ตอนที่ 507 เปิดเผยอย่างง่ายดาย
“คนที่คิดแบบนี้หาได้ยากนะ” สมัยนี้มีประธานบริษัทไหนบ้างที่ไม่ชอบเปิดเผยเรื่องชีวิตรักหรือชีวิตครอบครัว ของตัวเอง ทั้งยังสามารถใช้เรื่องนี้สร้างภาพลักษณ์ของตัวเองและความน่าเชื่อถือของบริษัทได้อีกด้วย
“มีแต่ผมที่คิดว่าการไม่เปิดเผยตัวเองมันดูน่าสนใจกว่าเหรอ อีกอย่างผมไม่ได้ขายตัวเองซะหน่อย ทำไมต้องเปิดเผยตัวเองด้วย”
เสิ่นมั่วหลียิ้ม “ถ้านายไม่เสนอขายตัวเองจะเมียได้อย่างไร”
“มันก็จริง ยายผู้หญิงซื่อบื้อนั่น เอา YAN ไปวางกองตรงหน้าเธอยังไม่สนใจสักนิด รูปร่างหน้าตาผมก็เอาชนะใจเจ้าหล่อนไม่ได้อีก น่าเศร้าจริงๆ” เหยียนเค่อแกล้งเล่นด้วยกับเสิ่นมั่วหลี เออออตามคำพูดของชายหนุ่ม
“โอ้” เสิ่นมัวหลีปิดหนังสือในมือ หันไปตั้งใจคุยกับเหยียนเค่อ “นายคงลำบากใจน่าดู”
“ความจริงมันก็ดี เพราะผมชอบที่เธอเป็นแบบนี้” เหยียนเค่อสามารถพูดได้ว่าการชอบซย่าเสี่ยวมั่วมีทั้งความสุขและความเศร้า แต่เสิ่นมั่วหลีน่าจะพูดยากยิ่งกว่าเขา “พี่ไม่มีคนที่ชอบเหรอ”
“ฉันกำลังหาอยู่ แต่ยังไม่เจอ” ปัญหาเรื่องนี้เสิ่นมั่วหลีไม่ได้นึกถึงมาหลายปีแล้ว เขาคิดกระทั่งว่าชาตินี้คงหาไม่เจอแล้ว
“ทำไมจะหาไม่ได้ล่ะ” จากประสบการณ์ของเหยียนเค่อ เรื่องของพรหมลิขิต มันอาจจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่เรากำลังตัดสินใจทำไรบางอย่าง อย่างเช่นเขาบังเอิญไปเจอกับซย่าเสี่ยวมั่ว “เรื่องแบบนี้พี่ต้องเป็นคนเริ่มก่อน นักศึกษาผู้หญิงของพี่ก็มีตั้งหลายคน…”
“เฮ้” เสิ่นมั่วหลีเอ่ยแทรก “ฉันว่านายเริ่มนอกประเด็นไปไกลแล้ว นายคิดว่าประเทศเราจะเหมือนกับต่างประเทศหรือไง”
“ได้ๆ ศาสตราจารย์เสิ่นของเราไม่ใช่คนแบบนั้น” เหยียนเค่อก็ยังไม่ยอมแพ้ พึมพำเสียงเบาๆ “ถ้าเกิดชอบขึ้นมาจริงๆใครจะไปสนเรื่องสถานะกันเล่า”
เสิ่นมั่วหลีมองเหยียนเค่ออย่างจริงจัง เหยียนเค่อมองกลับ พร้อมติดกระดุมเสื้อสองเม็ดที่เขาแกะออก
“พี่มองผมอย่างนั้นทำไม ที่ผมพูดเนี่ยไม่ได้จะให้พี่มาสารภาพรักกับผมนะ”
เสิ่นมั่วหลีได้ยินชายหนุ่มพูดแบบนี้ก็เริ่มปวดหัว “นายช่วยจริงจังหน่อยได้ไหม”
“เป็นเพราะสายตาของพี่ที่มองผมนั้นแหล่ะทำให้ผมรู้สึกไม่ปลอดภัย” เหยียนเค่อเอ่ยตามที่เห็น
เสิ่นมั่วหลีค้นพบว่าถ้าเหยียนเค่ออยากจะนึกสนุกแกล้งขึ้นมาล่ะก็ ไม่ว่าจะเปลืองสมองเท่าไหร่ก็ไม่มีทางชนะชายหนุ่มหรอก
“โอเค สายตาฉันมีปัญหาเอง” ถึงตอนนี้เสิ่นมั่วหลีอยากจะรู้ว่าซย่าเสี่ยวมั่วทนมาได้อย่างไรแล้วสิ “นายเป็นแบบนี้แฟนของนายทนนายได้ด้วยเหรอ”
“ศาสตราจารย์เสิ่นพูดมีเหตุผล” เหยียนเค่อลูบคางตัวเองแล้วยิ้มขำอย่างไม่จริงจังนัก สักพักก็กลับมาเป็นปกติ เอ่ยเสียงเศร้า “เพียงแต่ว่าเธอยังไม่ใช่แฟนผม”
“นายไม่ได้บอกว่านายมีภรรยาแล้วหรอ”
“แค่คิดฝันไว้น่ะ” เหยียนเค่อกุมหน้าผาก เรื่องของเรื่องก็คือหล่อนยังไม่ใช่ของเขา
เสิ่นมั่วหลียิ้ม “คนอย่างนายมีสิ่งที่อยากได้แล้วต้องรอคอยแบบนี้ด้วยหรอ”
“ผมก็ไม่อยากเป็นแบบนี้” เหยียนเค่อเล่นถามคำตอบคำกับเสิ่นมั่วหลีสักพัก จากนั้นก็วกกลับมาที่คำถามที่ถามค้างไว้ “เธอทนผมได้ แต่ผมมักจะพูดไม่เข้าหูเธออยู่บ่อยๆ”
เสิ่นมั่วหลีนึกถึงข้อความที่ตนเพิ่งส่งไปหาซย่าเสี่ยวมั่ว จึงเอามาพูดกับเหยียนเค่ออีกรอบ “ฟรอยด์ ได้กล่าวไว้ว่า การพูดผิดถือเป็นการเติมเต็มความปรารถนาในใจอย่างหนึ่ง ดังนั้นนี่ถึงเป็นการยืนยันว่านายคิดอย่างนั้นจริงๆ”
“ก็โง่จริงๆ แต่รับไม่ได้ที่ผมพูด” ทุกครั้งเขาล้วนไม่ได้ตั้งใจ แต่มันก็ไปทำร้ายจิตใจซย่าเสี่ยวมั่วทุกครั้ง เขาไม่อยากให้เป็นแบบนั้น
“เมื่อก่อนเวลาฉันว่าน้องสาวแบบนี้ ก็โดนชักสีหน้าใส่เหมือนกัน” เสิ่นมั่วหลีแชร์ประสบการณ์ของตนเองให้ เหยียนเค่อฟัง
เหยียนเค่อก็แปลกใจดังที่คาด “อย่างนั้นพี่ทำอย่างไร”
เสิ่นมั่วหลีดื่มชาไปอึกหนึ่ง ไอร้อนในถ้วยน้ำชาพุ่งเป็นควันขึ้นมา เขาดื่มดำกับรสชาติชาแล้วเอ่ยขึ้น
“ว่าไปบ่อยๆ พอหล่อนชินแล้วเดี๋ยวก็ดีไปเอง”
“พี่นี่ถนัดรังแกน้องจริงๆ” เหยียนเค่อค้นพบว่านิสัยที่แท้จริงของเสิ่นมั่วหลีก็ชั่วร้ายพอๆกับเขา นี่ถ้าพวกสวีอันหรานรู้ว่าเขาทำให้ซย่าเสี่ยวมั่วโมโหล่ะก็ต้องด่าเขาแน่ๆ พวกผู้หญิงมีไว้เคารพไม่ใช่…บลาๆ จากนั้นก็คงด่าเขาอีกชุดใหญ่ แต่เสิ่นมั่วหลีนั้นไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองตัวอย่างไรเลย ขนาดวิธีจัดการยังเป็นวิธีง่ายๆห่ามๆขนาดนี้
ตอนที่ 508 ซานกวนและอวัยวะทั้งห้า
“อย่างนั้นตอนนี้น้องพี่ที่โดนพี่วางยาพิษเป็นอย่างไรบ้างล่ะ” เหยียนเค่อคิดว่าหญิงสาวที่ถูกเสิ่นมั่วหลีจัดการแล้วยังอยู่รอดนี่ต้องแข็งแกร่งราวกับสตรีเหล็กแน่ๆ
“อย่างน้อยซานกวน[1]ก็ยังปกติ” เสิ่นมั่วหลีทำได้แค่เปรียบเทียบ
“งั้นอวัยวะทั้งห้า[2]ของเธอล่ะปกติไหม”
“เอ๋?”
ทั้งสองคนที่เข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยต่างมองหน้ากัน ผ่านไปสักพักถึงได้เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะสื่อว่าอะไร
เสิ่นมัวหลีไม่เข้าใจจริงๆว่าพวกนี้ดูจะสนใจรูปร่างหน้าตาเป็นหลักอย่างเหยียนเค่อมาชอบซย่าเสี่ยวมั่วได้อย่างไร และก็ไม่รู้ว่าควรจะบรรยายรูปร่างหน้าตาของหล่อนอย่างไรถึงจะดูเข้าข่าย คิดแล้วคิดอีกจึงเอ่ย “ก็ปกตินะ พอดูได้”
“อ๋อ” ตั้งแต่เหยียนเค่อชอบซย่าเสี่ยวมั่ว ชายหนุ่มก็ดูเหมือนจะมีภูมิคุ้มกันผู้หญิงอื่นอย่างดี ดังนั้นต่อให้เสิ่นมั่วหลีบอกว่าสวยเขาก็ไม่มีทางสนใจ
คนที่ซานกวนยังปกติดีอย่างซย่าเสี่ยวมั่ว ไม่ทำงานแต่กับไปนอนหลับในห้องนอนจนถึงเกือบห้าโมงเย็นจึงจะตื่นขึ้น มือคลำหาโทรศัพท์พอดูเวลาก็พบว่าถึงเวลาเลิกงานแล้วแต่เธอยังไม่ได้ไปทำงานเลย
เมื่อคืนเธออารมณ์ไม่ดี นอนไม่หลับทั้งคืน พอตอนเช้าสีหน้าเลยดูไม่ค่อยดี แต่ว่าตอนนี้เธอหลับไปเต็มอิ่มแล้ว เกรงว่าคืนนี้คงนอนไม่หลับอีกเป็นแน่
ซย่าเสี่ยวมั่วออกไปล้างหน้าที่ห้องน้ำก็เห็นว่าสวีรั่วชียังคงนั่งอยู่ที่โซฟา พอเดินไปจึงเห็นว่าหญิงสาวก็หลับไปเหมือนกัน
“เฮ้อ โตจนป่านนี้แล้ว ยังงอแงอะไรอยู่ ถ้ายอมกลับไปกับสวีอันหรานจะสบายกว่านี้ตั้งเยอะ”
ซย่าเสี่ยวมั่วเอื้อมมือไปดีดหน้าผากสวีรั่วชี จากนั้นไปหยิบผ้าห่มจากห้องนอนรับแขกมาห่มให้หล่อน
สวีรั่วชีไม่ได้หลับลึก ตอนที่ซย่าเสี่ยวมั่วห่มผ้าให้เธอ เธอก็ตื่นพอดี
“ฉันทำเธอตื่นเหรอ”
“เปล่า” สวีรั่วชีตอบอย่างรวบรัด “ฉันหิวพอดีเลยตื่น เธอจะทำกับข้าวให้กินได้หรือยัง”
ซย่าเสี่ยวมั่วลูบปลายจมูกเล่น ไม่รู้จะมีปฏิกิริยากับคำตอบที่ไม่คาดคิดนี้อย่างไรดี “เดี๋ยวฉันจะไปทำให้ เธอรอแปปหนึ่ง”
สวีรั่วชีพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
“ทำไมทำท่าทางประหลาดอย่างนั้น” สำหรับซย่าเสี่ยวมั่วคำจำกัดความของคำว่าเชื่อฟังนั้นต่างจากของสวีรั่วชีโดยสิ้นเชิง
สวีรั่วชีลูบท้องตัวเอง วนเป็นวงกลมจากนั้นเอ่ย “เธอทิ้งให้ฉันอดอยากจนกลัวแล้ว”
“อย่ามาใส่ร้ายฉันนะ ถ้าฉันทิ้งให้เธออดอยากจริงๆ สวีอันหรานของเธอต้องมาจับฉันโยนออกไปแน่ๆ”
“พี่ไม่กล้าหรอก เพราะเหยียนเค่อก็จะจับเขาโยนออกไป” สวีรั่วชีเอ่ยแย้ง จ้องซย่าเสี่ยวมั่วอย่างจริงจัง
ซย่าเสี่ยวมั่วเกาคิ้ว เธอไม่เข้าใจ “สมองเธอมีปัญหาหรือไง พูดอะไรไร้สาระ”
“ฉันพูดความจริง” พูดจบสวีรั่วชีก็มุดหัวเข้าไปในผ้าห่ม พูดในลำคออย่างอารมณ์ไม่ดี “ฉันรู้สึกว่าสวีอันหรานไม่ได้รักฉันแล้ว”
ซย่าเสี่ยวมั่วไม่รู้ว่าหล่อนมองจากอะไร แต่ในสายตาของเธอสวีอันหรานเป็นผู้ชายที่อยู่ในโอวาทมากคนหนึ่งเลย ถือได้ว่าเป็นสามีแห่งชาติเลยนะ ยังไงเธอก็เลือกอยู่ฝ่ายสวีอันหราน “เธอคิดบ้าอะไร ไม่ใช่ว่ามีลูกแล้วเธอจะคิดอะไรบ้าๆแบบนี้ได้นะ”
“ฉันรู้สึกว่าเขารักลูกมากกว่าฉัน”
“ลูกยังไม่ได้เกิดมานะ” ซย่าเสี่ยวมั่วพยายามจะเข้าใจว่าเป็นเพราะหล่อนท้องอารมณ์ถึงได้แปรปรวนคิดอะไรไปเรื่อย แต่มีบางเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องระแวงด้วยซ้ำ เธอเอ่ยอย่างจริงจัง “คนที่สวีอันหรานรักคือเธอ ไม่ว่าจะเป็นเฉิงซินหรือเหยียนเค่อ ก็มีลูกให้เขาไม่ได้”
พูดจบแล้วเธอยังอยากจะขำ แต่สวีรั่วชีไม่มีปฏิกิริยาอะไรสักนิด พอแต่งงานก็เริ่มจิตตก คิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อย
ซย่าเสี่ยวมั่วหยิบผ้ากันเปื้อนมาผูกแล้วเดินเอื่อยๆไปยังห้องครัว
พอได้ยินคำว่าแต่งงาน สวีรั่วชีก็นึกขึ้นได้ว่างานแต่งงานของเธอกับสวีอันหรานใกล้เข้ามาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เตรียมซ้อมอะไรด้วยกันเลย เธอไม่รู้จริงๆว่าต้องทำอย่างไรดี
——
[1] ซานกวน มุมมองหรือทัศนะคติที่เรามีต่อของสามสิ่ง 1. มุมมองต่อโลก 2. มุมมองต่อคุณค่า 3. มุมมองต่อสิ่งมีชีวิต
[2] อวัยวะทั้งห้า ส่วนประกอบทั้งห้าบนใบหน้า ประกอบด้วย ตา หู ปาก จมูก และ คิ้ว แต่ถ้าเป็นในแพทย์แผนจีน จะเป็น จมูก ตา ปาก(ริมฝีปาก) ลิ้น และหู