ตอนที่ 241 น่ากลัวเหลือเกิน!
เพราะเย็นเกินไปแล้ว หลินเยียนกับแม่จึงอยู่ค้างที่บ้านเก่าคืนหนึ่ง
เรื่องราวในช่วงหลายวันนี้มากมายเหลือเกิน หลินเยียนใช้สมองเยอะจนแทบไม่ได้พัก ตกกลางคืนนอนอยู่บนเตียงไม่ว่าอย่างไรก็นอนไม่หลับ ดังนั้นจึงสวมเสื้อผ้าแล้วออกมาข้างนอก
ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเก่าคือสถานที่ติดทะเลแห่งหนึ่ง บนหาดทรายว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่เลย
หลินเยียนตากลมทะเล แบบนี้แล้วอารมณ์ถึงสงบลงไปบ้าง
เกิดเรื่องมากมายเหลือเกินนับตั้งแต่เธอถูกห้ามแข่งและกลับประเทศ ทุกอย่างที่ตัวเองรู้และคุ้นเคยต่างเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง
ชาตินี้…ไม่รู้ว่ายังมีหวังที่จะได้กลับไปลงสนามแข่งอีกหรือเปล่า…
สิ่งที่เธอร้อนใจในตอนนี้มากที่สุดก็ยังเป็นความเป็นความตายของน้องชายอยู่ดี เธอต้องพยายามตามหาห้องแล็บนั่น และตามหาน้องชายให้เจอโดยเร็วที่สุด เธออยากจะลากตัวคนร้ายตัวจริงออกมาแล้วสับให้เป็นหมื่นๆ ชิ้น!
ส่วนหลินซูหย่า…
ที่จริงสมัยก่อนสาเหตุที่เธอดีกับหลินซูหย่ามากขนาดนั้นก็เพราะเธอเสียน้องชายที่สนิทที่สุดไป ดังนั้นจึงทุ่มเทความเอาใจใส่ทั้งหมดไปให้น้องสาวที่มีอยู่เพียงคนเดียว
ความยากลำบากมากมายที่ได้เจอในช่วงหลายปีมานี้ รวมกระทั่งการลักพาตัวก็ยังทำให้เธอล้มไม่ได้ แต่กลับต้องเกือบตกขุมนรกเพราะหลินซูหย่า…
โชคยังดีที่ตัดสิ่งที่เหนี่ยวรั้งให้ขาดสะบั้นไปแล้ว เธอยังเริ่มต้นใหม่ได้อีก
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ภาพในหัวของหลินเยียนก็อดผุดใบหน้ายิ้มจางๆ ด้วยความอ่อนโยนของเผยอวี้เฉิงขึ้นมาไม่ได้…
เกือบลืมไปแล้วสิ ทางนี้ยังมีปัญหาที่ตึงมือยิ่งกว่าซึ่งจะต้องได้รับการแก้ไขอยู่ เธอต้องคิดให้ดีๆ ว่าจะอธิบายกับเผยอวี้เฉิงให้ชัดเจนอย่างไร…
หลินเยียนนอนอยู่บนหาดทรายอันอ่อนนุ่ม ความคิดค่อยๆ ลอยล่องไป ความง่วงงุนเริ่มบังเกิด …
‘ตูม…’
‘จ๋อม จ๋อม จ๋อม!’
ทันใดนั้นก็มีเสียงแปลกประหลาดแว่วเข้าใบหู และยิ่งเป็นกลางดึกซึ่งรอบด้านไร้ผู้คนก็ยิ่งทำให้ขนหัวลุก
เพียงชั่วพริบตา ความง่วงเหงาหาวนอนของหลินเยียนพลันปลาสนาการไปสิ้น มองไปรอบด้านด้วยความตื่นตัว
เพียงแต่รอบด้านกลับยังคงเวิ้งว้างว่างเปล่า อย่าว่าแต่คนเลย แม้แต่เงาผีก็ยังไม่เห็น
‘จ๋อม จ๋อม จ๋อม…’
อย่างไรก็ตามเสียงแปลกประหลาดนั้นกลับยังไม่เลือนหาย ตรงกันข้าม กลับถี่มากยิ่งขึ้น
“บัดซบเอ๊ย!”
หลินเยียนขนลุกชัน นี่มันผีอะไรกัน น่ากลัวเกินไปแล้ว
ทันใดนั้นหางตาหลินเยียนกลับเหลือบไปเห็นว่าที่ริมทะเลมีกุญแจอยู่หลายดอกโดยอาศัยแสงจากดวงจันทร์
หลินเยียนไม่คิดให้มากความ รีบวิ่งไปข้างหน้า จ้องมองกุญแจเหล่านั้น นี่คงไม่มีใครกำลังจมน้ำหรอกนะ?!
ณ เวลานี้บนผิวทะเลบริเวณริมหาดยังคงเกิดฟองผุดขึ้นมาไม่หยุด
หลินเยียนสีหน้าแปรเปลี่ยนทันที ยังไม่ทันคิดอะไรให้มากความ ก็รีบเข้าไปใกล้ริมหาด เอื้อมมือแล้วจุ่มลงไปในทะเล
ผ่านไปหลายวินาที หลินเยียนก็ดึงแขนขึ้นมาด้วยความรู้สึกว่ามีอะไรหนักๆ
เห็นเพียงชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งถูกหลินเยียนจิกผมแล้วดึงขึ้นมาจากทะเล
ชายหนุ่มถูกหลินเยียนหิ้วยกอยู่กลางอากาศ สองตาจ้องมองหลินเยียนเขม็ง
“นาย…ไม่เป็นไรนะ?” หลินเยียนเอ่ยถามพลางขมวดคิ้ว
“กะ…กะ…กลิ้ง กลิ้ง กลิ้ง…” ชายหนุ่มเอ่ยปากพูด
หลินเยียน “…”
“ขอโทษด้วย ฉันนึกว่านายจมน้ำเสียอีก…” หลินเยียนรู้สึกประดักประเดิดเล็กน้อย คลายมือออกทันที
เห็นเพียงร่างของชายหนุ่มจมลงไปในทะเลอีกครั้ง
ชายหนุ่มใช้สองมือตีน้ำไม่หยุด “ฉะ ฉะ…ฉัน…ฉัน…เมื่อกี้…ไม่ระวัง…กลิ้ง…กลิ้ง…ตกลงไป…อ๊าก!”
หลินเยียน “…” แม่เจ้าโว้ย!
ในที่สุดก็ฟังคำพูดของชายหนุ่มจบ หลินเยียนตกใจยกใหญ่ คว้าผมของชายหนุ่มอีกครั้งและลากชายหนุ่มขึ้นมาบนฝั่ง
“ไม่เป็นไรนะ?”
หลินเยียนเอ่ยถามพลางมองชายหนุ่มซึ่งกำลังหอบอยู่
“มี…มี…”
“ฉันจะโทร 120 ให้นาย!” หลินเยียนหยิบโทรศัพท์ออกมา
“มี…มีกับ…ผีน่ะสิ!” ชายหนุ่มตอบ
หลินเยียน “…”
ขณะนี้หลินเยียนกำลังมองดูชายหนุ่มซึ่งเปียกโชกไปทั้งตัวด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
พอเธอมาถึงหาดทรายก็ไม่เห็นใครเลยสักคน แล้วผู้ชายคนนี้กลิ้งลงไปในทะเลตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ตอนที่ 242 หรือจะเป็นแอนตี้แฟน?
ตอนนี้หลินเยียนกอดอก ขณะที่อีกมือวางไว้ใต้คาง มองดูชายหนุ่มที่เปียกชุ่มโชกไปทั้งตัวด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“มะ…มะ…มองฉัน…ทำไม” ชายหนุ่มสลัดน้ำทะเลที่อยู่บนตัว เอ่ยปากถามหลินเยียน
“นายกลิ้งตกลงทะเลตั้งแต่เมื่อไหร่?” หลินเยียนเอ่ยปากถาม
“สัก…หนึ่ง…หนึ่งชั่วโมงได้ล่ะมั้ง” ชายหนุ่มคิดแล้วคิดอีก จากนั้นก็ตอบตามความจริง
“หนึ่งชั่วโมง?”
เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ของชายหนุ่ม หลินเยียนก็เผยสีหน้างุนงง
มิน่าตอนที่ตัวเธอมาถึงหาดทรายแห่งนี้ถึงมองไม่เห็นเขา
กลิ้งตกลงไปในทะเลหนึ่งชั่วโมง ทำไมเขาไม่จมน้ำตายนะ
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
หลินเยียนมองประเมินชายหนุ่มหลายครั้ง จากนั้นก็กลับไปนั่งอยู่ไกลๆ อีกครั้งทันที
ทว่าไม่นานนักชายหนุ่มกลับตามมา มองหลินเยียนอยู่นาน ดวงตาฉายแววแปลกประหลาด
“มีอะไร” หลินเยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เธอ…เธอ…หน้าตา…คล้าย…คล้าย…คล้าย…” ชายหนุ่มจ้องมองหลินเยียน พูดจาตะกุกตะกัก
“นายจำผิดคนแล้ว! ฉันไม่ไช่!”
หรือจะเป็นแอนตี้แฟนของเธอเอง? หลินเยียนส่ายหน้าปฏิเสธตัดบททันที
ดึกดื่นป่านนี้แล้ว แถมเธอยังไม่ได้แต่งหน้าทำผมปล่อยผมสยาย นี่ก็ยังจำเธอได้อีกเหรอ
“เหมือน…คนที่ฉันรู้จักเมื่อก่อน…คนหนึ่ง…เป็น…เป็น…โรคจิต!” ชายหนุ่มพูด
หลินเยียนหน้าบึ้งทันที “…”
โรคจิต?
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันให้หลินเยียนได้พูดอะไรออกมา ภายในดวงตาชายหนุ่มกลับฉายประกายเย็นเยียบ มองไปทางหาดทราย
“ช่วย…ช่วยฉัน…อย่างหนึ่ง…” ชายหนุ่มรีบพูดกับหลินเยียน
“ไสหัวไป” หลินเยียนเหลือบมองชายหนุ่มด้วยสีไร้อารมณ์
วินาทีก่อนยังพูดอยู่เลยว่าตัวเธอเหมือนโรคจิต วินาทีต่อมาก็ให้ตัวเธอช่วยอีกแล้ว เมื่อกี้ไม่ควรช่วยเขาเลย
“อย่าบอกว่าเธอ…เคย…เคยเห็นฉัน!”
ชายหนุ่มพูดจบก็กลิ้งกลับลงไปในทะเลเสียงดัง ‘ตูม’ ใหม่อีกครั้ง ภายใต้สายตาประหลาดใจของหลินเยียน
เมื่อเห็นรูปการณ์ ใบหน้าหลินเยียนก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ยังไม่ทันให้หลินเยียนได้คิดอะไรมาก ชายหนุ่มสวมชุดสีดำขนาดพอดีตัวหลายคนกำลังรีบเดินมาทางนี้
ชายที่เป็นหัวหน้ากำลังมองสำรวจไปทั่ว
“อยู่แถวนี้” ชายชุดดำเอ่ยปากพูด
“เมื่อกี้ก็หาไปแล้วไม่ใช่เหรอ” ผู้หญิงสีหน้าไร้ความรู้สึกอีกคนหนึ่งพูด
ตอนนี้หลินเยียนมองไปทางชายหนุ่มหญิงสาวหลายคนนี้โดยปราศจากพิรุธ ตาติดอ่างคนเมื่อกี้คงไม่ใช่เพราะจะหลบพวกเขา ถึงได้จงใจกลิ้งลงไปในทะเลหรอกนะ
ไม่เพียงเท่านี้ สิ่งที่ชายชุดดำผู้เป็นหัวหน้าถืออยู่ในมือเหมือนจะเป็นเครื่องสะกดรอยตามอะไรบางอย่าง
“เธอ”
ทันใดนั้น ผู้หญิงซึ่งเป็นหนึ่งในพวกนั้นก็เดินมาข้างกายหลินเยียน ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เคยเห็นคนติดอ่างคนหนึ่งแถวนี้บ้างไหม”
พอพูดจบหญิงสาวก็หยิบรูปออกมาใบหนึ่ง ชูอยู่ตรงหน้าหลินเยียน
ชายที่อยู่ในรูปใบนี้ก็คือคนติดอ่างที่กลิ้งลงไปในทะเลเมื่อครู่นั่นเอง
“อา… ไม่เคยเห็น ฉันมาที่นี่ได้สักพักแล้ว นอกจากพวกเธอก็ไม่มีใครโผล่มาเลย” หลังจากหลินเยียนดูอยู่ครู่หนึ่งก็ส่ายหน้า
แม้หลินเยียนจะไม่รู้แน่ชัดว่าชายหญิงพวกนี้มีบุญคุณความแค้นอะไรกับตาคนติดอ่างคนนั้น แต่มากขึ้นเรื่องหนึ่งไม่สู้น้อยลงเรื่องหนึ่ง และเดิมทีมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธออยู่แล้ว
“ไม่เคยเห็น?”
หญิงสาวมองประเมินหลินเยียนอย่างเย็นชา คิดจะค้นหาเบาะแสจากภายในดวงตาหลินเยียน แต่ภายในดวงตาหลินเยียนนั้นสงบนิ่งดั่งบ่อน้ำลึก
ไม่นานนักหญิงสาวก็หมุนตัว ไม่สนทนากับหลินเยียนอีกต่อไป
“หัวหน้าคะ น่าจะไม่อยู่ค่ะ” หญิงสาวพูดกับชายที่เป็นหัวหน้า
“เหอะ น่าสนุก”
ชายหนุ่มไม่คิดที่จะจากไป ถึงกระนั้นตาทั้งสองข้างกลับไม่ละออกจากร่างหลินเยียน มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ก่อเป็นรอยยิ้มเย็นชา