เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ – ตอนที่ 240 งานแข่งทดสอบ! การจัดลำดับความสามารถ!

ตอนที่ 240 งานแข่งทดสอบ! การจัดลำดับความสามารถ!

ในตอนเช้า จากชั้นบนสามารถเห็นบรรยากาศอันครึกครื้นของเหล่าสมาชิกได้ ผู้คนเดินกันไปมาราวกับช่วงเทศกาลตรุษจีน

ห้องของกู้ซีฉือและเจียงตงเยี่ยล้วนอยู่ชั้นบน ถัดจากห้องฉินหร่าน

ในปราสาทขนาดใหญ่ ทางเดินบนชั้นสองยาวกว่ายี่สิบเมตร มีทั้งหมดเจ็ดห้อง นอกจากสองคนนี้แล้วยังมีอีกสามห้อง มีพื้นที่เหลือเฟือ

ช่วงเวลาเจ็ดโมงเช้า เฉิงมู่ไปเคาะประตูห้องฉินหร่าน เพื่อมายกกระถางดอกไม้จากห้องของเธอ

ในขณะที่เดินไปจนสุดโถงทางเดิน ก็เห็น เจียงตงเยี่ยและกู้ซีฉือสองคนที่อยู่ด้านนนอกหน้าต่างเข้าพอดี

 นายน้อยเจียง คุณชายกู้  เฉิงมู่ทักทายทั้งสองคนอย่างสุภาพ

ฉินหร่านเดินออกจากประตูมาพอดี มือข้างหนึ่งของเธอกุมเสื้อนวม อีกข้างถือกระถางดอกไม้ มองไปยังเฉิงมู่ แล้วยื่นกระถางดอกไม้ให้กับเขา

กู้ซีฉือหันกลับมาตามเดิม นานมากแล้วที่ไม่ได้สัมผัสกับบรรยากาศครึกครื้นเช่นนี้ เขารู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย  เสี่ยวหร่าน รุ่นพี่ คนพวกนี้กำลังทำอะไรกันอยู่ วันนี้มีงานอะไรหรอ 

 การทดสอบ  ฉินหร่านดึงประตูห้องปิดตอนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อย  คล้ายๆ กับการสอบปลายภาค 

เฉิงมู่ชิงเดินเข้าไปในสวนดอกไม้ก่อน

ทั้งสามคนเดินลงไปชั้นหนึ่งเพื่อรับประทานอาหารอย่างใจเย็น

ลงมาที่ด้านล่างสุดของบันไดชั้นหนึ่ง ก็เจอกับเฉิงเจวี้ยนและเฉิงสุ่ยที่เดินลงมาจากห้องหนังสือชั้นสาม

ในมือของเฉิงสุ่ยยังหอบเอกสารกองใหญ่หอบหนึ่ง คงเป็นเอกสารที่ใช้ในการทดสอบวันนี้

 รุ่นพี่ การทดสอบของพวกคุณนี่เป็นยังไงกัน  กู้ซีฉือนั่งอยู่บนเก้าอี้ ยื่นมือไปคว้าขนมปังอบมาหนึ่งชิ้น ยกนมขึ้นดื่ม จากนั้นก็ถามขึ้นอย่างสนใจ

เฉิงเจวี้ยนไม่ได้ดื่มนม เขาวางกาแฟแก้วหนึ่งไว้ข้างมือ กำลังจะพูดกับฉินหร่าน แต่ได้ยินกู้ซีฉือถามเขา เขาตอบกลับอย่างเฉื่อยชา  ไปดูเองเดี๋ยวก็รู้ 

กู้ซีฉือ  … 

เฉิงสุ่ยวางตะเกียบในมือลง แล้วอธิบายให้กู้ซีฉือฟังรอบหนึ่ง

กู้ซีฉือจึงได้เข้าใจขึ้นบ้าง

ฉินหร่านคาบหลอดดูดไว้ เธอกินน้อยในตอนเช้า หลังจากได้ยินลำดับการอธิบายของเฉิงสุ่ย ก็มองไปยังเฉิงเจวี้ยน  ต้องใช้เวลาสี่วันเลย 

เป็นระยะเวลาที่เนิ่นนาน

เฉิงเจวี้ยนทานอาหารจนพออิ่ม เขาจิบกาแฟขึ้นอย่างไม่รีบร้อน พลางอธิบายกับฉินหร่าน  เพราะว่ามีคนเยอะ หัวหน้าของแต่ละทีมรวมทั้งสมาชิกทั่วไป รวมทั้งหมดสี่ร้อยกว่าคน ต้องทำการทดสอบตัวต่อตัว สุดท้ายยังมีการแยกทดสอบแต่ละหน่วยอีก การทดสอบคอมพิวเตอร์ของหน่วยข่าวกรองก็เป็นอีกรายการ 

กู้ซีฉือที่กำลังฟังคำอธิบายอีกด้านหนึ่ง  … 

นี่เป็นการต้อนรับที่แตกต่างกันราวฟ้าเหว

**

เฉิงหั่วสองวันมานี้ยุ่งอยู่กับชุดรหัสโค้ด ทั้งการกินการนอนล้วนอยู่แต่ในหน่วยข่าวกรอง ไม่ยอมกลับเหมือนกับอีกหลายๆ คน

สองสามวันมานี้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นอย่างก้าวกระโดด

สองสามวันมานี้คนที่หน่วยข่าวกรองล้วนกำลังฝึกฝนอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ที่ลานฝึก มีเพียงเหล่าผู้คนที่หลงใหลในรหัสโค้ดจมปลักอยู่กับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในหน่วยข่าวกรอง

แต่ถ้าว่าผลออกมาก็นับว่าโดดเด่น เฉิงหั่วได้เตรียมระบบจัดการใหม่อีกขั้นหนึ่งเรียบร้อย เปลี่ยนโฉมระบบของโปรแกรมไปทั้งหมด

การทดสอบในวันนี้ เป็นงานใหญ่ที่จัดขึ้นปีละหนึ่งครั้ง เฉิงหั่วตั้งใจอย่างมาก เขากวาดตามองข้อมูลทั้งหมดปราดหนึ่ง หน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงตำแหน่งของถังชิงยังคงมืดสนิท

 สองวันนี้เธอไม่ได้มาเลยหรอ  เฉิงหั่วเม้มปาก ขมวดคิ้วมุ่น สีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

เจอร์รี่ที่อยู่ด้านข้างลุกขึ้นยืน เวลาครึ่งเดือน อาการบาดเจ็บของเขาก็ฟื้นฟูขึ้นมาพอควร  คุณถังบอกว่าอยากจะตั้งใจเตรียมตัวสำหรับการทดสอบ 

 อืม  เฉิงหั่วพยักหน้า หนึ่งเดือนแล้ว เขาจะจัดการกับข้อเสียบนตัวของถังชิง  ย้ายที่ของเธอออกไปก่อน สี่วันหลังจากนี้หากเธอผ่านการทดสอบค่อยจัดใหม่ 

เมื่อเขาพูดจบ ก็หยิบขนมปังชิ้นหนึ่งออกมา แล้วกินพลางเดินไปยังลานฝึก

เขาเป็นหัวหน้าของหน่วยข่าวกรองที่แยกออกมา การทดสอบของหน่วยข่าวกรองเขาต้องรับผิดชอบร่วมกับเฉิงสุ่ย

**

ลานฝึกที่ใหญ่โตถูกเปลี่ยนสภาพไปจนไม่เหลือเค้าเดิม

ภายในถูกตกแต่งประดับประดา มีเวทีมวยและแท่นวัดพลังหมัดอยู่สองสามแห่ง

เมื่อเข้าสู่ด้านในก็รับรู้ได้ถึงความครึกครื้นอย่างมาก

อาจเป็นเพราะอยู่ต่างประเทศ เมื่อโคมแดงถูกแขวนขึ้นเรียงเป็นแนวบนเวทีมวย ทุกคนต่างรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นขึ้นมาอย่างที่ไม่มีอะไรเทียบได้

การทดสอบของในแต่ละปีจะถือว่าเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ของที่นี่

และในปีนี้มีเฉิงสุ่ยเข้าร่วม ยิ่งทำให้ผู้คนทั้งหมดรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น

ตรงกลางมีเวทีมวยที่สูงและกว้างถึงหนึ่งตารางเมตรแท่นหนึ่ง บนเวทีมวยมีเก้าอี้สูงวางเรียงอยู่สองแถว บนที่นั่งยังมีพรมขนนุ่มปุกปุยวางอยู่ และด้านข้างก็ยังมีโต๊ะไม้เล็กๆ จัดวางไว้

นี่คือเก้าอี้ของหัวหน้าหน่วยแต่ละหน่วยรวมไปถึงเฉิงสุ่ย และยังเพิ่มที่นั่งให้กับฉินหร่านและกู้ซีฉือด้วย

ห่างจากเวทีมวยประมาณหนึ่งเมตรมีแถบกั้นเตือนคาดไว้อยู่แถบหนึ่ง

รอบด้านมีเก้าอี้วางเรียงอยู่เป็นแถวๆ ทั้งเล็กและใหญ่กว่าห้าร้อยที่นั่ง นอกจากหน่วยทั้งสี่แล้ว แม้แต่เหล่าพ่อบ้านในคฤหาสน์ก็เข้ามาร่วมชมด้วย

บนสุดยังมีเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ขนาดมหึมาเครื่องหนึ่ง ขนาดเครื่อง ใหญ่พอๆ กับกำแพงฟากหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับฉายตัวเลขพลังหมัดของผู้เข้าร่วมทดสอบแต่ละคนและภาพการทดสอบ

คนที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ส่วนใหญ่ล้วนแต่มีสัมผัสอันว่องไว สายตาก็มองได้กว้างไกล ดังนั้นเครื่องฉายโปรเจคเตอร์เครื่องนี้จึงเตรียมไว้สำหรับเหล่าคนใช้ทั้งหลาย

แปดโมง การทดสอบเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

ผู้คนทั้งหมดต่างเข้านั่งประจำที่ เฉิงเจวี้ยนนั่งอยู่ที่ตำแหน่งโต๊ะตัวแรกนับจากทางซ้าย ข้างๆ เขาเป็นฉินหร่านและกู้ซีฉือรวมไปถึงคนอื่นนั่งถัดออกมาทางด้านขวาของเขา

กู้ซีฉือยื่นมือไปเคาะโต๊ะไม้ที่อยู่ด้านข้าง เขาตะแคงศีรษะไปหาฉินหร่านที่อยู่ด้านซ้านมือตัวเอง แล้วกดเสียงต่ำพูดขึ้นว่า  ตัวนี้มีค่าสูงทีเดียว 

ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าอะไรที่เรียกว่า  รวยล้นฟ้า แต่ใช้เงินไม่คุ้มค่า 

ในสนามประลองเสียงดังจอแจ กู้ซีฉือมองสำรวจไปรอบหนึ่ง แต่ฉินหร่านไม่ได้รู้สึกกระวนกระวาย มีเพียงคิ้วที่ยังคงดูเหมือนขมวดนิ่วอยู่เล็กน้อยเช่นเดิม

กู้ซีฉือท่าทีดูประหลาดใจอยู่เล็กน้อย

 มีค่าหรอ  ฉินหร่านที่อยู่ด้านข้างใส่หูฟัง มองไปยังที่โต๊ะปราดหนึ่ง แต่ก็ไม่เห็นว่าพิเศษอะไร

ก็แค่โต๊ะไม้ที่แสนจะธรรมดา

กู้ซีฉือละสายตากลับ แล้วมองไปที่เฉิงสุ่ย เฉิงสุ่ยก้มหน้าคุยกับหัวหน้าหน่วยสองสามคนอยู่

กู้ซีฉือทำท่าครุ่นคิด

**

พวกกู้ซีฉือกำลังถกเถียงกัน

คนที่อยู่บนเวทีเองก็กำลังถกเถียงกัน

 เห็นไหม คนที่นั่งอยู่ข้างนายท่านก็คือคุณฉิน 

 เธอคือคุณฉิน… 

ฉินหร่านมีชื่อเสียงอย่างมากในคฤหาสน์น้ ถึงแม้ว่าเฉิงสุ่ยจะได้ส่งรูปของเธอให้ทุกคนได้ดู เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครเข้าไปปะทะกับเธอ แต่คนส่วนใหญ่ก็เพียงแต่ได้ยินแค่ชื่อเสียงของฉินหร่าน น้อยคนมากที่จะได้เห็นตัวจริง

ตอนนี้คนจำนวนมากได้เห็นเธอตัวจริงเป็นครั้งแรก ผู้คนที่ถกเถียงเรื่องของเธอมากพอๆ กับที่พูดถึงเฉิงเจวี้ยน

เฉิงสุ่ยแต่งตัวในชุดสูทอย่างเป็นทางการ ในฐานะผู้ดูแล พิธีเปิดย่อมเป็นหน้าที่ของเขา  กฎเกณฑ์ของปีนี้เหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา เริ่มจากผู้เข้าร่วมใหม่ทดสอบก่อน แล้วค่อยเป็นการท้าแข่ง 

ขอบด้านของเวทีมวยเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องดังระงม

กิจการของเฉิงเจวี้ยนนับวันยิ่งเติบโต ผู้ท้าชิงที่จะเข้าร่วมใหม่เป็นสมาชิกในปีนี้เพิ่มไปถึงสามสิบคน มีคนมาจากทุกหน่วย

บนมือของเฉิงสุ่ยมีรายชื่อฉบับหนึ่ง

รายชื่อของผู้ร่วมใหม่บนรายการจะเรียงลำดับจากความสามารถโดยรวมลงไปตามลำดับ

ลำดับที่หนึ่งก็คือถังชิงผู้ซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมการทดสอบในช่วงเริ่มต้น

 ผู้เข้าร่วมทดสอบหมายเลขหนึ่ง ถังชิง จากหน่วยข่าวกรอง  เฉิงสุ่ยรวบเก็บรายชื่อ แล้วมองไปยังเก้าอี้ที่นั่งของหน่วยข่าวกรอง

หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ ถังชิงมีชื่อเสียงอย่างมากที่นี่ เมื่อได้ยินชื่อของเธอ ผู้คนก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ

 เป็นเธอหรอ ศิษย์รุ่นน้องของคุณเฉิงหั่วคนนั้น เธอเองก็ต้องเข้าทดสอบด้วยหรอเนี่ย 

 การทดสอบสำหรับเธอคงง่ายมากสินะ 

เธอนั่งอยู่ในที่นั่งแถวแรกข้างเจอร์รี่ ได้ยินถึงเสียงที่ถกเถียงกันเกี่ยวกับตัวเอง ในใจก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมา

ถังชิงลุกขึ้นยืน สันกรามที่เด่นชัดค่อยๆ ขยับ เดินตรงไปจากบันไดเล็กๆอีกด้านหนึ่งขึ้นไปด้านข้างของเวทีมวย

ลอนผมสีทองของเธอถูกมัดขึ้น

เธอเดินขึ้นไปกลางเวทีประลอง สัมผัสได้ถึงสายตาจากด้านล่างของเวทีที่จดจ้องอยู่บนตัวเธอ

 คุณเฉิงสุ่ย  เธอยิ้ม แล้วโค้งคำนับไปยังเฉิงสุ่ย

สายตาชำเลืองไปมองคนที่นั่งอยู่ด้านข้างทั้งสองของเวที เฉิงเจวี้ยนกำลังมองฉินหร่านที่กำลังเล่นเกม กู้ซีฉือกำลังพูดคุยอยู่กับเจียงตงเยี่ย มีเพียงหัวหน้าหน่วยสามคนที่มองมายังตน

ถังชิงกำหมัดแน่น สีหน้ายังคงเยือกเย็น แต่ในใจกลับยิ้มเยาะ

เฉิงสุ่ยก้าวถอยหนึ่งก้าว จากนั้นก็เลื่อนสายตาขึ้นไปมองยังจอขนาดขนาดใหญ่ด้านหลังเวที ในขณะเดียวกันนั้นเอง บนจอก็ปรากฏชื่อทั้งหมดสี่ร้อยยี่สิบเอ็ดคน

 ถังชิง บนนี้คือคนที่เข้าร่วมการทดสอบทั้งหมดในวันนี้ เธอต้องมาหนึ่งคน เพื่อมาเป็นผู้ท้าชิงในวันนี้ของเธอ ขอให้ตั้งใจหน่อยนะ  เฉิงสุ่ยชี้ไปยังหน้าจอ แล้วเอ่ยปากพูดขึ้น

หน้าจอขนาดใหญ่พอให้รายชื่อตั้งแต่อันดับที่หนึ่งจนถึงสุดท้ายถูกฉายให้เห็น

เฉิงสุ่ย

หัวหน้าตู้

เฉิงหั่ว

ถังชิงค่อยๆ มองไปทีละชื่อ มาอยู่ที่คฤหาสน์นี้นานถึงเพียงนี้ เธอรู้ว่าพลังหมัดสูงถึง 910 ก่อนหน้านี้เป็นพลังของเฉิงสุ่ย

หัวหน้าตู้เป็นรายชื่อถัดจากเฉิงสุ่ย

ความสามารถของเฉิงหั่วนั้นถังชิงรู้ดี เป็นถึงหัวหน้าหน่วยข่าวกรองได้ ความสามารถย่อมไม่ด้อยแน่นอน

ถังชิงพอมองออกว่ารายชื่อนี้น่าจะเรียงจากลำดับจากความสามารถ

เดิมทีคิดว่าฉินหร่านได้รับการเคารพถึงเพียงนี้ ในหนึ่งรายชื่อแรกน่าจะมีชื่อของฉินหร่าน แต่ถ้าว่าเธอมองอยู่นาน ในสองร้อยรายชื่อแรกก็ไม่ได้ปรากฏชื่อของฉินหร่าน

ผ่านไปสองนาที เฉิงสุ่ยก็อดที่จะถามไม่ได้ว่า  ถังชิง เธอเลือกคู่แข่งได้หรือยัง บอกลำดับเลขก็พอ 

ในขณะที่ถังชิงคิดว่าคงไม่มีรายชื่อของฉินหร่านอยู่บนนั้น ในที่สุดเธอก็เจอชื่อของฉินหร่าน

หมายเลข421. ฉินหร่าน

เห็นเช่นนั้นแล้ว ถังชิงก็ยิ้มขึ้นมาทันที

 

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

Status: Ongoing

ด้วยว่าพ่อแม่หย่าร้างกันตั้งแต่ยังเล็ก และ ฉินหร่าน ไม่ใช่เด็กประพฤติดี นอกจากจะไม่ตั้งใจเรียนจนผลการเรียนย่ำแย่แล้ว เธอยังหัวรั้นและก่อเรื่องทะเลาะวิวาทจนโดนพักการเรียนไปเป็นปี แตกต่างจาก ฉินอวี่ น้องสาวที่เป็นนักเรียนดีเด่นผู้แสนเพียบพร้อมราวฟ้ากับเหว ด้วยเหตุนี้แม่ของเธอจึงเลือกพาน้องสาวไปอยู่ด้วยเพียงคนเดียวและทิ้งฉินหร่านเอาไว้ท่ามกลางชนบท ปล่อยให้เธอเติบโตเพียงลำพังในความดูแลของคุณยายวัยชรา

สองยายหลานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาสิบสองปี จนกระทั่งวันหนึ่งคุณยายเกิดป่วยหนักอาการโคม่าต้องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในเมือง ครอบครัวฉินจึงได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง เมื่อคุณยายไม่สามารถดูแลฉินหร่านด้วยตัวเองได้ต่อไปได้อีก แม่ของเธอจึงอาสารับเลี้ยงเธอไว้แทน กระนั้นก็ยังไม่วายเหน็บแนมหญิงสาวอยู่ตลอดว่าอย่าทำตัวน่าขายหน้า ให้เอาอย่างฉินอวี่ผู้เป็นน้องบ้าง

กระนั้นกลับไม่มีใครล่วงรู้เลยว่านอกจากฉินหร่านจะมีใบหน้างดงามเกินเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกันแล้ว เธอยังมีอีกหนึ่งตัวตนปริศนาที่ซุกซ่อนเอาไว้อยู่ เพราะใครกันล่ะที่ทำข้อสอบกากบาททุกข้อแล้วผลคะแนนสอบจะออกมาได้เท่ากับศูนย์ในทุกๆ วิชา เธอโง่จริงๆ หรือว่าตั้งใจกันแน่…

เช่นเดียวกับ เฉิงเจวี้ยน หมอหนุ่มประจำโรงเรียนที่แสนธรรมดาคนนั้น ทว่า…เขาเป็นแค่หมอประจำโรงเรียนจริงหรือ เมื่อโชคชะตานำพาให้คนสองคนที่ปกปิดตัวตนของตัวเองเอาไว้ได้มาพบกัน หน้ากากของใครจะถูกกระชากออกมาก่อนนะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท