ตอนที่ 275 ทักษะเป็นอย่างไร
เหยียนเค่อคิดไปหลากหลายรูปแบบวิธีที่ซย่าเสี่ยวมั่วจะรู้ตัวตนของเขา และเคยคิดวิธีที่จะแก้ไขโต้ตอบไว้มากมายเช่นกัน แต่สิ่งเดียวที่ไม่เคยคิดถึงก็คือการถูกเปิดโปงความจริงต่อหน้า และต้องเย็นชาใส่เธอ
ซย่าเสี่ยวมั่วก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้าที่เธอจะรู้ตัวตนของเขา ความหวังในใจก็ผุดประกายขึ้นมา แต่ท่าทางอ้ำๆ อึ้งๆ ของเสิ่นจิ้งเฉินก็เพียงพอให้ความหวังนั้นสูญสลายไป
ที่แท้เขาก็คือเหยียนเค่อคนนั้น ไม่ใช่แค่เหยียนเค่อคนนั้นที่เธอรู้จัก
สำหรับเธอแล้ว เหยียนเค่อจะเป็นคนเก่งกาจก็ย่อมได้ แต่ต้องไม่เก่งกาจเกินจริง
ผู้จัดการแผนกอาหารและเครื่องดื่มเห็นคนที่เดินขึ้นมากำลังจะขวางไว้ก็ถูกเสิ่นจิ้งเฉินที่ยืนอยู่ริมหน้าต่างห้ามเอาไว้เสียก่อน “ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาคิดบัญชีที่ผม”
“ประธานเสิ่นครับ คุณสวีอิ๋งอิ๋งก็อยู่ด้านล่างเหมือนกัน เธอเห็นว่าพวกคุณเข้ามา”
“เขามาถามคุณเหรอ”
“ครับ” ผู้จัดการแผนกอาหารและเครื่องดื่มปาดเหงื่อเย็นที่แผ่ซึม เมื่อกี้เขาไปบอกเหยียนเค่อ แต่ท่าทางของเหยียนเค่อเหมือนตั้งใจฟังที่เขาพูดแต่ความจริงแล้วไม่ได้ฟังเนื้อหาในคำพูดนั้นเลย เพียงแค่ครางอืมตอบรับอย่างเย็นชา เขาเองก็เดาไม่ถูกว่าเหยียนเค่อหมายความว่าอย่างไร ทำได้เพียงมาขอความเห็นจากประธานเสิ่น
“ไม่ต้องจัดการอะไรทั้งนั้น ถ้ามีปัญญาขึ้นมาก็ให้เขาขึ้นมา” เสิ่นจิ้งเฉินลูบคาง มีเรื่องสนุกให้ดูแบบนี้แล้วไม่อยากกลับปักกิ่งเลยจริงๆ
หญิงสาวแต่งหน้าจัด ทรวดทรงอรชรคนหนึ่งขึ้นมายังชั้นที่เป็นโซนที่ถูกกั้นไว้สำหรับลูกค้าประจำ ก็แอบดีใจที่พวกเขาไม่ได้เข้ามาขวางเธอไว้ เดินทอดสะโพกเข้าไปก็เห็นผู้ชายที่นั่งอยู่ในมุมมืด สายตาเหลือบไปเห็นผู้หญิงที่นั่งอยู่คนเดียวก็ลังเล กลัวว่าถ้าเป็นคู่รักที่ทำสงครามเย็นกันอยู่ เธอเข้าไปแล้วจะโดนลูกหลง ก่อนจะเห็นผู้ชายที่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง หลังจากพิจารณาดีแล้วจึงเลือกที่จะเดินไปหาเหยียนเค่อ
“ไงคะสุดหล่อ มาคนเดียวเหรอ”
เหยียนเค่อได้ยินคำพูดทักทายเช่นนี้อีกแล้ว เขาไม่เข้าใจ ทำไมเทคนิคการเข้าไปทำความรู้จักกับคนอื่นถึงได้ย่ำแย่เหมือนซย่าเสี่ยวมั่วไม่มีผิดเลยนะ ตอนนี้อารมณ์ไม่ดีอยู่พอดี จึงพยักหน้า
หญิงสาวได้ยินก็ขยับเข้าไปนั่งอย่างอ่อนช้อย เธอนั่งลงบนขาที่นั่งไขว่ห้างของเหยียนเค่อ มือหนึ่งยันด้านหลังของโซฟาไว้
เหยียนเค่อใช้แขนโอบเอวหญิงสาวคนนั้นไว้หลวมๆ แค่กลัวว่าเธอจะขยับมาโดนหน้าเขาโดยไม่ตั้งใจก็เท่านั้น
ซย่าเสี่ยวมั่วเหลือบมองปราดหนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี เธอยังจำตอนนั้นที่มีผู้หญิงสาวคนมาเคาะประตูห้องเธอกลางดึกได้ดี เจ้าชู้จริงๆ เบนสายตาออกอย่างนึกรังเกียจ แต่หูกลับเงี่ยฟังความเคลื่อนไหวทางด้านนั้น
หญิงสาวขยับเข้าไปใกล้จึงเห็นหน้าตาท่าทางของเขา รูปหน้าหล่อเหลาที่เห็นในความมืดนั้น คิดไม่ถึงว่าเมื่อขยับเข้าไปใกล้แล้วจะเป็นชายหนุ่มหน้าตางดงาม ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองเจอลาภลอยเสียแล้ว เอ่ยบทพูดออกมาอย่างเขินอาย “ค่ำคืนอันยาวนาน ไร้ซึ่งคน…”
เหยียนเค่อพูดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา “ทักษะของเธอเป็นยังไงบ้าง”
ซย่าเสี่ยวมั่วคิดอย่างรังเกียจ ‘ทักษะงั้นเหรอ ทำไมนายไม่ไปถามหาทักษะในโรงเรียนกันล่ะ พวกลูกคนรวยนี่มีแต่คนไม่ได้เรื่อง’
หญิงสาวตกตะลึงไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะเถรตรงเช่นนี้ ไม่พูดอ้อมค้อมเลยแม้แต่นิด จึงมุดหน้าเข้ากับอ้อมอกของเหยียนเค่ออย่างเขินอาย “คนนิสัยไม่ดี!”
คนที่อยู่ในอ้อมกอดดูไม่ออกว่าท่าทางของเหยียนเค่อมันเงอะงะแค่ไหน แต่คนที่ยืนดูอยู่ข้างๆ อย่างเสิ่นจิ้งเฉิน เห็นเหยียนเค่อนั่งตัวเกร็งแล้วก็อยากจะหัวเราะ
“ตอบมาสิ ทักษะเธอเป็นยังไงบ้าง” เหยียนเค่อไม่ได้เอ่ยหยอกล้อกับเธอสักนิด แต่ถึงจะรูปงามอย่างไร แต่ท่าทางรำคาญก็ทำให้คนรู้สึกว่าเขากำลัง***อยู่
“คุณลองดูเดี๋ยวก็รู้เองแหละค่ะ” หญิงสาวใช้กำปั้นเล็กๆ ทุบลงบนแผ่นอกของเขา
เหยียนเค่อขบฟันแน่น ก่อนจะหาเรื่องคนอื่นก็ต้องหาเรื่องให้ตัวเองก่อน เขาช่างเป็นคนที่ทำร้ายศัตรูหนึ่งพันครั้ง แต่บาดเจ็บเองไปแล้วแปดร้อยครั้งเสียจริง เขย่าคนน้ำเปล่าในแก้ว ก่อนจะพูดอย่างจริงจัง “ของแบบนี้ลองไม่ได้หรอก ถ้าเธอมีทักษะที่ดีฉันถึงจะให้เธอช่วยฉัน”
เสิ่นจิ้งเฉินจับทางไม่ถูกว่าเขาคิดจะทำอะไร
ตอนที่ 276 จินตนาการล้ำเลิศ
ช่วย? กอด? หญิงสาวได้ยินไม่ชัดเจนนัก จำต้องแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ “ฉันก็กอดอยู่นี่ไงคะ คุณจะเอายังไงอีก”
“เห็นผู้หญิงตรงนั้นไหม” เหยียนเค่อมองไปทางซย่าเสี่ยวมั่วแล้วถามเธอ “คนที่นั่งอยู่คนเดียวนั่นน่ะ”
“เห็นแล้วค่ะ” หญิงสาวงุนงง แล้วเกี่ยวข้องอะไรตรงไหนล่ะเนี่ย?
เหยียนเค่อมุมปากหยัดยิ้ม ทำเอาคนมองแทบละลาย
“เขาซื้อเราสองคนมา แต่ทักษะเขาแย่เกินไป น่ารำคาญชะมัด”
หญิงสาวตะลึงไป เห็นชายหนุ่มสามคนที่ทั้งอยู่ข้างๆ ผู้หญิงคนนั้น แต่ละคนกำลังเอาอกเอาใจเธออยู่ไม่ขาด
เธอเข้าใจในทันที ผู้หญิงสองคนนั้นเป็นแขก ส่วนผู้ชายพวกนี้คือโฮสต์อย่างนั้นเหรอ? เห็นผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาพวกนี้แล้วก็ยิ่งมั่นใจในความคิดของตัวเอง
“น…นายก็มาขายเหมือนกันเหรอ” หญิงสาวโพล่งออกมา ไม่มีอะไรให้ต้องกระดากอายอีกต่อไป
เมื่อเสิ่นจิ้งเฉินรู้ความประสงค์ของเหยียนเค่อแล้วก็อยากจะกระทืบเขานัก ทำได้เพียงถลึงตาใส่
เหยียนเค่อโดยไม่พูดอะไร เมื่อหันหน้าไปเห็นเงาคนที่ยืนอยู่ตรงทางขึ้นบันไดก็แอบสะใจเบาๆ ใครใช้ให้นายมาทำให้เราต้องแปดเปื้อนล่ะ
“ก็คนอาชีพเดียวกันนี่แหละ ทำไมต้องพูดอย่างนั้นด้วย” กลายเป็นเหยียนเค่อที่รู้สึกกระดากอายแทน “เธอก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
หญิงสาวมีสีหน้าที่แย่มาก ถ้าเธอซื้อกินไหวจะออกมาขายไหมเล่า!
ผู้หญิงคนนั้นลุกออกจากตัวของเหยียนเค่อ ก่อนจากก็ยังมองเขาปราดหนึ่งอย่างลึกซึ้งอ้อยอิ่ง จากนั้นก็สะบัดผมเดินจากไป
การแสดงไร้ความจริงใจ ผู้หญิงหากินไร้ความรู้สึก โบราณว่าไว้ไม่มีผิด
เหยียนเค่อเห็นเธอหมุนตัว ก็รีบถอดเสื้อคลุมตัวนอกออก โชคดีที่เขานั่งติดกับโซฟา ไม่อย่างนั้นคงสะบัดผมตีคอเขาขาดแน่นอน
เสิ่นจิ้งเฉินเดินเข้ามาก็ด่าเขาหนึ่งที “นายนี่มันจินตนาการล้ำเลิศจริงๆ ยังออกมาขายตัวอีกนะ”
ซย่าเสี่ยวมั่วที่โดนทำลายชื่อเสียงเหลือบตามองพวกเขาสองคนทีหนึ่ง แย่ทั้งคู่…
“นายยังจะกล้าเข้ามาหาอีกเหรอ” เหยียนเค่อยิ้ม แพขนตากระทบใบหน้าก่อให้เกิดเงา สีหน้าสับสนทำให้คนตัวเย็นวูบ
สำหรับเรื่องนี้เสิ่นจิ้งเฉินก็ต้องรับผิดชอบเช่นกัน แต่เขาจะไม่ยอมซวยไปคนเดียวแน่นอน
“สวีอันหรานพาเธอเข้ามา นายลองคิดดูนะ ถ้าพวกเราอยู่ที่หนานซานความลับก็ต้องถูกเปิดเผยเลยไม่ใช่เหรอ ฉันก็แค่จุดชนวน แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักสักหน่อย”
เหยียนเค่อไม่ฟังที่เขาพล่าม ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็เห็นร่างที่คุ้นเคยตรงทางขึ้นลงบันไดเสียก่อน จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที ก่อนจะถามเสิ่นจิ้งเฉิน “เขาขึ้นมาได้ยังไง”
“เอ่อ…” เสิ่นจิ้งเฉินเป็นห่วงชีวิตของตัวเอง “ฉันไปเรียกผู้จัดการมาให้นะ”
เหยียนเค่อสั่งไปแล้วก่อนหน้านี้ ว่านอกจากคนที่พวกเขาพาขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ขึ้นมาบนชั้นนี้ไม่ได้ ผู้หญิงขายบริการคนก่อนหน้ายังพอทน แต่ทำไมจู่ๆ สวีอิ๋งอิ๋งถึงโผล่ขึ้นมาได้
ผู้จัดการแผนกเครื่องดื่มและอาหารอธิบายตัวสั่นงันงก “คุณสวีเป็นกรณีพิเศษครับ ก่อนหน้านี้ผมบอกท่านไปแล้ว แต่ว่าท่านไม่สนใจ…”
“ไม่ใช่แค่นี้หรอกมั้ง” เหยียนเค่อเงยหน้าขึ้นมองเสิ่นจิ้งเฉินที่แสร้งทำราวกับว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตน ก็ไม่ได้ติดใจเอาเรื่องอะไรกับเขา จำต้องจัดการปัญหานี้ก่อน
“เขาขึ้นมาตอนไหน”
“เขา…” ผู้จัดการแผนกเครื่องดื่มและอาหารมองเหยียนเค่ออย่างลำบากใจ ก่อนจะร้องตะโกนอยู่ภายในใจ ‘ผมก็เป็นแค่คนจัดการเครื่องดื่มและอาหารไม่ได้ดูแลเรื่องการบันเทิงเสียหน่อย ทำไมเกิดเรื่องอะไรแล้วผมต้องมารับผิดชอบด้วยเนี่ย’
เสิ่นจิ้งเฉินพูดขึ้น “ตั้งแต่คำว่า ‘นายก็มาขายเหมือนกันเหรอ’ เขาก็ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว”
“ดี ดีจริงๆ” เหยียนเค่อกวาดสายตามองเสิ่นจิ้งเฉิน ก่อนจะหันไปมองซย่าเสี่ยวมั่วแล้วสาวเท้าเข้าไปหาด้วยท่าทีงามสง่า วันนี้เขาไม่เหมาะที่จะออกจากบ้านเลย ต้องเป็นเพราะว่าเจอกับเฉินเจวี้ยนเป็นแน่ ถ้าไม่ไปเจอเฉินเจวี้ยนเขาก็คงไม่มาสาย ถ้าไม่มาสายก็คงไปหนานซานแล้ว และอย่างน้อยถ้าไปหนานซาน ก็ไม่ต้องเจอกับสวีอิ๋งอิ๋ง…เป็นเหตุผลที่น่าอึดอัดใจจริงๆ