จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี – ตอนที่ 22

ตอนที่ 22

บทที่ 22 คืนนี้คุณเป็นนางเอก

วันที่สิบสองเดือนแปด เวลากลางคืน

ชุมชนไฮโซแห่งหนึ่งในเมืองเจียง ในบ้านสมัยใหม่หลังหนึ่ง

“แม่คะ สถานการณ์ตรงเขาเจื่อเช่วเป็นยังไงบ้างคะ?”

หานหยุนซีที่สวมชุดแต่งงานสีขาวลายเส้นไหมทอง ตรงหน้าอกประดับด้วยเพชรสองเม็ด แต่งหน้าอย่างงดงาม ยืนอยู่หน้ากระจกแกว่งกระโปรงไปมา

“ทางนั้นยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆเลย เมื่อดูจากภาพที่โดรนถ่ายมา คฤหาสน์สูงศักดิ์บนเขาได้ตกแต่งเรียบร้อยหมดแล้ว กลีบกุหลาบเต็มพื้น รุ่งโรจน์สดใส!”

“คุณชายของตระกูลที่ยิ่งใหญ่ยังไม่ปรากฏตัวอีกเหรอคะ?”

“สาวน้อยตื่นเต้นอะไรกัน ตระกูลที่สูงศักดิ์ขนาดนี้ ต้องการหน้าตาต้องการให้ผู้คนสนใจ เหล่าตระกูลต่างๆในเมืองเจียงเทียบไม่ได้เลย คุณชายคนนั้นคงจะจงใจทำให้คนในเมืองเจียงค่อยๆรอไป แบบนี้ถึงจะได้แสดงฐานะออกมาอย่างเด่นชัด!”

คุณนายบอกให้หานหยุนซีไม่ต้องใจร้อน ตัวเธอเองนั้นกลับเดินไปเดินมาในห้อง ไม่ได้หยุดเลยแม่แต่นาทีเดียว “สาวน้อย ในที่สุดบ้านเราก็จะลืมตาอ้าปากได้แล้ว รอให้หนูแต่งเข้าตระกูลมหาเศรษฐีก่อน ต่อให้เป็นคุณย่าหานก็ต้องดูสีหน้าของลูก แม่ทนพอแล้วกับอีแก่ที่ไม่ยอมตายเสียที!”

“วางใจเถอะค่ะ นางเอกของเมืองเจียงในคืนนี้ ถูกกำหนดมาแล้วว่าเป็นหนู”

หานหยุนซีสีหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและมั่นใจ

ภาพดังกล่าวนี้ได้ปรากฏบนใบหน้าของลูกสาวตระกูลหานทุกคน พวกเธอต่างแต่งเนื้อแต่งตัวให้ตัวเองอย่างสวยงาม รอให้คนของทางเขาจื่อเช่วมาเชิญ

แม้แต่หญิงสาวที่ถูกกำหนดแล้วว่าไม่มีสิทธิ์ เช่นเดียวกันพวกเธอก็เต็มไปด้วยความหวังและความปรารถนา

เมืองเจียง ชุมชนที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง ในบ้านหลังหนึ่งในตึกแห่งหนึ่ง

“แม่คะ แม่ว่าหนูสวยมั้ยคะ?”

หานหยู่ถิงทำท่าคารวะ เมื่อเทียบกับชุดแต่งงานแบบตะวันตกของหายหยุนซี ชุดที่เธอใส่เป็นชุดแต่งงานแบบชาวจีน

สดใสและงดงาม สง่าผ่าเผย

“สวยมาก ลูกสาวแม่สวยมาก หลิวเซียงหลันยิ้มไม่หุบเลย แล้วหันหน้ามาถาม ‘เจี้ยนเย่’ฝั่งเขาจื่อเช่วมีการเคลื่อนไหวอะไรมั้ย?

“ไม่มี คุณชายยังไม่ปรากฏตัวเลย!”

หลิวเซียงหลันมองดูเวลา แล้วพูดพึมพำ “แค่หกโมงกว่าเอง ยังเช้าอยู่เลย ตระกูลใหญ่ก็แบบนี้แหละมักจะวางมาด เพื่อจะแสดงฐานะที่สูงศักดิ์ออกมา รอให้หยู่ถิงแต่งเข้าไปก่อน บ้านเราก็จะลืมตาอ้าปากได้แล้ว มากมายไปด้วยเงินทอง!”

เวลานี้ หานหยู่เยนเดินออกมาจากห้องนอน

“พี่คะ ช่วยดูหน่อยว่าชุดนี้ เป็นไง?”

“ก็ไม่เลว!”

หานหยู่เยนกวาดสายตาไปรอบหนึ่ง ดื่มน้ำไปหนึ่งอึกแล้วหัวเราะกล่าว: “พ่อคะ แม่คะ หยู่ถิง พวกเธอทำแบบนี้มันวุ่นวายไปแล้ว คุณชายของตระกูลไหนก่อนแต่งงาน จะไม่มาพบหน้าเจ้าสาวก่อนละ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ลูกสาวของตระกูลหานนะ

“เธอพูดอะไรเนี่ย ของขวัญงานวันเกิดของคุณย่าเธอลืมไปแล้วเหรอ นอกจากลูกสาวตระกูลหานยังจะเป็นใครได้อีก”

หลิวเซียงหลันพูดอย่างไม่เกรงกลัว “เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับความหมายของตระกูลใหญ่เขา ไม่แน่คุณชายตระกูลนั้นได้สืบข้อมูลของหยู่ถิงอย่างละเอียดแล้วก็เป็นได้ ไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากันเลย แต่งงานโดยตรง เผด็จการแบบนี้ นี่แหละถึงเป็นมาดที่คุณชายควรจะมี!”

“คุณชายเผด็จการ หนูชอบ” หานหยู่ถิงหัวเราะขึ้นมา

หานหยู่เยนส่ายหัวอย่างจำยอม ไม่ได้พูดอะไรมาก ไม่อยากขัดความฝันที่สวยงามของคนในครอบครัว หันหลังเดินกลับไปที่ห้องนอนจัดการเอกสารของบริษัทต่อ

ในห้องรับแขก โทรศัพท์ดังขึ้น

“หืม?”

หานหยู่ถิงมองดูโทรศัพท์มือถืออย่างขมวดคิ้ว “สายของโล่เฉิน โทรมาหาฉันทำไม?”

หลิวเซียงหลันฮึ่มอย่างเย็นชา: “นี่มันกี่โมงมันแล้ว นายนั่นยังเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอก รีบให้เขากลับมาเลย เดี๋ยวแม่ต้องสั่งสอนเขาดีๆหน่อยแล้ว!”

“ฮาโหล โล่เฉิน โทรมาหาฉันทำไม?”

ปลายสายอีกฝั่ง เสียงของโล่เฉินหนาและมีพลัง “พี่สาวเธออยู่บ้านมั้ย?”

“อยู่สิ หาเขาก็โทรไปเบอร์ของเขาสิ โทรมาหาฉันทำไม ฉันยุ่งอยู่ วางแล้วนะ”

“เฮ้ยรอก่อน อยู่ข้างๆเธอหรือเปล่า?”

“ไม่อยู่!”

“งั้นก็ดีเลย ฉันมีเรื่องให้เธอช่วยหน่อย”

หานหยู่ถิงใบหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิด “มีอะไรก็รีบว่ามา”

“ไปบอกให้พี่สาวของเธอใส่ชุดที่สวยที่สุด แล้วไปที่สวนสาธารณะหลิงหู หากเธอถามขึ้นมาก็ไม่ต้องบอกว่าฉันเป็นคนบอกให้เธอไป ให้บอกไปว่าบริษัทเฉิงหยู่ได้จัดกิจกรรมที่สวนสาธารณะ”

“เรื่องนี้เหรอ?”

“ใช่แล้ว ขอร้องละ”

ฝั่งนี้วางสาย หลิวเซียงหลันก็รีบวิ่งไปที่ห้องนอน กล่าวอย่างเร่งรีบ: “หยู่เยน เร็วเข้า รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าสวยๆ…….ใช่ ชุดนี้แหละ ชุดราตรีสีดำ ดูแพงและมีสง่าราศี”

“แม่ แม่จะทำอะไรคะ?” หานหยู่เยนงงไปหมด

หานหยู่ถิงที่พิงอยู่ประตู แล้วกล่าว: “บริษัทเฉิงหยู่ได้จัดกิจกรรมที่สวนสาธารณะหลิงหู พี่คะ พี่รีบไปดูหน่อยเถอะค่ะ”

“เหรอ? โอเค”

หานหยู่เยนรีบแต่งหน้าแต่ตาอย่างรวดเร็ว แล้วก็ขับรถบีเอ็มออกไปจากชุมชน

ในบ้าน หานเจี้ยนเย่ถามอย่างสงสัย เมียจ๋า: “เรื่องของโล่เฉิน ทำไมคุณถึงได้กระตือรือร้นนัก?”

“ไม่เกี่ยวกับคนไร้ประโยชน์คนนั้นหรอก!”

ใบหน้าของหลิวเซียงหลันไม่สามารถคาดเดาได้ แล้วกล่าว “ตอนนี้ข้างนอกลือกันว่าหยู่เยนกับประธานฟ่านมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ เห่อๆ อันนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีเลย!”

“หมายความว่ายังไง? คุณคงไม่เชื่อว่าหยู่เยนเธอจะ……….”

“อันนี้ไม่สำคัญ” หลิวเซียงหลันขัดคำพูดของหานเจี้ยนเย่ แล้วกล่าว: “จริงๆแล้ว หากเป็นเรื่องจริงจะดีมาก หากหยู่เยนกับประธานฟ่านคบกัน ก็ไม่เลวนะ มูลค่าของประธานฟ่าน มากกว่าสมบัติของตระกูลหานเสียอีก!”

“เลอะเลือนแล้ว!”

หานเจี้ยนเย่โมโหอย่างมาก “คุณเป็นแม่ประสาอะไร ประธานฟ่านคนนั้นอายุจะสี่สิบแล้ว ลูกก็มีตั้งหลายคนแล้ว คุณกลับ……กลับจะให้ลูกไปเป็นเมียน้อย!”

“คุณเอะอะโวยวายอะไร ก็เป็นเพราะคุณไร้ประโยชน์ไง ไม่ได้เรื่อง แต่งงานกับคุณฉันนั้นซวยไปแปดชาติ ลำบากมาทั้งชีวิต ฉันไม่มีทางให้ลูกสาวเป็นเหมือนฉันเด็ดขาด เมียน้อยแล้วจะทำไม มีตำแหน่งก็คือบ้านใหญ่เหมือนกัน”

หลิวเซียงหลันยิ่งพูดยิ่งอารมณ์ยิ่งขึ้น สังคมสมัยนี้ ดูถูกความจนเขาไม่สนใจหรอกว่าจะรวยยังไง ขอเพียงมีเงินก็คือผู้ยิ่งใหญ่ ไม่สนหรอกว่าเงินของคุณนั้นมาจากไหน

“เอาล่ะ เอาล่ะ แม่ แม่อย่างโมโหเลย วันนี้เป็นวันมงคลเชียวนะ” หานหยู่ถิงรีบมาคลายสถานการณ์

“ก็ใช่ วันนี้เป็นวันมงคลของลูกสาวฉัน”

หลิวเซียงหลันมองไปที่หน้าของหานเจี้ยนเย่แล้วกล่าว “สังเกตภูเขาจื่อเช่วไว้ดีๆละ อย่าทำให้ลูกสาวเสียเรื่องละ!”

หานเจี้ยนเย่โดนด่าจนปิดปาก แล้วมองดูสถานการณ์ที่ถ่ายทอดสดในมือถือ

ทันใดนั้น ตาเขาก็ลุกวาว ตะโกนพูด: “ออกมาแล้วออกมาแล้ว!”

“อะไร?”

“คุณชายปรากฏตัวแล้ว อลังการอย่างมาก นั่งเครื่องบินส่วนตัวไปที่คฤหาสน์สูงศักดิ์ ยังไม่รู้ว่ารูปร่างหน้าตาเป็นยังไง”

หานหยู่ถิงกับหลิวเซียงหลันพุ่งเข้ามาดู คลิปที่ถูกถ่ายโดยโดรนถูกแชร์อย่างต่อเนื่อง เห็นเพียงเครื่องบินส่วนตัวลงจอดบนเขาจื่อเช่ว จากนั้นก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินลงมา

“ว้าว ช่างสง่างามมากจริงๆ” หานหยู่ถิงตะโกนอย่างตื่นเต้น

หลิวเซียงหลันเห็นรูปเงาของชายหนุ่มในภาพ เพราะบนเขาจื่อเช่วปกคลุมด้วยเมฆหมอก ภาพที่ถ่ายโดยโดรนก็ไม่ค่อยชัดเจนนะ

“ทำไมแม่รู้สึกว่า รูปเงานี้มันทำไมมันถึงคุ้นมากเลยละ?”

“แม่คะ อีกเดี๋ยวก็จะกลายเป็นเขยเล็กของแม่แล้ว จะไม่คุ้นเคยได้ยังไงละ!” หานหยู่ถิงยิ้มหน้าบานจนปากจะฉีกถึงหูแล้ว

หลิวหลันเซียงจึงไม่ได้คิดมาก แล้วกล่าว: “พระเอกถึงแล้ว ในไม่ช้านี้น่าจะให้คนมารับเจ้าสาวแล้ว”

เพิ่งจะสิ้นเสียงพูด เครื่องบินส่วนตัวลำนั้นก็ได้ถูกขับออกจากภูเขาจื่อเช่ว

“มาแล้วมาแล้ว!”

ในเวลานี้ หานหยู่ถิง หานหยุนซี และลูกสาวบ้านอื่นๆของตระกูลหาน ล้วนตื่นเต้นมากถึงมากที่สุด ในเวลาเดียวกันก็ยังมีความประหม่าและความกระวนกระวาย

อีกฝั่งหนึ่ง

หานหยู่เยนขับรถได้เร็วมาก เธอเดาว่าฟ่านหมิงน่าจะอยู่ที่สวนสาธารณะหลิงหู พอดีเธอก็มีข้อสงสัยหลายข้อเกี่ยวกับโครงการด้วย จะได้นั่งคุยกันอย่างดีๆ

ยี่สิบนาทีให้หลัง ก็ไปถึงจุดหมาย

ตรงประตู หญิงสาวสองคนที่แต่งกายทางการได้ขวางเธอเอาไว้ แล้วถาม: “คุณคือคุณหานหยู่เยนใช่มั้ย?”

“ใช่ ฉันเอง”

“เชิญตามฉันมา”

หานหยู่เยนรู้สึกสงสัยมาก เมื่อเดินไปถึงผืนหญ้าเรียบของสวนสาธารณะหลิงหู ก็มองเห็นเครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่ง กำลังรอที่จะบิน

ตรงเครื่องบินส่วนตัว ได้ยืนอยู่ด้วยชายวัยกลางคนนายหนึ่ง “คุณหาน ผมรอคุณนานแล้ว เชิญขึ้นเครื่องบินเถอะ”

“พวกคุณเป็นใคร? จะพาฉันไปไหน?”

“คุณหานไม่ต้องกลัว คืนนี้ จะเป็นคืนที่ยากจะลืมคืนหนึ่งของคุณเลย”

หานหยู่เยนตกใจเล็กน้อย แต่ก็ยังคงขึ้นไปในเครื่องบินส่วนตัว เพราะหากฝ่ายตรงข้ามจะเล่นงานเธอ ผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่งก็สู้พวกเขาสามคนไม่ได้อยู่

โวงโวงโวง!

เครื่องบินส่วนตัวบินไปทางทิศตะวันตก ไม่นานนักก็ไปถึงเขาจื่อเช่ว

“คุณครับ ถึงแล้วครับ”

ชายวัยกลางคนลงจากรถ กล่าวอย่างสุภาพ: “บนยอดเขาลมแรง กรุณาช่วยสวมเสื้อคลุมด้วยครับ”

ในเวลาเดียวกัน ทั้งเมืองเจียงวุ่นวายโกลาหลไปหมด

ที่ทะเลสาบหมิงเยว่ เหล่าคุณชายคุณหนูต่างเบิกตากว้าง เห็นภาพที่โดรนถ่าย

“คนนี้ก็คือนางเอก!”

“เข้าไปใกล้อีกนิด ถ่ายหน้าตรง แบบนี้มันมองไม่ชัดเลย”

“ไม่ได้ มีหมอก อีกอย่างหากเข้าไปใกล้มากจะถูกบอดี้การ์ดยิง ก่อนหน้านี้มีโดรนหลายตัวถูกยึดไปแล้ว”

“เป็นใครกันแน่?”

“เร็วเข้า รีบแชร์ภาพนี้ออกไป”

……

ยอดเขาจื่อเช่ว

หานหยู่เยนรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน ถึงตอนนี้หากเธอก็ยังไม่เข้าใจ ก็เป็นคนโง่แล้ว

นางเอกในคืนนี้ เป็นฉันเหรอ?

เป็นไปได้ไง!

“คุณครับ เชิญตามผมมาครับ”

ชายวัยกลางคนได้พาหานหยู่เยนไปถึงหน้าประตูคฤหาสน์ คนใช้ที่ยืนอยู่สองฝั่งได้เปิดประตูออก

ทันใดนั้น ก็เห็นกลีบกุหลาบโรยเต็มไปหมด ล่องลอยตามไปในสายลม

ทำให้สายตาของหานหยู่เยนเลือนราง เลือนๆรางๆ เธอเห็นชายแปลกหน้าคุ้นเคย ยืนอยู่ตรงกลางห้องโถงที่กว้างและสวยงาม

จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี

จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี

ได้รับความลำบาก เพื่อได้อยู่ต่อ ผมทนความอัปยศอดสู แต่งเข้าตั้งสามปี ถูกดูถูกและเยาะเย้ย ในสายตาของพวกเขา ผมเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ ใครๆก็สามารถก้าวเหนือหัวผมได้ ใช้ชีวิตอยู่อย่างหมา จนถึงวันนี้ ภัยพิบัติทุกๆอย่างผ่านไป…….เมื่อยิ่งใหญ่ขึ้นมา ทำให้คนบนโลกผวา!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท