไม่ออกว่าทำไมจึงสลบไม่ฟื้น!”
ชิวเยี่ยไป๋ฟังแล้วก็เลิกคิ้วกล่าวว่า “หรือป่วยเป็นโรคจริง หรือว่าถูกพิษ”
อินชวนกงส่ายหน้า กล่าวอย่างดูแคลนว่า “ไอ้ตัวไร้ประโยชน์ ข้าดูหน่อยซิ!”
พูดจบก็สะกิดปลายเท้ากระโจนไปทางโจวอวี่ โจวอวี่รู้สึกตาลายวูบหนึ่ง ถูกมือผอมแห้งเหมือนกรงเล็บผลักเบาๆ ก็กระเด็นก้นจ้ำเบ้ากับพื้นเรือ จึงเขม้นมองแผ่นหลังของอินชวนกงอย่างขุ่นเคือง
อินชวนกงตรวจดูพักหนึ่งก็ส่ายศีรษะ
ชิวเยี่ยไป๋เห็นท่าทางของอินชวนกงจึงถามว่า “อินชวนกง ท่าทางของท่านพิกล หรือว่าเจ้าหลวงจีนนี่…”
ยังไม่ทันขาดคำ อินชวนกงก็กล่าวขัดขึ้นอย่างประหลาดใจ “เปล่า ดูแล้วไม่เหมือนถูกพิษ แม้ชีพจรจะจมและลื่นไถลอย่างประหลาด แต่ดูเหมือนมิใช่สาเหตุที่ทำให้หมดสติ กลับคล้าย…”
โจวอวี่กับชิวเยี่ยไป๋ถามพร้อมกันตามสัญชาตญาณ “กลับคล้ายอะไร”
อินชวนกงถอนใจเฮือกหนึ่ง “กลับคล้ายนอนหลับไป”
โจวอวี่ “อะไรนะ…นอ…นอนหลับไป”
อินชวนกงพยักหน้า ท่าทางพิกล “อืม เมื่อครู่นี้ตกน้ำเพราะหลับไป”
โจวอวี่ “…”
ชิวเยี่ยไป๋ “…”
บนเรือน้อยพลันเงียบลงอย่างพิกล
ทุกคนบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรกับคนที่นอนหลับได้ท่ามกลางอันตรายน่าหวาดเสียว แต่จะหลับก็หลับไปสิ ทำไมดันตกน้ำด้วยเล่า
พักใหญ่ชิวเยี่ยไป๋เหลือบดูคนบนพื้น “แปลว่าตอนนี้เขาหลับอยู่”
อินชวนกงกำลังจะพูด ก็พอดีคนที่นอนกับพื้นพลันพลิกตัว ยืดแขนคว้าไปมาพักหนึ่งจนคลำถูกเท้าของโจวอวี่ท่ามกลางสายตาที่ตะลึงงัน หลังจากนั้น…
เขาก็ซุกหัวหนุนเท้าของโจวอวี่อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด แถมยังตบต้นขาโจวอวี่เบาๆ เหมือนกำลังจะตบให้หมอนเรียบลง แต่เห็นได้ชัดว่าไม่เป็นผล จึงถอนใจอย่างอับจน แล้วซุกหัวตามมีตามเกิดหลับต่อ
อากัปกริยาทั้งหมดไม่มีการลืมตาเลย เหมือนการสะเปะสะปะของคนนอนหลับ
อินชวนกง “…พวกท่านดูสิ”
ชิวเยี่ยไป๋ “…”
โจวอวี่ “ใต้เท้า ข้าน้อยว่าโยนไอ้โง่นี่ลงแม่น้ำดีกว่าไหม”
ชิวเยี่ยไป๋ “ไม่ได้!”
โจวอวี่ “เช่นั้นข้าน้อยก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว”
ชิวเยี่ยไป๋อึ้งไปแล้วตัดสินใจจะปลอบโยนลูกน้องผู้ภักดี “เจ้าจะซัดมันสักตั้งก็ได้นะ”
โจวอวี่ยังนึกไม่ออกว่าจะซัดเจ้าหลวงจีนที่ลวนลามตนอย่างไร จึงผลักหลวงจีนออกจากตักเสียเลย
หลวงจีนกลิ้งหลุนหลุนไปสองรอบ ศีรษะงดงามโขกกับกราบเรือ แต่คราวนี้ดูเหมือนจะไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย พลิกฝ่ามือคว้ากราบเรือไว้ ศีรษะเกยกับกราบเรือ ขยับท่าให้สบายแล้ว…หลับต่อ
สภาพที่ไม่สนใจว่าฟ้าดินจะถล่มหรือไม่นี้ ทำเอาอินชวนกงยังอดนับถือมิได้!
โจวอวี่เหลือกตาใส่อย่างทนไม่ไหว ข่มใจไม่ให้ตนเองจับไอ้หมอนี่โยนลงน้ำ จากนั้นจึงถาม
ชิวเยี่ยไป๋อย่างข้องใจว่า “ใต้เท้าขอรับ พวกเราจะไปที่ไหนกัน”
ชิวเยี่ยไป๋ยิ้มน้อยๆ มือข้างหนึ่งยันคาง แลดูประกายระยิบระยับของผิวน้ำที่ดำสนิท “เราต้องไปพบกับผีน้ำ พญายมของลำน้ำสายนี้ ถึงต้องให้อินชวนกงมารับข้ามไป”
ไม่ข้ามแม่น้ำอเวจี จะพบพญายมน้ำได้อย่างไร!
ที่ใดมีผู้คนย่อมมีแม่น้ำคลองบึง สายน้ำกว้างใหญ่ทุกสายนอกจากพญาปลาในน้ำแล้ว ยังมีพญายมผีน้ำที่เป็นผู้ปกครองด้วย กล่าวโดยย่อคือแม่น้ำทั้งสามสิบหกสาย แต่ละสายล้วนมีหัวหน้าโจรน้อยใหญ่ครอบครองอยู่
“วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบสี่สิบปีของพญายมน้ำ…หัวหน้าใหญ่แห่งลำน้ำสามสิบหกสาย และหัวหน้าผีน้ำแห่งแถบไหวหนานได้จัดงานเลี้ยงเจ็ดวันเจ็ดคืน เพื่อฉลองวันเกิดของหัวหน้าใหญ่ วันนี้พวกเราจะไปดื่มสุราฉลองวันเกิดกัน” ชิวเยี่ยไป๋กลั้วหัวร่อเบาๆ