ตอนที่ 213 เตรียมตัว
หลังจากที่เสิ่นจิ้งเฉินกลับไปก่อนแล้ว ซย่าเสี่ยวมั่วอยู่บ้านคุณตาอีกหนึ่งวันแล้วก็กลับเช่นกัน
ตอนเหยียนเค่อไปมีคนไปด้วยเพียงคนเดียว แต่ตอนกลับมาจำนวนคนเพิ่มเป็นกลุ่มใหญ่
ฉินจานกับสวีรั่วชีแค่รู้จักกันธรรมดาเท่านั้น สาวสวยสองคนอยู่ด้วยกันแต่ให้ความรู้สึกไม่เข้ากันแปลกๆ ที่เธอมาครั้งนี้ เหตุผลหนึ่งก็คือทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่เด็ก อีกเหตุผลหนึ่งก็คือให้เกียรติสวีอันหรานและเหยียนเค่อ
เสิ่นจิ้งเฉินกลับมาเร็ว เขากับฉินซื่อหลานจึงอยู่ช่วยงานสวีอันหรานอยู่สองสามวัน
ห้องโถงพิธีเป็นแบบปิด ต่อให้เป็นตอนกลางวัน แต่แสงไฟภายในงานกลับมืดสลัว ใช้จัดพิธีเปิด พิธีปิดและกิจกรรมต่างๆ
เสิ่นจิ้งเฉินมองดูรายการกิจกรรมสุดท้ายแล้วก็รู้สึกไม่เข้าใจ “นี่มัน…ทำไมถึงมีซย่าเสี่ยวมั่วล่ะ”
“ซย่าเสี่ยวมั่วต้องมาอยู่แล้วสิ” ฉินซื่อหลานไม่รู้ว่าเขาจะถามทำไม
“แต่ซย่าเสี่ยวมั่วไม่เหมือนคนที่รู้เรื่องนี้เลยนะ” วันทั้งวันเหมือนคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไรอย่างนั้น แต่ทั้งสองคนสนิทกันขนาดนั้น เธอก็น่าจะต้องร้อนใจกว่าน่ะสิถึงจะถูก
สวีอันหรานเดินมาคลี่คลายข้อสงสัย “เสี่ยวชีบอกว่าเธอส่งการ์ดเชิญเอง ไม่ได้ให้ที่บ้านส่งไป”
“อ๋อ” เสิ่นจิ้งเฉินก็ยังไม่ยอมอยู่ดี “งั้นกิจกรรมสุดท้ายอันนี้เปลี่ยนเป็นฉันแล้วกัน”
“นายอยากโดนสับหรือไง” ฉินซื่อหลานมองเขาตาขวาง “นี่มันกำหนดไว้เรียบร้อยนานแล้ว ถ้านายกล้าเปลี่ยนก็เตรียมตัวตายได้เลย”
“…วุ่นวายจริงๆ” เสิ่นจิ้งเฉินพึมพำ ครุ่นคิดว่าเมื่อไรจะได้แนะนำซย่าเสี่ยวมั่วให้พวกเขารู้จัก สีหน้าของพวกเขาจะต้องตลกมากแน่ๆ
พวกเหยียนเค่อมาก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพียงแต่เดินเล่นอยู่ในนั้น ก่อนจะหันไปสนใจความกดดันในใจของสวีอันหราน ทั้งกลุ่มสมน้ำหน้าเขาแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน
เมื่อถึงบ้าน เหยียนเค่อยังไม่ทันขึ้นบ้านไปเปลี่ยนชุดก็โดนแม่เรียกไว้เสียก่อน
“มีอะไรครับ” เหยียนเค่อนั่งลงข้างๆ กันอย่างอารมณ์ดี
“พรุ่งนี้ลูกไปงานกับหนูอิ๋งอิ๋งนะ” ตอนนี้คุณแม่เหยียนมองเขาอย่างหงุดหงิดกลุ้มใจ
เหยียนเค่อฟังแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร เขาเตรียมใจเอาไว้นานแล้ว แต่พอแม่มาบอกเขาแบบนี้ก็รู้สึกหงุดหงิดเช่นกัน
“ผมรู้แล้วครับ ถ้าไม่มีอะไรผมขึ้นห้องก่อนนะ”
“แม่ไม่สนว่าลูกจะไม่พอใจอะไร แต่ลูกต้องอดทน ลูกต้องแต่งงานกับสวีอิ๋งอิ๋ง” คุณแม่เหยียนพูดกับแผ่นหลังเขาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“ไม่ว่าผมจะยอมหรือเปล่าก็ตาม…ทำไมแม่ไม่ลองถามฝ่ายหญิงดูล่ะครับว่ายอมหรือเปล่า” เหยียนเค่อพูดทิ้งทายประโยคหนึ่งแล้วขึ้นห้องไป อารมณ์จากที่ดีๆ อยู่ก็ถูกบีบให้แหลกสลาย
สวีอิ๋งอิ๋ง ฉันจะรอดูว่าเธอจะมาไม้ไหนอีก เหยียนเค่อร้องเหอะอย่างเหยียดหยาม
ผู้หญิงโง่เง่าพรรค์นี้จะมาเป็นภรรยาของเขาได้ยังไง
สองสามวันมานี้ที่เหยียนเค่อไม่อยู่ ความสัมพันธ์ของสวีอิ๋งอิ๋งและเหยียนเฟิงก็ใกล้ชิดมากขึ้นไม่น้อย
“เหยียนเฟิง พี่ดีกว่าเหยียนเค่อเยอะเลย”
สวีอิ๋งอิ๋งนั่งบนโซฟา จ้องคนที่กำลังทำงานอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ
ดวงตาของเหยียนเฟิงฉายแววเบื่อหน่ายเล็กน้อย ก่อนจะรีบเอ่ยยิ้มๆ “เหยียนเค่อโดนชมมาตั้งแต่เด็กจนโต เก่งกว่าฉันมาตลอด”
“ไม่หรอกค่ะ เหยียนเค่อดูเหมือนพวกลูกคนรวยที่ไม่ทำงานทำการ พี่ดีกว่าอีก”
ตาของสวีอิ๋งอิ๋งน่าจะมีปัญหาจริงๆ
เหยียนเฟิงยังคงยิ้มต่อไป ถึงแม้ว่าข้อมูลในรายงานจะทำให้สมองของเขาแทบระเบิดก็ตาม แต่เขาก็ยังชวนสวีอิ๋งอิ๋งคุยเล่นต่อ “สองสามวันมานี้ลำบากอิ๋งอิ๋งแย่เลย ที่ต้องมาที่นี่”
“ไม่หรอกค่ะ ลำบากที่ไหนกัน” สวีอิ๋งอิ๋งหน้าแดง ในใจรู้สึกถึงความหวานปานน้ำผึ้ง
“เธอกับเหยียนเค่อเป็นคู่หมั้นกัน มาหาฉันทั้งวันแบบนี้ คนจะมองไม่ดีเอาได้นะ”
ถึงแม้ว่าเหยียนเฟิงจะอยากหลอกใช้เธอ แต่ถึงโดยส่วนตัวแล้วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่ปรากฏให้เห็นภายนอกกลับกลายเป็นอีกเรื่อง
สวีอิ๋งอิ๋งหน้าซีด โอดครวญเสียงเบา “ฉันไม่อยากแต่งงานกับเหยียนเค่อ”
ตอนที่ 214 สมคบคิด
เหยียนเฟิงนึกไม่ถึงว่าเธอจะตกหลุมพรางของตนรวดเร็วขนาดนี้ จึงเดินเข้าไปกระซิบถามเสียงเบา “งั้นอิ๋งอิ๋งอยากแต่งงานกับฉันเหรอ”
สวีอิ๋งอิ๋งมองผู้ชายร่างใหญ่ตรงหน้าของเธออย่างตกตะลึง ใบหน้าเห่อร้อน หลบสายตาก่อนจะเอ่ยขึ้น “ฉัน…”
“ฉันล้อเล่นน่า” เหยียนเฟิงหัวเราะเสียงดัง แล้วจับติ่งหูของเธอเล่น “อิ๋งอิ๋งเขินแล้วน่ารักจังเลยนะ”
สวีอิ๋งอิ๋งในใจก็แอบผิดหวัง แต่ก็โดนการกระทำอันใกล้ชิดนั้นเล่นงานจนหัวใจวุ่นวาย
“เฮ้อ เหยียนเค่อเอาแต่คิดจะแย่งเหยียนกรุ๊ปไปจากฉัน เดิมทีเขาก็มีหุ้นด้วยส่วนหนึ่ง แต่เขาจะเอาในส่วนของฉันด้วย ฉันไม่รู้แล้วว่าจะทำอย่างไรกับน้องชายคนนี้ดี” เหยียนเฟิงบีบนวดหัวคิ้ว แสร้งทำเป็นหมดปัญญา
สวีอิ๋งอิ๋งได้ยินแบบนี้ก็สงสารเหยียนเฟิง จึงปลอบใจเขา “เขาสู้พี่ไม่ได้หรอก”
“ผู้หญิงดีๆ อย่างเธอต้องไปแต่งงานกับเขานี่มันช่าง…” เหยียนเฟิงลูบผมเธอ แล้วเอ่ยอย่างเสียดาย
สวีอิ๋งอิ๋งมีสีหน้ากลัดกลุ้ม จู่ๆ ก็คิดอะไรขึ้นได้ ดวงตาเป็นประกาย “ถ้าสมมติว่า…เหยียนเค่อไม่ได้ข่มขู่พี่ แล้วพี่จะอยากแต่งงานกับฉันไหม”
“ผู้หญิงดีๆ อย่างเธอ ฉันจะยอมปล่อยไปให้คนอื่นได้อย่างไรล่ะ” เหยียนเฟิงจ้องมองเธออย่างตั้งอกตั้งใจ
สวีอิ๋งอิ๋งลูบใบหน้าของตัวเองแล้วเอ่ยรับประกัน “ฉันจะช่วยพี่เอง ในเมื่อเหยียนเค่อเล่นตุกติกก่อน พี่ก็ไม่จำเป็นต้องทำดีกับเขา”
ในใจของเธอมีแผนการที่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว แผนการที่ทำให้เหยียนเค่อขัดขวางเส้นทางของเหยียนเฟิงไม่ได้อีก
เหยียนเฟิงมองดูผู้หญิงที่กลับไปอย่างเบิกบานใจ ความรู้สึกบางอย่างฉายผ่านในดวงตา ผู้หญิงคนนี้โง่จริงๆ
เมื่อเหยียนเค่อมาถึงบริษัทในตอนบ่ายก็เห็นสวีอิ๋งอิ๋งนั่งอยู่ในห้องรับรองด้วยท่าทางยโสโอหัง
“ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่” น้ำเสียงของเหยียนเค่อไม่ปิดบังความไม่ชอบใจของตนเลยสักนิด
สวีอิ๋งอิ๋งลดนิตยสารในมือลงแล้วมองเขาปราดหนึ่ง “คุณน้าบอกว่าให้นายพาฉันไปเลือกชุดราตรีกับทำผม”
เหยียนเค่อแสยะยิ้ม ลูกคุณหนูจริงๆ เริ่มมาสั่งให้เขาทำนู่นทำนี่แล้ว
จึงหยิบกระเป๋าเงินออกมาแล้วโยนบัตรให้หนึ่งใบ “เธอไปเองแล้วกัน ฉันไม่ว่าง”
สวีอิ๋งอิ๋งไม่รับ เธอไม่อยากให้เหยียนเค่อไปกับเธอสักนิด แต่ถ้าเหยียนเค่อโดนเธอตามรังควานจนไม่มีเวลาว่าง เหยียนเฟิงก็จะได้จัดการเขาได้อย่างเต็มที่
เหยียนเค่อมองเธอหนึ่งที แล้วเก็บบัตรบนโต๊ะกลับคืนมา เสียเงินให้ผู้หญิงคนนี้ซื้อของแล้วรู้สึกเหมือนโดนขูดเลือดขูดเนื้อ
เหยียนเค่อเดินตามสวีอิ๋งอิ๋งช็อปปิ้งไปทั่วทั้งย่านการค้าและศูนย์ห้างสรรพสินค้า
แฟนเก่าเขาทุกคนไม่เคยมีใครกล้าตื๊อให้มาช็อปปิ้งด้วยกันเลยสักคน ส่วนซย่าเสี่ยวมั่วนั้นสู้พวกผู้ชายยังไม่ได้เลย ไม่ชอบเดินซื้อของสักนิด นี่ถือเป็นประสบการณ์การเดินช็อปปิ้งอย่างจริงจังครั้งแรกในชีวิตของเขา
สวีอิ๋งอิ๋งเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงยาวรัดรูปสีแดงสด ยืนหมุนไปหมุนมาอยู่หน้ากระจกอย่างพึงพอใจ
พนักงานแนะนำสินค้านึกว่าทั้งคู่เป็นคู่รักกัน จึงพูดกับเหยียนเค่ออย่างกระตือรือร้น “แฟนคุณใส่ชุดนี้แล้วดูดีมากเลยนะคะ รูปร่างส่วนโค้งส่วนเว้าสวยมากเลยค่ะ”
เหยียนเค่อร้องเหอะแล้วค่อนแคะอย่างไม่ไว้หน้า “ตัวหงิกตัวงอน่ะเหรอ” แถมยังบอกว่าส่วนโค้งส่วนเว้าอีก โค้งเว้ากับผีน่ะสิ
พนักงานขายยังไม่รู้ตัว ชะงักไปนิดหนึ่งเกือบจะหัวเราะก๊ากออกมา คุณผู้ชายคนนี้พูดจาตรงไปตรงมาชะมัด
“ไม่สวยเหรอ” สวีอิ๋งอิ๋งจงใจเดินไปเดินมาตรงหน้าของเหยียนเค่ออยู่หลายรอบ และส่งยิ้มให้เขาอย่างที่ตนคิดว่ามีเสน่ห์สุดๆ
เหยียนเค่อแอบค่อนแคะในใจ ถ้าเธอเอวบางเหมือนซย่าเสี่ยวมั่วแล้วมาโชว์ฉันจะไม่ว่าเลย แต่หุ่นทรงแอปเปิ้ลอย่างนี้ยังมีหน้ามาโชว์อะไรอีก
สวีอิ๋งอิ๋งเห็นว่าเขาเบือนหน้าหนีก็นึกว่าเขาเขิน เบะปากแล้วยิ้ม ก่อนจะเดินไปถอดเปลี่ยนชุดนี้ออก แล้วพูดกับเหยียนเค่อ “พรุ่งนี้ฉันจะใส่ชุดนี้ไป”
เหยียนเค่อไม่ได้ออกความเห็นอะไร แอบสารภาพบาปในใจ เฮ้อเพื่อน ฉันไม่ได้อยากทำร้ายดวงตาของพวกนายเลยนะ หวังว่าพวกนายจะพอทนดูได้