จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี – ตอนที่ 66

ตอนที่ 66

บทที่ 66 สองครั้งแล้ว จะคืนยังไง

มีคนมาถึงก่อนแล้ว!

โล่เฉินยิ่งตั้งหน้าตั้งตารอ ผู้หญิงที่เข้าไปไม่น่าจะเป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไป เขาเอ่ยถาม “ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“อืม … ” หมู่ตันนิ่งคิดและเอ่ยนึกขึ้น “น่าจะเมื่อสิบนาทีก่อน หนูกำลังเก็บดอกไม้อยู่ที่ใกล้ๆสุสาน พอเห็นพี่สาวเข้าไปแล้ว จากนั้นหนูก็ลงจากเขาแล้วก็พบคุณ เวลาไม่ได้นานนัก” ร้องขึ้น

“หลังภูเขาอันตรายขนาดนี้ เธอกลับมาได้ยังไง?”

หมู่ตันหัวเราะคิกคัก เธอเอ่ยอย่างไร้เดียงสา “ดอกไม้นั่นสวยมาก หนูคิดว่ายังไงก็จะต้องขายได้แน่ แต่เดิมหนูตั้งใจจะไปขายดอกไม้นั่นในเมือง แต่ระหว่างทางพบกับพี่ชายเข้าเสียก่อน ช่วยไม่ได้นี่ พ่อไม่อยู่ แม่ของหนูก็ป่วย หนูต้องหาเงิน”

ในใจของโล่เฉินแอบจำไว้เงียบๆ

เมื่อเข้าสู่หลังภูเขา ไม่นานนักก็เห็นถ้ำที่ลึกที่มืดครึ้มแห่งหนึ่งปรากฏขึ้นและมีไอเย็นส่งผ่านออกมา

หมู่ตันดูเหมือนจะกลัวอย่างยิ่ง เธอหยุดห่างจากถ้ำไปกว่า 30 เมตร และชี้ไปที่ด้านหน้าแล้วพูดว่า “พี่ชาย ตรงนั้นก็คือสุสาน หนูไม่กล้าเข้าไปใกล้ๆแล้ว”

“มา นี่เป็นค่าเหนื่อยของเธอ”

“ไม่ได้ หนูรับไม่ได้”

โล่เฉินยัดเงินเข้าไปในมือของหมู่ตัน จากนั้นจึงลูบหัวของเธอและเอ่ย “ลงเขาไปเถอะ ฉันจะเข้าไปดูถ้ำนั่น ไปล่ะ”

“พี่ชาย ระวังตัวด้วย”

หมู่ตันสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล เธอมองเงินในมือทั้งสองข้าง และร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ

ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก

ในถ้ำนั้นเปียกชื้นเยือกเย็นอย่างยิ่ง บนผนังหินก็มีน้ำไหลหยดลงมาจนเกิดเป็นเสียงดังบาดหูขึ้น

โล่เฉินประมาณการอยู่ในใจ ทางเดินกว้างประมาณ 20 เมตร หลังจากนั้นก็เป็นที่โล่งกว้าง แต่กลับเต็มไปด้วยความมืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น

วาบ

พลังทิพย์รวมตัวกันเข้ามาอยู่บนกำปั้น แสงไฟจาง ๆ ส่องสว่างไปยังสถานที่เล็ก ๆ

“แม่เจ้าโว้ย”

วินาทีถัดมา โล่เฉินก็ร้องดังลั่น

ในระยะห่างจากเขาออกไปห้าหกเมตร มีคนๆหนึ่งกำลังนอนอยู่บนพื้น แสงไฟจาง ๆ สามารถระบุได้ว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง

นี่ก็คือผู้หญิงที่หมู่ตันบอกว่าเข้ามาที่นี่?

ทำไมมองแล้วดูคุ้นเคยอย่างยิ่ง

“เฮ้ ตายหรืออยู่น่ะ?”

โล่เฉินตะโกน เขาเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง และพลิกหน้าของหญิงสาวกลับมา เมื่อเห็นใบหน้าของเธอเขาก็ร้องเสียงหลง “เซี่ยซือหาน”

นี่คือหญิงสาวที่มอบกระดานหินในการประมูลของบริษัทจัดการประมูลเฟยสื้อให้กับเขา ตามเงื่อนไขที่ว่าโล่เฉินจะต้องช่วยขับพิษยิงส้าออกไป เขายังมองร่างกายของเธอจนหมดจดไปแล้วอีกต่างหาก

ไม่คาดคิดมาก่อนว่า เธอจะปรากฏตัวอยู่ที่นี่

“นี่คือ…”

หลังจากตรวจสอบร่างกายของพบร่างของเซี่ยซือหานแล้ว โล่เฉินก็มีสีหน้าไม่แน่ใจ เขาไม่กล้าที่จะชักช้า รีบใช้เข็มมังกรเก้าหาง ในขณะเดียวกันก็ถ่ายพลังทิพย์เข้าไปเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บให้คงที่ จากนั้นโล่เฉินก็วิ่งออกจากถ้ำโดยมีเซี่ยซือหานอยู่บนหลังของเขา

“พี่ชาย”

“ หมู่ตัน เธอยังไม่ไปอีก?”

“หนูเป็นห่วงคุณ กำลังคิดอยู่ว่าถ้าอีกสิบนาทีคุณไม่ออกมาหนูจะไปบอกคนในหมูบ้าน พี่ชาย พี่สาวคนสวยเป็นอะไรไป คงไม่ใช่ตาย….”

โล่เฉินรีบกล่าวอย่างกังวลว่า “หมู่ตัน พาฉันไปบ้านของเธอหน่อย ฉันต้องรักษาพี่สาวคนนี้ อีกเดี๋ยวจะช่วยดูอาการแม่เธอด้วย”

“พี่ชาย คุณเป็นหมอด้วยหรือ เยี่ยมไปเลย คุณตามหนูมา”

บ้านของหมู่ตันเรียบง่ายอย่างยิ่ง มันเป็นบ้านดินชั้นเดียวแบบเรียบๆ

เมื่อเข้าไปในบ้าน ในห้องก็มีเสียงอ่อนแรงเรียกขึ้น “ลูกรัก ลูกกลับมาแล้วหรือ?”

“แม่ หนูกลับมาแล้ว แม่ดูสิวันนี้หนูขายดอกไม้ได้เงินตั้ง 200 เหรียญ นี่คือพี่ชายที่ซื้อดอกไม้ เขาเป็นหมอด้วย เขาอยากจะรักษาพี่สาว อีกเดี๋ยวก็จะดูอาการให้แม่ด้วย แม่ แม่จะต้องดีขึ้นเร็ว ๆ นี้แน่”

โล่เฉินไม่มีเวลามาสนใจหญิงสาวคนนั้น เขาพาเซี่ยซือหานไปที่ห้องข้างๆและปิดประตู

ในตอนนี้ เซี่ยซือหานมีริมฝีปากเป็นสีม่วง กรอบตาดำคล้ำ

“ให้ตายเถอะ เป็นของที่น่ากลัวนี่จริง”

โล่เฉินไม่ได้คิดว่าจะตึงมือขนาดนี้ “ในสมัยที่ฉันรุ่งเรืองยังยากจะรับมือ ตอนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ได้แต่ประคองเอาไว้ก่อน ไว้ค่อยหาวิธีภายหลัง”

“เพียงแต่ ในความโชคร้ายย่อมมีโชคดี นี่อาจไม่ใช่เรื่องเลวร้าย หากจัดการได้ดี แบบนี้ถือเป็นโชคดีมหาศาล”

เวลาเร่งด่วน โล่เฉินไม่มีเวลามากังวลใด ๆ เขาถอดเสื้อของเซี่ยซือหานออกจนหมด

ร่างสะโอดสะองที่แต่เดิมเป็นสีขาวผ่องราวหิมะ ตอนนั้นกลับมีรอยดำขนาดต่างๆมากมายเกิดขึ้น อีกทั้งที่หัวใจของเธอ ยังมีบาดแผลเล็ก ๆ

“เข็มมังกรเก้าหาง สงบญาณ!”

โล่เฉินเองก็อยู่ภายใต้ความกดดันอย่างมากเช่นกัน

สถานการณ์อันตรายอย่างยิ่ง หากประมาทเพียงเล็กน้อย เซี่ยซือหานจะต้องสูญเสียชีวิตไปอย่างแน่นอน

เวลาล่วงเลยไป

ด้านนอกประตู หมู่ตันเดินไปมา ผ่านไปกว่าสองชั่วโมงแล้ว พี่ชายยังไม่ออกมา อยู่ข้างในทำอะไร?

เอี๊ยด

ทันใดนั้น ประตูก็เปิดออก

“พี่ชาย….เอ่อ พี่สาว คุณฟื้นแล้ว พี่ชายล่ะคะ?”

หมู่ตันมองเข้าไปในห้องและพบว่าโล่เฉินนอนหลับอยู่บนเตียง

เซี่ยซือหานเองก็อ่อนแออย่างยิ่ง เธอเอ่ยอย่างไร้เรี่ยวแรง “เขาเหนื่อยมาก หลับไปชั่วขณะแล้ว น้องสาว คุณทำอาหารเป็นรึเปล่า?”

“เป็นสิ”

“เงินนี่ให้เธอ รบกวนเธอช่วยไปซื้ออาหารมาทำให้พวกเรากินหน่อยได้ไหม ฉันหิวมาก ยิ่งกว่านั้น พอเขาฟื้นขึ้นมาก็ต้องเพิ่มพลังงานเช่นกัน”

หลังจากถือเงิน 300 หยวน หมู่ตันก็รีบวิ่งออกไปโดยไม่พูดไม่จาทันที

ห้าโมงเย็น โล่เฉินค่อยๆตื่นขึ้นมาอย่างช้า ๆ

เขาเจ็บและศีรษะของเขาสลัว

“ ตื่นแล้ว?”

โล่เฉินหันไปตามเสียง เซี่ยซือหานถืออาหารเข้ามา “หิวแล้วใช่ไหม รีบกินอะไรสักหน่อย ฉันกับหมู่ตันพวกเรากินกันไปแล้ว”

“ คุณจัดการได้รอบคอบไม่เลว”

หลังจากกินดื่มเพียงพอ โล่เฉินก็ใช้เวลาปรับลมหายใจอยู่สิบห้านาที

เขามีคำถาม ส่วนเซี่ยซือหานเองก็กำลังตกอยู่ในความสับสน แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดคุย โล่เฉินตัดสินใจไปดูอาการแม่ของหมู่ตันก่อน

อาการป่วยของเธอไม่ใช่อาการป่วยหนัก

ตอนคลอดลูกเสียเลือดมากเกินไป บวกกับสภาพครอบครัวยากและสภาพร่างกายอ่อนแอ รวมถึงเคยถูกพิษลมหนาวมาก่อนแต่ไม่มีเงินรักษา ดังนั้นจึงก่อเป็นต้นกำเนิดของโรค

บางครั้งก็ล้มป่วย บางครั้งก็ปวดหัวรู้สึกอ่อนแรงไปทั่วทั้งตัว

เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาเล็ก ๆ

ในไม่ช้า โล่เฉินก็เดินออกมาจากห้อง “หมู่ตัน แม่ของเธอไม่เป็นไรแล้ว จากนี้ไปไม่ล้มป่วยอีก แต่ว่าร่างกายยังต้องฟื้นฟูให้ดีๆ รอพรุ่งนี้ฉันจะให้คนนำยาและของบำรุงมาให้ เธอวางใจได้”

“จริงหรือ?”

หมู่ตันรีบวิ่งเข้าไปในห้อง “แม่ แม่รู้สึกยังไงบ้าง”

“ลูกรัก เป็นหมอเทพจริงๆ แม่รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ร่างกายก็เบาสบายขึ้น อีกไม่นานก็สามารถทำงานได้ตามปกติแล้ว หลายปีมานี้ ลำบากลูกแล้ว”

“แม่ หนูไม่ลำบาก”

สองแม่ลูกกอดกันร้องไห้ โล่เฉินและเซี่ยซือหานไม่รบกวนทั้งคู่และออกมายังสวน

“ทำไมคุณถึงไปที่สุสานได้?”

เซี่ยซือหานยิ้มอย่างขมขื่น “หลังจากคุณช่วยปัดเป่าพิษยิงส้า ฉันก็อยู่ที่บริษัทจัดการประมูลเฟยสื้อมาตลอด เบื่ออย่างยิ่ง ได้ยินว่าที่เรื่องสุสานที่หมู่บ้านเหอฮัวขึ้นมาก็เลยลองมาดู ฉันถึงไปว่าจะหาสมบัติได้ แต่คิดไม่ถึงว่า…”

“โล่เฉิน คุณรู้ไหมว่ามันคือพิษอะไร?”

“ตุ๋ขุย”

“นั่นคืออะไร?”

โล่เฉินขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขาหนักอึ้ง “มันเป็นพิษที่น่ากลัวชนิดหนึ่ง อธิบายไปคุณก็ไม่เข้าใจ คุณแค่รู้เอาไว้ก็พอว่าตอนนี้พิษของตุ๋ขุยยังอยู่ในตัวคุณ อีกทั้งยังฝังตัวอยู่ในหัวใจของคุณแล้ว ผมไม่สามารถกำจัดมันได้”

เซี่ยซือหานหน้าซีด เธอถามเสียงสั่น “อย่างนั้นจะเกิดอะไรขึ้น?”

“โชคดีที่เมล็ดตุ๋ขุยยังไม่เติบโต ไม่อย่างนั้นผมคงช่วยชีวิตคุณเอาไว้ไม่ได้ ตอนนี้ คุณอยู่ข้างๆผมไปก่อน ผมจะช่วยรักษาสภาพของคุณให้คงที่”

โล่เฉินมองไปที่ท่าทางตื่นตระหนกและนิ่งอึ้งไปของเซี่ยซือหาน “วางใจเถอะ ไม่ตายหรอก คุณรอให้พลังของผมกลับคืนมาเต็มที่ ผมจะช่วยขจัดมันให้ หรือไม่คุณก็ใช้เลือดหัวใจของคุณเพื่อเพาะเมล็ดตุ๋ขุย”

“ใช้เลือดหัวใจเพาะเมล็ด?”

“ตอนนี้เมล็ดตุ๋ขุยคิดอยากจะดูดกินคุณให้เรียบ ต้องการฆ่าคุณ ถ้าคุณกล้าพอ คุณก็ใช้เลือดหัวใจของคุณค่อยๆเลี้ยงตุ๋ขุยจนมันหลอมหลวมเข้ากับคุณ ถ้าคุณทำสำเร็จ คุณก็จะสามารถใช้พิษของตุ๋ขุย ฆ่าคนได้อย่างไร้ร่องรอย”

ริมฝีปากเล็กแดงรางเชอร์รี่ของเซี่ยซือหานขยายกว้างเป็นตัว “O” ด้ท่าทางของเธอเปลี่ยนไปอย่างคาดเดาไม่ได้ ทั้งตกใจ ทั้งคาดหวัง ทั้งตื่นเต้น ทั้งหวาดกลัว….

“ฉันติดตามคุณดีกว่า”

“คุณยังมีวิธีอื่นอีกหรือไง?” โล่เฉินยักไหล่และยิ้ม “สองครั้งแล้ว จากนี้ไปยังต้องพึ่งฝีมือผมอีกหลายครั้งคุณถึงจะมีชีวิตต่อไปได้ คุณตัดสินใจจะชดเชยผมยังไง?”

เซี่ยซือหานหน้าแดง เธอหลบสายตา “นี่คุณคิดอยากจะได้ร่างกายฉันใช่ไหม?”

โล่เฉิน: “…… ”

“ไม่พูดก็ถือว่าเป็นการยอมรับ ยังไงซะร่างกายนี้คุณก็เห็นจนหมดแล้ว อีกทั้งคุณยังเป็นผู้ช่วยชีวิตฉัน จะให้คุณไปก็ไม่เป็นไร ติดก็แค่คุณแต่งงานแล้ว แบบนี้จะดีต่อภรรยาคุณหรือ?”

โล่เฉิน: “….

จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี

จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี

ได้รับความลำบาก เพื่อได้อยู่ต่อ ผมทนความอัปยศอดสู แต่งเข้าตั้งสามปี ถูกดูถูกและเยาะเย้ย ในสายตาของพวกเขา ผมเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ ใครๆก็สามารถก้าวเหนือหัวผมได้ ใช้ชีวิตอยู่อย่างหมา จนถึงวันนี้ ภัยพิบัติทุกๆอย่างผ่านไป…….เมื่อยิ่งใหญ่ขึ้นมา ทำให้คนบนโลกผวา!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท