ตอนที่ 626 เจ้าโทษเราหรือไม่
“พระบิดาอย่ายกความตายของพี่ใหญ่มาเป็นความผิดของลูก พระบิดาเป็นคนออกคำสั่งให้ประหารคนในวังตะวันออกทั้งหมด ถ้าพระบิดาไม่เห็นตำแหน่งฮ่องเต้สำคัญเกินไป มีหรือจะลงมือประหารพระโอรสแท้ๆ อย่างเ**้ยมโหด
พระบิดาคิดว่าจะยกตำแหน่งฮ่องเต้ให้ลูกชายของพี่ใหญ่ พี่ใหญ่ในปรโลกก็จะให้อภัยพระบิดาหรือ พระบิดาไม่เพียงแต่ประหารคนในวังตะวันออกทั้งหมด ยังบีบคั้นฮองเฮาจนสิ้นพระชนม์
เวลานั้นฮองเฮาทรงขอร้อง แต่พระบิดาไม่ใส่พระทัย ยึดอำนาจวังในของฮองเฮา จนฮองเฮาพิโรธกระอักเลือดทันที ตั้งแต่นั้นก็ประชวรมาตลอด ไม่ยอมเข้าเฝ้าพระบิดา ในที่สุดก็จากโลกไป เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ พี่ใหญ่จะให้อภัยพระบิดาได้อย่างไร”
พอถึงตอนนี้ฟู่จิ่งไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ทูลด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
ซุ่นตี้สีพระพักตร์พิโรธ พระโอษฐ์สั่น เรื่องนี้เป็นแผลในพระทัยของพระองค์ ยิ่งพระชนม์มากขึ้นยิ่งไม่กล้าหวนคิด แต่ฟู่จิ่งกลับพูดออกมาต่อหน้าผู้คน
พระองค์เป็นถึงฮ่องเต้ แม้สำนึกผิดก็ไม่อาจยอมรับต่อหน้าคนอื่น ฮ่องเต้จะผิดได้อย่างไร
“มานี่ คุมตัวฟู่จิ่งไป”
ราชองครักษ์รีบเข้ามาพาตัวฟู่จิ่งไป ฟู่จิ่งไม่ขัดขืน แม้ถูกราชองครักษ์ควบคุมตัว แต่ปากยังคงพูดไม่หยุด “ท่านพ่อทรงคิดว่าฟู่เฉินหรงจะเป็นฮ่องเต้ที่ดีหรือ เขาลุ่มหลงพระชายาปานนี้
ฮ่องเต้จากแคว้นเว่ยไม่ใช่ไร้ความสามารถ จะปล่อยโอกาสให้ผ่านไปหรือ ไม่ใช่พวกเดียวกัน ย่อมเอาใจออกห่าง สักวันหนึ่งแผ่นดินแคว้นเจียงจะล่มสลายด้วยน้ำมือพระชายารัชทายาท พอถึงเวลานั้นพระบิดาคอยดูอยู่ที่ปรโลกก็แล้วกัน”
พอได้ยินคำพูดของฟู่จิ่ง ฟู่เฉินหรงก็ดูสีพระพักตร์ของซุ่นตี้ เขาไม่รู้ว่าซุ่นตี้เชื่อคำพูดนี้หรือไม่ ซูจิ่วซือเป็นคนอย่างไร เขารู้ดีที่สุด
ซุ่นตี้รู้สึกเวียนพระเศียร ฟู่เฉินหรงรีบเข้าไปประคอง “พระอัยกา ไม่เป็นไรใช่หรือไม่!”
ซุ่นตี้ทรงไอ เวลาของพระองค์เหลือไม่มากแล้ว
เวลานี้ฟู่จิ่งถูกจับ ไม่มีอะไรขัดขวางการขึ้นครองบัลลังก์ของฟู่เฉินหรงแล้ว ในที่สุดพระองค์ก็วางพระทัย แต่คำพูดของฟู่จิ่งกลับทำให้พระทัยของพระองค์วิตก
สักวันหนึ่งพระองค์จะให้ซูจิ่วซือเข้าวัง มาสอบถามให้ชัดเจน
“เราไม่เป็นไร” ซุ่นตี้พระอาการดีขึ้น ยื่นพระหัตถ์ไปลูบหลังฟู่เฉินหรง “เฉินหรง วันหลังยกแคว้นเจียงให้เจ้า อย่าให้เราผิดหวัง”
คำพูดนี้ล้ำลึก ฟู่เฉินหรงเข้าใจความหมายของซุ่นตี้ เขาพยักหน้าอย่างหนักแน่น “หลานจะไม่ทำให้พระอัยกาผิดหวัง”
จู่ๆ ซุ่นตี้ก็ลังเลพระทัย ครู่หนึ่งจึงตรัสถาม “เฉินหรง เจ้าโทษเราหรือไม่”
คำถามนี้หมายถึงเรื่องของรัชทายาทฮุ่ยตวน
ตอนที่หนีออกจากวังตะวันออกนั้นฟู่เฉินหรงยังเล็ก เขาจำอะไรไม่ได้ ไม่มีภาพจำเกี่ยวกับท่านพ่อท่านแม่เลย
ความทรงจำวัยเด็กของเขามีแต่พ่อแม่บุญธรรมและตระกูลกู้ ถ้าจะบอกว่าการได้ยินความจริง ทำให้เขาเจ็บปวดแสนสาหัส ก็เป็นไปไม่ได้ เขาจึงไม่มีความแค้นต่อซุ่นตี้ ในสายตาของเขาซุ่นตี้เป็นฮ่องเต้องค์หนึ่ง แต่เขาไม่มีความรักความผูกพันมากนัก
“หลานไม่โทษพระอัยกา เวลานั้นพระอัยกาเข้าพระทัยผิด”
การสำนึกผิดของซุ่นตี้ ฟู่เฉินหรงรับรู้แล้ว อย่างที่ฟู่จิ่งพูด ท่านพ่อในปรโลกคงไม่ให้อภัยซุ่นตี้ เขาเองก็ไม่มีอะไรจะให้อภัยหรือไม่ให้อภัย ราชตระกูลโหดเ**้ยมอย่างนี้อยู่แล้ว แม้เป็นพ่อลูกกัน ก็ยังเป็นเจ้าแผ่นดินกับขุนนาง เจ้าแผ่นดินต้องการให้ขุนนางตาย ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล
“ดึกแล้ว เจ้ากลับวังตะวันออกเถอะ เรื่องที่นี่มอบให้คนอื่นจัดการ
เฉินหรง เจ้าจำไว้ วันหลังเจ้าต้องสืบทอดบัลลังก์ เมื่อเทียบกับชาติบ้านเมือง หลายสิ่งหลายอย่างไร้ความหมาย ไม่มีใครสำคัญเท่าบ้านเมือง นี่เป็นชะตากรรมของคนในราชตระกูล ชาติบ้านเมืองต้องมาก่อน แล้วจึงเป็นตัวเอง”
ตอนที่ 627 ความรู้สึกที่ว่ามีคนรออยู่ช่างดีจริงๆ
ซุ่นตี้รู้ดีว่าหลานคนนี้ฉลาด คงเข้าใจความหมายของพระองค์ พอตรัสเสร็จจึงพยุงมือหวังฝูจากไป เงาหลังสั่นไหว พระองค์ชราภาพแล้ว มีโอกาสล้มลงทุกเมื่อ
ฟู่เฉินหรงเข้าใจความหมายของซุ่นตี้ดี พระองค์เตือนเขาอีกครั้งว่าอย่าทุ่มเทกับซูจิ่วซือเกินไป
แต่ความเอาใจใส่ของเขาต่อซูจิ่วซือไม่ใช่จะหยุดได้ ตอนที่ไม่ได้เป็นรัชทายาท เขาก็ใส่ใจซูจิ่วซืออยู่แล้ว สำหรับเขา ซูจิ่วซือต้องมาก่อนชาติบ้านเมือง
ผู้คนต่างคิดว่าเขารักซูจิ่วซือจนถึงขั้นยอมทุกอย่าง จะทำให้ซูจิ่วซือถือโอกาสควบคุมแคว้นเจียง เพราะคนเหล่านี้ไม่เข้าใจซูจิ่วซือ และไม่เห็นความรักที่นางมีต่อเขา
เขาอยากจะประกาศต่อคนทั้งแผ่นดินว่าเขารักซูจิ่วซือ และซูจิ่วซือก็เป็นคนนอบน้อม เรื่องนี้เขาเข้าใจคนเดียวก็พอ
สำหรับเขาแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างของเขาเป็นของซูจิ่วซือด้วย เขายินดีมอบให้นาง
ถ้าให้ซูจิ่วซือเป็นฮ่องเต้ นางคงทำได้ไม่ด้อยกว่าเขา สำหรับซูจิ่วซือ เขาชื่นชมนางมาตลอด
เวลานี้เขาวิตกที่ซุ่นตี้ไม่วางพระทัยซูจิ่วซือและอาจจะทำอะไรบางอย่าง ไม่ว่าอย่างไร เขาจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายซูจิ่วซือเด็ดขาด นางลำบากเพื่อเขามามากเหลือเกิน
อาหลานกลับมาที่วังตะวันออกก่อนฟู่เฉินหรงเล็กน้อย เล่าเรื่องราวที่ไปสืบมาให้ซูจิ่วซือฟังอย่างละเอียด พอได้ยินว่าฟู่จิ่งถูกจับ ซูจิ่วซือก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
เมื่อกำจัดฟู่จิ่งแล้ว ฟู่เฉินหรงก็อยู่แคว้นเจียงได้โดยไม่มีอุปสรรค ตระกูลมู่ก็ปลอดภัย
“อาหลาน เจ้าให้คนไปเตรียมเหล้ากาหนึ่ง รอเฉินหรงกลับมา ข้าจะฉลองกับเขา”
“เพคะ”
อาหลานรับคำด้วยสีหน้าดีใจ
ตอนที่อาหลานยกเหล้าอุ่นเข้ามา ฟู่เฉินหรงกลับมาพอดี
พอเห็นฟู่เฉินหรงผลักประตูห้อง ซูจิ่วซือก็ยิ้มให้ฟู่เฉินหรง
ฟู่เฉินหรงก้าวเข้ามา ยื่นมือไปโอบซูจิ่วซือทันที กระชับกอดนางไว้ในอ้อมแขน “ดึกแล้ว ยังไม่นอนหรือ”
“พระชายารัชทายาทเตรียมเหล้าไว้ รอองค์รัชทายาทกลับมาฉลอง จะนอนได้หรือเพคะ”
อาหลานอดยิ้มไม่ได้ พอเห็นฟู่เฉินหรงกลับมาอย่างปลอดภัย นางดีใจแทนคนทั้งสอง ชีวิตข้างหน้าคงจะสงบขึ้น รอฟู่เฉินหรงครองบัลลังก์อย่างราบรื่น ซูจิ่วซือก็จะเป็นฮองเฮาแห่งแผ่นดิน
ฟู่เฉินหรงเห็นบนโต๊ะมีกาเหล้า ก็หัวเราะ สายตาอ่อนโยน “ฟ้าใกล้สว่างแล้ว ง่วงหรือไม่”
“มีข่าวดีอย่างนี้ จะง่วงได้อย่างไร”
ซูจิ่วซือพูดจบก็ผลักฟู่เฉินหรงออก รินเหล้าสองจอก ยื่นให้ฟู่เฉินหรงจอกหนึ่ง แล้วพูดอย่างจริงจัง “ขอแสดงความยินดีกับท่านพี่ที่ปราบโจรกบฏได้สำเร็จ”
ฟู่เฉินหรงรับเหล้า “ยินดีร่วมกับฮูหยิน”
ทั้งสองชนจอกกัน แล้วดื่มรวดเดียวหมด
อาหลานซึ่งอยู่ข้างหลังถอยออกไปอย่างรู้สถานการณ์ แล้วปิดประตูห้อง
พอเห็นฟู่เฉินหรงยังสวมเกราะหนาอยู่ ซูจิ่วซือก็เดินมาหาฟู่เฉินหรง ถอดเสื้อเกราะให้ “ฟ้าใกล้สว่างแล้ว เฉินหรง เจ้าเหนื่อยมาทั้งคืน ไปนอนพักบนเตียงสักครู่”
“เจ้านอนกับข้า”
“ได้ ข้านอนด้วย”
ฟู่เฉินหรงจูบแก้มซูจิ่วซือ กระซิบที่ข้างหู “ความรู้สึกที่ว่ามีคนรออยู่ช่างดีจริงๆ”
“เป็นถึงรัชทายาท กลัวหรือว่าจะไม่มีคนรออยู่”
ซูจิ่วซือพูดเย้า
“ไม่เหมือนกัน เจ้าไม่รู้หรอก เวลาออกว่าราชการข้าก็อยากกลับมาเร็วๆ ทุกครั้งที่ออกไปจัดการงานข้างนอกก็อยากกลับมาเร็วๆ พอถึงวังตะวันออกเห็นเจ้ารออยู่ ความรู้สึกนี้ช่างดีจริงๆ เมื่อก่อนวังตะวันออกเป็นวังตะวันออก พอมีเจ้า วังตะวันออกถึงกลายเป็นบ้านที่น่าอยู่”