เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก – ตอนที่ 381 กลืนน้ำลายตัวเอง / ตอนที่ 382 สร้างคาแรกเตอร์

ตอนที่ 381 กลืนน้ำลายตัวเอง / ตอนที่ 382 สร้างคาแรกเตอร์

ตอนที่ 381 กลืนน้ำลายตัวเอง

 

 

“ฉินซื่อหลานน่าจะแย่งข้าวเธอไปด้วยเลย” เหยียนเค่อวางเธอลงบนเตียงผู้ป่วยเบาๆ ศีรษะกลมที่ซุกอยู่ที่ซอกคอเขานั้นผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมด ลมหายใจเข้าออกรินรดบนบ่าของเขา แค่นี้ก็ทำให้เขาใจอ่อนยวบไปหมด

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วอยากจะเถียงกลับแต่ก็ไม่กล้า ทำได้เพียงใช้สายตาเคืองขุ่นแสดงออกถึงความไม่พอใจของตนเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้บ้าฉินซื่อหลานนั่น เธอจะต้องมาอยู่ในสภาพน่าอนาถแบบนี้เหรอ

 

 

“ไม่ต้องขยับแล้ว!” เหยียนเค่อผลักหัวเธอไปหนึ่งที ก่อนจะเดินออกไปคิดบัญชีกับฉินซื่อหลาน

 

 

เสี่ยวฝูเอ๋อร์เห็นเหยียนเค่อเดินออกมาแล้วจึงรีบปรี่เข้าไปที่ข้างเตียงของซย่าเสี่ยวมั่ว ดวงตาเปี่ยมไปด้วยประกายหัวใจ “ลูบหัวกับด้วยอ่า พี่เหยียนอ่อนโยนจังเลย”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมองเธออย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา “เธอรู้ไหมว่าเขาผลักหัวฉันทีหนึ่งมันเจ็บแค่ไหน อยากลองดูไหมล่ะ”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วทำท่าจะเขกหัวเสี่ยวฝูเอ๋อร์ เสี่ยวฝูเอ๋อร์โยกหัวหลบ แต่ก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี “ในโทรทัศน์เขาเขกจริงที่ไหนกันเล่า”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วกลอกตามองบนใส่เธอ พวกเขาก็ไม่ได้ถ่ายซีรีส์อยู่เสียหน่อย ทุกครั้งเหยียนเค่อก็เขกจริงตลอดนั่นแหละ โลกของผู้ชายทื่อๆ แบบนั้นจะมีสิ่งที่อ่อนโยนเหมือนการลูบหัวด้วยเหรอ

 

 

เสี่ยวฝูเอ๋อร์เบ้ปาก เลื่อนจานข้าวบนโต๊ะไปให้ซย่าเสี่ยวมั่วอีกครั้ง

 

 

“เฮ้ยๆๆ!” ฉินซื่อหลานที่ถูกต้อนให้ติดผนังมองสีหน้าไร้อารมณ์ของเหยียนเค่อด้วยความหวาดกลัว “ฉันผิดไปแล้ว อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ!”

 

 

เหยียนเค่อเพิ่งจะยกมือขึ้น ฉินซื่อหลานก็หดตัวลงโดยอัตโนมัติ เหยียนเค่อเหยียดยิ้มที่มุมปาก เขาทนไม่ไหวแล้วจริงๆ “นาย…”

 

 

“ฉันผิดไปแล้ว” ฉินซื่อหลานขอโทษอย่างจริงจัง “ฉันไม่ควรไปแย่งอาหารคนป่วย”

 

 

เหยียนเค่อเก็บคำที่อยากจะพูดเอาไว้ ให้ฉินซื่อหลานแบกรับความรู้สึกผิดไปก่อนเถอะ “ฉันกลับก่อนนะ ดูแลเขาดีๆ”

 

 

“อืม” ฉินซื่อหลานรีบพยักหน้า ไม่มาคิดบัญชีกับเขาก็ดีเท่าไรแล้ว การให้ดูแลซย่าเสี่ยวมั่วนั้นเขาไม่มีปัญหาเลย

 

 

หลังจากใช้สายตาส่งเหยียนเค่อลงบันไดไปแล้ว ฉินซื่อหลานจึงจะกล้าเดินกลับห้องพักผู้ป่วย

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วฟื้นตัวจนสามารถนั่งเหยียดขาตรงๆ บนเตียงได้แล้ว ตรงหน้ามีโต๊ะอาหารวางอยู่

 

 

เสี่ยวฝูเอ๋อร์ก็นั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะข้างๆ กัน

 

 

“พี่เหยียนล่ะคะ” ซย่าเสี่ยวมั่วไม่ได้พูดอะไร แต่เสี่ยวฝูเอ๋อร์ชิงถามฉินซื่อหลานก่อน

 

 

ฉินซื่อหลานตอบอย่างหงุดหงิด “กลับไปแล้ว”

 

 

เสี่ยวฝูเอ๋อร์ไม่สนใจน้ำเสียงของเขา เอ่ยอย่างผิดหวัง “ไปแล้วเหรอ ทำไมไม่อยู่ต่ออีกสักหน่อยล่ะ”

 

 

“ไม่รู้สิ” จู่ๆ ฉินซื่อหลานก็รู้สึกหึงขึ้นมา เป็นน้ำเสียงที่ซย่าเสี่ยวมั่วฟังแล้วยังอยากจะหัวเราะ

 

 

เสี่ยวฝูเอ๋อร์ก็รู้สึกว่าท่าทีของเขาดูย่ำแย่เป็นอย่างมาก จึงพูดขึ้นอย่างหงุดหงิดไม่แพ้กัน “ฉินซื่อหลาน เมื่อคืนพี่ตะคอกใส่ฉันไปทีหนึ่งแล้ว ตอนนี้ยังจะทำตัวแบบนี้อีก! พี่คิดจะทำอะไรหา!”

 

 

เป็นครั้งแรกที่ซย่าเสี่ยวมั่วได้เห็นด้านที่ไร้เอาแต่ใจของเสี่ยวฝูเอ๋อร์ จึงขดตัวอยู่อีกฝั่งรอดูเรื่องสนุก

 

 

ตอนฉินซื่อหลานบอกว่าเหยียนเค่อกลับไปแล้ว ในใจของเธอก็รู้สึกผ่อนคลายแต่กลับว่างเปล่าแปลกๆ ตอนนี้มาดูสองคนนี้ทะเลาะกันจะได้เบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองจากเขา

 

 

ฉินซื่อหลานปวดหัว ไปทำอะไรให้โดนโกรธกันล่ะเนี่ย?

 

 

“ฉันก็แค่ถามพี่เอง ถ้าพี่ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก ฉันก็ไม่ได้ไปบังคับสักหน่อย ทำไมต้องใช้น้ำเสียงแบบนี้มาพูดกับฉันด้วย!” เสี่ยวฝูเอ๋อร์โมโหเป็นอย่างมาก

 

 

ฉินซื่อหลานเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กจนโต ทุกครั้งเวลาฉินซื่อหลานพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก็ทำให้เธอคิดไปว่า เพราะเธอเป็นภาระเลยทำให้ฉินซื่อหลานไม่พอใจ ต่อมาฉินซื่อหลานรู้เรื่องนี้แล้วจึงอธิบายให้เธอฟังอย่างตั้งใจ อีกทั้งยังรับประกันว่าต่อไปถึงแม้ว่าจะอารมณ์เสียก็จะไม่ทำเสียงดุใส่เธออีก แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเขากำลังกลืนน้ำลายตัวเอง

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ จึงได้แต่นั่งดูอยู่เงียบๆ ในใจก็อยากจะให้กำลังใจและเป็นปากเป็นเสียงให้เสี่ยวฝูเอ๋อร์ สาวน้อยคนนี้ต้องจัดการฉินซื่อหลานถึงตายแน่

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 382 สร้างคาแรกเตอร์

 

 

พวกสาวๆ ไม่สนใจฉินซื่อหลานแล้ว นั่งท่องหนังสือและเขียนการบ้านอยู่ที่โซฟาอีกฝั่ง  ส่วน

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วก็นั่งวาดรูปอยู่เงียบๆ ฉินซื่อหลานง้ออยู่สักพักหนึ่งแต่สุดท้ายแล้วเสี่ยวฝูเอ๋อร์ก็ไม่ปรายตามามองเขาสักนิด ทางด้านนั้นยังมีซย่าเสี่ยวมั่วที่หัวเราะเยาะเขาแบบไม่ออกเสียงอีก ทำได้เพียงไปทำงานก่อนแล้วค่อยมาให้คำแนะนำทีหลัง

 

 

“นี่ ทำตัวอวดเก่งขนาดนั้นเลย?” เมื่อฉินซื่อหลานเดินออกจากประตูห้องพักไป ซย่าเสี่ยวมั่วก็ถามขึ้นเสียงต่ำ

 

 

เสี่ยวฝูเอ๋อร์รู้สึกไม่พอใจจริงๆ ซย่าเสี่ยวมั่วเองก็พอจะมองออก ตอนแรกเป็นดอกไม้งามบนเขาสูง ตอนนี้กลายเป็นเจ้าหญิงน้ำแข็งเสียแล้ว

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วฝืนใจพูดเกลี้ยกล่อม “อย่าโกรธเลย ฉินซื่อหลานคงไม่ได้ตั้งใจหรอก เธอไปใส่ใจ

 

 

เหยียนเค่อขนาดนั้น ฉินซื่อหลานต้องหึงแน่ๆ เลย”

 

 

“เขาไม่มีทางหึงหรอกค่ะ!” เสี่ยวฝูเอ๋อร์เอ่ยอย่างมั่นใจ “ฉันแค่คิดว่าเขาอยู่กับพี่นานเกินไปหน่อย”

 

 

แม้แต่เสี่ยวฝูเอ๋อร์ยังคิดว่าซย่าเสี่ยวมั่วเป็นตัวต้นเหตุ “ทั้งๆ ที่ฉินซื่อหลานเป็นแค่คนปกติคนหนึ่ง แท้ๆ แต่พอพี่เริ่มเข้าโรงพยาบาลเขาก็กลายเป็นคนไม่ปกติไปเลย”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วโดนปรักปรำอย่างแท้จริง หรือว่าการที่เธอเข้ากับฉินซื่อหลานได้ ทำให้เขาเปลี่ยนไป ก็เป็นความผิดของเธองั้นเหรอ

 

 

“พี่คะ ฉันคิดว่าฉินซื่อหลานน่าจะชอบพี่เหยียนจริงๆ แล้วแหละ” เสี่ยวฝูเอ๋อร์กลายเป็นเจ้าหนูช่างวิเคราะห์ไปในทันที ทำเอาซย่าเสี่ยวมั่วงงไปหมด

 

 

“ก็ดูสิคะ ฉันแค่พูดถึงพี่เหยียนเขาก็หึงซะแล้ว เขาต้องหึงเพราะฉันแน่ๆ เลย ไม่อยากให้ฉันไปแย่งผู้ชายกับเขา”

 

 

ทันใดนั้นซย่าเสี่ยวมั่วก็เข้าใจความรู้สึกตอนที่ตัวเองบอกว่าเหยียนเค่อเป็นเกย์เสียแล้ว ถ้าเกิด

 

 

ฉินซื่อหลานมาได้ยินเข้า เขากับเหยียนเค่อคงจะพากันไปตายแน่ๆ

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเริ่มใจลอย คิดไปถึงอ้อมกอดอบอุ่นแข็งแกร่งของเหยียนเค่อ กลิ่นหอมอ่อนๆ บนร่างกาย น้ำเสียงเย็นชา…

 

 

“พี่คะ?” เสี่ยวฝูเอ๋อร์พูดอยู่ตั้งนาน แต่รู้สึกว่าคนตรงหน้าไม่ได้ฟังที่ตนพูดเลย จึงยื่นมือออกไปโบกตรงหน้าเธอ “พี่คิดอะไรอยู่เนี่ย”

 

 

“หืม?” ซย่าเสี่ยวมั่วมองเธออย่างุนงง เนิ่นนานกว่าจะนึกขึ้นได้ว่าตนกำลังฟังเสี่ยวฝูเอ๋อร์บ่น

 

 

ฉินซื่อหลานอยู่ จึงยิ้มแกนๆ “ขอโทษทีนะ จู่ๆ ก็คิดธีมเรื่องดีๆ ได้น่ะ เธอพูดต่อสิ”

 

 

“ฉันพูดจบแล้วค่ะ” เสี่ยวฝูเอ๋อร์แบมือ ไม่อยากพูดซ้ำอีกครั้ง

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วกระอักกระอ่วนยิ่งกว่าเดิม “แต่ฉันเข้าใจเธอนะ เชื่อฉัน”

 

 

เสี่ยวฝูเอ๋อร์ถอนหายใจอย่างที่ทำเป็นประจำ “พวกคนอายุเยอะอย่างพวกพี่ๆ นี่ชอบโกหกจัง อย่างเช่นฉินซื่อหลานเป็นต้น”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วก็จนปัญญา “อย่างไรเสียฉันก็แก่กว่าเธอตั้งสิบปี ถ้าจะรู้สึกแบบนั้นก็ปกติน่า”

 

 

เสี่ยวฝูเอ๋อร์แสร้งส่ายหัวอย่างลึกลับ “บางอย่างพี่ก็ไม่เข้าใจหรอกค่ะ พี่เหยียนบอกฉันว่าพี่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมาก พ่อแม่ของพี่ก็รักพี่เอามากๆ”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมองเธอแปลกๆ ทำไมเหยียนเค่อถึงพูดเช่นนี้กับเธอล่ะ

 

 

“เขาพูดวันนั้นตอนมาส่งฉันน่ะค่ะ เขาบอกให้ฉันคุยกับพี่เยอะๆ บอกว่าอยู่กับพี่เยอะๆ แล้วจะทำให้นิสัยอ่อนโยนขึ้น”

 

 

“เลี่ยนอะ” ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกรับไม่ได้กับคำพูดนี้

 

 

แต่เสี่ยวฝูเอ๋อร์ไม่ได้พูดเพ้อเจ้อนะ แต่เหยียนเค่อพูดอย่างเถรตรงมากกว่า ทั้งโง่เอย บ๊องเอย พูดวนๆ อยู่แต่กับสองคำนี้นี่แหละ เธอเพิ่งจะสังเกตว่าเธอเปลี่ยนความหมายของคำพูดนั้นไปไม่น้อย จึงอธิบาย “อาจจะเป็นเพราะว่าฉันพูดเวอร์ให้มันเลี่ยนเองแหละ”

 

 

“ฉันไม่ได้สงสัยในความคิดของเหยียนเค่อหรอกนะ แต่เหยียนเค่อไม่ใช้คำพูดสวยหรูแบบนั้นมาพูดถึงฉันแน่นอนต่างหาก” ซย่าเสี่ยวมั่วมองอย่างทะลุปรุโปร่ง “ในสายตาของเขา ถ้าฉันไม่โง่ก็บ๊อง ไม่ก็น่าโมโห” นี่เป็นสิ่งที่เหยียนเค่อพูดเยอะที่สุด

 

 

ตรงเผงเลย เสี่ยวฝูเอ๋อร์ไม่รู้จะตอบอย่างไร คำพูดเหล่านี้ที่ซย่าเสี่ยวมั่วพูด เป็นส่งที่เหยียนเค่อพูดย้ำซ้ำๆ แถมยังบอกเธอว่า ระวังอย่าให้ซย่าเสี่ยวมั่วพาเธอเพี้ยนไปด้วยอีก

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นสีหน้าของเธอก็รู้ว่าตนทายถูกแล้ว อ้อมกอดอันอบอุ่นอะไรนั่นมลายหายไปจนหมดสิ้น เหยียนเค่อจะสร้างคาแรกเตอร์คนดีให้เธอหน่อยไม่ได้หรือไงนะ! ถึงจะไม่ชอบแต่ก็อย่ามา

 

 

สบประมาทเธอสิ…

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

Status: Ongoing

ซย่าเสี่ยวมั่ว สาวโสดผู้หมดศรัทธาในความรักจำต้องหนีหัวซุกหัวซุนออกจากบ้าน เพียงเพราะทะเลาะกับผู้เป็นแม่เรื่องหา ‘ลูกเขย’! ด้วยอับจนหนทางที่จะกลับบ้าน เธอจึงต้องไปขออาศัยอยู่กับเพื่อนสนิทชั่วคราว ทว่าระหว่างนั่งรถประจำทาง เธอดันไปปะทะฝีปากกับชายหนุ่มรูปงาม และสร้างความอับอายให้เขาอย่างน่าคับแค้นใจ!

ทั้งที่เธอไม่คิดจะเจอเขาอีกชั่วชีวิต ทว่าเหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง บันดาลให้เธอต้องมาพบกับเขาอีกครั้งในฐานะ ‘แฟนเช่า’ ครั้งนี้ เหยียนเค่อ จะให้เธอได้ชดใช้อย่างสาสม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท