บทที่ 38 ต่อสู้กับโชคชะตา
สิบห้านาทีต่อมา โล่เฉินอุ้มหานหยู่เยนออกจากห้องวีไอพีหมายเลขหนึ่ง
หงเหลยถิงตามอยู่ด้านข้าง พี่เป้าประคองเฮยหนิวอยู่ด้านหลัง
เมื่อมาถึงลานจอดรถ โล่เฉินวางหานหยู่เยนไว้ในรถ นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับมองไปยังเฮยหนิว “เข้าใจที่ผมพูดตอนอยู่ในห้อง
วีไอพีหรือยัง?”
“เข้าใจครับ เข้าใจครับ เข้าใจคำพูดของคุณชายทุกคำเลยครับ กระผมจะจดจำให้ขึ้นใจ ไม่ทำให้ผิดพลาดเด็ดขาดครับ”เฮยหนิวเหมือนลูกไก่ที่จิกข้าวสารอยู่ พยักหน้าไม่หยุด
โล่เฉินออกคำสั่ง“ยังมีอีก จำไว้ให้ดี อย่าให้ข้อมูลของผมกับหานหยู่เยนกับคนอื่นๆเด็ดขาด”
“คุณชายวางใจได้ครับ ผมจะปิดปากให้สนิทเลยครับ”
หงเหลยถิงเดินมาด้านหน้าหนึ่งก้าว ถามว่า“คุณชายโล่ครับ ต้องกราบขออภัยจริงๆนะครับ คนของผมรบกวนท่านแล้ว
ไม่ทราบว่าพรุ่งนี้ว่างไหมครับ ผมจะได้จัดงานเลี้ยงขอโทษครับ”
“ไม่ต้องแล้ว วันหลังดูคนของคุณให้ดีๆก็พอ”
“แน่นอนครับ แน่นอนครับ”
โล่เฉินขับรถออกไปจนรถBMWหายไปจากสายตา หงเหลยถิงสีหน้าก็กลายเป็นเย็นเยียบขึ้นมา
ซึ่งไม่ได้เป็นเพราะไม่พอใจต่อโล่เฉินเลยสักนิด แต่เป็นความโกรธเฮยหนิวต่างหาก
“ท่านโทษผมไม่ได้นะครับ ทุกคนต่างก็รู้กันดีว่าเขาเป็นลูกเขยไร้ประโยชน์ ใครจะรู้ว่าจะมีบารมีเช่นนี้”เฮยหนิวร่ำไห้ด้วยสีหน้าโศกเศร้า ถามว่า“ท่านครับ เขามีเบื้องหลังอะไรครับ”
“สิ่งที่ไม่ควรรู้ก็อย่าถาม ปฏิบัติตามคำสั่งของคุณชายโล่ดีๆ ถ้าทำไม่ดีผมจะคว้าสมองของคุณออกมา”
หงเหลยถิงจากไปด้วยความโมโห
เฮยหนิวเดินออกจากลานจอดรถ สีหน้าที่อยู่ท่ามกลางลมหนาว เขารู้สึกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความจริง
……
วงวงวง
โล่เฉินขับรถอย่างช้าๆ ระหว่างทางใช้พลังทิพย์ขัดเป่าไวน์ในร่างกายของหานหยู่เยนทิ้ง ไม่นานสาวงามก็ฟื้นขึ้นมา
“โอ๊ย”
หานหยู่เยนจับหน้ารู้สึกมึนๆ
ทันใดนั้นเธอมองรอบๆอย่างหวาดหวั่น พูดเสียงตกใจว่า“ที่นี่ที่ไหน?ฉันอยู่ไหน?”
“ยัยโง่ อยู่ในรถ ตอนนี้พวกเราอยู่ระหว่างทางกลับบ้าน”
“หา?”
หานหยู่เยนสับสนกับเหตุการณ์ ไม่ใช่ถูกรังแกอยู่ที่ตึกเผิงไหลหรอกเหรอ แล้วตนก็ดื่มจนเมา ทำไมตอนนี้ถึงกำลังกลับบ้านหละ
“โล่เฉินคุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไร ผู้มีอำนาจที่ผมเคยช่วยชีวิตไว้มาได้ทันเวลา พวกเราหลุดพ้นจากอันตรายแล้ว”โล่เฉินคิดคำอธิบายไว้เสร็จสรรพแล้ว
หานหยู่เยนโล่งอก ในใจยังคงรู้สึกกลัวอยู่บ้าง “อันตรายจริงๆ ใช่แล้ว เรื่องงานก่อสร้าง……”
“วางใจได้ จัดการเรียบร้อย”
โล่เฉินแย้มยิ้ม“ผู้ใหญ่คนนั้นเอาเฮยหนิวซะอยู่หมัดเลย ไม่เพียงแต่ทำให้เขาไม่กล้ามาหาเรื่องที่งานก่อสร้างอีก ยังบังคับให้เฮยหนิวคุ้มครองงานก่อสร้างอีกด้วย ได้คนดูแลมาฟรีๆเลย”
“จริงเหรอ ดีจังเลย”
“นอกจากนี้ เฮยหนิวก็สารภาพแผนการของเขากับหานหยุนเทาหมดแล้ว คืออย่างนี้……”
โล่เฉินเล่าแผนการสกปรกโสโครกอย่างละเอียด
สุดท้ายก็บอกความคิดของตัวเอง
“ในเมื่อหานหยุนเทาอยากเล่น พวกเราก็เล่นเป็นเพื่อนหน่อย ให้เฮยหนิวแสดงละครต่อไป ใช้แผนซ้อนแผนเลย ต่อไปหานหยุนเทาต้องมีการเคลื่อนไหวแน่ๆ เขาคิดว่าควบคุมคุณได้แล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าพวกเราต่างหากที่เป็นฝ่ายได้เปรียบ”
หานหยู่เยนมีอารมณ์ขึ้นๆลงๆ มองดูใบหน้าด้านข้างของโล่เฉินก็เกิดความกลัวขึ้นมา
ราวกับรู้สึกว่าบรรยากาศไม่ค่อยปกติสักเท่าไหร่ โล่เฉินพูดอย่างอ่อนโยนว่า“ทุกอย่างก็เพื่อคุณ เป็นสถานการณ์ที่เอื้อให้คุณแสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่เลย คุณกับหานหยุนเทาต่อสู้กันก็มีผลดีสำหรับคุณ เพราะสามารถสร้างจุดยืนและความน่าเกรงขามในบริษัทได้”
“รอให้ถึงตอนสุดท้ายก็จู่โจมให้ราบคาบเลย ทำให้หานหยุนเทาไม่อาจยืนขึ้นมาได้อีก แม้กระทั่งอาจทำให้คุณย่าโกรธจนขับไล่ออกจากตระกูล ถ้าเช่นนั้นตระกูลหานก็เป็นของคุณแล้ว”
“แต่มันไม่ได้ง่ายนะ คุณไม่เพียงแต่ต้องเอาชนะหานหยุนเทาเท่านั้น ยังต้องเอาชนะคุณย่าด้วย มันยากมาก ฉะนั้นคุณต้องพยายามนะ ผมเชื่อมั่นในตัวคุณ”
หานหยู่เยนรู้สึกหัวใจเต้นแรง ไม่กล้าสบตากับโล่เฉินโดยตรง
เธอมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ตั้งนานกว่าจะพูดประโยคนี้ออกมา “โล่เฉิน ขอบคุณคุณมากค่ะ”
“ไม่ต้องขอบคุณ พอกลับถึงบ้านมีเรื่องต้องให้คุณช่วยสะสาง”
“เรื่องอะไร?”
“ถึงบ้านก็รู้แล้ว”
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ซอยเล็กเก่าแห่งหนึ่งในเมืองเจียง มีเสียงโวยวายที่แหลมคมส่งออกมาจากภายในห้อง
หลิวเซียงหลันเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อย โล่เฉินทั้งสองคนกลับมาถึงบ้าน สัญญาหย่าก็โยนไปที่โต๊ะ
จากนั้นก็ด่าว่าโล่เฉินกันใหญ่ แล้วบีบให้เขาหย่าแต่โดยดี
“หยู่เยน เรื่องนี้ไม่มีทางถอยได้ โล่เฉินคิดจะล่วงเกินหยู่ถิง ยังมีรูปถ่ายโป๊ของหยู่เยนอีก คนต่ำช้าที่ไร้ยางอายอย่างนี้ ให้อยู่ที่บ้านต่อไม่ได้แล้ว”
หานเจี้ยนเย่ก็เห็นด้วย“เตรียมสัญญาหย่าไว้แล้ว พวกหนูสองคนเสร็จซะ พรุ่งนี้ไปที่งานทะเบียน จากนั้นพ่อจะติดต่อทางซิงเฉิน เขาให้สินสอดมาหลายวันแล้ว จะให้เขารอนานอย่างนี้ไม่ได้!”
“ลวนลาม รูปถ่ายโป๊?”
ตอนนี้หานหยู่เยนมึนงงไปหมด
เธอรู้จักนิสัยของโล่เฉินดี นอนห้องเดียวกัน อย่าว่าแต่แตะต้องตัวเธอเลย แม้กระทั่งเตียงก็ไม่เคยจับมาก่อน ยังคงปูนอนที่พื้นอย่างสุภาพมาโดยตลอด
การกระทำเช่นนี้ถือเป็นวิญญูชนโดยแท้จริง ทำไมจะไปลวนลามน้องเมียได้
“เห้อ!”
ทันใดนั้น หานหยู่เยนก็จ้องเขม็งไปยังหานหยู่ถิง รู้ว่าต้องเป็นน้องสาวจอมเกเรใส่ร้ายป้ายสีโล่เฉินเป็นแน่ จึงอดโมโหไม่ได้
คู่กรณีงอคอลงราวกับเด็กตัวเล็กๆที่ทำความผิดก้มหน้าไม่กล้าพูดอะไร
“ผม ผมกลับเข้าห้องก่อนนะ”
สถานการณ์เช่นนี้มีเพียงหานหยู่เยนคลี่คลายได้ โล่เฉินรีบพุ่งเข้าไปที่ห้องนอน ราวกับไม่ใช่เรื่องของตนเล่นเกม《Arena Of Valor: 5v5 Arena Game》
ห้องรับแขกโกลาหลไม่หยุดหย่อน
แต่ว่าสุดท้ายผู้ชนะยังคงเป็นหานหยู่เยนอยู่ดี ตอนนี้ค่อยๆสงบศึกลงแล้ว
วันรุ่งขึ้นที่ริมทะเลสาบหมิงเยว่
หานหยู่เยนพาโล่เฉินไปวิ่งยามเช้า หยุดวิ่งระหว่างทาง
เธอมองไปยังคฤหาสน์ยอดจื่อเช่ว นึกถึงภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 20 สิงหาคมแล้วก็อดยกมุมปากขึ้นเป็นรูปโค้ง
“ผมเอาลูกกุญแจมาด้วยนะ จะขึ้นไปเล่นหน่อยไหม?”
“ช่างเถอะ ถูกคนเห็นแล้วจะไม่ดี”
หานหยู่เยนส่ายหัว นั่งบนก้อนหินใหญ่ จู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า“โล่เฉิน ช่วยนี้คุณทำให้ฉันรู้สึกกระทบจิตใจมาก คุณเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย คาดไม่ถึงจริงๆ”
“ทุกคนต่างต่อต้านกับโชคชะตาอยู่”
“หา?”หานหยู่เยนมีแววตามึนงง
โล่เฉินพิงเสาข้างทะเลสาบ พูดเสียงเลื่อนลอยว่า“สามปีมานี้ ผมเห็นคุณถูกพวกหานหยุนเทากับหานหยุนซีกดขี่ข่มเหง
แม้กระทั่งกดหัวผมคนที่เป็นสามีสวะ แต่คุณก็ยังคงไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แต่กลับต่อสู้อย่างยึดมั่น พยายามเดินไปข้างหน้าต่อไป……”
“ผมก็เหมือนกัน”
“ผมก็กำลังต่อสู้กับโชคชะตา แต่การต่อสู้ของผมต่างจากคุณ หากคุณแพ้ก็อาจจะต้องใช้ชีวิตที่แสนรันทดยากเข็ญ แต่สำหรับผมหากผมแพ้ก็ต้องตายเลย!”
หนังตาหานหยู่เยนกระตุก แอบตกใจ
โล่เฉินพูดต่อไปว่า“ก่อนจะแต่งงานเข้าบ้านตระกูลหานผมต้องเจอมรสุมชีวิตที่หนักหนาสาหัสมาก ผมคิดว่าภัยครั้งนี้คงไม่รอดแล้ว
รู้สึกท้อแท้ใจเป็นอย่างมาก แต่หลังจากที่ผมอยู่ข้างกายคุณ คุณมีความแน่วแน่ ไม่ยอมแพ้ คุณเด็ดเดี่ยว แสงสว่างทั้งหมดในตัวคุณกระตุ้นให้ผมค่อยๆฟื้นฟูสภาพจิตใจในอดีตกลับคืนมาอีกครั้ง”
“ดังนั้นผมขอบคุณหยู่เยนคุณมากเลย ซาบซึ้งคุณมากด้วย”
ใบหน้าของหานหยู่เยนปรากฏสีแดงจางๆ รู้สึกเขินอายเล็กน้อย“โธ่ ฉันไม่ได้ดีอย่างที่คุณพูดสักหน่อย อันที่จริงฉันก็อยากขี้เกียจบ้าง
และอยากเป็นเหมือนลูกคุณหนูตระกูลใหญ่เหมือนคนอื่นๆที่มีเพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่ต้องกังวลอะไร อยากได้อะไรก็ได้อย่างนั้น”
“แต่ก็ไม่มีเลย”
“คุณก็รู้ว่าพ่อเป็นยังไง หวังพึ่งท่านไม่ได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคุณแม่เลย หยู่ถิงก็ยังเด็กอยู่ หากฉันยังไม่ทะเยอทะยานไปไขว่คว้ามา บ้านนี้ก็คงจบสิ้นแน่ๆ”
โล่เฉินสามารถรับรู้ได้
ห้าพันปีมานี้ เขาผ่านเรื่องราวมาตั้งมากมาย เคยพบเจอผู้หญิงมาก็ไม่น้อย
แน่นอน ยังเคยเจอผู้หญิงอย่างหานหยู่เยนที่——เด็ดเดี่ยว แน่วแน่ ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ผู้หญิงที่ต่อสู้อย่างห้าวหาญ
แต่ก็ไม่เคยมีใครเหมือนหานหยู่เยนที่ทำให้เขาซาบซึ้งใจ ตัวโล่เฉินเองก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร
“เห้ คิดอะไรอยู่ สายโทรศัพท์เข้า”
“หา?ออ”
คว้ามือถือออกมาพบว่าเสี้ยงจื้อสงเป็นผู้โทรมา
โล่เฉินขมวดคิ้ว หรือเป็นเพราะคืนนั้นขู่ขวัญลูกสาวของเขา เสี้ยงเหยาเหยา ตอนนี้เลยมาหาเรื่อง
“ฮัลโหล มีเรื่องอะไร?”
“ไต้สือครับ คืออย่างนี้ครับ วันที่ 1 กันยายนเป็นวันคล้ายวันเกิดแปดสิบปีของคุณพ่อผมครับ จัดงานเลี้ยงฉลองกันที่เมืองเจียง หวังว่าถึงเวลานั้นท่านจะมาร่วมงานด้วยนะครับ”
โล่เฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย“งานเลี้ยงฉลองวันเกิด 1 กันยายน”
“ใช่ครับ ท่านเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตคุณพ่อผม เป็นแขกผู้สูงศักดิ์ที่สุดของตระกูลเสี้ยงของเรา จึงต้องเชิญอยู่แล้วครับ ขอให้ไต้สือมาร่วมงานด้วยนะครับ”
“รอสักครู่ ผมถามแป๊ปหนึ่ง”
โล่เฉินมองหน้าหานหยู่เยน กล่าวว่า“1 กันยายนนี้มีงานเลี้ยงฉลองวันเกิด น่าจะเป็นงานใหญ่ คุณจะไปด้วยไหม?”
หานหยู่เยนยิ้ม“หากฉันมีเวลา ถ้าเป็นไปได้ฉันก็ต้องไปเป็นเพื่อนคุณอยู่แล้ว”
“ฮัลโหล ยังอยู่ไหม?”
“อยู่ครับ ไต้สือเชิญพูดครับ”
โล่เฉินกล่าว“ผมพาภรรยาไปด้วยน่าจะได้ใช่ไหม?”
เห็นได้ชัดว่าเสี้ยงจื้อสงตกตะลึงคาดไม่ถึงว่าโล่เฉินจะแต่งงานแล้ว
ก่อนหน้านี้เขาไปสืบค้นประวัติของโล่เฉิน เพราะฟ่านหงชางคอยกลบข้อมูลให้โล่เฉิน ฉะนั้นตอนนี้เสี้ยงจื้อสงยังไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย
สำหรับหงเหลยถิง ซึ่งก็คือรู้จักผ่านเฮยหนิวว่าโล่เฉินคือลูกเขยแต่งเข้าบ้านตระกูลหาน แต่โล่เฉินกำชับให้ปิดสถานะเป็นความลับ เขาก็เลยไม่ได้เปิดเผยอะไร
“ได้ครับ ได้แน่นอนครับ ยินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่งครับ”
“สถานที่?”
“ตรงที่ท่านเคยมาแหละครับ ชิงเฟิงซานจวนที่อยู่ชานเมืองเลยครับ”
โล่เฉินตอบตกลงหนึ่งคำ“ได้ เจอกัน 1 กันยายน”