ตอนที่ 527 อาศัยช่วงนี้จัดการให้เสร็จ
หลังจากลงมาจากเครื่อง เหยียนเค่อก็เอ่ยลาอันหราน แต่ก่อนไปก็ยังไม่วายกำชับ “ถ้าเธอมีเวลาก็ไปอยู่เป็นเพื่อนสวีรั่วชีหน่อย ตอนนี้ซย่าเสี่ยวมั่วไม่อยู่คงต้องรบกวนเธอหน่อย”
อันหรานพยักหน้า ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ต้องไปอยู่เป็นเพื่อนสวีรั่วชีอยู่แล้ว ยิ่งโดยเฉพาะตอนนี้ที่ซย่าเสี่ยวมั่วดันไม่อยู่ด้วย
ผู้ช่วยพาเหยียนเค่อมาเจอสวีอันหรานที่โรงแรมก่อน
สวีอันหรานที่ตั้งหน้าตั้งตารอดูบรรยากาศระหว่างคนทั้งคู่อยู่ กลับพบว่ามีเหยียนเค่อมาแค่คนเดียวไร้วี่แววของซย่าเสี่ยวมั่ว
“ซย่าเสี่ยวมั่วล่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ หรือเขาวางแผนตรงไหนผิดไป
เหยียนเค่อไม่ตอบ เดินลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปในห้องพัก ถอดสูทออกโดยไม่พูดอะไรทั้งสิ้น
“เธอไม่ได้ยั่วโมโหนายอีกใช่ไหม หรือว่านายโมโหจนทิ้งเธอไว้ที่สนามบิน” สวีอันหรานเดา แต่ยิ่งคิดก็ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้
สวีอันหรานวอแวอยู่ครู่หนึ่ง ก็พบว่าเหยียนเค่อเริ่มแกะกระดุมเสื้อของตัวเองแล้ว จึงสูดหายใจลึก รีบคว้าสูทมาบังหน้าอกตนไว้ “นายคงไม่ได้เพิ่งค้นพบว่าที่จริงคนที่นายรักคือฉันหรอกใช่ไหม”
มือที่กำลังปลดกระดุมเสื้อของเหยียนเค่อชะงัก ถ้าเขาไม่เห็นแก่ว่าพรุ่งนี้เพื่อนต้องเป็นเจ้าบ่าวใบหน้าไม่ควรมีร่องรอยอะไรอยู่นะ เขาคงจะเข้าไปต่อยให้มันหยุดเพ้อเสียสักหมัด
“คนที่ฉันรักคือเสี่ยวชี แต่ถ้านายถ้านายอยากได้ฉันจริงๆ ฉันก็ไม่ใช่ว่าจะรับไม่ได้นะ”
“ไสหัวออกไปเลย” เหยียนเค่อเปลี่ยนชุดเป็นชุดลำลอง “ฉันจะนอนแล้ว”
“นาย นาย” สวีอันหรานชะงักไปนิดหนึ่ง จากนั้นก็รีบเอ่ยต่อ “นายไม่ต้องพูดตรงขนาดนั้นก็ได้นี่ แค่นายแอบ บอกใบ้ฉันก็รับรู้แล้ว”
“ฉันบอกว่าให้ออกไป” หลายวันมานี้เขาเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ยิ่งพอรู้ว่าซย่าเสี่ยวมั่วยังไม่มาก็ยิ่งหมดกำลังใจ ตอนนี้จึงอยากจะนอนพักอย่างเดียว
สวีอันหรานเห็นว่าเพื่อนไม่ได้อยู่ในอารมณ์จะล้อเล่นได้ จึงเริ่มพูดเข้าเรื่อง “เกิดอะไรขึ้น นายไม่ได้มาพร้อมกับซย่าเสี่ยวมั่วgหรอ”
“นายไปหาเมียนายเดี๋ยวก็รู้เองแหล่ะ” เหยียนเค่อขี้เกียจพูดเยอะ กอดผ้าห่มเตรียมนอน
แต่ว่าตอนนี้สวีอันหรานไม่สามารถไปพบหน้าเจ้าสาวได้จึงทำได้เพียงวอแวกับเพื่อน
“ตอนนี้ฉันเจอหน้าเสี่ยวชีไม่ได้”เขาตอบอย่างไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรมาก
เหยียนเค่อพูดเปลี่ยนเรื่อง “ทางนี้จัดเตรียมเสร็จหมดแล้วหรือไง”
“แน่นอน สมบูรณ์แบบ รอแค่พรุ่งนี้อย่างเดียว” สวีอันหรานที่ถูกชักจูงให้เปลี่ยนเรื่องก็ไม่ได้เอ่ยถามเรื่องเดิมต่อ
“ทางเมือง N เป็นอย่างไร นายจัดการเรียบร้อยเกือบหมดแล้วสินะ”
“อืม”
พวกผู้มีอิทธิพลในเมือง N ต่างก็คิดจะฉวยโอกาสตอนที่ YAN กับตระกูลสวีไม่มีคนคุม กะหวังจะจัดการพวกเขา แต่ก็เป็นไปตามที่คาด ต่างถูกเหยียนเค่อจัดการไปกว่าครึ่ง ต่างหมดอำนาจกันไปหมด คงจะมีปัญญาทำอะไรไปอีกนานทีเดียว
“ไม่คิดว่า ได้แต่งงานแถมยังจะได้อยู่สบายๆไปเป็นปี” สวีอันหรานเอ่ยอย่างโล่งใจ
เขาไม่รู้ว่าเสียเวลาต่อสู้กับคนพวกนั้นไปกี่ปีแล้ว ปีนี้ในที่สุดก็จะจบเสียที
เหยียนเค่อเอาหน้าถูกับผ้าห่ม เตรียมจะหลับ เอ่ยนิ่งๆ “พรุ่งนี้ฉันไปร่วมงานพอเป็นพิธี ตอนบ่ายคงกลับเลย”
สวีอันหรานยังสงสัยอยู่ว่าระหว่างเหยียนเค่อกับซย่าเสี่ยวมั่วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ถามอย่างไรก็ไม่ได้คำตอบ
“นายไม่ได้มาเที่ยวนานแล้วนะ นายชอบที่นี่ไม่ใช่เหรอ” สวีอันหรานเป็นกังวลจริงๆ เมื่อก่อนเพื่อนตนไม่เคยเป็นแบบนี้
“เธอไม่อยากเห็นหน้าฉัน” เหยียนเค่อเอ่ยเสียงแผ่ว ในใจเจ็บแปลบๆ แต่นี่มันคือความจริง
สวีอันหรานตกใจจนแทบจะโพล่งออกไป แต่ยังฉลาดที่ไม่ได้ถามออกไปต่อ
ตอนที่ 528 บังคับข่มขู่
สวีรั่วชียังคงตั้งหน้าตั้งตาคอยซย่าเสี่ยวมั่วมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ แต่ปรากฏว่าคนที่มากลับมีแค่อันหราน
อันหรานเห็นท่าทางดีใจของสวีรั่วชีก็รู้สึกผิด
“ซย่าเสี่ยวมั่วล่ะ” สวีรั่วชีมองไม่เห็นใครเดินตามหลังอันหรานมาจึงเอ่ยถามอยากแปลกใจ
แม้อันหรานจะไม่อยากทำลายความสุขของสวีรั่วชี แต่ก็คงไม่สามารถรอให้ถึงพรุ่งนี้ก่อนแล้วค่อยบอกได้ จึงฝืนบอกออกไป “ซย่าเสี่ยวมั่วไม่ได้มา”
“ฮะ?” สวีรั่วชีไม่เข้าใจความหมายที่อันหรานพูด “ไม่มาแล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” อัหรานแบมือ เอ่ยอย่างจนปัญญา
“ฮะ?!” น้ำเสียงของสวีรั่วชีเริ่มเปลี่ยน เอ่ยอย่างโมโห “ซย่าเสี่ยวมั่วอยากตายหรือไงนะ”
อันหรานส่ายหัว “ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เธอบอกว่าจะมาพรุ่งนี้”
“ถ้าเธอไม่มาชาตินี้ก็ไม่ต้องมาเจอหน้ากันอีกเลย” สวีรั่วชีข่มความโกรธไว้ในใจอดทนรอซย่าเสี่ยวมั่วเดินทางมา
อันหรานแอบปาดเหงื่อแทนซย่าเสี่ยวมั่วอยู่ในใจ แต่ก็วอนหาที่ตายเองไม่ใช่หรือไง ไปเที่ยวช้าไปสองสามวันก็ไม่เห็นเป็นไร ต้องดันวอนหาเรื่องเลือกช่วงเวลานี้ไปเที่ยว
“โทรหาหล่อนติดไหม” สวีรั่วชีลูบโทรศัพท์ในมือ เอ่ยถามก่อน ถ้าเกิดโทรหาไม่ติดจะได้ไม่ต้องเปลืองแรงเสียเวลาโทรไป
“ได้ ฉันก็โทรหาหล่อน หลังจากที่หล่อนไปแล้ว”
สายจากสวีรั่วชีที่โทรไปก็ทำให้ซย่าเสี่ยวมั่วเลิกลังเลแล้วตัดสินใจได้เด็ดขาดเสียที
“ฮัลโหล” ซย่าเสี่ยวมั่วรับสายเพื่อน เอ่ยเสียงอ่อน “เสี่ยวชี”
สวีรั่วชีก็ไม่อยากโมโหซย่าเสี่ยวมั่วในช่วงเวลาดีๆแบบนี้ อีกอย่างก่อนหน้านี้ซย่าเสี่ยวมั่วอารมณ์ไม่ดีเธอก็รับรู้ จึงเอ่ยเสียงอ่อนลง “เธอจะมาตอนไหน”
“ฉัน…” ความจริงซย่าเสี่ยวมั่วกะจะไปพรุ่งนี้ตอนเช้ามืด แต่สวีรั่วชีโทรศัพท์มาแล้ว เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่น
“คืนนี้ก็ถึงแล้ว”
“อืม อย่างนั้นฉันจะรอ” สวีรั่วชีเอ่ยพูดเสียงปกติ แต่ขนาดมีโทรศัพท์กั้นอยู่เธอยังสัมผัสได้ถึงแรงกดดันจากน้ำเสียงของเพื่อนได้เลย
“ฉันรู้แล้ว คืนนี้ไปถึงก่อนสามทุ่มแน่นอน”
ซย่าเสี่ยวมั่วอยู่ที่โรงแรมมาเป็นอาทิตย์แล้ว เธอลังเลอยู่นานว่าจะจะทรมานนั่งเครื่องบินไปร่วมงานแต่งที่มีครั้งเดียวในชีวิตของสวีรั่วชีดีหรือเปล่า การโทรมาของสวีรั่วชีเท่ากับเป็นการดักทางเธอไว้แล้ว เธอเก็บของเรียบร้อยก็รีบตรงไปยังสนามบิน
“ต่อให้เป็นเหยียนเค่อโทรไปก็คงไม่ทำให้หล่อนรีบมาขนาดนี้ได้” อันหรานพึมพำ ถึงแม้เธอจะเห็นใจเหยียนเค่อ แต่เหยียนเค่อเป็นผู้ชายแท้จะเป็นคนเริ่มโทรไปหาก่อนมันจะตายหรือไงนะ
สวีรั่วชีสะสางปัญหาน่าปวดหัวนี้ได้ อารมณ์ก็ดีขึ้น ได้ฟังที่อันหรานบ่นพึมพำก็ไปร่วมวงด้วย
“เหยียนเค่อไม่เห็นซย่าเสี่ยวมั่วอยู่บนเครื่องมีอาการอย่างไรบ้าง”
“ไม่แสดงอาการอะไรเลย” อันหรานลูบหน้าตัวเอง “ฉันกลัวแทบตาย ฉันนึกว่าเขาจะระเบิดเครื่องบินทิ้งเสียอีก”
“เครื่องบินเป็นของเขา เขาคงไม่วู่วามขนาดเสียเมียไปแล้วยังต้องทำลายอาวุธไปอีกล่ะมั้ง” เห็นได้ชัดว่าสวีรั่วชีกำลังสนุกอยู่บนความทุกข์ของคนอื่น “แล้วเขาได้พูดอะไรหรือเปล่า”
“เขาถามว่าซย่าเสี่ยวมั่วจะมาร่วมงานหรือเปล่า แต่ดูท่าทางเขาแล้วก็ไม่ค่อยดีเหมือนกัน” อันหรานเริ่มทำตัวเป็นหมอดู “ฉันว่าประธานเหยียนคงคิดว่าซย่าเสี่ยวมั่วไม่อยากเจอเขา”
สวีรั่วชีตบไหล่อันหรานเบาๆ เอ่ยอยากสนุก “แม่หญิง เธอน่าจะพูดถูกนะ”
อันหรานมองไปที่สวีรั่วชีอย่างไม่เข้าใจ สวีรั่วชีเห็นท่าทางนั้นแล้วก็นึกสนุกเอ่ยอธิบายให้หล่อนเข้าใจ “ซย่าเสี่ยวมั่วอาจจะไม่มาที่นี่ก็เพราะเหตุผลนี้ ส่วนเหยียนเค่อก็ดูเหมือนจะเข้าใจอย่างนั้น”
หญิงสาวขี้นินทาสองคนนั่งมองหน้ากันเองจากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ