ตอนที่ 523 หาทางออก
“ค่ะ” พนักงานเห็นสถานะเธอก็ไม่กล้าล่วงเกิน เอ่ยอย่างนอบน้อม “นี่คีย์การ์ดห้องค่ะ ขอให้พักอย่ามีความสุขนะคะ”
น้ำเสียงของซย่าเสี่ยมั่วฟังดูแย่ “ฉันไม่ได้มีเงินเยอะขนาดจะอยู่ห้องสวีทนะคะ ไม่มีห้องอื่นแล้วเหรอ”
พนักงานไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ เธอยังคิดว่าซย่าเสี่ยวมั่วแอบปลอมตัวมาตรวจสอบพวกเธอเสียอีก
เธออธิบายให้หญิงสาวฟังอย่างใจเย็น “ข้อมูลของคุณมีการลงทะเบียนไว้ก่อนแล้วค่ะ โรงแรมในเครือของ YAN ทั้งหมดคุณสามารถเข้าพักได้ฟรี” ในใจซย่าเสี่ยวมั่วเกิดความรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ เธอเห็นพนักงานก้มไปอ่านที่จอคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็ยืนขึ้นแล้วบอกกับเธอ “รับรองโดยชื่อของประธานสวีค่ะ”
อารมณ์ตื่นเต้นหายวับไปทันที เธอเอ่ยรับอย่างไร้อารมณ์ “ค่ะ ขอบคุณ”
ซย่าเสี่ยวมั่วถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม ลากกระเป๋าเดินทางเดินเข้าลิฟต์ไป ไอ้อาการคิดไปเองของเธอนี่มันแก้ไม่หายจริงๆสินะ
อันหรานหยุดพักไปวันหนึ่งพอกลับมาทำงานก็พบว่าตนเองติดต่อกับซย่าเสี่ยวมั่วไม่ได้ โทรศัพท์ไปก็ไม่รับ ส่งอีเมลล์ไปก็ไม่ตอบ ทั้งๆที่อยู่ห่างกันแค่กำแพงกั้นเท่านั้นเองแต่กลับไม่ได้เจอหน้ากันเป็นอาทิตย์แล้ว
วันนี้ตอนเช้ามีประชุมเธอก็กะว่าจะถามคนอื่นซะหน่อยว่ามีใครเห็นซย่าเสี่ยวมั่วบ้างไหม แต่กลับได้รับการแจ้งจากเบลล์ว่าหล่อนลาหยุดยาว
ตอนได้ยินอันหรานรู้สึกเหมือนโลกกำลังจะสลาย ซย่าเสี่ยวมั่วทิ้งเธอแล้วหนีไปเที่ยวคนเดียวเนี่ยนะ
“เธอได้บอกไหมว่าจะไปไหน” อันหรานไม่ได้คาดหวังว่าจะได้คำตอบ แต่เบลล์กลับตอบมา “เห็นว่าจะไปร่วมงานแต่งเพื่อนสนิทที่เกาะบาหลีนะ”
“ซะที่ไหนล่ะ” อันหรานระเบิดออกมา หล่อนไม่บอกยังไม่เท่าไหร่นี่ขนาดกล้าแต่งเรื่องโกหก “ถ้าเธอไปเกาะบาหลีจริง ฉันก็บินได้แล้ว ยายนั่นน่าโมโหจริงๆเลย”
เบลล์ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ได้แต่มองดูอันหรานที่กำลังคลุ้มคลั่ง “มีอะไรเหรอ”
“ซย่าเสี่ยวมั่วควรจะต้องไปบาหลีพร้อมฉัน แต่เธอกลับบอกกับคุณว่าเธอไปบาหลี คุณว่ามันอย่างไรล่ะ”
อันหรานมองหล่อนอย่างปวดหัว
เบลล์ตอบอย่างไม่แน่ใจ “ซย่าเสี่ยวมั่วโกหกฉัน”
อันหรานพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ “ชื่อฉันคือ ‘โอลิเวอร์หญิงชราที่อยู่ในดินแดนพ่อมดแห่งออซ’”
เดิมทีเรื่องนี้ทำให้ทุกคนเครียดอยู่แต่พอได้ยินอันหรานพูดแบบนี้ก็กลายเป็นเรื่องสนุกขึ้นมาทันที เบลล์เอ่ยถาม
“อย่างนั้นทางประธานเหยียนล่ะ”
อันหรานส่ายหน้า “ไม่รู้สิ บางทีถ้าซย่าเสี่ยมั่วแกล้งบีบน้ำตาต่อหน้าประธานเหยียน เรื่องก็คงจะเป็นฉันที่โดนด่าอยู่คนเดียวล่ะมั้ง”
เบลล์เดินมาตบบ่าหล่อน พร้อมเอ่ยปลอบ “ซย่าเสี่ยวมั่วคงโดนฉันเซ้าซี้เลยต้องเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างล่ะมั้ง ช่วงนี้เธอก็ดูไม่ค่อยร่าเริงไปเที่ยวพักผ่อนบ้างก็คงดี”
อันหรานขยี้จมูก หันไปมองเบลล์ด้วยท่าทีจริงจัง “คุณรู้ไหมว่าเพื่อนสนิทซย่าเสี่ยวมั่วคือใคร เธอจะไปร่วมงานแต่งของใคร”
เบลล์ส่ายหน้า เธอไม่สนใจเรื่องการแต่งงานของคนอื่นอยู่แล้ว
“งานแต่งสวีรั่วชีกับสวีอันหราน” อันหรานค่อยๆพูดออกมาทีละคำ “ถ้าเธอไม่ไปงานแต่งครั้งนี้มีหวังล่มแน่ๆ”
เบลล์พอได้ยินเรื่องนี้มาอยู่บ้างเหมือนกัน แต่พวกเรื่องการแต่งงานของตระกูลใหญ่แบบนี้มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วอีกสักพักข่าวก็เงียบ แต่เธอก็ไม่คิดว่าจะดันมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
“อย่างนั้นจะบอกกับประธานสวีอย่างไรดี”
อันหรานกอดตัวเองแน่น รีบชิ่งให้เบลล์ “คุณเป็นคนอนุมัติวันหยุด ไม่เกี่ยวกับฉันซะหน่อย”
“คุณนี่มัน…” เบลล์โมโหจนขำออกมา ผลักหล่อนเบาๆ “คุณก็ทำเป็นไม่รู้เรื่องล่ะกัน ฉันก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย”
อันหรานพยักหน้า ยังไม่รู้ว่าซย่าเสี่ยวมั่วจะตามไปทีหลังหรือเปล่า เธอมาตีโพยตีพายอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นมา
“เดี๋ยวฉันลองติดต่อยายนั่นอีกรอบก่อน ไม่หาเรื่องให้ฉันนี่จะตายสินะ”
ตอนที่ 524 สติหลุดลอย
ซย่าเสี่ยวมั่วไม่คิดว่าจะมีระบบทำความร้อนที่พื้นจริงๆ พอเปิดประตูเข้าไปเธอก็ทิ้งกระเป๋าไว้ที่ตื้นพร้อมกับล้มตัวลงนอนบนพื้นห้อง
ลำพังแค่สายทำความร้อนไม่พอให้ความอบอุ่นหรอก แต่นี่มีระบบทำความร้อนที่พื้นเธอนี่ช่างโชคดีจริงๆ
“ฮูลาลา ฮูลาลาลาฮูลาลา…” ซย่าเสี่ยวมั่วร้องทำนองเพลง ‘ต้าฉางจิน’[1] ออกมาอย่างมีความสุข ภายในดังก้องไปด้วยเสียงร้องเพลงของเธอ
เมื่อร้องจนเหนื่อยก็แทบจะหลับไปบนพื้นอุ่นๆ ขณะที่เธอกำลังสะลึมสะลือก็รู้สึกว่าโทรศัพท์สั่น จึงหยิบออกมาจากกระเป๋ากางเกง
อันหรานโทรไปหาสี่สายแต่ก็ยังไม่มีคนรับสาย จึงหันไประบายกับเบลล์ “ยายงั่งนั่นไม่รู้ทำอะไรอยู่ ไม่รับสายฉันเลย”
เบลล์ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี “เดี๋ยวสักพักค่อยโทรไปใหม่ก็ได้ ตอนนี้เธอคงนอนหลับไปแล้ว”
“นอนกับใคร ถ้าหล่อนกล้าไปนอนกับคนอื่น ฉันจะเปลี่ยนไปใช้นามสกุลหล่อนเลย” อันหรานเอ่ยอย่างมั่นใจ แล้วโทรหาหล่อนต่อ ในที่สุดซย่าเสี่ยวมั่วก็ยอมรับสายในครั้งที่แปด
“ฮัลโหล” แค่ล้วงโทรศัพท์ออกมาก็ใช้แรงไปเยอะแล้ว ซย่าเสี่ยวมั่วค่อยๆคลานจากพื้นไปนั่งบนโซฟา ตอนนี้เธอทั้งเหนื่อยทั้งง่วง
อันหรานได้ยินเสียงหล่อนก็นึกว่าหล่อนกำลังหลับอยู่จริงๆ จึงเอ่ยถามอยากแปลกใจ ”เธอหลับอยู่เหรอ”
“รู้ว่าฉันนอนอยู่ก็ยังจะโทรมา น่ารำคาญจริงๆ” ซย่าเสี่ยวมั่วขมวดคิ้วเอามือปัดสายเสื้อที่อยู่ตรงจมูกออก
“ฉันจะนอน เธอโทรมาทำไม!”
“เธอว่าฉันโทรมาทำไมล่ะ ตอนนี้เธออยู่ไหน”
“ไม่รู้” ซย่าเสี่ยวมั่วคิดดูแล้วว่าหากบอกออกไปคงไม่ดีแน่ จึงแกล้งทำเป็นตีมึน “เดี๋ยวอีกสองวันฉันจะไปเกาะบาหลีเอง เธอไม่ต้องห่วง”
“ถ้าเธอกล้าโกหกฉันคงรู้นะว่าผลลัพธ์มันคืออะไร” อันหรานยิ้มอย่างมีเลศนัย
ซย่าเสี่ยวมั่วไม่มีอะไรจะต้องกลัวแล้ว ขนาดสวีรั่วชีตอนนี้เธอยังไม่กลัวเลย ถ้าจะเพิ่มอันหรานอีกสักคนคงไม่เป็นไร “ฉันรู้แล้ว ให้ฉันนอนต่อได้หรือยัง”
อันหรานกลัวหล่อนทำเสียเรื่อง จึงกำชับออกไปอย่างกังวล “เธอระวังตัวหน่อยนะ เธอคงไม่อยากให้สวีรั่วชีแต่งออกไปอย่างโดเดี่ยวใช่ไหม”
“ฉันรู้แล้วน่า” ซย่าเสี่ยวมั่วเริ่มรำคาญใจ ไม่ใช่เธอไม่อยากไปเสียหน่อย ถ้าไปได้เธอก็อยากไปเห็นด้วยตาของตัวเอง แต่ตอนนี้อาการเมาเครื่องของเธอทำให้เธอไม่กล้าไปแล้ว
อันหรานเองก็รู้ดีว่าถ้าเพื่อนตัดสินใจอะไรไปแล้ว ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรก็คงเปลี่ยนใจหล่อนไม่ได้ ต่อให้เธอพูดไปก็ไม่มีประโยชน์เท่ากับหล่อนคิดได้ด้วยตัวเอง จึงไม่รบกวนการนอนของเพื่อนต่อ “อย่างนั้นเธอนอนต่อเถอะ กลับมาอย่าลืมเอาของฝากมาด้วยนะ”
“อือน่า” ซย่าเสี่ยวมั่ววางสายแล้วเหวี่ยงโทรศัพท์ไปไว้อีกทาง จากนั้นก็นอนหลับอยู่บนโซฟา
ในความฝัน สวีรั่วชีในวัยเยาว์ สวมชุดกระโปรงสีดำกำลังเล่นโหนบาร์อยู่ หล่อนหันมายิ้มให้ซย่าเสี่ยวมั่ว พริบตาเดียวก็เปลี่ยนเป็นภาพตอนที่พวกเธอเรียนอยู่มหาวิทยาลัย วิชาเรียนของซย่าเสี่ยวมั่วมีไม่เยอะเธอจึงมักจะไปรอสวีรั่วชีเลิกเรียนที่หน้าห้องทดลองทำแลบ ทั้งคู่กินข้าวเช้าด้วยกัน ไปเที่ยว ไปช็อปปิ้งด้วยกัน จากนั้นภาพก็ตัดมาเป็นตอนภาพที่สวีรั่วชีกำลังอยู่ในชุดแต่งงานมองมาทางเธอแล้วยิ้มให้ จากนั้นเอ่ยเสียงเบา “มั่วมั่ว ขอให้เธอค้นพบความสุขของตัวเองนะ”
ภาพเหตุการณ์ในอดีตและภาพเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคตซ้อนทับกันไปมาในความฝันของซย่าเสี่ยวมั่ว บางภาพชัดเจนบางภาพเลือนรางราวกับว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นมากว่ายี่สิบปีแล้ว
ซย่าเสี่ยวมั่วอยากลืมตาตื่นขึ้นแต่ก็ทำไม่ได้ สุดท้ายก็รวบรวมสติดึงตัวเองออกจากภวังค์แห่งความฝัน และเมื่อตื่นขึ้นก็ปวดหัวราวกับหัวจะระเบิด
——
[1] ต้าฉางฉิน ทำนองเพลงประกอบซีรีย์เกาหลีเรื่องแดจึงกึม