บทที่19 ค่อยๆ ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ
เช้าวันต่อมา
หานหยู่เยนใส่กางเกงขาสั้นเสื้อแขนสั้น ผูกผมหางม้า ทั้งเนื้อทั้งตัวหอมมาก มีความเป็นวัยรุ่นเต็มตัว
ทุกๆ วัน เธอไปวิ่งที่ทะเลสาบหมิงเยว่
“ฟู่!”
หานหยู่เยนหยุดวิ่ง ก่อนจะเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก
ด้านข้าง โล่เฉินส่งน้ำให้เธอดื่ม พลางถาม: “ทุกวันคุณต้องมาวิ่งที่นี่ กำลังดูเขาจื่อเช่วเหรอ”
“ล้าเหรอ นอกจากเขาจื่อเช่วยังจะให้มาดูอะไรอีก!”
หานหยู่เยนกลอกตามองบน ย่นจมูกนิดหน่อย “ตั้งแต่เมื่อปีก่อน ทุกวันมาวิ่งตามฉัน คุณคิดว่าฉันไม่รู้เหรอ คุณกลับหายใจไม่ทัน วิ่งตามไม่ทันสักที”
โล่เฉินลูบจมูกอย่างทำตัวไม่ถูก
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าหานหยู่เยนเกลียดเขามาก ดังนั้นเลยเอาแต่วิ่งอยู่ด้านหลัง วันนี้ตอนเช้า หานหยู่เยนเรียกเขามาวิ่งด้วยเป็นครั้งแรก ให้โล่เฉินรู้สึกดีอยู่ในใจ
“พูดไป วิ่งมานานขนาดนี้ ทำไมคุณถึงยังหน้าแดงหายใจไม่ทัน เด็กน้อยต้องมีร่างกายแข็งแรงสิ!”
“อันที่จริงเนี่ย คุณลองก็จะรู้ว่าฉันร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงแล้ว”
หานหยู่เยนรู้สึกไม่ดี แต่ก็เข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ เลยมีสีหน้าดูไม่ดี
โล่เฉินรีบเปลี่ยนหัวข้อพูด พลางมองด้านตรงข้ามทะเลสาบหมิงเยว่ก็คือเขาจื่อเช่ว พลางถาม: “คุณอยากอยู่คฤหาสน์บนเขาไหม?”
“ดูสิว่าคุณถามอะไรอยู่ มีใครในเมืองเจียงที่ไม่อยากอยู่บนเขาจื่อเช่วบ้าง คนที่อยู่บนนั้นต้องมีฐานะทางสังคมและภาพลักษณ์ดีมาก ความต้องการของคุณย่าก็คือซื้อคฤหาสน์บนเขาจื่อเช่ว ปลายตีนเขาก็ได้”
หานหยู่เยนมีสีหน้าวาดฝันสวย ก่อนจะถอนหายใจแล้ว “แต่ตีนเขาก็ต้องใช้เงินยี่สิบสามสิบล้าน ถึงจะขายสมบัติทั้งตระกูลหานไปแล้วก็ซื้อไม่ได้ ว่ากันว่ายอดเขานั้น ราคากว่าร้อยล้านเลย ถ้าซื้อคฤหาสน์บนยอดเขาได้ ก็ต้องเป็นคนที่รวยเป็นอย่างมาก!”
“รวยเป็นอย่างมากงั้นเหรอ?”
โล่เฉินพูดพึมพำ มุมปากก็มีรอยยิ้มขึ้นมา “ฉันมีกุญแจของคฤหาสน์ ถ้าสนใจเดี๋ยวฉันพาคุณไปดูได้นะ”
“โล่เฉิน ไม่ได้ว่าคุณมาหลายวันแล้ว คุณยิ่งดื้อมากขึ้นเรื่อยๆ ล้อเล่นอะไรอยู่เนี่ย!”
หานหยู่เยนกลอดตาไม่หยุด
ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ดังขึ้น หลิวเซียงหลันโทรมา
“แม่ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
“หานหยู่เยน เกิดเรื่องใหญ่แล้ว คุณย่าจะมาบ้านพวกเรา คุณไม่ได้ดูกลุ่มแชทของตระกูลเหรอ จะระเบิดอยู่แล้ว!”
“อะไรนะ!”
หลิวเซียงหลันลังเลและไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เลยรีบเร่ง “คุณไม่ต้องวิ่งแล้ว รีบกลับไปเถอะ ฉันรู้สึกร้อนใจ”
“ได้ ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้”
หลังจากวางสาย หานหยู่เยนก็รีบดูในกลุ่มแชท
มีข้อความเต็มไปหมดจริงๆ ด้วย
“เธอหานหยู่เยนทำได้ทุกอย่าง จนต้องให้คุณย่าเป็นคนไปเชิญเธอกลับไปที่บริษัท ไม่รู้จักเคารพเลย ไม่เหมาะกับการเป็นคนของตระกูลหาน!”
“เขาเก่งกาจอยู่แล้ว ประธานฟ่านน่ะนอกจากเธอแล้วก็ไม่ยอมทำอะไรด้วย เก่งจริงๆ เลย จับประธานฟ่านเอาไว้ได้อยู่หมัดเลย!”
“นั่นสิ ไม่รู้ว่าทำอย่างไร ถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนั้น มาให้หานหยู่เยนสอนสักหน่อย คนปกติแบบพวกเราก็ต้องเรียนด้วย!”
“ข่าวใหม่ๆ คุณย่าเริ่มออกเดินทางแล้ว!”
……
โล่เฉินมองท่าทีที่เครียดของหานหยู่เยน เลยปลอบ “ไม่ต้องกลัว มีฉันอยู่ด้วย”
“ไม่มีปัญหาอะไรจริงๆ เหรอ ถ้าเกิดว่าคุณย่าโกรธ……”
“ไม่หรอก เชื่อฉันสิ แต่คุณไม่ต้องกลับบ้าน เปลี่ยนเสื้อผ้าในรถ แล้วไปที่บริษัทเฉิงหยู่เพื่อหาประธานฟ่าน ฉันจะกลับบ้านไปรอย่ามา”
และก็ไม่รู้ว่าทำไม หานหยู่เยนมองสายตาที่เชื่อมั่นของโล่เฉิน ความเครียดนั้นก็หายไป เลยไม่ได้ถามอะไรต่อ
กลับมาที่บ้าน หลิวเซียงหลันสามีภรรยาและหานหยู่ถิงนั่งไม่ติดพื้น
“โล่เฉิน ทำไมคุณกลับมาคนเดียว หานหยู่เยนล่ะ?”
“ฉันมีแผนจัดการเอง”
หลิวเซียงหลันโกรธเป็นอย่างมาก “แม่จะมาถึงแล้ว คุณยังจะจัดการอะไรอีก คุณจัดการได้ดีไหม!ถ้าเกิดว่าเกิดอะไรไม่ดีขึ้น โล่เฉิน ฉันจะไม่ปล่อยคุณไปง่ายๆ แน่!”
“แม่ ไม่ต้องพูดแล้ว คุณย่ามาถึงแล้ว” หานหยู่ถิงมองโทรศัพท์ ก่อนจะพูดขึ้น
กบุ่มแชทของตระกูลหาน มีการประกาศอยู่
“ไม่มีใครไปรับคุณย่าที่ประตู กล้ามากจริงๆ เลย!”
“รนหาที่ตายเอง!”
“รอก่อนเถอะ คุณย่าต้องโกรธมากแน่เลย หานหยู่เยนฆ่าตัวตายชัดๆ อยากจะออกไปจากตระกูลหานสินะ!”
ที่หน้าประตูของเขต
คุณย่าหานมีสีหน้าเย็นชา และขึ้นมาบนชั้นหกโดยการพยุงของคนรับใช้ และมาถึงบ้านของหานหยู่เยนอย่างเหน็ดเหนื่อย
“แม่ คุณมาแล้ว!”
หานเจี้ยนเย่ หลิวเซียงหลันรีบยิ้มต้อนรับ
ในบ้านนั้นมีหลิวเซียงหลันที่เหมือนแม่เสือ ต่อหน้าคุณย่าหาน ทำเหมือนกับหนูเจอแมว เลยไม่กล้าหายใจดังด้วยซ้ำ
“คุณย่า”
“หยู่ถิง คุณกลับมาเมื่อไหร่?”
“เมื่อวาน”
คุณย่าหานเดินเข้าไปในห้อง นั่งลงพลางถาม: “หานหยู่เยนล่ะ ทำไมถึงไม่เห็นเลย?”
“คุณย่า หานหยู่เยน-ม่อยู่บ้าน” โล่เฉินออกมาจากห้อง
หานหยุนเทาพูดเสียงเย็นชา “โล่เฉิน ที่นี่คุณมีสิทธิ์พูดด้วยเหรอ รีบพาหานหยู่เยนออกมา คุณย่ามาแล้วยังจะมาวางท่าอีก!”
โล่เฉินไม่ได่สนใจ ก่อนจะเทน้ำชาให้คุณย่าหาน
พลางมองมาทางคุณย่าหาน และค่อยๆ พูดทีละคำ “คุณย่า หานหยุนเทาเป็นหลานของคุณ หานหยู่เยนเองก็เป็นหลานของคุณ ฉันไม่รู้ว่าหานหยุนเทาพูดอะไรกับคุณ แต่คุณไม่แยกแยะอะไรก็ไม่ให้หานหยู่เยนเป็นคนรับผิดชอบแล้ว มันออกจะใจร้ายไปสักหน่อย ตอนนี้เลยทำให้สัญญาจบลง คุณคิดว่า เรื่องนี้ใครเป็นคนทำผิด?”
“ไอสารเลว คุณเป็นใคร ถึงได้กล้ามาสงสัยคุณย่า ใครให้คุณกล้าขนาดนี้!” หานหยุนเทาชี้ไปก่อนจะด่าออกมา
หานเจี้ยนกั๋วเองก็พูดอย่างเย็นชา: “มันยังไม่ถึงเวลาคุณมาอวดดี รีบให้หานหยู่เยนออกมาเร็ว”
โล่เฉินกลับเหมือนถูกตะปูตอกเอาไว้ที่ขา ไม่ขยับเลย
หลิวเซียงหลันรู้สึกร้อนใจ แต่หานหยู่เยนไม่อยู่ที่บ้านจริงๆ เธอเองก็ไม่มั่นใจว่าโล่เฉินจัดการอะไรไว้ ดังนั้นเลยไม่รู้จะพูดอะไร
“น่าสนใจ”
ทันใดนั้น คุณย่าหานก็มีรอยยิ้มขึ้นมา “คุณจิกกัดฉันขนาดนี้ ไม่กลัวว่าฉันจะไม่ทำโปรเจคนี้เหรอ”
“คุณย่าคุณไม่มีทางทำแบบนั้น บริษัทเฉิงหยู่ได้กำไรจากโปรเจคนี้เป็นอย่างมาก ทำให้ตระกูลหานขึ้นเป็นตระกูลระดับหนึ่งได้ ถึงตอนนั้น ก็จะซื้อคฤหาสน์บนเขาจื่อเช่วได้ คุณย่า คุณว่าจริงไหม”
โล่เฉินยิ้มตาเป็นสระอิพลางมองคุณย่าหาน จากนั้นคนด้านหลังมีสีหน้าเปลี่ยนไป
ทั้งสองคนสบตากัน แล้วบรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นเครียดไป
สุดท้าย คุณย่าหาก็หัวเราะ พลางพึมพำเสียงเย็นชา: “ไม่ได้เจอตั้งนาน เปลี่ยนไปมากจริงๆ หานเจี้ยนเย่ หานหยู่เยนพวกเขาไม่กล้าไม่เคารพฉัน ทั้งหมดเป็นแผนของคุณใช่ไหมล่ะ”
“ไม่เลวเลย”
เป้าหมายก็เพื่อให้หานหยู่เยนเป็นคนรับผิดชอบเหมือนเดิมเหรอ?เลยต้องทำอะไรร้ายๆ แบบนี้ ทำฉัน หรือทำตระกูลหานเหรอ?”
โล่เฉินมองหานหยุนเทา
“คุณมองฉันทำไม!”
“คุณย่า ข่าวลือข้างนอกน่ะฉันว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับหลานของคุณอย่างแน่นอน ให้หานหยู่เยนเป็นคนรับผิดชอบต่อนั้นมันง่ายมาก แต่ข่าวลือนั้นมันลบยาก”
คุณย่าหานขมวดคิ้ว พลางถาม “คุณหมายความว่าอย่างไร?”
โล่เฉินมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างจริงจัง เสียงก็หนักและจริงจังมากกว่าเดิม “ฉันอยากให้หานหยุนเทาออกมายอมรับว่าเขาเป็นคนปล่อยข่าวเพื่อทำลายหานหยู่เยน ในขณะเดียวกันคุณย่าเองออกมาพูดด้วย เพื่อไม่ให้หานหยุนเทาอยู่ในตำแหน่งรองประธาน เพื่อเป็นการลงโทษ ถึงจะไม่ทำให้คนนอกหยุดพูดได้ แต่อย่างน้อยก็ลดความกดดันไปได้!”
“คุณบ้าเหรอ!”
หานหยุนเทามีสีหน้ารับไม่ได้ พลางก่นด่าในใจ:ไอสวะนี่จะให้ตัดออกจากตำแหน่งรองประธาน เขากล้าขนาดนั้นได้อย่างไร!
“คุณย่า จะมากจะน้อยฉันว่าคุณรู้ดีอยู่แก่ใจ แน่นอนว่าฉันเองก็ไม่ใจร้ายมากเกินไป หานหยุนเทาออกจากตำแหน่ง ไม่ได้กลับมาภายในหนึ่งปี หนึ่งปีหลังจากนั้นคุณคิดจะทำอะไรต่อ ก็แล้วแต่เลย”
ในตอนนี้เอง แววตาของโล่เฉินนั้นมันแหลมคมมาก เหมือนกับเปลี่ยนเป็นคนละคน
“หนึ่งปี แค่ปีเดียว ฉันจะให้หานหยู่เยนใช้โอกาสนี้พัฒนาตัวเอง เชื่อเลยว่าตระกูลหานจะแข็งแกร่งขึ้นเพราะหานหยู่เยนแน่นอน!”
“คุณย่า ขอให้คุณตอบด้วย”
ในห้องนั้นมันเงียบสงัด
ทุกคนต่างงงเป็นไก่ตาแตก หานเจี้ยนเย่สามีภรรยาต่างสับสนลังเล เมื่อเห็นหลิวเซียงหลันที่มองโล่เฉินอย่างไม่สบายอารมณ์ ในตอนนั้นเองก็รู้ได้ว่าโล่เฉินยังมีสิทธิ์ในการพูดจา
“บ้าไปแล้ว สวะอย่างคุณ คุณย่าเป็นคนระดับไหน คุณกล้ามาขู่คุณย่า ควรตาย!”
หานหยุนเทาพูดเสียงดังอย่างทระนงต่อไป: “คุณย่า คุณต้องดูให้ดีนะ ฉัน……”
“หุบปาก!”
“ห๊ะ?”
“ทำตามที่โล่เฉินบอก!”
ผ่าง!
ในตอนนั้นเอง หานหยุนเทาเหมือนถูกฟ้าผ่า
หานเจี้ยนกั๋วเองก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป ก่อนจะคุกเข่าลงขอร้อง “แม่ หานหยุนเทาเป็นหลานของคุณนะ ทำไมถึงช่วยคนนอก แม่ คิดดีๆ เถอะ!”
“ฉันตัดสินใจแล้ว ใครกล้าขัด ก็ออกจากตระกูลหานไป!”
พูดอย่างแน่วแน่
หานหยุนเทามีสีหน้าซีดเซียว หานเจี้ยนเย่สามีภรรยาวางใจลงได้ และยกย่องโล่เฉิน เพราะพนันถูกแล้ว
ในกลุ่มแชท เมื่อมีข้อความขึ้นมา ก็ไม่มีใครตอบอะไร
ใครๆ ก็รู้ ว่าตระกูลหานกำลังจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากแล้ว
อีกหนึ่งปีข้างหน้า หานหยู่เยนจะเป็นคนที่มีอำนาจในตระกูลหานนอกเหนือจากคุณย่าหาน ก่อนหน้านี้พวกญาติที่จี้หานหยู่เยน จะต้องรู้สึกไม่มั่นคงอย่างแน่นอน
มีคนเริ่มส่งของขวัญมา เพื่อเป็นการขอโทษแล้ว
“ขอบคุณ คุณย่า!”
โล่เฉินหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะโทรหาหานหยู่เยน “ฮัลโหล หานหยู่เยน คุณย่าอยู่ที่นี่ ทางฝั่งคุณเป็นอย่างไรบ้าง?”
“คุณย่า ฉันอยู่ที่บริษัทเฉิงหยู่ กำลังร่วมงานกับประธานฟ่านอยู่ คนที่จะร่วมงานกันต่อไป ก็คือพวกเราตระกูลหาน!”
คุณย่าหานหายใจแรงๆ ก่อนจะจับไม้เท้าขึ้นมา
เมื่อเดินมาตรงประตู เธอก็หยุดลง โดยไม่ได้หันกลับมา ก่อนจะพูดเสียงเย็นชาว่า “ความรู้สึกนี้ฉันไม่ชอบเลย นี่เป็นครั้งแรก แล้วก็จะเป็นครั้งสุดท้าย!”
“ขอบคุณคุณย่าที่ใจกว้าง”