ตอนที่ 614 เฟิงชิงสุ่ยเสียโฉม
“ไร้ความสามารถ สาวใช้คนหนึ่งยังจับไม่ได้ ปล่อยให้หนีไปต่อหน้าต่อตา”
พอเห็นศพของชังไห่ เฟิงชิงสุ่ยก็หงุดหงิด ยิ่งได้ยินว่าอาหลานเข้ามาจวนแม่ทัพสยบปฐพีเพื่อช่วยชังไห่ตามลำพัง และยังออกไปจากจวนแม่ทัพสยบปฐพีอย่างปลอดภัย นางยิ่งอารมณ์เสีย
องครักษ์คุกเข่าลงกับพื้น ไม่กล้าพูด ทุกคนรู้ว่าเฟิงชิงสุ่ยอารมณ์ไม่ดี
“คุณหนู ศพนั่นจะจัดการอย่างไร?”
“โยนให้หมากิน! ออกไป”
เฟิงชิงสุ่ยโบกมืออย่างหงุดหงิด พอทุกคนออกไปแล้ว นางก็นั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง
วันนี้โชคร้ายจริงๆ เฟิงเชียนเตือนให้นางวางมือ นางเข้าใจคำพูด และเข้าใจความคิดของเฟิงเชียน แต่นางไม่อยากใช้ชีวิตอย่างเฟิงเชียน นางไม่ใช่คนที่ต้องการความสงบ ไม่งั้นนางคงไม่เข้าสู่สนามรบ
นางกับซูจิ่วซือเป็นศัตรูที่ต้องตายไปข้างหนึ่ง นางไม่เชื่อว่าฟู่เฉินหรงจะทำอะไรกับจวนแม่ทัพสยบปฐพีเพียงเพราะซูจิ่วซือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนที่ทำคือนาง ท่าทีของเฟิงเฉียนฟู่เฉินหรงรู้ดีตั้งแต่แรก และไม่ถือโทษเฟิงเชียน นางจะเป็นคนรับผิดชอบเองทั้งหมด
ไม่ว่าจะเพื่อตัวนางเองหรือเพื่อเฟิงเยว่ นางไม่ปล่อยซูจิ่วซือแน่
รุ่งขึ้น เฟิงชิงสุ่ยตื่นแต่เช้า ปีใหม่แล้ว งานศพของเฟิงเยว่ไม่ควรประกาศออกไป ช่วงเทศกาลปีใหม่ข่าวนี้จะเป็นเรื่องอัปมงคล จึงฝังศพเฟิงเยว่อย่างเงียบๆ
เฟิงชิงสุ่ยนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง ให้จวี๋เซียงแต่งหน้า
หญิงสาวตระกูลใหญ่ทุกคนใส่ใจความงาม ทุกวันจะทาแป้งร่ำ เดิมทีวันขึ้นปีใหม่ควรแต่งตัวฉลอง แต่เพราะเกิดเรื่องกับเฟิงเยว่ เฟิงชิงสุ่ยจึงไม่มีกะจิตกะใจแต่งตัว
จวี๋เซียงทางแป้งร่ำบนใบหน้าของเฟิงชิงสุ่ย เห็นสีหน้าของเฟิงชิงสุ่ยสีหน้าเครียด จึงถามเบาๆ “คุณหนู มื้อเช้าจะรับบัวลอยแป้งบัวไหมเจ้าคะ?”
“ไม่ต้อง ให้ครัวเตรียมข้าวต้มกับผักดอง ข้าไม่หิว”
“บ่าวจะไปบอกห้องครัว”
พอทาแป้งร่ำเสร็จ จวี๋เซียงก็รีบไปบอกห้องครัว
เฟิงชิงสุ่ยเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสีม่วงอ่อน จู่ๆ นางก็รู้สึกคันใบหน้า นางยกมือขึ้นเกา พอยิ่งเกาก็ยิ่งคัน นางไม่กล้าเกาอีก แต่รู้สึกกลั้นไม่อยู่
เฟิงชิงสุ่ยรู้สึกสังหรณ์ใจ ไม่กล้าส่องกระจก รีบตะโกนเรียก “จวี๋เซียง เร็วเข้า รีบเรียกหมอมา”
จวี๋เซียงกลับไปที่ห้อง ได้ยินเสียงของเฟิงชิงสุ่ย พอก้าวเข้าไปก็รีบถอย วิ่งไปหาหมอ
ขณะจวี๋เซียงหายใจหอบพาหมอมา ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำให้นางตะลึง
“คุณหนู หน้าของคุณหนู…”
คำที่เหลือจวี๋เซียงไม่กล้าพูดต่อ รีบยกมือขึ้นปิดปาก
เวลานี้ใบหน้าของเฟิงชิงสุ่ยน่ากลัวจริงๆ ผิวหนังเริ่มเปื่อยเน่ามีหนอง แทบไม่มีส่วนที่ปกติเลย ผิวบางส่วนปริมีเนื้อปลิ้นออกมา มองดู น่ากลัวมาก
เฟิงชิงสุ่ยรู้สึกทั้งคันทั้งแสบหน้า นางส่องกระจกเห็นใบหน้าของตัวเองแล้ว
พอเห็นหมอเข้ามา นางโผไปหา จับมือหมอไว้แน่น น้ำเสียงร้อนรน “รีบรักษาข้า หน้าข้าเป็นอะไรไป เกิดอะไรขึ้น?”
จวี๋เซียงตกใจถอยหลัง แม้แต่หมอก็ตกใจกับใบหน้าของเฟิงชิงสุ่ย คุณหนูใหญ่อยู่ดีๆ ทำไมจึงเปลี่ยนไปอย่างนี้ น่ากลัวจริงๆ
หมอไม่กล้าแสดงความรู้สึกต่อหน้าเฟิงชิงสุ่ย พยายามสะกดใจแล้วพูดขึ้น “คุณหนู ไม่ต้องร้อนใจ ให้ข้าจับชีพจรก่อน”
ตอนที่ 615 แผลเป็นรักษาไม่หาย
เฟิงชิงสุ่ยรีบปล่อยมือ ยื่นมือไปให้หมอ มือนางมีรอยเลือด แสดงว่าเอามือจับหน้า
หมอจับชีพจรให้เฟิงชิงสุ่ยอย่างละเอียด ครู่หนึ่งจึงถามขึ้น “ก่อนหน้านี้คุณหนูเอาอะไรมาทาหน้าหรือ?”
“เมื่อเช้าคุณหนูทาแป้งร่ำ แป้งนี้คุณหนูทามาตลอด ใช้มาระยะหนึ่งแล้ว”
จวี๋เซียงรีบบอก
“แม่นางจวี๋เซียง หยิบแป้งร่ำของคุณหนูมาดูหน่อย”
จวี๋เซียงรีบเอาแป้งร่ำที่ทาให้เฟิงชิงสุ่ยมาให้หมอ
เขาเปิดฝาออก ดมอย่างละเอียด สุดท้ายก็เอามาทาที่หลังมือเล็กน้อย แม้จะรีบเช็ดออกทันที แต่หลังมือก็ยังคันมาก บริเวณที่ทาเป็นแผลเปื่อยทันที
“เรียนคุณหนู แป้งร่ำของคุณหนูมีเกสรดอกไร้สี ผลของมันเอามาบดเป็นแป้ง มีพิษร้ายแรงมาก ทาตรงไหนก็ทำให้เป็นแผลเปื่อย”
พอได้ยินชื่อดอกไร้สี เฟิงชิงสุ่ยกับจวี๋เซียงก็หน้าซีด โดยเฉพาะเฟิงชิงสุ่ย ก่อนหน้านี้นางก็เริ่มสงสัย นึกไม่ถึงว่าจะเป็นดอกไร้สีจริงๆ
นี่เป็นพิษที่นางเตรียมไว้ให้ซูจิ่วซือ เพื่อทำลายโฉมของซูจิ่วซือ นางเอาพิษนี้ให้อาหลาน สุดท้ายพิษนี้กลับมาอยู่ในแป้งร่ำของนาง นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนอาหลานมาที่จวนแม่ทัพสยบปฐพี นางรู้แล้วว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร
เดิมทีเฟิงชิงสุ่ยเป็นคนสวยมาก คุณหนูตระกูลใหญ่ทั่วตูเฉิงไม่มีใครสวยเท่านาง
นางจึงทนุถนอมใบหน้าของตนมาก แต่กลับถูกทำลายด้วยน้ำมือของสาวใช้ นางยื่นมือไปผลัก ได้ยินเสียงแป้งร่ำน้ำหอมหน้ากระจกตกลงบนพื้น
หมอกับจวี๋เซียงตกใจมาก รีบคุกเข่าลงกับพื้น
โดยเฉพาะจวี๋เซียง นางกลัวจนตัวสั่น แป้งร่ำนี้นางเป็นคนใช้แปรงทาให้เฟิงชิงสุ่ยเอง เวลานี้เกิดปัญหาขึ้น นางจึงปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ นางนึกถึงชิวซูที่ตายไป มือของนางก็ยิ่งสั่น กลัวว่าตนจะเดินตามรอยชิวซู
เฟิงชิงสุ่ยไม่คิดจะเอาเรื่องจวี๋เซียงเวลานี้ นางจ้องหมอซึ่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น “มีทางรักษาหรือไม่?”
หมอรู้สึกลำบากใจ ครู่ใหญ่จึงตอนอย่างกระอึกกระอัก “คุณหนู ผิวหนังเน่าเปื่อยแล้ว เอายามาทาจะค่อยๆ หาย แต่แผลเป็นจากดอกไร้สีลึกมาก ลึกเข้าไปถึงกระดูก เกรงว่าจะแก้ไม่ได้”
ความจริงแล้วเฟิงชิงสุ่ยรู้อยู่ก่อน นางไม่อยากให้ซูจิ่วซือมีโอกาสหาย จึงเลือกดอกไร้สีซึ่งมีแผลเป็นรักษาไม่ได้ กลายเป็นว่านางรับผลเอง คำพูดของหมอนางคาดไว้แล้ว
“เจ้าออกไปจัดยาให้ข้า!”
เฟิงชิงสุ่ยสะกดตัวเองให้สงบ น้ำเสียงราบเรียบ
หมอไปจัดยาอย่างนอบน้อม แม้รู้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับจวี๋เซียง แต่เฟิงชิงสุ่ยก็ยังเตะที่ไหล่ของจวี๋เซียง ไม่เช่นนั้นความโกรธแค้นในใจนางคงไม่มีที่ระบาย
จวี๋เซียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ถูกเฟิงชิงสุ่ยเตะล้มลงกับพื้น นางไม่กล้าส่งเสียง รีบลุกขึ้นมาคุกเข่าก้มหน้าที่พื้น คาดหวังอย่าให้เฟิงชิงสุ่ยนึกถึงตน
เฟิงชิงสุ่ยไม่ทำอะไรจวี๋เซียงอีก ทรุดนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง ความแค้นในดวงตาล้ำลึก เรียกชื่อซูจิ่วซือออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว อาหลานเป็นสาวใช้ของซูจิ่วซือ นางจึงคิดว่าเรื่องนี้ซูจิ่วซือเป็นคนบงการ
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ข้ากับเจ้าต้องตายตกตามกัน!”
เฟิงชิงสุ่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอำมหิต นางคิดจะตายพร้อมกับซูจิ่วซือจริงๆ
เพียงแต่ว่าเฟิงเชียนซึ่งได้ข่าวไม่ให้โอกาสเฟิงชิงสุ่ย เพื่อป้องกันเฟิงชิงสุ่ยไม่ให้ทำอะไรอีก วันนั้นเขาจึงควบคุมเฟิงชิงสุ่ยไว้ ไม่ให้นางกับคนใกล้ชิดออกจากเรือนแม้แต่ก้าวเดียว
เขาจะปล่อยให้เฟิงชิงสุ่ยก่อเรื่องต่อไปไม่ได้แล้ว