ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ – ตอนที่ 186 คำสารภาพของเหมยซู (1)

ตอนที่ 186 คำสารภาพของเหมยซู (1)

หยวนเจ๋อไม่เข้าใจและรู้สึกคับข้อง แต่เห็นทุกคนไปกันแล้วจึงรีบคลานลุกขึ้นแล้วตามไปแต่โดยดี

เหล่าเจอกูมิได้ซ่อนเรือสามลำนั้นไว้ลึกเกินไป ประการหนึ่งเพราะถ้ำนี้ไม่มั่นคง อาจพังทลายได้ง่าย และมีเศษหินร่วงหล่นอยู่เสมอ เผลอๆ ใครเข้าอาจหัวร้างข้างแตก ถ้าหนักหนาสาหัสอาจเสียชีวิตตรงนั้นเลยก็ได้

อีกประการหนึ่งคือตัวถ้ำที่ยิ่งลึกยิ่งแคบ ดังนั้นชิวเยี่ยไป๋กับพวกเดินไปไม่นาน ก็เห็นเรือสามลำที่เขียนว่า ‘เหมย’ อย่างดงามไว้ที่ข้างเรือ และนิ่งสงบอยู่ข้างโขดหิน

นัยน์ตาชิวเยี่ยไป๋ฉายแววดีใจ รีบเร่งฝีเท้า ส่วนเหล่าเจอกูไปถึงก่อนนางก้าวหนึ่ง ลงเรือและเปิดกลไก

เหล่าเจอกูบิดป้านน้ำชาทองเหลืองอันหนึ่งที่ซุกอยู่ในมุม ประตูท้องเรือก็เปิดออกดัง ปัง เหล่าเจอกูร้องอย่างดีใจ  ใต้เท้า ท่านดูสิ ข้าพูดจริงนะ! 

ชิวเยี่ยไป๋แลดูเกล็ดผงสีขาวในท้องเรือ ดวงตาฉายแววเย็นเยียบวูบหนึ่งแล้วยื่นมือไปแตะของบนเรือทดสอบรสชาติ รสเค็มบริสุทธิ์ปราศจากรสขมฝาดแม้แต่น้อยบอกนางว่า…นี่คือเกลือ และเป็นเกลือบริสุทธิ์เทียบเท่าเกลือของทางการเลยทีเดียว

เรืออีกสองลำก็บรรทุกเกลือเต็มเรือเช่นกัน ยืนยันคำพูดของเหล่าเจอกู นี่เป็นเรือค้าเกลือเถื่อนทั้งสามลำ

โจวอวี่หน้าเปลี่ยนสี นี่พิสูจน์แล้วว่าพวกเขากำลังพัวพันกับคดีใหญ่เทียมฟ้า

ชิวเยี่ยไป๋หันไปมองเหล่าเจอกู ถามอีกว่า  สมุดบัญชีเล่า 

เหล่าเจอกูหยักหน้า พลันดำลงไปในน้ำ งมอยู่เนิ่นนาน ถึงได้ขึ้นมาจากน้ำด้วยร่างกายเปียกโชก แล้วควักสมุดบัญชีสีฟ้าเล่มหนึ่งส่งให้ชิวเยี่ยไป๋

ชิวเยี่ยไป๋รับมา ไล่พลิกดูทีละหน้า มุมปากพลันยกยิ้มอย่างเย็นเยียบ แล้วเอ่ย  ไม่ผิด เป็นสมุดบัญชี! 

โจวอวี่ดวงตาวาบประกายวาวโรจน์ปราดหนึ่ง  นี่คือสมุดบัญชีลักลอบค้าเกลือของตระกูลเหมยจริงหรือ 

ชิวเยี่ยไป๋ไม่ได้ตอบ ข้างหูพลันได้ยินเสียงโอนอ่อนเสนาะหูที่ทำให้คนนึกถึงหมอกฝนของเจียงหนานลอยมาเสียงหนึ่ง  ใช่ ต้องขอบคุณใต้เท้าเชียนจ่งเป็นอย่างยิ่งที่ช่วยค้นหาสมุดบัญชีบ้านข้าและของสิ่งนี้จนพบ 

ชิวเยี่ยไป๋หรี่ตามองออกไปนอกถ้ำ ไม่รู้ว่าตั้งเมื่อไร ที่ปากทางเข้าถ้ำปรากฏร่างทหารทางการติดอาวุธครบมือยืนขวางทางไว้อย่างแน่นหนา ร่างสูงโปร่งของเหมยซู กำลังโดยสารเรือลำเล็กแล่นเข้ามาอย่างช้าๆ

ชิวเยี่ยไป๋มองดูเงาร่างที่ล่องเรือน้อยตามน้ำ แววตาเย็นเยียบวูบหนึ่ง แล้วกล่าวเนือยๆ ว่า  ข้าคิดว่าใครเสียอีก ที่แท้คือเหมยซู คุณชายใหญ่เหมยนี่เอง มิทราบว่าขณะข้าผู้เป็นขุนนางกำลังสืบคดีอยู่นี้ คุณชายมาทำไม 

นางหยุดลงแล้วพูดต่อ  แต่ข้าดูแล้ว เหมือนเจ้าจะมาฆ่าคนปิดปากทำลายหลักฐาน 

เหล่าเจอกูที่อยู่ข้างๆ เบิกตากว้างอย่างอดมิได้ และพึมพำกับโจวอวี่ว่า  นี่ ใต้เท้าของเจ้าพูดจาตรงขนาดนี้เชียวหรือ 

โจวอวี่เองก็ไม่เคยเห็นนางเป็นเช่นนี้ จึงกระซิบตอบว่า  เปล่าเลย ใต้เท้าของข้ายามปกติแม้จะไม่ถึงกับพูดจาซุกหัวซุกหาง แต่ก็มักพูดจาซ่อนความนัยอยู่บ้าง 

เหมยซูเงยหน้ามองชิวเยี่ยไป๋ที่อยู่บนฝั่ง คล้ายยิ้มคล้ายมิยิ้มกล่าวว่า  ใต้เท้า การได้พูดจากับท่านนี่สะใจจริงๆ ไม่ผิด ข้านี่แหละจะมาฆ่าคนปิดปากทำลายหลักฐาน 

เหมยซูถึงกับรับตรงๆ เช่นนี้ ทำเอาบรรยากาศเครียดเขม็ง โจวอวี่เอามือกุมด้ามดาบที่คาดไว้กับเอวทันที เหล่าเจอกูหดตัวแอบมองสถานการณ์ คิดอยู่ว่าถ้าเห็นท่าไม่ดีจะหาโอกาสรีบหนี

เหมยซูแลดูคนบนฝั่งแล้วยิ้มที่มุมปากอีกครั้ง กล่าวอย่างนุ่มนวลว่า  แน่นอน ข้าก็มิใช่โจรร้ายใจทมิฬที่ต้องฆ่าคนปิดปากทำลายหลักฐานให้ได้ ขอเพียงใต้เท้าส่งของในมือซึ่งมิใช่ของท่านให้เหมยซู เหมยซูจะปล่อยให้ทุกท่านจากไปอย่างปลอดภัย 

เหล่าเจอกูเห็นท่าทางนุ่มนวลของเหมยซูไม่เหมือนพ่อค้า กลับเหมือนคุณชายสูงศักดิ์ที่สุภาพเรียบร้อย และคำพูดคำจาก็ดีอย่างมาก จึงจิตใจหวั่นไหวและกระซิบอย่างขลาดเขลาว่า  ใต้เท้า ข้าน้อยมอบของให้ท่านแล้ว แต่พวกเขาคนมาก ท่านดูสิ คุณชายเหมยไม่เหมือนจะ… 

 หุบปาก!  โจวอวี่ยิ่งฟังยิ่งโมโห ถลึงตาใส่เขาขัดคำพูดทันที

 …  แววตาอำมหิตและดูแคลนของโจวอวี่ทำเอาเหล่าเจอกูสะดุ้งโหยง และรีบหุบปากไม่กล้าพูดอีก

ชิวเยี่ยไป๋แลดูเหมยซูกล่าวอย่างดูแคลนว่า  ในที่สุดคุณชายใหญ่เหมยก็เสแสร้งจนเหนื่อยแล้ว ทำไมไม่เปิดอกสักหน่อย เจ้ากล้าดีอย่างไรพาพวกข้าราชการท้องถิ่นมาล้อมเราไว้ เกรงว่าต่อให้ข้ายอมมอบของในมือให้ แต่การจากไปได้โดยปลอดภัยเช่นที่เจ้าพูด คงไม่ง่ายกระมัง 

เหมยซูเรียกนางเต็มยศต่อหน้าข้าราชการท้องถิ่น ต่อให้เขายอมปล่อยพวกตนไปจริง แต่พวกทหารอาจทำรายงานเรื่องการสกัดจับและคุกคามต่อผู้บังคับบัญชาในราชสำนักก็เป็นได้

เหมยซูหัวร่อเบาๆ ราวกับไม่รู้เรื่อง  อ้อ กระนั้นหรือ 

น้ำเสียงไม่ใส่ใจแต่ไร้ความจริงใจแม้แต่น้อย หรือกล่าวได้ว่าเขามินำพาที่ชิวเยี่ยไป๋มองทะลุในจุดนี้ ในที่สุดเหล่าเจอกูก็รู้ว่าตนเองเกือบโดนหลอก ถลึงตาใส่เหมยซูร้อง ‘ถุย’ อย่างคั่งแค้นและชักดาบออก

ชิวเยี่ยไป๋มองดูเขาแล้วหัวร่อเช่นกัน  คุณชายใหญ่เหมย เจ้าคิดว่าไอ้พวกไม่เอาไหนที่ปากถ้ำจะขวางข้าได้หรือ 

เหมยซูพลันกล่าวว่า  ใต้เท้าจะเรียกข้าว่าเหมยซูก็ได้ 

วาจาไร้ต้นสายปลายเหตุนี้ของเขา ทำเอาทุกคนต่างงงงัน

ชิวเยี่ยไป๋ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร แต่ก็ไม่ถือสาที่จะทวนคำพูดอีกครั้ง  เหมยซู เจ้าคิดว่าพวกไม่เอาไหนที่ปากถ้ำจะขวางข้าได้หรือ 

เหมยซูยิ้มน้อยๆ กล่าวว่า  เย่ไป๋ ข้าเคยคิดอยู่ว่าถ้าท่านเรียกชื่อข้าตรงๆ จะมีความรู้สึกอย่างไร วันนี้ได้ยินแล้วช่างวิเศษจริงๆ 

ชิวเยี่ยไป๋เลิกคิ้ว แลดูเค้าหน้าสดใสน่าลุ่มหลงที่งดงามจืดชืดเหมือนภาพวาดด้วยหมึก นึกสงสัยในใจ คำพูดของบุรุษผู้นี้ทำไมจึงแฝงความหมายเกี้ยวพาราสีด้วย

ชิวเยี่ยไป๋กล่าวอย่างดูแคลนว่า  เหมยซู หากข้ามิรู้ว่าเจ้ามีเมียเยอะแยะ ฟังคำพูดนี้แล้วยังคิดว่าเจ้าเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกันเสียอีก 

เหมยซูกลับเห็นด้วย  นั่นนะสิ เหมยซูเองก็แปลกใจ แต่ไหนแต่ไรมาเหมยซูไม่ชอบบุรุษ รู้สึกว่าบุรุษต่อให้หล่อเหลาเพียงใดก็เหมือนรูปปั้นด้วยดินที่แสนธรรมดา สตรีต่างหากที่เป็นวิญญาณแห่งน้ำ ไม่รู้เพราะอะไรพอเห็นท่าน เย่ไป๋ ก็รู้สึกว่าท่านไม่เหมือนคนอื่น ทำเอาเหมยซูเลื่อมใสยิ่งนักและคะนึงหาจนถึงวันนี้ ข้าไม่เข้าใจจริงๆ มิทราบใต้เท้าจะช่วยคลายความสงสัยของข้าได้หรือไม่ 

เป็นคำพูดประจบประแจงชัดๆ แถมยังสารภาพจากปากของบุรุษคนหนึ่ง แต่เมื่อออกจากปากเขากลับเปี่ยมด้วยกลิ่นอายอ่อนช้อยราวสายลมแฝงฝนพรำ ฟังแล้วอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก และมิอาจตัดใจปฏิเสธบุรุษผู้นี้ได้

โจวอวี่กับเหล่าเจอกูมุมปากกระตุกพร้อมกันอย่างอดมิได้ และออกจะงงงันอยู่บ้าง คุณชายใหญ่ตระกูลเหมยผู้นี้นิสัยออกจะพิกลไปหน่อย เพิ่งข่มขู่หยกๆ ว่าจะฆ่าคนปิดปากทำลายหลักฐาน นาทีต่อมาก็พูดจาเหมือนเปี่ยมด้วยน้ำใจไมตรี แต่พวกเขากลับมิรู้สึกว่าขัดกันแม้แต่น้อย!

 

ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ

ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ

Status: Ongoing

นับแต่ลืมตาดูโลกอีกครั้งในยุคโบราณ นางก็ใช้ชีวิตในฐานะ ชิวเยี่ยไป๋ คุณชายสี่แห่งตระกูลชิวผู้เป็นที่เกลียดชังผู้ถูกขับไล่ไสส่งให้ออกไปเผชิญความโหดร้ายของโลกภายนอกตั้งแต่เยาว์วัย ด้วยคำทำนายที่ว่าบุตรีคนที่สี่ของตระกูลจะนำความหายนะมาสู่ตระกูลและบ้านเมือง จึงเป็นเหตุให้นางจำต้องปกปิดความจริงเพื่อหลบเลี่ยงมิให้ถูกสังหารหรือถูกขายไปเป็นนางคณิกาหลวง

หลังจากผ่านการเคี่ยวกรำนานัปการจนนางได้ก้าวขึ้นเป็นประมุขแห่งหอซ่อนกระบี่ในยุทธภพ กลายเป็นที่เลื่องลือไปทั่วแผ่นดิน นางก็ตัดสินใจหวนคืนกลับตระกูลเพื่อกลับมาทวงความยุติธรรมให้กับตนเอง

จวบจนนางได้พบกับ องค์หญิงเซ่อกั๋ว องค์หญิงคนงามผู้มากด้วยปริศนา ขึ้นชื่อลือชาด้านความโหดเ**้ยมอำมหิตและนิสัยวิปริตจนใครต่อใครล้วนประหวั่นพรั่นพรึง หนำซ้ำยังรังเกียจสตรียิ่งกว่าสิ่งอื่นใด และได้ล่วงรู้ความลับบางอย่างขององค์หญิงผู้นี้เข้า นับแต่นั้นชีวิตของนางจึงต้องเข้าไปพัวพันกับ ‘เขา’ และก้าวเข้าสู่วังวนแห่งการชิงอำนาจที่เปรียบดุจคลื่นใต้น้ำในราชสำนัก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท