บทที่ 60 หน้าด้านไร้ยางอายอย่างที่สุด
ตลอดทั้งการประชุม หานหยู่เยนพูดจาเพียงเล็กน้อย
การประชุมดำเนินไปจนใกล้จะเสร็จสิ้น หานหยุนเทาอยู่ดี ๆ ก็พูดอย่างแปลกประลาดขึ้นกะทันหันว่า “หานหยู่เยน ได้ยินว่าครอบครัวของแกซื้อบ้านหลังใหม่เหรอ เป็นหมู่บ้านที่โด่งดังบริเวณวงแหวนรอบที่สอง——-ไห่ถังหัวฝู่บ้านที่อยู่บนชั้นที่สูงที่นั่น หลังหนึ่งก็ราคาประมาณยี่สิบกว่าสามสิบล้านเลยใช่ไหม! ”
“แกหมายความว่ายังไง! ”
“เงินนี้ ไปได้มาจากไหน? ” หานหยุนเทายิ้มเยาะ
ขณะนั้น สายตาทุกคนก็จับจ้องมองมา คุณนายใหญ่หานก็ขมวดคิ้ว
หานหยู่เยนอธิบายว่า: “คุณย่า ก่อนหน้านี้ที่คุณพ่อซื้อลอตเตอรี่นั้นได้ถูกรางวัล สองล้านห้าแสนกว่า ดังนั้นพวกเราจึงไปซื้อบ้านหลังใหม่”
“ฮาฮาฮา เหตุผลแบบนี้มันไม่น่าขันไปหน่อยเหรอ”
“หานหยุนเทา นายนึกว่าฉันจะทำแบบนายงั้นเหรอ ฉันคงไม่ใช้เงินส่วนกลางของบริษัทแน่นอน บัญชีของบริษัทใครลองไปตรวจสอบดูก็ได้ ฉันบริสุทธิ์ใจอยู่แล้วจะกลัวอะไร”
หานหยู่เยนพูดโต้ตอบกลับไป: “แต่กลับเป็นนายเสียมากกว่า ที่ได้โยกเงินบริษัทไปใช้ประมาณหนึ่งล้านห้าแสนและยังไม่ได้คืนเงินกลับมา ให้เวลานายสามวัน หากฝ่ายการเงินยังบอกฉันว่าเงินยังไม่ได้โอนคืนกลับเข้าบัญชีบริษัท คุณลุงหลังจากนี้ท่านก็คงไม่มีเงินเดือนแล้ว ค่อยค่อยคืนทีละนิดแล้วกันนะ”
“สามหาวเกินไปแล้ว! ”
หานเจี้ยนกั๋วเกิดความโมโห “มันจะมากเกินไปแล้ว แกมีสิทธิ์อะไรที่จะมาหักเงินเดือนของฉัน คุณย่าของแกก็ยังมีชีวิตอยู่ หรือคิดที่จะทรยศงั้นเหรอ จิตใจที่คิดการใหญ่เปิดเผยออกมาเร็วไปหน่อยหรือเปล่า! ”
“ฉันคือรองผู้จัดการใหญ่ คุณย่าเป็นคนแต่งตั้งขึ้นเอง ฉันมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจเรื่องเหล่านี้ หรือว่า ครอบครัวของคุณลุงไม่คิดที่จะคืนเงินหนึ่งล้านห้าแสนนี้หรอกเหรอ? ”
“แกนี่มัน! ”
หานเจี้ยนกั๋วคิดที่จะพูดตอบโต้ คุณย่าตบโต๊ะ พูดด้วยเสียงอันน่าเกรงขามว่า: “พอได้แล้ว”
“คุณแม่ ท่านดูเด็กคนนี้สิ มันจะโอหังเกินไปแล้วนะ”
“ภายในสามวัน จะต้องคืนเงินหนึ่งล้านห้าแสน” คุณย่าพูดขึ้น หานเจี้ยนกั๋วไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก ทำได้เพียงแค่จ้องมองไปที่หานหยู่เยนด้วยความโมโห
หานหยุนเทาคับแค้นใจเป็นอย่างมาก
หนึ่งเดือนก่อนนี้ หานหยู่เยนนับประสาอะไร เขาเรียกใช้งานทางนี้ทีทางโน้นทีอยู่ แต่ตอนนี้กล้าปีนป่ายขึ้นมาค้ำบนศีรษะของครอบครัวของเขาแล้ว
มีอย่างที่ไหนกัน!
“ปัญหาเรื่องของบ้านใหม่ไม่ขอพูดถึง แล้วรถล่ะ? ครอบครัวของพวกแกมีรถ BMW 540 จำนวนสามคัน ราคารวมกันก็หนึ่งล้านเจ็ดแปดแสนกว่า เงินพวกนี้ได้มาจากการถูกลอตเตอรี่เหมือนกันงั้นเหรอ? ”
“ฉันจำเป็นที่จะต้องอธิบายให้แกฟังด้วยเหรอ ย้ำอีกครั้งหนึ่ง บัญชีบริษัทตรวจสอบได้ตามสบายเลย หากยังไม่วางใจ คุณย่าสามารถแต่งตั้งคนที่ท่านเชื่อมั่นไว้ใจได้ไปทำหน้าที่ฝ่ายการเงิน อย่างไรก็ตาม หากฉันใช้เงินของบริษัทแม้แต่เล็กน้อย จะลาออกจากบริษัทเองโดยทันที”
คำพูดนี้ ปิดปากปิดคำพูดของทุกคน
หานหยุนเทาโมโหจัด ไม่ยอมที่จะหยุด
“แกเป็นคนของตระกูลหาน เงินรางวัลลอตเตอรี่ หรือว่าเงินที่ได้จากการทำงานอื่นเสริม ทั้งหมดล้วนเป็นของตระกูลหาน จะต้องนำมามอบให้กับบริษัท แกมีสิทธิ์อะไรที่จะไปใช้จ่ายได้ตามอำเภอใจ”
เงียบสงบ
ทุกคนภายในห้องประชุมต่างเหลียวมองซึ่งกันและกัน
ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นหรอก ในแววตาของคุณย่าเองก็ปรากฏให้เห็นถึงความผิดหวังขึ้นแวบหนึ่ง
หานหยู่เยนใช้สายตาที่สำหรับมองดูคนที่โง่เขลามองไปที่หานหยุนเทา แล้วหัวเราะขึ้น “มันน่าสนใจจริง ๆ หากแกคิดที่จะต้องการสิ่งของของครอบครัวของฉัน ถ้างั้นอุจจาระที่ฉันถ่ายออกมาแกจะต้องการด้วยไหม? ”
“แม่งเอ๊ย……”
“ทุกคนหุบหากกันได้แล้ว! ”
คุณนายใหญ่หานตะโกนเสียงดัง อื้ออึงไปหมด
หานหยุนเทาและหานหยู่เยนต่างกลัวหัวหด จิตใจพะว้าพะวัง
“แต่ละคนต่างก็ปีกกล้าขาแข็งกันหมดแล้ว ฉันยังไม่ตายสักหน่อย ก็วุ่นวายกันขนาดนี้แล้ว ถ้าหากว่าฉันตายไป ตระกูลหานคงถึงกับต้องแตกแยกทางใครทางมันเป็นแน่”
ทุกคนสงบเงียบไม่กล้าออกเสียง ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น
“ปิดประชุม แยกย้ายกันไปทำงาน”
ออกจากห้องประชุม หานหยู่เยนมีอารมณ์ที่ไม่ค่อยดี
การแสดงออกของคนในตระกูลหาน ทำให้เธอรู้สึกผิดหวังขณะเดียวกันก็ยิ่งทำให้เจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก
ตระกูลอื่น ต่างสามัคคีร่วมแรงร่วมใจกันต่อสู้ ตระกูลของตนเองกลับมาต่อสู้ทะเลาะกันภายใน ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบแล้ว ตระกูลหานนับวันจะยิ่งแย่ลงไปทุกที
“คนแบบนี้ หากตระกูลหานตกไปอยู่ในมือของเขา ต่อให้มีทรัพย์สินเป็นร้อยเป็นพันล้าน ก็คงจะผลาญไม่เหลือ”
หานหยู่เยนแอบด่าอยู่ในใจ และเธอได้ตัดสินใจเรื่องหนึ่ง:
ไม่ว่าต่อไปอนาคตจะเกิดเหตุการณ์อย่างไร จะไม่ยอมให้หานหยุนเทาและครอบครัวของเขาขึ้นมาควบคุมบริหารจัดการบริษัทเป็นอันขาด แม้เธอจะไม่ได้ขึ้นเป็นผู้นำไม่เป็นไร แต่หานหยุนเทาจะไม่มีทางที่จะเป็นผู้นำได้แน่
“มันน่าที่จะโมโหหรือไม่? ”
เมื่อเดินมาถึงประตูห้องทำงานของตน ก็ได้ยินเสียงเยาะเย้ยดังมาจากทางด้านหลัง
“แกคิดมากเกินไปแล้ว ฉันคงไม่ไปโกรธสุนัขบ้าที่เห่าหอนได้หรอก ถ้าอย่างนั้นฉันก็กลายเป็นสุนัขบ้าไปแล้วล่ะสิ! ”
“เปิดฉากดุด่ากัน แสดงให้เห็นว่าแกเองก็กำลังโกรธจัด”
หานหยุนเทาเดินเข้ามา แล้วยืนพิงฝาผนัง พูดอย่างยิ้ม ๆ ว่า: “มีเรื่องหนึ่งที่ฉันลืมพูดไป วันนั้นที่บ้านเก่าแก่ ตอนแรกคุณย่าได้ตกลงการแต่งงานของแกกับคุณชายโล่แล้ว จากนั้นจึงได้เปลี่ยนใจเปลี่ยนคำพูดแกจำได้หรือไม่? ”
“เป็นเพราะฝีมือของนายใช่ไหม? ”
“จะพูดอย่างนี้ก็ได้” หานหยุนเทาทำท่าทางเบะปาก “คงโมโหมากใช่ไหม? ที่จริงจะได้แต่งงานไปอยู่ที่จีนหลิงแล้ว แปลงร่างกลายเป็นนกฟีนิกซ์ แต่น่าเสียดายที่ถูกฉันกระชากลงมาจากฟ้ากลายเป็นไก่ป่าไปได้ คงเจ็บปวดกับรสชาติความทรมานนี้อยู่ไม่น้อยละสิ”
หานหยู่เยนอยากจะโมโหและอยากจะหัวเราะ พูดว่า: “นายโง่เง่าขนาดนี้เลยเหรอ ตอนนั้นฉันเองก็ไม่ได้ต้องการที่จะแต่งงานไปอยู่ที่นั่น นายทำให้คุณย่าเปลี่ยนใจ ฉันกลับจะต้องขอบคุณนายด้วยซ้ำไป”
“ไม่ไม่ไม่ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ต้องการแต่งงานกับคนที่ร่ำรวย ฉันกลับคิดว่าตอนนั้นแกทำเป็นเล่นตัว แกแกล้งที่จะปฏิเสธก่อน แล้วค่อยตอบรับหลังจากที่คุณย่าบีบบังคับ เพื่อที่จะทำให้คุณชายโล่ดีใจใช่ไหมล่ะ”
หานหยุนเทาทำท่าทางที่เหมือนว่าตนเองจะเข้าใจและรับรู้ทุกอย่าง ยืนเอามือไขว้หลังแล้วเริ่มวิพากษ์วิจารณ์
“ผู้หญิงที่ยินยอมพร้อมใจโดยง่าย ไม่มีความแปลก ไม่น่าสนใจ ยิ่งแกปฏิเสธเล่นตัวมากเท่าไหร่ คุณชายโล่ก็จะยิ่งดีใจ ยิ่งต้องการในตัวของแกมากขึ้น หานหยู่เยน ยอมรับเลยนะว่า แกเข้าใจและควบคุมสภาพจิตใจของผู้ชายได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน”
“แกยอดเยี่ยมจริง ๆ ฉันยกนิ้วให้”
หานหยู่เยนไม่รู้จะพูดอะไรดี เกียจคร้านที่จะพูดโต้ตอบ
“ครั้งนั้นไม่เพียงที่จะดับฝันการแต่งงานกับคนที่ร่ำรวย ยังบีบให้ความสัมพันธ์ของพ่อและแม่ของแกขาดสะบั้นลง เดิมทีคิดว่าครอบครัวของแกจะแยกขาดจากกันแล้ว แต่น่าเสียดาย คิดไม่ถึงว่าหานเจี้ยนเย่จะกระโดดตึกเพื่อกอบกู้คืนความสัมพันธ์จากหลิวเซียงหลันเอาไว้”
หานหยุนเทาส่ายศีรษะด้วยท่าทางที่เสียใจ “คิดไม่ถึงว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจริง ฉันคิดว่าทำไมหานเจี้ยนเย่ต้องฟื้นคืนสติกลับขึ้นมาด้วย คนที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอย่างเขา ตายไปเลยได้ยังจะดีกว่า”
เพียะ
ถูกตบหน้าเข้าอย่างจัง หานหยุนเทาออกอาการมึนงง เกือบที่จะล้มลง
“แก แกกล้าตบฉัน! ”
“แกสมควรโดนตบ”
หานหยู่เยนโกรธจัดจนต้องหายใจเข้าออกอย่างรวดเร็ว ดวงตาสองข้างแดงก่ำ “หานหยุนเทา จัดการดูแลปากของตนเองให้ดี หากยังกล้าที่จะว่ากล่าวดูถูกพ่อของฉันอีก ฉันไม่ปล่อยนายเอาไว้แน่ ยังมีอีกเรื่อง ตอนนี้การประชุมได้เสร็จสิ้นลงแล้ว รีบกลับออกไปจากบริษัทเดี๋ยวนี้ กลับไปทบทวนสำนึกความผิดของตนที่ได้ทำเอาไว้”
ตุ้บ
ประตูห้องทำงานถูกปิดลง
เหตุการณ์เมื่อครู่เสียงดัง ดึงดูดสายตาของพนักงานหญิงจำนวนมาก
หานหยุนเทาเขินอาย ตะโกนว่าด้วยความโกรธ: “มองดูอะไรกัน รีบไปให้พ้นเดี๋ยวนี้ แม่งมึงสิไอคนพวกนี้เดี๋ยวกูจะจัดการให้หมดเลย”
หันกลับไปมองที่ห้องทำงานอีกครั้ง แล้วก็ออกจากบริษัทด้วยความยิ้มแย้มอย่างรวดเร็ว และขับรถไปที่เขตปินหู
“ฮัลโหล พี่หนิว”
หานหยุนเทาโทรศัพท์ไปหา
ฝั่งนั้นตอบกลับมาด้วยเสียงอันเย็นชา “โทรมาหากูทำไม? ”
“พี่หนิว ทนไม่ไหวแล้ว หานหยู่เยนไอคนสารเลวนั้นกล้าทำร้ายฉัน พี่ นายช่วยส่งรูปเปลือยของเธอให้ฉันสักหน่อย ฉันจะทำให้เธอเสียใจในภายหลัง”
“ไม่ได้” เฮยหนิวตอบปฏิเสธทันที
หานหยุนเทากัดฟัน ถามไปว่า: “ทำไม? ”
เฮยหนิวตอบกลับว่า: “ให้รูปถ่ายกับนายไป นายจะเอาไปเพื่อข่มขู่ให้หานหยู่เยนทำเรื่องอะไร ไม่แน่ว่านายอาจจะทำร้ายเธอ เธอเป็นผู้หญิงของกู เข้าใจแล้วเหรอยัง”
“พี่หนิววางใจได้ ฉันรับรองว่าจะไม่ไปทำร้ายเธอ เพียงแค่จะใช้ข่มขู่บ้างเกี่ยวกับเรื่องงาน ฉันรับประกันได้”
“นายรับประกันจะมีประโยชน์อะไร”
เฮยหนิวยิ้มเยาะ “เอารูปถ่ายให้นาย นายก็เห็นเรือนร่างของหานหยู่เยนแล้วไม่ใช่เหรอ ผู้หญิงของกูนายก็อยากจะดูเหรอ ไม่ต้องการเก็บลูกตาไว้หรอกเหรอ”
หานหยุนเทาอึดอัดใจ จิตใจร้อนรนแต่ไม่กล้าที่จะปลดปล่อยออกมา
“พี่หนิว งั้นนายก็รีบจัดการเธอสิ ทำไมยังไม่ลงมืออีกล่ะ ตอนนี้เธอหยิ่งผยองใหญ่แล้ว ฉันอดทนไม่ไหวแล้ว”
เฮยหนิวพูดตอบกลับอย่างใจเย็นว่า: “กูเพียงแค่กุมจุดอ่อนความผิดพลาดของเธอเอาไว้ จัดการเธอนั้นมันเป็นเรื่องของนาย ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับกู”
“แต่ว่า……”
“ไม่มีอะไรที่จะมาว่าแต่ว่าอีก หากไม่มีเรื่องอะไรก็ไม่ต้องติดต่อมาหากู กูยุ่งมากช่วงนี้”
ตู๊ดตู๊ดตู๊ด
วางสายโทรศัพท์ไปแล้ว หานหยุนเทาตะโกนเสียงดัง ทุบตีไปที่พวงมาลัยรถอย่างรุนแรง
ไม่กี่วินาที เขาเลี้ยวหัวรถกลับ
ไม่นานจากนั้น เขาก็มาปรากฏอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์ของตระกูลโจว