ในตอนเช้า จากชั้นบนสามารถเห็นบรรยากาศอันครึกครื้นของเหล่าสมาชิกได้ ผู้คนเดินกันไปมาราวกับช่วงเทศกาลตรุษจีน
ห้องของกู้ซีฉือและเจียงตงเยี่ยล้วนอยู่ชั้นบน ถัดจากห้องฉินหร่าน
ในปราสาทขนาดใหญ่ ทางเดินบนชั้นสองยาวกว่ายี่สิบเมตร มีทั้งหมดเจ็ดห้อง นอกจากสองคนนี้แล้วยังมีอีกสามห้อง มีพื้นที่เหลือเฟือ
ช่วงเวลาเจ็ดโมงเช้า เฉิงมู่ไปเคาะประตูห้องฉินหร่าน เพื่อมายกกระถางดอกไม้จากห้องของเธอ
ในขณะที่เดินไปจนสุดโถงทางเดิน ก็เห็น เจียงตงเยี่ยและกู้ซีฉือสองคนที่อยู่ด้านนนอกหน้าต่างเข้าพอดี
นายน้อยเจียง คุณชายกู้ เฉิงมู่ทักทายทั้งสองคนอย่างสุภาพ
ฉินหร่านเดินออกจากประตูมาพอดี มือข้างหนึ่งของเธอกุมเสื้อนวม อีกข้างถือกระถางดอกไม้ มองไปยังเฉิงมู่ แล้วยื่นกระถางดอกไม้ให้กับเขา
กู้ซีฉือหันกลับมาตามเดิม นานมากแล้วที่ไม่ได้สัมผัสกับบรรยากาศครึกครื้นเช่นนี้ เขารู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย เสี่ยวหร่าน รุ่นพี่ คนพวกนี้กำลังทำอะไรกันอยู่ วันนี้มีงานอะไรหรอ
การทดสอบ ฉินหร่านดึงประตูห้องปิดตอนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อย คล้ายๆ กับการสอบปลายภาค
เฉิงมู่ชิงเดินเข้าไปในสวนดอกไม้ก่อน
ทั้งสามคนเดินลงไปชั้นหนึ่งเพื่อรับประทานอาหารอย่างใจเย็น
ลงมาที่ด้านล่างสุดของบันไดชั้นหนึ่ง ก็เจอกับเฉิงเจวี้ยนและเฉิงสุ่ยที่เดินลงมาจากห้องหนังสือชั้นสาม
ในมือของเฉิงสุ่ยยังหอบเอกสารกองใหญ่หอบหนึ่ง คงเป็นเอกสารที่ใช้ในการทดสอบวันนี้
รุ่นพี่ การทดสอบของพวกคุณนี่เป็นยังไงกัน กู้ซีฉือนั่งอยู่บนเก้าอี้ ยื่นมือไปคว้าขนมปังอบมาหนึ่งชิ้น ยกนมขึ้นดื่ม จากนั้นก็ถามขึ้นอย่างสนใจ
เฉิงเจวี้ยนไม่ได้ดื่มนม เขาวางกาแฟแก้วหนึ่งไว้ข้างมือ กำลังจะพูดกับฉินหร่าน แต่ได้ยินกู้ซีฉือถามเขา เขาตอบกลับอย่างเฉื่อยชา ไปดูเองเดี๋ยวก็รู้
กู้ซีฉือ …
เฉิงสุ่ยวางตะเกียบในมือลง แล้วอธิบายให้กู้ซีฉือฟังรอบหนึ่ง
กู้ซีฉือจึงได้เข้าใจขึ้นบ้าง
ฉินหร่านคาบหลอดดูดไว้ เธอกินน้อยในตอนเช้า หลังจากได้ยินลำดับการอธิบายของเฉิงสุ่ย ก็มองไปยังเฉิงเจวี้ยน ต้องใช้เวลาสี่วันเลย
เป็นระยะเวลาที่เนิ่นนาน
เฉิงเจวี้ยนทานอาหารจนพออิ่ม เขาจิบกาแฟขึ้นอย่างไม่รีบร้อน พลางอธิบายกับฉินหร่าน เพราะว่ามีคนเยอะ หัวหน้าของแต่ละทีมรวมทั้งสมาชิกทั่วไป รวมทั้งหมดสี่ร้อยกว่าคน ต้องทำการทดสอบตัวต่อตัว สุดท้ายยังมีการแยกทดสอบแต่ละหน่วยอีก การทดสอบคอมพิวเตอร์ของหน่วยข่าวกรองก็เป็นอีกรายการ
กู้ซีฉือที่กำลังฟังคำอธิบายอีกด้านหนึ่ง …
นี่เป็นการต้อนรับที่แตกต่างกันราวฟ้าเหว
**
เฉิงหั่วสองวันมานี้ยุ่งอยู่กับชุดรหัสโค้ด ทั้งการกินการนอนล้วนอยู่แต่ในหน่วยข่าวกรอง ไม่ยอมกลับเหมือนกับอีกหลายๆ คน
สองสามวันมานี้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นอย่างก้าวกระโดด
สองสามวันมานี้คนที่หน่วยข่าวกรองล้วนกำลังฝึกฝนอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ที่ลานฝึก มีเพียงเหล่าผู้คนที่หลงใหลในรหัสโค้ดจมปลักอยู่กับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในหน่วยข่าวกรอง
แต่ถ้าว่าผลออกมาก็นับว่าโดดเด่น เฉิงหั่วได้เตรียมระบบจัดการใหม่อีกขั้นหนึ่งเรียบร้อย เปลี่ยนโฉมระบบของโปรแกรมไปทั้งหมด
การทดสอบในวันนี้ เป็นงานใหญ่ที่จัดขึ้นปีละหนึ่งครั้ง เฉิงหั่วตั้งใจอย่างมาก เขากวาดตามองข้อมูลทั้งหมดปราดหนึ่ง หน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงตำแหน่งของถังชิงยังคงมืดสนิท
สองวันนี้เธอไม่ได้มาเลยหรอ เฉิงหั่วเม้มปาก ขมวดคิ้วมุ่น สีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
เจอร์รี่ที่อยู่ด้านข้างลุกขึ้นยืน เวลาครึ่งเดือน อาการบาดเจ็บของเขาก็ฟื้นฟูขึ้นมาพอควร คุณถังบอกว่าอยากจะตั้งใจเตรียมตัวสำหรับการทดสอบ
อืม เฉิงหั่วพยักหน้า หนึ่งเดือนแล้ว เขาจะจัดการกับข้อเสียบนตัวของถังชิง ย้ายที่ของเธอออกไปก่อน สี่วันหลังจากนี้หากเธอผ่านการทดสอบค่อยจัดใหม่
เมื่อเขาพูดจบ ก็หยิบขนมปังชิ้นหนึ่งออกมา แล้วกินพลางเดินไปยังลานฝึก
เขาเป็นหัวหน้าของหน่วยข่าวกรองที่แยกออกมา การทดสอบของหน่วยข่าวกรองเขาต้องรับผิดชอบร่วมกับเฉิงสุ่ย
**
ลานฝึกที่ใหญ่โตถูกเปลี่ยนสภาพไปจนไม่เหลือเค้าเดิม
ภายในถูกตกแต่งประดับประดา มีเวทีมวยและแท่นวัดพลังหมัดอยู่สองสามแห่ง
เมื่อเข้าสู่ด้านในก็รับรู้ได้ถึงความครึกครื้นอย่างมาก
อาจเป็นเพราะอยู่ต่างประเทศ เมื่อโคมแดงถูกแขวนขึ้นเรียงเป็นแนวบนเวทีมวย ทุกคนต่างรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นขึ้นมาอย่างที่ไม่มีอะไรเทียบได้
การทดสอบของในแต่ละปีจะถือว่าเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ของที่นี่
และในปีนี้มีเฉิงสุ่ยเข้าร่วม ยิ่งทำให้ผู้คนทั้งหมดรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น
ตรงกลางมีเวทีมวยที่สูงและกว้างถึงหนึ่งตารางเมตรแท่นหนึ่ง บนเวทีมวยมีเก้าอี้สูงวางเรียงอยู่สองแถว บนที่นั่งยังมีพรมขนนุ่มปุกปุยวางอยู่ และด้านข้างก็ยังมีโต๊ะไม้เล็กๆ จัดวางไว้
นี่คือเก้าอี้ของหัวหน้าหน่วยแต่ละหน่วยรวมไปถึงเฉิงสุ่ย และยังเพิ่มที่นั่งให้กับฉินหร่านและกู้ซีฉือด้วย
ห่างจากเวทีมวยประมาณหนึ่งเมตรมีแถบกั้นเตือนคาดไว้อยู่แถบหนึ่ง
รอบด้านมีเก้าอี้วางเรียงอยู่เป็นแถวๆ ทั้งเล็กและใหญ่กว่าห้าร้อยที่นั่ง นอกจากหน่วยทั้งสี่แล้ว แม้แต่เหล่าพ่อบ้านในคฤหาสน์ก็เข้ามาร่วมชมด้วย
บนสุดยังมีเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ขนาดมหึมาเครื่องหนึ่ง ขนาดเครื่อง ใหญ่พอๆ กับกำแพงฟากหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับฉายตัวเลขพลังหมัดของผู้เข้าร่วมทดสอบแต่ละคนและภาพการทดสอบ
คนที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ส่วนใหญ่ล้วนแต่มีสัมผัสอันว่องไว สายตาก็มองได้กว้างไกล ดังนั้นเครื่องฉายโปรเจคเตอร์เครื่องนี้จึงเตรียมไว้สำหรับเหล่าคนใช้ทั้งหลาย
แปดโมง การทดสอบเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
ผู้คนทั้งหมดต่างเข้านั่งประจำที่ เฉิงเจวี้ยนนั่งอยู่ที่ตำแหน่งโต๊ะตัวแรกนับจากทางซ้าย ข้างๆ เขาเป็นฉินหร่านและกู้ซีฉือรวมไปถึงคนอื่นนั่งถัดออกมาทางด้านขวาของเขา
กู้ซีฉือยื่นมือไปเคาะโต๊ะไม้ที่อยู่ด้านข้าง เขาตะแคงศีรษะไปหาฉินหร่านที่อยู่ด้านซ้านมือตัวเอง แล้วกดเสียงต่ำพูดขึ้นว่า ตัวนี้มีค่าสูงทีเดียว
ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าอะไรที่เรียกว่า รวยล้นฟ้า แต่ใช้เงินไม่คุ้มค่า
ในสนามประลองเสียงดังจอแจ กู้ซีฉือมองสำรวจไปรอบหนึ่ง แต่ฉินหร่านไม่ได้รู้สึกกระวนกระวาย มีเพียงคิ้วที่ยังคงดูเหมือนขมวดนิ่วอยู่เล็กน้อยเช่นเดิม
กู้ซีฉือท่าทีดูประหลาดใจอยู่เล็กน้อย
มีค่าหรอ ฉินหร่านที่อยู่ด้านข้างใส่หูฟัง มองไปยังที่โต๊ะปราดหนึ่ง แต่ก็ไม่เห็นว่าพิเศษอะไร
ก็แค่โต๊ะไม้ที่แสนจะธรรมดา
กู้ซีฉือละสายตากลับ แล้วมองไปที่เฉิงสุ่ย เฉิงสุ่ยก้มหน้าคุยกับหัวหน้าหน่วยสองสามคนอยู่
กู้ซีฉือทำท่าครุ่นคิด
**
พวกกู้ซีฉือกำลังถกเถียงกัน
คนที่อยู่บนเวทีเองก็กำลังถกเถียงกัน
เห็นไหม คนที่นั่งอยู่ข้างนายท่านก็คือคุณฉิน
เธอคือคุณฉิน…
ฉินหร่านมีชื่อเสียงอย่างมากในคฤหาสน์น้ ถึงแม้ว่าเฉิงสุ่ยจะได้ส่งรูปของเธอให้ทุกคนได้ดู เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครเข้าไปปะทะกับเธอ แต่คนส่วนใหญ่ก็เพียงแต่ได้ยินแค่ชื่อเสียงของฉินหร่าน น้อยคนมากที่จะได้เห็นตัวจริง
ตอนนี้คนจำนวนมากได้เห็นเธอตัวจริงเป็นครั้งแรก ผู้คนที่ถกเถียงเรื่องของเธอมากพอๆ กับที่พูดถึงเฉิงเจวี้ยน
เฉิงสุ่ยแต่งตัวในชุดสูทอย่างเป็นทางการ ในฐานะผู้ดูแล พิธีเปิดย่อมเป็นหน้าที่ของเขา กฎเกณฑ์ของปีนี้เหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา เริ่มจากผู้เข้าร่วมใหม่ทดสอบก่อน แล้วค่อยเป็นการท้าแข่ง
ขอบด้านของเวทีมวยเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องดังระงม
กิจการของเฉิงเจวี้ยนนับวันยิ่งเติบโต ผู้ท้าชิงที่จะเข้าร่วมใหม่เป็นสมาชิกในปีนี้เพิ่มไปถึงสามสิบคน มีคนมาจากทุกหน่วย
บนมือของเฉิงสุ่ยมีรายชื่อฉบับหนึ่ง
รายชื่อของผู้ร่วมใหม่บนรายการจะเรียงลำดับจากความสามารถโดยรวมลงไปตามลำดับ
ลำดับที่หนึ่งก็คือถังชิงผู้ซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมการทดสอบในช่วงเริ่มต้น
ผู้เข้าร่วมทดสอบหมายเลขหนึ่ง ถังชิง จากหน่วยข่าวกรอง เฉิงสุ่ยรวบเก็บรายชื่อ แล้วมองไปยังเก้าอี้ที่นั่งของหน่วยข่าวกรอง
หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ ถังชิงมีชื่อเสียงอย่างมากที่นี่ เมื่อได้ยินชื่อของเธอ ผู้คนก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ
เป็นเธอหรอ ศิษย์รุ่นน้องของคุณเฉิงหั่วคนนั้น เธอเองก็ต้องเข้าทดสอบด้วยหรอเนี่ย
การทดสอบสำหรับเธอคงง่ายมากสินะ
เธอนั่งอยู่ในที่นั่งแถวแรกข้างเจอร์รี่ ได้ยินถึงเสียงที่ถกเถียงกันเกี่ยวกับตัวเอง ในใจก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมา
ถังชิงลุกขึ้นยืน สันกรามที่เด่นชัดค่อยๆ ขยับ เดินตรงไปจากบันไดเล็กๆอีกด้านหนึ่งขึ้นไปด้านข้างของเวทีมวย
ลอนผมสีทองของเธอถูกมัดขึ้น
เธอเดินขึ้นไปกลางเวทีประลอง สัมผัสได้ถึงสายตาจากด้านล่างของเวทีที่จดจ้องอยู่บนตัวเธอ
คุณเฉิงสุ่ย เธอยิ้ม แล้วโค้งคำนับไปยังเฉิงสุ่ย
สายตาชำเลืองไปมองคนที่นั่งอยู่ด้านข้างทั้งสองของเวที เฉิงเจวี้ยนกำลังมองฉินหร่านที่กำลังเล่นเกม กู้ซีฉือกำลังพูดคุยอยู่กับเจียงตงเยี่ย มีเพียงหัวหน้าหน่วยสามคนที่มองมายังตน
ถังชิงกำหมัดแน่น สีหน้ายังคงเยือกเย็น แต่ในใจกลับยิ้มเยาะ
เฉิงสุ่ยก้าวถอยหนึ่งก้าว จากนั้นก็เลื่อนสายตาขึ้นไปมองยังจอขนาดขนาดใหญ่ด้านหลังเวที ในขณะเดียวกันนั้นเอง บนจอก็ปรากฏชื่อทั้งหมดสี่ร้อยยี่สิบเอ็ดคน
ถังชิง บนนี้คือคนที่เข้าร่วมการทดสอบทั้งหมดในวันนี้ เธอต้องมาหนึ่งคน เพื่อมาเป็นผู้ท้าชิงในวันนี้ของเธอ ขอให้ตั้งใจหน่อยนะ เฉิงสุ่ยชี้ไปยังหน้าจอ แล้วเอ่ยปากพูดขึ้น
หน้าจอขนาดใหญ่พอให้รายชื่อตั้งแต่อันดับที่หนึ่งจนถึงสุดท้ายถูกฉายให้เห็น
เฉิงสุ่ย
หัวหน้าตู้
เฉิงหั่ว
…
ถังชิงค่อยๆ มองไปทีละชื่อ มาอยู่ที่คฤหาสน์นี้นานถึงเพียงนี้ เธอรู้ว่าพลังหมัดสูงถึง 910 ก่อนหน้านี้เป็นพลังของเฉิงสุ่ย
หัวหน้าตู้เป็นรายชื่อถัดจากเฉิงสุ่ย
ความสามารถของเฉิงหั่วนั้นถังชิงรู้ดี เป็นถึงหัวหน้าหน่วยข่าวกรองได้ ความสามารถย่อมไม่ด้อยแน่นอน
ถังชิงพอมองออกว่ารายชื่อนี้น่าจะเรียงจากลำดับจากความสามารถ
เดิมทีคิดว่าฉินหร่านได้รับการเคารพถึงเพียงนี้ ในหนึ่งรายชื่อแรกน่าจะมีชื่อของฉินหร่าน แต่ถ้าว่าเธอมองอยู่นาน ในสองร้อยรายชื่อแรกก็ไม่ได้ปรากฏชื่อของฉินหร่าน
ผ่านไปสองนาที เฉิงสุ่ยก็อดที่จะถามไม่ได้ว่า ถังชิง เธอเลือกคู่แข่งได้หรือยัง บอกลำดับเลขก็พอ
ในขณะที่ถังชิงคิดว่าคงไม่มีรายชื่อของฉินหร่านอยู่บนนั้น ในที่สุดเธอก็เจอชื่อของฉินหร่าน
หมายเลข421. ฉินหร่าน
เห็นเช่นนั้นแล้ว ถังชิงก็ยิ้มขึ้นมาทันที